NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่858 ออกเดินทาง

บทที่858 ออกเดินทาง

แต่แล้วสิ่งที่ทำให้เขาผิดหวังก็คือ ท่าทีของหลี่ฝางนั้นสงบนิ่งมาก ไม่เพียงไม่มีท่าทีตื่นเต้นดีใจแต่กลับเบ้ปากเล็กน้อย

“ไม่อ่ะ”

“หลี่ฝาง นายอาจจะไม่รู้สถานะของหลงหยา……”

“พอเถอะน่า ผมรู้ดีเชียวล่ะ การเดินทางไปที่เมืองเป่ยไห่ในครั้งนี้ ต่อให้เมื่อก่อนไม่รู้ตอนนี้ผมก็น่าจะรู้แล้ว

หลี่ฝางไม่รู้สึกหวั่นไหวเลยสักนิด แต่เขากลับพูดออกมาตรง ๆ : “ถ้าหากผมเข้าร่วมทีมหลงหยานะ ท่าทีที่คุณคุยกับผมในตอนนี้ก็คงไม่ใช่แบบนี้แล้ว คุณมีอะไรก็พูดมาตรง ๆ เถอะ”

เมื่อได้ยินหลี่ฝางพูดดังนั้นแล้ว หลิวฮุยก็เอ่ยขึ้นมาอย่างหมดปัญญา: “โอเค เรื่องมันเป็นแบบนี้……”

เมื่อไม่มีทางเลือก หลิวฮุยก็ทำได้เพียงพูดความจริงออกมาอย่างหมดเปลือก

ทีมสามที่ได้รับคำสั่งให้คุ้มครองตระกูลเกา ถูกซุ่มโจมตีในตอนที่ออกจากเมืองมา สมาชิกของทีมสามตายไปครึ่งหนึ่ง ส่วนคนตระกูลเกาได้ถูกชิงตัวไปทั้งหมด

เมื่อได้ยินถึงความสูญเสียที่หลักหนาสาหัสเช่นนั้น หางตาของหลี่ฝาง ก็กระตุกขึ้นมาอย่างอดไม่ได้

ทีมหลงหยาไม่ใช่หมาแมวที่ไหน แต่ละคนต่างก็เป็นนักสู้ที่ได้ผ่านการฝึกฝนมาอย่างหนัก กลับตายไปเป็นครึ่งในสนามรบเพียงครั้งเดียว แค่คิดก็รู้แล้วว่าสนามรบในครั้งนี้นั้นอันตรายเพียงใด

หลี่ฝางไม่ได้เอ่ยอะไร ส่วนหลิ่งฮุยก็ได้กล่าวต่อไป

“หลี่ฝาง ที่ฉันมาหานายในครั้งนี้ เป็นความต้องการของเบื้องบน บุคคลใหญ่โตที่เบื้องบนหลายคน ต่างก็หวังว่านายจะสามารถออกหน้า ช่วยคนตระกูลเกากลับมา”

“บุคคลใหญ่โต?

หลี่ฝางขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างอดไม่ได้

“ยอดฝีมือของพวกคุณล่ะ? คนอื่น ๆ ของหลงหยาล่ะ? อย่าบอกกับผมนะว่าไม่มีคนอื่นนอกจากผมอีกแล้ว”

หลี่ฝางกล่าวขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ เขาไม่รู้จริง ๆ ว่าหลิวฮุยคนนี้กำลังคิดอะไรกันแน่

“ฝีมือความสามารถของหัวหน้าทีมหนึ่งและทีมสองไม่เพียงพอ จากรายงานที่ทีมสามส่งกลับมานั้น เกรงว่าจะมีปรมาจารย์กำลังภายในลงมือ”

“ปรมาจารย์กำลังภายในงั้นเหรอ? เป็นไปไม่ได้มั้ง?”

หลี่ฝางรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เรื่องอย่างปรมาจารย์กำลังภายในเป็นทหารรับจ้างนั้น มันทำให้คุณรู้สึกว่าไร้สาระไปหน่อย

“ดังนั้นพวกเราก็เลยสงสัยว่าทหารรับจ้างเป็นเพียงแค่ข้ออ้าง แต่มีกองกำลังที่แข็งแกร่งกว่านั้นอยู่เบื้องหลัง หรือแม้กระทั่งอาจเป็นประเทศอื่น ๆ” หลิวฮุยกล่าว

“มันก็ใช่ มีเพียงประเทศอื่นๆ ถึงมีความมั่นใจที่จะลงมือ” หลี่ฝางกล่าว

พลังอำนาจของประเทศประเทศหนึ่งนั้นกองกำลังใด ๆ ก็ไม่อาจเทียบได้ สามารถลงมือกับประเทศใหญ่ได้ จะต้องเป็นประเทศใหญ่อีกประเทศหนึ่งอย่างแน่นอน

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ประเทศใดก็ตามที่พอจะมีความสามารถบ้าง ต่างก็หวังว่าจะได้ยาเพิ่มพลังความแข็งแกร่งนั้นมาครอบครองไว้ในมือ ใครจะไปรู้ล่ะว่า เมื่อของแบบนี้ตกอยู่ในมือประเทศอื่น อาจจะสามารถผลิตทีละจำนวนขึ้นมาก็ได้! หรือต่อให้ไม่สามารถผลิตครั้งละมาก ๆ ได้ ต้นทุนการผลิตสองพันล้าน หลายประเทศก็สามารถสนับสนุนให้สร้างกองกำลังทหารสุดยอดเล็ก ๆ ขึ้นมาได้เหมือนกัน

และถ้าหากให้ประเทศใดประเทศหนึ่งสร้างกองกำลังทหารสุดยอดขนาดใหญ่ขึ้นมาได้จริง ๆ หรือแม้กระทั่งเกิดเหตุการณ์ที่คนภายในประเทศต่างมีวิวัฒนาการขึ้นมา งั้นประเทศอื่นก็ไม่ต้องมีอยู่ติดต่อไปแล้ว รวมตัวเข้าด้วยกันให้มันจบ ๆ ไปเถอะ

ภายใต้การจับตามองของหลิวฮุย หลี่ฝางก็ได้เอ่ยขึ้นมาอย่างช้า ๆ : “จะให้ผมช่วยก็ได้ แต่มีเงื่อนไขอย่างหนึ่ง”

“นายวางใจได้ ในระหว่างที่นายปฏิบัติภารกิจ จะไม่เกิดความผิดพลาดใด ๆ เกิดขึ้นกับตระกูลหลี่ของนายอย่างแน่นอน” หลิวฮุยรีบกล่าวขึ้นมาทันที

“เชรด! ครั้งที่แล้วก็ได้หลอกผมไปแล้ว มันจะง่ายแบบนั้นได้ยังไง!” หลี่ฝางแทบอดไม่ได้ที่จะคว่ำโต๊ะ: “แสดงความจริงใจออกมาหน่อยได้ไหม?”

“เรื่องนี้……เหอะ ๆ ก็ได้ บอกมาเถอะว่านายมีข้อเรียกร้องอะไร ฉันจะรายงานต่อเบื้องบน เพียงแค่เป็นเรื่องที่สามารถทำได้ จะต้องพยายามทำให้นายพอใจอย่างเต็มที่”

เหมือนกับว่าเขาได้รู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าลี่ฝางจะมีข้อเรียกร้อง หลิวฮุยเองก็ไม่ได้รู้สึกเกินความคาดหมายอะไร แต่เพื่อป้องกันไม่ให้หลี่ฝางเอ่ยข้อเรียกร้องที่มากเกินไป หลิวฮุยยังคงใช้นามของเบื้องบนเพื่อข่มขู่หลี่ฝาง

หลี่ฝางเหลือบมองหลิว และไม่ได้ใส่ใจกับเล่ห์กลเล็ก ๆ น้อย ๆ ของอีกฝ่าย เขาเอ่ยขึ้นมาตรง ๆ : “พ่อของผมได้รับปากพวกคุณไปที่โซนปีศาจ เงื่อนไขที่คุณให้เขาคืออะไร ผมก็ต้องการเงื่อนไขแบบนั้น”

“นี่……”

ท่านใดนั้น หลิวฮุยก็หน้านิ่วคิ้วขมวดขึ้นมา

สิทธิในการเว้นโทษ?

เงื่อนไขที่รับปากหลอซ่า จะให้หลี่ฝางง่าย ๆ ได้ยังไง?

ครั้งที่แล้วที่หลอซ่าเอ่ยข้อเรียกร้องนั่นออกมา ก็ได้ทำให้ผู้มีอำนาจที่เบื้องบนไม่พอใจมากแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะข้างในนั้นพัวพันถึงการเผชิญหน้าของระหว่างสองฝ่ายล่ะก็ คงไม่มีทางที่จะรับปากเงื่อนไขนั้นของหลอซ่าอย่างแน่นอน

“ผมมีเงื่อนไขเพียงข้อเดียว ถ้าคุณรับปาก ผมจะออกเดินทางในทันที ถ้าไม่ได้ก็แล้วไป”

หลี่ฝางท่าทางเย็นชา เขาไม่ยอมอ่อนข้อเลยสักนิด

เขาไม่เพียงมีความต้องการสูง และถือเป็นการทดสอบความลึกตื้นหนาบางของอีกฝ่าย ต่อให้ไม่สำเร็จ พอถึงตอนนั้นค่อยเอ่ยข้อเรียกร้องอย่างอื่นก็จะสบายขึ้นมาเยอะ

ใบหน้าของหลิวฮุยกลับเต็มไปด้วยความลำบากใจ เขาทำได้เพียงพยักหน้าแล้วกล่าว: “ฉันโทรหาเบื้องบน เพื่อถามความคิดเห็นจากเบื้องบนก่อน”

ครึ่งค่อนวัน หลิวฮุยก็ได้ถอนหายใจ เขาโยนทุกอย่างให้กับเบื้องบน

เรื่องแบบนี้ เขาตัดสินใจเองไม่ได้เลยสักนิด แทนที่จะเสียเวลากับหลี่ฝางอยู่แบบนี้ สู้หาคนที่สามารถตัดสินใจได้มาคุยจะดีกว่า

ไม่นาน ก็ได้มีคนรับสาย หลิวฮุยอธิบายสถานการณ์ให้กับอีกด้านของสายฟังอย่างคร่าว ๆ ไม่นานก็ได้รับคำตอบ

“ขอเพียงแค่นายพาคนกลับมาได้ พวกเรารับปากข้อเรียกร้องของนาย”

เมื่อได้ยินคำตอบเช่นนี้ ใบหน้าที่สงบนิ่งของหลี่ฝางก็ได้มีรอยยิ้มที่เซอร์ไพรส์ขึ้นมา ปรากฏให้เห็นฟันที่ขาวสะอาด เขากล่าวอย่างเจิดจรัส: “ไม่มีปัญหา”

มองดูท่าทางที่เซอร์ไพรส์อย่างสุดขีดของหลี่ฝาง หลิวฮุยทอดถอนใจขึ้นมา และได้กล่าวตักเตือนหลี่ฝาง: “หลี่ฝาง ภารกิจในครั้งนี้ เบื้องบนจะส่งทีมสำรองมาช่วยเหลือนายเพื่อทำภารกิจให้สำเร็จ”

“ทีมสำรอง? พวกมือใหม่เหรอ?”

หลี่ฝางขมวดคิ้ว เขาไม่เข้าใจว่าเบื้องบนกำลังคิดอะไรอยู่

เป็นภารกิจที่สำคัญมากแท้ ๆ สุดท้ายแล้วไม่มีแม้แต่ทีมอย่างเป็นทางการเหรอ”

เดิมทีการเชิญคนภายนอกที่ไม่เคยได้ผ่านการฝึกฝนมาก่อนอย่างตัวเองก็ยังพอว่า ทำไมทีมต่อสู้ที่เป็นกองกำลังหลักยังเลือกพวกมือใหม่อีก? ตกลงแล้วพวกเขาอยากจะช่วยคนตระกูลเกาหรือไม่กันแน่?

“คนของทีมหนึ่งต่างก็ไปปฏิบัติภารกิจกันหมด ไม่เช่นนั้นละก็คนที่ไปรับคนตระกูลเกา ก็คงไม่ใช่ทีมสาม ตอนนี้เหลือเพียงทีมสำรองที่สามารถให้นายเรียกใช้ได้แล้ว”

หลิวฮุยกล่าวต่อด้วยใบหน้าเหยเก: “แต่ว่านายวางใจได้ คนพวกนี้เป็นพวกหัวกะทิที่คัดสรรมาจากทั่วประเทศ คุณภาพในการต่อสู้นั้นยอดเยี่ยมอย่างแน่นอน”

“ก็ได้ ถ้าจะพูดถึงเรื่องคุณภาพในการต่อสู้ ผงยังสู้พวกเขาไม่ได้เลย ผมเป็นคนภายนอก ทำไมถึงได้กลายเป็นหัวหน้าของพวกเขาไปได้ล่ะ? คิดว่าคนพวกนั้นคงไม่ยอมแน่ พอถึงตอนนั้นถ้าพวกเขาไม่เชื่อฟังผม ผมจะไม่ไว้หน้าพวกเขาหรอกนะ”

ดีฟังกดขมับ เขารู้สึกปวดหัวเล็กน้อย

“แล้วแต่นายเลย ขอเพียงไม่ตั้งใจขายเพื่อนร่วมทีม ทำยังไงก็ได้ขอแค่สามารถทำภารกิจให้สำเร็จ” หลิวฮุยกล่าวพลางหัวเราะเหอะ ๆ ราวกับว่าเชื่อมั่นในนิสัยใจคอของหลี่ฝางเป็นอย่างมาก

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท