NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 825 ระเบิด

บทที่ 825 ระเบิด

ยังดี ที่ระหว่างทางไม่มีอุปสรรคอะไร ไม่นานรถของหลี่ฝางก็สลัดการลอบโจมตีของสไนเปอร์ได้

ถึงแม้ด้านหลังยังคงมีรถไล่ตามมาไม่ปล่อย แต่แป๊บเดียวหลี่ฝางก็มาถึงที่หน้าประตูโรงพยาบาล ตรงนั้นมีรถตู้สองคันจอดรถอยู่นานแล้ว รถของหลี่ฝางขับพุ่งเข้าไปโดยไร้สิ่งกีดขวาง

ลูกน้องบนรถตู้ทั้งสองคันใช้ประตูโรงพยาบาลเป็นฐานของตัวเองทันที เพื่อต้อนรับรถที่ตามมาด้านหลัง

ปัง ปัง……

ไม่นานทางเข้าโรงพยาบาลก็มีเสียงปืนดังขึ้น แต่ไม่กี่นาทีก่อนและหลัง ก็มีเสียงปืนดังขึ้นเป็นระยะๆ ทั้งสองฝ่ายต่างจนมุม ต่างฝ่ายต่างไม่กล้ายิงมั่วซั่ว

รถของหลี่ฝางขับเข้าไปด้านในไม่หยุด แต่ไม่นานก็ถูกหยุดเอาไว้ เพราะว่าด้านหน้ามีรถจอดอยู่หลายคัน ข้างๆ รถมีคนยืนอยู่สิบกว่าคน

คนพวกนั้นเห็นรถของหลี่ฝาง ก็ยกปืนขึ้นมาเล็งไปทางรถทันที ด้วยสีหน้าระแวง

ยังไม่ได้ยืนยันว่าคนบนรถเป็นใคร พวกเขาไม่กล้าประมาท

“คุณชายหลี่ใช่มั้ยครับ?” หนึ่งในนั้นตะโกนขึ้น

หลี่ฝางมองคนหลายคนที่อยู่ตรงหน้า สัญญาณเตือนในใจก็เกิดขึ้นอีกแล้ว เขาเหลือบมองลู่หลุ่ยกับเหมิงเหมิงที่ขดตัวอยู่ใต้ที่นั่งเบาะหลัง แล้วจึงเหยียบคันเร่งสุดแรงจนมิด ขับรถพุ่งไปทางด้านหลังของพวกลูกน้องเขา

“หลีกไป!หลีกไป!”

คนพวกนั้นตกใจจนรีบหลบไปด้านข้าง มีคนเห็นหลี่ฝางที่อยู่ด้านใน ทันใดนั้นจึงไม่กล้ายิงมั่วซั่ว

ตึกตึก……

ในขณะที่ลูกน้องไม่เข้าใจว่าทำไมหลี่ฝางต้องชนพวกเขา ลูกน้องสองคนที่ยืนอยู่ด้านหลังสุดของกล่มลูกน้องก็รีบควักปืนจากด้านหลังของตนเล็งยิงไปทางหลี่ฝาง

“พวกนายบ้าไปแล้วเหรอ ในรถนั่นคือคุณชายหลี่นะ!”

พวกลูกน้องก็ช็อก ชะงักอยู่กับที่อยู่ครู่ ไม่รู้ว่าหลี่ฝางกับลูกน้องสองคนนั้นหมายความว่าไงกันแน่

“ปัง ปัง!”

ขณะที่รถวิ่งเข้าไปชนตอนนั้นหลี่ฝางก็ใช้เท้าถีบประตูให้เปิดออก แล้วกระโดดลงมาจากด้านข้างอีกข้างนึง และหาที่กำบังอย่างรวดเร็ว

“พวกนายยังยืนโง่อยู่ตรงนั้นทำไม สองคนนั้นเป็นไส้ศึกของศัตรู รีบยิงสิ!”

หลี่ฝางตะคอกพวกลูกน้องที่ยังคงสงสัยไปทีนึง ทันใดนั้นพวกลูกน้องก็ได้สติ และควักปืนขึ้นมายิงไปที่ทั้งสองคนนั้น ทันใดนั้นสองคนนั้นก็ล้มลงไปจมกองเลือด

เชี่ยเอ้ย!

ในขณะนั้นจู่ๆ หลี่ฝางก็รู้สึกได้ถึงวิกฤตที่ร้ายแรงสุดๆ และอดไม่ได้ที่จะสบถคำหยาบออกมา เขาหันตัวอย่างรวดเร็วและกระโดดไปด้านข้าง

ปัง!

ลูกกระสุนถูกยิงไปที่ลูกน้องที่เคราะห์ร้ายที่บังเอิญวิ่งไป ลูกกระสุนทะลุร่าง ไปโดนรถแท็กซี่ ทำให้เกิดรูบุ๋ม

อุ๊ย!

ลู่หลุ่ยกับเหมิงเหมิงที่อยู่บนรถได้เห็นภาพนี้ ทันใดนั้นก็ตกใจหน้าซีด

สถานการณ์ตรงหน้ามันน่ากลัวเกินไปจริงๆ ที่หน้าอกของลูกน้องคนที่เคราะห์ร้ายเกิดรูใหญ่ เลือดของเขาพุ่งออกมาโดนขาของหลี่ฝาง เป็นสีแดงสด

เฉียดฉิว เมื่อกี้คนที่เกือบโดนยิงก็คือเขา!

หลี่ฝางอดไม่ได้ที่จะตะโกนด่าขึ้นอีกครั้ง เขาขนลุกซู่ไปทั้งตัว

“เร็ว เดินเข้าไปข้างใน มีมือสไนเปอร์!”

ปัง!

เสียงปืนของมือสไนเปอร์ดังลั่นขึ้น ลูกน้องสองคนที่หาที่กำบังไม่ทันล้มลงกับพื้นพร้อมกัน ระยะห่างของทั้งสองใกล้กันมาก นัดเดียวคร่าไปสองชีวิต

“ปัง!”

เสียงปืนดัง ทุกครั้งจะต้องมีลูกน้องล้มลง แม้ว่าลูกน้องพวกนั้นหลบอยู่ด้านหลังรถแล้ว ก็ยังคงหลบเลี่ยงไม่ได้

“หลี่ฝาง หลี่ฝาง!”

ลู่หลุ่ยกับเหมิงเหมิงกลัวมากจนลนลาน ตัวสั่นไปทั้งตัว

ลูกน้องที่อยู่ด้านข้างล้มลงไปทีละคนๆ บนพื้นท่วมไปด้วยเลือด

“ไม่ต้องกลัว มีฉันอยู่ จะไม่ให้พวกเธอได้รับบาดเจ็บ!” หลี่ฝางพูดอย่างหอบ ในใจก็ไม่แน่ใจ

ตอนนี้ทุกคนซ่อนอยู่หลังที่กำบังไม่กล้าโผล่ออกมา มือสไนเปอร์ของอีกฝ่ายเก่งจริงๆ โผล่ออกไปก็ตายอย่างเดียว พวกเขาพูดได้ว่าถูกขังไว้ที่นี่แล้ว

“คุณชายหลี่ ทำไงดีครับ?”

ลูกน้องคนนึงถาม ห่างออกไปไม่ไกลรถที่ไล่ตามก็เข้ามาใกล้ขึ้นแล้ว ถ้าหากยังอยู่ที่นี่คงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย

หลี่ฝางใช้มือตบกระจกหลังลงอย่างแรง แล้วหันหัวไปพูดกับลูกน้องสองคน: “อีกแป๊บฝั่งคำสั่งฉัน เมื่อฉันบอกให้ไป ให้พวกนายขึ้นรถทันที ขับรถพุ่งเข้าไปด้านใน ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นไม่ต้องสนใจ พวกนายสนแค่ขับรถมุ่งตรงเข้าไปในห้อง”

“แล้วนายล่ะ?”

ลู่หลุ่ยคว้ามือของหลี่ฝางไว้ ไม่มีหลี่ฝางอยู่ข้างๆ เธออยู่สึกไม่ปลอดภัยทันที

หลี่ฝางฉีกยิ้ม แล้วพูดอย่างนิ่งๆ : “วางใจเถอะ โชคฉันดี ไม่ตายหรอก!”

“คุณชายหลี่ พวกเราไม่สามารถให้คุณไปเสี่ยงอันตรายได้!” ลูกน้องคนนึงรีบพูดขึ้น

“ไม่ต้องพูดเลย พวกนายออกไปก็ตาย ฉันออกไปยังพอมีโอกาส ทุกคนฟัง เตรียมตัวให้พร้อม!”

หลี่ฝางรู้ว่าครั้งนี้มีแค่ตนที่แบกรับหน้าที่นี้ได้ มือสไนเปอร์นั่นเก่งมากจริงๆ มีแค่ตนกรูกันออกไปทั้งหมดด้วยความเร็วสูงถึงจะมีโอกาสหลบหนีได้

ตามเหตุผลแล้วเขาควรจะกลัว แต่ว่าตอนนี้เขากลับไม่ได้รู้สึกถึงความหวาดกลัวเลยสักนิด ในใจร้อนระอุ ในหัวก็เย็นยะเยือก ความเย็นความร้อนมาปนกันทำให้กลายเป็นความรู้สึกที่แปลกมากๆ

ทั้งใจเย็นทั้งตื่นเต้น หลี่ฝางในตอนนี้รู้สึกราวกับตัวเองกลายเป็นอีกคนไปแล้ว

กลายเป็น……พ่อของเขา——หลอซ่า!

“ไป!”

ในขณะที่ทุกคนกำลังประหม่า หลี่ฝางก็เขวี้ยงกระจกหลังเต็มแรง จากหน้าเขาก็กระโดดออกมาจากหลังรถ แล้วกระโจนไปทางปืนกระบอกนึงที่อยู่บนพื้น

“หือ?”

ขณะที่มือสไนเปอร์เล็งปืนไปทางกระจกหลังที่ลอยมา จู่ๆ แสงแดดที่สะท้อนกลับมาในกระหลังมองหลังก็แยงเข้าตา ทันใดนั้นก็กลายเป็นเหมือนคนตาบอด

มือสไนเปอร์แอบร้องออกมา ทันใดนั้นก็พลิกตัวไปด้านข้าง หลับตาลงให้คุ้นชินอยู่ครู่ จากนั้นก็เล็งปืนไปทางประตูใหญ่

ไม่ว่าศัตรูจะใช้วิธียังไง เป้าหมายของพวกเขาก็คือต้องเข้าไปให้ถึงประตูของคฤหาสน์

ตึกตึก……

แต่ไม่รอให้มือสไนเปอร์ลั่นไก ตอนนั้นกระสุนก็ถูกยิงไปยังตำแหน่งที่มือสไนเปอร์อยู่ก่อนหน้านี้

“Fuck!”

ชูมือขึ้นแล้วก่นด่า จากนั้นก็กลิ้งไปข้างหลังต่อ ออกไปห่างจากที่ที่ตนเคยอยู่ราวๆ สิบเมตร

ถึงแม้ปืนของหลี่ฝางจะใช้ยิงระยะไกลได้ไม่แม่น อานุภาพไม่แรง และตัวเขาก็ไม่รู้วิธีใช้ปืน แต่หลี่ฝางมีกระสุนเยอะ สามารถยิงกราดได้ ความเร็วในการยิงเร็วกว่าปืนสไนเปอร์มากเลย แม้ว่าจะยิงไปมั่วๆ เอาความรัวของกระสุนมาสกัดไว้ เพื่อไม่ให้ได้รับผลกระทบมือสไนเปอร์ ทำได้แค่แยกย้ายหลบ

หลังจากที่หลี่ฝางยิงปืนกระบอกนึงในนั้นจนหมดแม็กก็ไม่ยอมถอย เขาวางปืนลงทันที และคลำกระสุนแม็กใหม่จากร่างของมือพื้นที่อยู่บนพื้น และเขาก็รีบวิ่งออกไปพร้อมกับปืนอีกกระบอก

มือสไนเปอร์ที่ถูกยิงสกัดในช่วงเวลาสั้นๆ นี้ ลูกน้องที่ประตูใหญ่ก็ถือได้ว่าโล่งอก และขับรถพุ่งตรงเข้าไปทางด้านใน

จากนั้นหลี่ฝางที่พุ่งเข้าไปราวกับงูตัวนึง วิ่งทางเข้าหาฝั่งซ้ายและจู่ๆ ก็เปลี่ยนทิศทางทันที พลางหาที่กำบัง พลางหลบหลีกการล็อกเป้ายิงของมือสไนเปอร์

ในขณะเดียวกันเสียงจากการที่มือสไนเปอร์ยิงปืนใส่รถแท็กซี่จึงกำหนดตำแหน่งของมือสไนเปอร์ได้ จากนั้นก็ยิงโต้กลับ

เขาจำเป็นต้องแน่ใจก่อนว่าลู่หลุ่ยอยู่ในความปลอดภัยแน่ๆ แล้วจึงสามารถจัดการฆาตกรนั่นได้ พึ่งแค่ลูกน้องที่เหลือ ไม่สามารถหยุดการโจมตีของพวกนักฆ่าที่ตามมาด้านหลังได้อย่างแน่นอน

ผู้คนที่อยู่ใกล้ๆ ก็ได้หลบหนีไปตั้งแต่มีการยิงโจมตีเกิดขึ้นกันตั้งแต่แรก ในตอนนี้หลี่ฝางแค่ต้องทำให้พวกลู่หลุ่ยพุ่งเข้าไปในตึกได้อย่างปลอดภัย มีที่กำบังดีๆ พวกเขาก็สามารถยื้อเวลาได้นานยิ่งขึ้น

ยังไงเขาก็จะไม่ให้ลู่หลุ่ยได้รับบาดเจ็บแน่นอน

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท