NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่847 ส่งเซี่ยจือชิวจากไป

บทที่847 ส่งเซี่ยจือชิวจากไป

เผชิญหน้ากับร่างไร้วิญญาณของแกรี่ หลี่ฝางสงบเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็หมุนตัวเดินจากไป

การเคลื่อนไหวในวันนี้เสียงดังไม่น้อย ถ้าไม่รีบจากไป ถูกคนที่มาตรวจสอบสถานการณ์พบเห็นเข้าแล้วก็จะต้องวุ่นวายแน่

ในระหว่างทางที่เดินกลับไป ความรู้สึกของหลี่ฝางนั้นค่อนข้างหนักหน่วง

ถ้าหากเค้าเดาไม่ผิดล่ะก็ แกรี่น่าจะเป็นคนของสำนักหยิ่งซา สำนักหยิ่งซาจับตามองตัวเองอยู่ตลอด เวลาเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นในวันนี้ หลี่ฝางกับสำนักหยิ่งซา และ Dynasty (ราชวงศ์) ทั้งสององค์กรใหญ่นี้นับว่าได้เปิดศึกกันอย่างเป็นทางการแล้ว

คนที่เคยเป็นคู่ต่อสู้ของพ่อของเขา ตอนนี้ได้กลายมาเป็นคู่ต่อสู้ของเขาเอง ภายในใจของหลี่ฝางทั้งรู้สึกเป็นกังวล และรู้สึกตื่นเต้น

เมื่อกลับมาถึงสถานตากอากาศ พวกเซี่ยจือชิวทั้งสี่คนรวมตัวกันอยู่ เมื่อเห็นหลี่ฝางกลับมา ก็รู้สึกตื่นเต้นดีใจเป็นอย่างมาก

“คิดไม่ถึงว่าประสิทธิภาพของนายจะรวดเร็วขนาดนี้ ครั้งนี้ต้องขอบใจนายมากจริง ๆ” ใบหน้าของเซี่ยจือชิวเต็มไปด้วยความประทับใจ ก็ไม่รู้ว่านั่นเป็นความรู้สึกจริง ๆ หรือแค่เสแสร้งเท่านั้น

“เลิกพูดไร้สาระได้แล้ว ถือโอกาสตอนนี้ที่คนของDynasty (ราชวงศ์) ยังไม่ทันรู้สึกตัว รีบไปจากที่นี่กลับเมืองหลวงไปซะ ถ้าไม่อย่างนั้นล่ะก็เมื่อDynasty (ราชวงศ์) เริ่มมีการเคลื่อนไหวขึ้นมา เกรงว่าพวกนายคงจากไปไม่ได้แล้ว”

หลี่ฝางถือโอกาสตัดสินใจอยางเด็ดขาด สั่งให้คนรีบจองตั๋วเครื่องบินไปเมืองหลวงทันที ถ้าหากสามารถใช้โอกาสนี้ให้พวกเซี่ยจือชิวจากไปได้ นั่นถือเป็นการแบ่งเบาความกดดันของหลี่ฝางได้บ้าง

หลี่ฝางเองก็อยากให้พวกเซี่ยจือชิวอยู่ที่นี่ต่อ นำเบื้องหลังของพวกเขามาใช้เป็นตัวช่วย แต่แบบนี้จะทำให้เมืองเอกกลายเป็นสนามรบของพวกมหาอำนาจเหล่านั้นโดยสิ้นเชิง ทำให้บ้านของตัวเองกลายเป็นสนามรบถือเป็นหนึ่งในวิธีที่ไม่ฉลาดที่สุด

แต่ถ้าหากให้พวกเซี่ยจือชิวกลับไปที่เมืองหลวง เช่นนั้นสนามรบก็จะถูกแยกออก ทำให้ความกดดันของทางนี้แบ่งเบาลง เพราะถึงยังไงความแค้นระหว่างเซี่ยจือชิวและทาง Dynasty (ราชวงศ์) ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะหายไปเพราะการไปจากเมืองเอกของเขา

ประสิทธิภาพในการทำงานของลูกน้องนั้นรวดเร็วมาก พวกเขาจัดการเรื่องตั๋วเครื่องบินที่จะให้ทั้งสี่คนจากไปเสร็จเรียบร้อยได้อย่างรวดเร็ว และรีบพาพวกเขาไปส่งที่สนามบินทันทีทันใด สองชั่วโมงหลังจากนั้น หลังจากที่เครื่องบินพาพวกเขาบินขึ้นสู่ท้องฟ้า หลี่ฝางที่ได้รับข่าวก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก

ในที่สุดก็สามารถแก้ไขปัญหาเล็กน้อยนี้ได้

“รับรู้ได้ถึงความกดดันแล้วล่ะสิ เผชิญหน้ากับองค์กรระดับนานาชาติแบบนี้ นายจะต้องตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาถึงจะได้” โหจื่อที่อยู่ด้านข้างหัวเราะแหะ ๆ ขึ้นมา ร่างกายของเขาฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว ตอนนี้หายดีได้ เจ็ดสิบแปดสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว ต่อให้ต้องประมือกับคนอื่น ขอเพียงแค่เป็นการต่อสู้ที่ไม่รุนแรงนัก เขาก็สามารถรับมือได้

“มีข่าวพ่อของผมหรือยัง?” หลี่ฝางเอ่ยถาม

เมื่อได้ยินหลี่ฝางถามเช่นนั้น โหจื่อก็หน้านิ่วคิวคิ้วขมวดขึ้นมาทันที: “ยังเลย ตั้งแต่ส้าวส้วยจากไป เส้นทางข่าวสารของพวกเราก็แทบจะเข้าขั้นหยุดชะงักไป เฮ้อ ถ้าหากพวกเขายังไม่กลับมาอีกล่ะก็ เกรงว่าลุงเฉียน……”

หลี่ฝางเงียบไปพักหนึ่ง ร่างกายของลุงเฉียน แช่อยู่ในน้ำเลี้ยง สามารถเก็บรักษาไว้ได้ประมาณสิบกว่าวัน อย่างน้อยสามารถทำให้ร่างกายของเขา ไม่แย่ลงไปกว่าเดิม แต่หลังจากสิบวันผ่านไป แม้แต่หมอที่ฝีมือการแพทย์ยอดเยี่ยมคนนั้นก็ไม่รู้เลยว่าลุงเฉียนจะตายหรือจะรอด

มีเพียงคุณแม่ของหลี่ฝางกลับมาถึงจะสามารถช่วยชีวิตของลุงเฉียน แต่ทว่าตอนนี้ไม่มีข่าวคราวว่าแม่ของหลี่ฝางจะกลับมาเลยสักนิด

เวลาสิบกว่าวัน ตอนนี้เหลือเพียงไม่กี่วันแล้ว ในใจของหลี่ฝางจู่ ๆ ก็หวาดหวั่นขึ้นมา หรือว่าจะต้องมองดูลุงเฉียนตายไปโดยที่ทำอะไรไม่ได้แบบนี้?

“ไม่มีวิธีอื่นอีกแล้วเหรอ?” หลี่ฝางอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม

โหจื่อสายหน้า สีหน้าของเขาเคร่งเครียดเป็นอย่างมาก: “บางทีอาจจะมีก็ได้ ใครจะไปรู้ล่ะ บนโลกใบนี้มียอดคนอยู่มากมายแบบนั้น ไม่แน่อาจจะมีคนที่สามารถช่วยลุงเฉียนได้ก็ได้ แต่ว่าเหลือเวลาอีกแค่ไม่กี่วันแล้ว จะให้พวกเราไปหามาจากไหนล่ะ?”

“หมอว่ายังไงบ้าง เขาฝีมือยอดเยี่ยมมากมาตลอดไม่ใช่เหรอ?”

“อย่าไปหาเขาเลย ระยะนี้เขาเองก็กดดันมากเหมือนกัน ได้ยินว่าหลายวันมานี้เขาขังตัวเองไว้ในห้องทดลองเพื่อค้นคว้าหาวิธีรักษาลุงเฉียน ไม่ได้พักผ่อนมาหลายวันแล้ว”

หลี่ฝางถอนหายใจเฮือกใหญ่อีกครั้ง ก็ใช่ ถ้าหากสามารถช่วยได้ ใครล่ะจะไม่อยากช่วย เพียงแต่ว่า ได้ใช้ไปแทบทุกวิถีทางแล้ว

ในตอนนี้เอง หลิงหลงก็เดินเข้ามา

“หลี่ฝาง ท่านซุนมาน่ะ”

หลี่ฝางและโหจื่อมองหน้าซึ่งกันและกัน ทำไมท่านซุนถึงได้มาในเวลาแบบนี้ล่ะ

“ท่านซุน ท่านมาได้ยังไงครับ?”

ในห้องที่จัดให้ลุงเฉียนรักษาตัว หลี่ฝางก็ได้พบกับท่านซุน

ท่านซุนมองดูลุงเฉียน ผ่านไปสักพักถึงได้หันหลังกลับมา: “หลี่ฝาง พ่อของนายพวกเขา……ยังไม่กลับมาอีกเหรอ?”

หลี่ฝางขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ ๆ ท่านซุนถึงได้ถามแบบนี้ หรือว่าเขาจะมาที่นี่เพื่อสืบข่าว? แต่จุดประสงค์ที่เขาทำแบบนี้คืออะไรล่ะ?

เขาครุ่นคิดอยู่ภายในใจ หลี่ฝางตัดสินใจที่จะพูดตามจริง: “ยังเลยครับ”

“งั้นก็หมายความว่า พวกนายยังไม่มีวิธีรักษาเขาสินะ” ท่านซุนมองดูลุงเฉียนที่นอนอยู่ในน้ำเลี้ยง แล้วกล่าวขึ้นอย่างเรียบ ๆ

“ถึงแม้จะไม่อยากจะยอมรับ แต่ว่า……ใช่ครับ หรือว่าท่านซุนพอจะมีวิธีอะไร?” จู่ ๆ การมาของท่านซุนก็ทำให้หลี่ฝางมีความคาดหวังขึ้นมาเล็กน้อย ท่านซุนมีอายุมานานมากพอ เขารู้หลายเรื่องที่หลี่ฝางไม่รู้ บางทีเขาอาจจะนำวิธีช่วยลุงเฉียนมาด้วยจริง ๆ ก็ได้

ท่านซุนเงียบไปสักพัก ทันใดนั้นเขาก็เอ่ยขึ้นมา: “นายเคยได้ยินชื่อหุบเขาราชายาไหม?”

หลี่ฝางชะงักงัน ยังไม่ทันได้พูดอะไร โหจื่อที่อยู่ข้าง ๆ กลับพูดขึ้นมาก่อน: “ใช่ตระกูลที่ลือกันว่าปลีกตัวจากโลกภายนอกนั่นไหม?”

หลี่ฝางประหลาดใจเล็กน้อย เพราะในคำพูดของโหจื่อ มีความเหยียดหยามอยู่เล็กน้อย

ท่านซุนฟังออกถึงความเหยียดหยามของโหจื่อ เขาพยักหน้าอย่างสงบ พลางกล่าวมี: “หุบเขาราชายา สืบทอดกันมาช้านาน ในมือมีตำรายาที่วิเศษอยู่มากมาย บางทีพวกเขาอาจจะสามารถช่วยชีวิตของลุงเฉียนไว้ก็ได้

“จริงเหรอครับ?” หลี่ฝางตื่นเต้นดีใจขึ้นมา ถ้าหากที่ท่านซุนพูดเป็นความจริง เช่นนั้นต่อให้มีโอกาสเพียงริบหรี่ หลี่ฝางก็ต้องไปลองดูสักตั้ง

“ท่านรู้เหรอว่าหุบเขาราชายาอยู่ที่ไหน?” โหจื่อจ้องมองท่านซุนด้วยความสงสัย: “ผมได้ยินมาว่าหุบเขาราชายาลึกลับซับซ้อน อย่างกับหนูแน่ะ ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาหลบซ่อนอยู่ที่ไหน”

“ฉันรู้ ฉันสามารถบอกพวกนายได้” น้ำเสียงของท่านซุนหนักแน่นเป็นอย่างมาก

หลังจากที่ให้ข้อมูลเสร็จเรียบร้อย ท่านซุนก็จากไปทันที

หลี่ฝางถามโหจื่อด้วยความประหลาดใจ: “ทำไมผมรู้สึกว่าคุณไม่ค่อยจะชอบหุบเขาราชายาซักเท่าไหร่?”

หลี่ฝางสามารถรู้สึกได้ตั้งแต่ประโยคแรกที่โหวจื่อพูดออกมา ดูเหมือนว่าโหจื่อจะดูหมิ่นดูแคลนและต่อต้านหุบเขาราชายามาก และก็เพราะท่าทางของเขา ถึงทำให้หลังจากที่ท่านซุนให้ข้อมูลเสร็จแล้วก็รีบจากไปทันที เหมือนกับว่าไม่อยากจะพูดมากอะไร

โหจื่อยิ้มอย่างเย็นชา แล้วกล่าว: “ถูกต้อง ฉันไม่ชอบหุบเขาราชายานั่นเลยสักนิด ในนี้มันมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมา ทั้งยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับลูกพี่อีกด้วย”

“เรื่องมันเป็นยังไงกันแน่?”

“คุณก็รู้ว่าหุบเขาราชายาลึกลับซับซ้อน คนในสำนักน้อยมากที่จะออกมาสู่โลกภายนอก ดังนั้นคนที่รู้จักพวกเขาก็มีไม่เยอะ เมื่อหลายปีก่อนพวกเราก็ได้พบกับคนของหุบเขาราชายา ตอนนั้นเขาได้สร้างปัญหาใหญ่ขึ้น ลูกพี่ได้ลงแรงไปมากมายกว่าจะช่วยชีวิตเขาเอาไว้ได้ คำพูดของเขาในตอนนั้นต่างก็น่าฟัง บอกว่าถ้าเจอปัญหาอะไรก็ให้ไปหาเขา แต่สุดท้ายแล้ว หึหึ……”

“หลังจากนั้นเป็นยังไงเหรอ?”

“หลังจากนั้นพวกเราก็ได้พบกับปัญหาเข้าจริง ๆ ลูกพี่ได้ไปขอให้คนคนนั้นช่วย สุดท้ายแล้วเป็นยังไง? พวกเขาไล่พวกเราอย่างกับขอทาน เหอะ ๆ ต่อมาพอรู้ว่าพวกเรามีเงิน ก็มีข้อเรียกร้องมากมาย เห็นพวกเราเป็นเนื้อก้อนโต”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท