NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 857 ปฏิเสธฉินจื่อยี่

บทที่ 857 ปฏิเสธฉินจื่อยี่

“เรื่องนี้น่ะ ตอนนี้ยังหรอก แต่ก็อีกไม่นานแล้ว” ฉินจื่อยี่ยิ้มกล่าว: “บริษัท เทียนไห่ กรุ๊ปนั้นต้องการลงทุนกับบริษัทขนส่งต่างประเทศ จำเป็นต้องหาบริษัทขนาดใหญ่ที่มีคอนแทกต์อย่างกว้างขวางและมีความสามารถเพื่อร่วมมือด้วย ดังนั้นจึงได้จัดงานเลี้ยงค็อกเทลขึ้นที่เมืองเซี่ยงไฮ้ เพื่อค้นหาพันธมิตร ถ้าพวกเราสามารถคว้าเอาธุรกิจนี้มาได้ ผลกำไรที่ได้รับในแต่ละปี อย่างน้อยอยู่ที่หนึ่งพันล้านหรือมากกว่านั้น”

“เดี๋ยวนะ นายบอกว่าพวกเรางั้นเหรอ” ในที่สุดหลี่ฝางก็เข้าใจแล้วว่าฉินจื่อยี่เรียกเขามาทำไม

“ใช่ อาศัยกำลังของฉันเพียงคนเดียว แข่งขันกับบริษัทพวกนั้นจะต้องยากมากแน่ ๆ แต่ถ้าใช้พลังของเราสองคนรวมกันล่ะก็ ธุรกิจในครั้งนี้พวกเราจะต้องคว้าเอาไว้ได้อย่างแน่นอน” ฉินจื่อยี่กล่าวอย่างเต็มไปด้วยความมั่นใจ

“ตอนนี้ในมือของฉันมีเงินอยู่ไม่เท่าไหร่หรอกนะ” หลี่ฝางรีบเอ่ยขึ้นมา: “อีกอย่างฉันเพิ่งกลับมาจากเมืองเป่ยไห่ นายจะให้ฉันไปที่เมืองเซี่ยงไฮ้ต่อเลย มันเหนื่อยมากเลยนะ”

“แค่ไปกลับเอง วันเดียวก็กลับมาแล้ว นายไม่ต้องทำอะไรเลยด้วยซ้ำ เพียงแค่ใส่ชื่อนายลงไป จากนั้นก็นอนรอนับเงิน มันจะเหนื่อยสักเท่าไหร่กันเชียว” ฉินจื่อยี่ยิ้มด่าพลางกล่าว: “คนอื่นบอกว่าไม่มีเงินยังพอว่า คุณชายหลี่อย่างนายบอกว่าไม่มีเงิน ฉันไม่เชื่อหรอกนะ!”

“แค่ก ๆ” หลี่ฝางไอขึ้นมาอย่างเคอะเขิน เขาไม่ได้ขาดเงินหรอก แต่หลังจากที่กลับมาจากเมืองเป่ยไห่ เขายังไม่ได้พักผ่อนเลยแม้แต่วันเดียว ยังไม่ทันได้ไปแม้กระทั่งสถานตากอากาศ

อีกอย่างภารกิจเสร็จสิ้น ที่หลิวฮุยเคยรับปากว่าจะคุ้มครองตระกูลหลี่ในตอนที่หลี่ฝางไม่อยู่ที่เมืองเอกก็ได้สิ้นสุดลงแล้ว หลี่ฝางจากไปในตอนนี้ เขาอดเป็นห่วงผู้คนที่อยู่ในสถานตากอากาศไม่ได้จริง ๆ

“บอกนายตามตรงนะ ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากทำธุรกิจนี้ แต่ตอนนี้ฉันไม่สามารถแบ่งใจไปสนใจเรื่องอื่นได้จริง ๆ ถ้าหากนายบอกเพียงแค่ให้ฉันใช้เงินลงทุน งั้นก็ไม่มีปัญหา แต่ตัวของฉัน ไปไหนไม่ได้จริง ๆ” หลี่ฝางกล่าวอย่างตรงไปตรงมา

หลี่ฝางน้ำเสียงหนักแน่น ฉินจื่อยี้เองก็ไม่อาจโน้มน้าวอีกต่อไป จึงทำได้เพียงแค่กล่าว: “เรื่องนี้นายอย่าพึ่งรีบปฏิเสธไป ลองพิจารณาดูก่อน ถ้าเปลี่ยนใจเมื่อไหร่บอกฉันได้ตลอดเวลา”

หลี่ฝางพยักหน้า และไม่ได้ปฏิเสธฉินจื่อยี่อีก

ในระหว่างที่ทั้งสองคนกำลังคุยกันอยู่นั้น ฉินวี่เฟยก็ได้นั่งฟังอย่างเงียบ ๆ อยู่ที่ด้านข้างตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่ได้เอ่ยขัดจังหวัดขึ้นมาเลยสักครั้ง

ถึงแม้ฉินจื่อยี่จะเป็นพี่ชายของเธอ แต่ตอนนี้เธอเป็นผู้หญิงของหลี่ฝาง เช่นนั้นก็ต้องยืนอยู่ที่มุมของหลี่ฝางมากกว่า ถึงแม้เธออยากจะช่วยพูดให้กับฉินจื่อยี่บ้าง แต่เธอยิ่งไม่อยากให้หลี่ฝางลำบากใจมากกว่า

หลี่ฝางยังคงปฏิเสธคำเชื้อเชิญในการร่วมมือของฉินจื่อยี่ และก็ไม่รู้เหมือนกันว่าสุดท้ายแล้วฉินจื่อยี่ได้ไปร่วมมือกับใคร หลี่ฝางเองก็ไม่ได้ไปถาม ถ้าหากเป็นเวลาอื่นล่ะก็ หลี่ฝางอาจจะตอบรับคำเชื้อเชิญของฉินจื่อยี่ไปแล้ว แต่เขาในตอนนี้เพียงแค่อยากจะพักผ่อนอยู่ที่สถานตากอากาศสักระยะเท่านั้น

หลังจากที่ได้ผ่านช่วงเวลาการใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบมา ชีวิตของหลี่ฝาง ก็ได้ค่อย ๆ กลับคืนสู่ความสงบ

เขาทำในสิ่งที่ชื่นชอบกับฉินวี่เฟยในทุก ๆ วัน มองดูอาการบาดเจ็บของคนที่อยู่ในสถานตากอากาศค่อย ๆ ฟื้นตัว ในขณะเดียวกันก็ได้ฝึกฝนวิทยายุทธ์ของตัวเองอยู่อย่างไม่หยุด หลายวันมานี้เขาได้ใช้ชีวิตอย่างสงบ

มีเพียงเรื่องเดียวที่ทำให้หลี่ฝางรู้สึกอึดอัด นั่นก็คือฮาโรลด์คนนั้น ที่ได้รับภารกิจให้มาลอบสังหารเขา หนึ่งอาทิตย์เต็ม ๆ แล้วก็ยังไม่ได้ปรากฏตัวขึ้นมาเลยสักครั้ง

ดูเวลาแล้ว อีกฝ่ายน่าจะมาถึงเมืองเอกตั้งแต่ห้าวันที่แล้วแล้ว หรือแม้กระทั่งได้แอบแฝงอยู่รอบตัวของเขาเป็นที่เรียบร้อย แต่ระยะเวลาหนึ่งอาทิตย์เต็ม ๆ หลี่ฝางก็ไม่เคยได้เจอแม้แต่เงาของเขา

ส่วนหลี่ฝางเพื่อที่จะหาตัวอันตรายนี้ออกมา เขาก็ได้ตั้งใจสร้างโอกาสให้กับชายคนที่แอบแฝงอยู่รอบกายของเขาคนนั้นหลายครั้ง

แต่ไม่ว่าหลี่ฝางจะไปในที่ที่ห่างไกลเพียงคนเดียว หรือว่าแสร้งทำเป็นนอนหลับในสวนสาธารณะ ฮาโรลด์ก็ไม่เคยลงมือเลยสักครั้ง แม้แต่ลองพยายามที่จะเข้าใกล้ก็ไม่มี

นั่นมันทำให้หลี่ฝางอดไม่ได้ที่จะสงสัยขึ้นมาว่า หรือว่าอีกฝ่ายจะประสบอุบัติเหตุทางอากาศในขณะที่เดินทางมา หรือว่าจะเกิดเรือคว่ำอยู่ในทะเล

แต่พอลองตรวจสอบข่าวเหตุการณ์การที่เกิดขึ้นใน ก็ไม่ได้มีอุบัติเหตุที่คล้ายคลึงเกิดขึ้นเลย จนปัญญา หลี่ฝางทำได้เพียงแสร้งทำเป็นใช้ชีวิตอย่างไม่รู้ตัว พลางป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่ออย่างระมัดระวังไปด้วย

ไม่ว่ายังไงอีกฝ่ายก็เป็นคนที่กล้าลอบสังหารยอดฝีมือกำลังภายในเมื่อปีที่แล้ว อีกทั้งยังสามารถหลบหนีไป ได้ตอนนี้หนึ่งปีผ่านไป โลกภายนอกไม่เข้าใจถึงฝีมือของฮาโรลด์เลยสักนิด

ถ้าอีกฝ่ายได้สำเร็จเข้าขั้นกำลังภายใน เช่นนั้นสุดยอดนักฆ่ากำลังภายในคนหนึ่ง จะต้องมีพลานุภาพมากกว่านักสู้ในระดับเดียวกันอย่างแน่นอน การเตรียมความพร้อมที่จำเป็นนั้น สำคัญกับหลี่ฝางมาก

เพียงแต่ว่าการเตรียมความพร้อมแบบนี้ หลี่ฝางเองก็ไม่แน่ใจว่ามันจะจบสิ้นลงเมื่อไหร่

ยอดนักฆ่าคนหนึ่ง อย่าว่าแต่แอบแฝงอยู่ที่รอบการของคุณหนึ่งอาทิตย์เลย ต่อให้เป็นครึ่งปี หรือแม้แต่หนึ่งปี ก็ไม่น่าแปลกใจ

แต่ถ้าต้องใช้เวลายาวนานขนาดนั้นจริง ๆ เช่นนั้นหลี่ฝางคงอึดอัดแย่เลย

อีกอย่างแม่มดได้บอกมาในอีเมลฉบับนั้นแล้วว่าส้าวส้วยจะกลับมา แต่เขารอมาหลายวันเช่นนี้ ก็ยังไม่มีข่าวคราวของสาวสวยเลยสักนิด เดิมทีเขายังคาดหวังว่าส้าวส้วยจะนำข่าวคราวอะไรบางอย่างกลับมาด้วย ตอนนี้การรอคอยเช่นนี้มันช่างทำให้คนทุกข์ทรมานเสียจริง

และในการรอคอยที่แสนจะน่าเบื่อและตุ้ม ๆ ต่อม ๆ แบบนี้ สิ่งที่หลี่ฝางรอมาได้กลับไม่ใช่การลอบสังหารของฮาโรลด์ แต่เป็นแขกผู้มาเยือนที่เขาคาดไม่ถึงคนหนึ่ง

“คุณมาได้ยังไง”

เมื่อมองเห็นคนที่ยืนอยู่ด้านนอกประตู หลี่ฝางรู้สึกคาดไม่ถึงเล็กน้อย

ตั้งแต่ที่เขากลับมา ก็ไม่ได้เจอกับหลิวฮุยอีกเลย โทรหาอีกฝ่ายเพียงแค่บอกว่าไม่ได้อยู่ที่เมืองเอก แม้แต่เอกสารรับรองใบนั้นก็ไม่ได้เอาคืนไป

“เพิ่งมาถึงเมื่อคืน”

กลิ่นอายของฝุ่นละอองร่องรอยออกมาจากทั่วทั้งร่างของหลิวฮุย ราวกับได้เดินทางชั่วข้ามคืนหลาย พันกิโลเมตร เพื่อรีบกลับมาจากต่างถิ่น

“เข้ามาเถอะ!”

หลี่ฝางเองก็ไม่ได้ห้ามอีกฝ่าย เขาหันหลังกลับในทันที และได้ให้หลิวฮุยเข้ามาในห้อง

“นั่งตามสบาย! ในตู้เย็นมีน้ำ หยิบเองเลย!”

ในฐานะเจ้าของบ้าน หลี่ฝางไม่ได้ดูแลแขกที่มาเยือนเลยสักนิด เขานอนลงไปบนโซฟา และไม่ได้สนใจอะไรอีก ภารกิจเมื่อครั้งที่แล้วหลี่ฝางได้หลิวฮุยเอารัดเอาเปรียบอย่างหนัก ให้หลี่ฝางทำตัวเป็นคนเกลี้ยกล่อมฟรี ๆ ไม่ได้รับผลประโยชน์อะไรเลยแม้แต่นิดเดียว งั้นก็อย่าหวังเลยว่าหลี่ฝางจะทำดีกับเขา

“ลุงเฉียนเป็นยังไงบ้าง? พวกคุณไม่ได้ทำอะไรอย่างอื่นกับเขาใช่ไหม?” ทันทีที่หลิวฮุยนั่งลง หลี่ฝางก็เอ่ยถามขึ้นมาทันที

“พ้นขีดอันตรายเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้กำลังฟื้นตัวอยู่ คาดว่าอีกประมาณครึ่งเดือนนายก็น่าจะได้เจอกับเขาแล้ว”

หลิวฮุยรู้ว่าสิ่งที่หลี่ฝางเป็นห่วงที่สุดคืออะไร ดังนั้นจึงได้รีบพูดให้หลี่ฝางเข้าใจทันที เพียงแต่ว่าเค้าเป็นห่วงความปลอดภัยของคนอื่น ตอนนี้เขาไม่มีเวลาจะไปสนใจเรื่องอื่นอย่างดื่มน้ำแล้ว หลังจากที่ได้นั่งลงตรงข้ามกับหลี่ฝาง เขาก็ได้เริ่มลังเลขึ้นมา คิดว่าควรจะเอ่ยปากกับหลี่ฝางยังไงดี

พอเห็นท่าทางเช่นนี้ของหลิวฮุย หลี่ฝางก็รู้ขึ้นมาทันที คนคนนี้คงจะมาสร้างปัญหาให้ตัวเองอีกแล้ว ก็เลยไม่รีบร้อนอะไร เขาหยิบแอปเปิลขึ้นมา และกัดกินอย่างช้า ๆ

“หลี่ฝาง……”

รอจนหลี่ฝางทานแอปเปิลจนเกือบจะหมด ตรงข้าม ในที่สุดก็มีเสียงดังขึ้นมาเล็กน้อย

“มีบางเรื่อง ที่ต้องปรึกษากับนายหน่อย ไม่รู้ว่านายสนใจ……”

หลิวเปิดฉากขึ้นมาอย่างมีมารยาทและยังไม่ทันได้พูดจบ ก็ได้ยินหลี่ฝางเอ่ยขึ้นมาอย่างเด็ดเดี่ยว: “ไม่สนใจ”

“……”

ทันใดนั้น บรรยากาศที่เดิมทีก็อึดอัดอยู่แล้ว เหมือนกับจะอึดอัดขึ้นมากกว่าเดิม

“นายอยากจะเข้าทีมหลงหยาไหม ถ้าหากนายสนใจล่ะ ฉันอนุมัติให้นายเข้าทีมเป็นกรณีพิเศษได้”

ลังเลไปชั่วขณะ หลิวฮุยยังคงได้เอ่ยออกมา พอกล่าวจบ ก็ได้สังเกตปฏิกิริยาของหลี่ฝางอย่างละเอียด

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท