NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 865 ได้รับรายงาน

บทที่ 865 ได้รับรายงาน

“หึๆ”

เก็บเงินก้อนนั้นกลับ หลี่ฝางหันไปหัวเราะเย้ยหยันเบ็ค

“พูดทุกอย่างที่นายรู้ให้ฉันฟัง” สำหรับสีหน้าเคียดแค้นของเบ็ค หลี่ฝางไม่สนใจ

“นายมันเหี้ยมมาก” เบ็คเค้นคำพูดออกมาสี่พยางค์ สุดท้ายพูดด้วยความจนปัญญา:“ช่วงหลังมานี้กองทหารรับจ้างซีโส่ปรากฏตัว พวกเขามาจากประเทศจีน น่าจะเป็นคนที่พวกนายต้องการหา”

จากนั้น เบ็คได้เล่าสถานการณ์ของกองทหารรับจ้างให้หลี่ฝางฟังอย่างละเอียด

ความเป็นจริงกองทหารรับจ้างนี้มีชื่อเสียงมาก เพราะขอแค่เพียงพวกเขารับเงิน พวกเขาก็จะทำทุกอย่าง ไม่มีหลักคุณธรรมและหลักการแม้แต่น้อย แม้กระทั่งคนในสายอาชีพเดียวกัน เวลาพูดถึงพวกเขาก็ล้วนทำสีหน้ารังเกียจ

“นายคงไม่หลอกฉันหรอกใช่ไหม” หลี่ฝางจับจ้องไปที่เบ็คแล้วพูด

“ถุย!นายลองออกไปสืบดูนะ ฉันเบ็คคือคนที่ไม่โกหกแม้กระทั่งคนแก่และเด็ก!” ถูกพูดเสียดสีจรรยาบรรณในสายอาชีพของตนเอง เบ็คถึงกับนั่งไม่นิ่ง “ฉันไม่มีวันขายข่าวปลอม!”

“เยี่ยมมาก” ในที่สุดใบหน้าของหลี่ฝางก็มีรอยยิ้ม เขาหยิบเงินสามหมื่นหยวนออกมาอีกครั้งแล้ววางไว้ตรงหน้าเบ็ค บอกให้จี้หมิงกลับ

เบ็คมองโต๊ะตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาของตน นิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่ง

เขายอมรับว่าตั้งแต่ต้นจนจบเขาไม่เข้าใจคนหนุ่มคนนี้เลย

……

ในเวลานี้ คนในโรงแรมกำลังพูดถึงหลี่ฝางที่ออกไปข้างนอก

ต้วนหงกวงพูดพึมพำด้วยสีหน้าเศร้าหมอง:“พวกนายว่าหัวหน้าของเราออกไปทำอะไรกันแน่ ทำไมยังไม่กลับมา พวกเราอยู่ที่นี่ก็น่าเบื่อเกินไปแล้ว ทำอะไรก็ไม่ได้สักอย่าง หรือว่าทำได้แค่นอนอย่างเดียว?”

“นายพอเหอะ ถ้าหัวหน้าได้ยินสิ่งที่นายพูดนายซวยแน่ๆ!” หนึ่งในสมาชิกพูดหยอกล้อ “ไม่แน่ว่าถึงเวลาอาจจะสั่งให้นายไปเฝ้าเวรตอนกลางคืน นายจะได้รู้ว่าการนอนหลับมันสบายแค่ไหน”

“ถุย!ฉันนะเหรอกลัวเฝ้าเวรตอนกลางคืน? ฉันจะบอกอะไรให้พวกนายฟัง หัวหน้าต้องออกไปเที่ยวเตร่แน่ เฮ้อ น่าอิจฉาจริงๆ ไม่ถูกสิ จี้หมิงก็ไปด้วยไม่ใช่เหรอ หรือว่า……”

ต้วนหงกวงพูดเสียงพึมพำ เสียงของเขาดังขึ้นเรื่อยๆ ประจวบเหมาะเวลานี้หลี่ฝางที่เดินเข้ามาในโรงแรมก็ได้ยินอย่างชัดเจน

นี่เป็นเพราะหลี่ฝางหูดี คนอื่นไม่มีวันได้ยิน

ใบหน้าของหลี่ฝางฉายรอยยิ้มเหี้ยมโหด

“หลี่ พี่หลี่…….”

จี้หมิงที่อยู่ข้างๆเห็นภาพนี้ หัวใจเย็นวาบไปครึ่งหนึ่ง ถ้าไม่ใช่เพราะปกติมีการฝึกซ้อม ตอนนี้เขาคงหนีไปแล้ว

“บอกให้พวกนายฟัง ต้องใช่แน่ๆ……”

ต้วนหงกวงยังพูดไม่จบ ได้ยินเสียงดังขึ้นจากด้านหลัง หลี่ฝางเตะประตูห้องแล้วเดินเข้ามาช้าๆ

วินานทีนี้ ต้วนหงกวงตกใจอย่างมาก ตกใจจนเกือบจะฉี่ราด

“ฮ่าๆๆ หัวหน้า กลับมาแล้วเหรอครับ……” เขายังอยากจะหัวเราะกลบเกลื่อนเพื่อเปลี่ยนเรื่อง ทว่ากลับเห็นสีหน้าน่าสงสารและเวทนาที่เขียนอยู่ตรงหน้าของจี้หมิงซึ่งเดินเข้ามาพร้อมกับหลี่ฝาง

“ต้วนหงกวง คืนนี้นายเฝ้าเวรกลางคืน ตั้งใจน้อย ถ้ากล้าไม่ระมัดระวัง……” ตอนที่หลี่ฝางหยุดพูดสีหน้าของต้วนหงกวงซีดขาวไปแล้ว

“หัว หัวหน้า ผมคนเดียวเหรอครับ?” ต้วนหงกวงถามติดขัด

“นายคิดว่ายังไงล่ะ?” หลี่ฝางคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้มแล้วมองไปที่เขา

ต้วนหงกวงน้ำตาแตก หมดคำจะพูด

คืนนี้ยาวนานกว่าทุกคืน ความรู้สึกเจ็บปวดในใจของต้วนหงกวงไม่มีใครรับรู้

ในตอนนี้ เขาจำสิ่งที่คนนั้นพูดก่อนหน้านี้ได้ น้ำตาไหลหยุดไม่ได้เลย

วันที่สอง หลี่ฝางตื่นนอน เดินออกจากห้องเห็นต้วนหงกวงยืนนิ่งอยู่ด้านนอก ดวงตาทั้งสองหรี่ลง ไม่ได้รู้สึกโมโหแต่ยังรู้สึกตลกเล็กน้อย

“หลับไปแล้วเหรอ?” หลี่ฝางถามเสียงเบา สำหรับต้วนหงกวงเหมือนกับฟ้าผ่าในวันที่ท้องฟ้าสดใส เขาตกใจจนตื่นทันที

“หัว หัวหน้า……” ต้วนหงกวงมองหลี่ฝาง อดไม่ได้ที่จะก้มหน้าลง

“พอได้แล้ว เข้าไปนอนเถอะ” หลี่ฝางตบหัวไหล่ของต้วนหงกวงยิ้มแล้วพูด:“วันนี้ไม่ได้ลงมือ พักผ่อนให้เรียบร้อย”

“ครับ!”

ต้วนหงกวงซาบซึ้งอย่างมาก ไม่ได้พูดอะไรมากมาย กลับไปถึงห้องก็นอนหลับทันที ไม่นาน เสียงกรนของเขาแทบจะดังก้องไปทั่วทั้งโรงแรม

หลังจากพักผ่อนตลอดครึ่งเช้า ต้วนหงกวงได้กลิ่นหอมของมื้อเที่ยงแล้วตื่นขึ้นมา หลังจากกินมื้อเที่ยงเสร็จ ทุกคนรวมตัวกันแล้วเริ่มหารือว่าจะปฏิบัติภารกิจยังไง

หลี่ฝางพูดขึ้นก่อน:“จากที่ฉันและจี้หมิงสืบ เรื่องนี้เป็นฝีมือของกองทหารรับจ้างซีโส่ แต่ไม่แน่ใจว่ามีคนอื่นมาช่วยไหม ดังนั้นเป้าหมายของเราคือกองทหารรับจ้างซีโส่เป็นอันดับแรก”

หลังจากพูดถึงสถานการณ์ในตอนนี้เสร็จ หลี่ฝางพูดต่อ:“ตอนนี้พวกเราจำเป็นต้องหาตำแหน่งของกองทหารรับจ้างซีโส่ เจิ้งหงหยาง ทีมอื่นๆถึงพื้นที่เป้าหมายรึยัง?”

เจิ้งหงหยางพยักหน้า:“ทุกคนไปถึงตามคำสั่งแล้วครับ อีกเรื่องหนึ่ง พวกเราเจอเป้าหมายที่น่าสงสัยนอกเมือง เพียงแต่ไม่มีคำสั่งต่อไป ดังนั้นจึงนิ่งเอาไว้ครับ ตอนนี้ผมสงสัยอย่างเต็มเปี่ยมว่าเป้าหมายนั้นก็คือฐานประจำการของกองทหารรับจ้างซีโส่”

“เยี่ยมมาก!” ดวงตาของหลี่ฝางเป็นประกาย รู้สึกว่าครั้งนี้เจอเป้าหมายที่ถูกต้องแล้ว

“ทีมนั้นใครเป็นหัวหน้าทีม?” หลี่ฝางถาม

ไม่ได้ทำอะไรบุ่มบ่าม แหวกหญ้าให้งูตื่น นี่เป็นเรื่องที่ดีมาก ถือว่าความลำบากของตนก่อนหน้านี้ใช้ได้ผล และอธิบายได้ว่าคนที่อยู่กับตนไม่มีปัญหา

“สวีคาง เป็นทีมที่สวีคางนำทีมครับ” เจิ้งหงหยางรีบตอบ

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน