NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 876 มุ่งหน้าไปเกาะสตาร์

บทที่ 876 มุ่งหน้าไปเกาะสตาร์

“ฉันกลายเป็นพ่อ?” หลี่ฝางพูดออกมา

ได้ยินคำพูดนี้หลี่ฝางที่ตอนแรกสีหน้าเคร่งขรึม เกือบหลุดหัวเราะออกมา

“ฮ่าๆๆ ถูกต้อง พูดได้ว่า สุดท้ายนายจะกลายเป็นหลอซ่าอีกคนหนึ่ง แต่ความเป็นไปได้นี้น้อยมาก ความเป็นไปได้ที่มากกว่าคือนายจะกลายเป็นคนบ้าที่สติฟั่นเฟือน ไม่ก็สติแตกจนกลายเป็นคนปัญญาอ่อน”

เหงื่อเย็นไหลออกมาจากหน้าผากของหลี่ฝาง

“ดังนั้นจะแก้ปัญหานี้ยังไง ในเมื่อนายบอกกับฉันแล้ว อย่างน้อยก็ต้องมีสักวิธีใช่ไหม?”

“มีความเป็นจริงลูกพี่ใหญ่ตระหนักถึงปัญหาข้อนี้เอาไว้แต่แรกแล้ว อีกทั้งยังได้เตรียมความพร้อมตั้งแต่แรก ตอนแรกอยากจะรอให้ทุกอย่างเตรียมพร้อมก่อนแล้วค่อยให้นายได้บรรลุกำลังภายใน แต่ว่าแผนการย่อมไม่ทันการเปลี่ยนแปลง ทำให้นายบรรลุกำลังภายในก่อนเวลา จึงทำได้เพียงคิดหาวิธีมาแก้ไข……”

ส้าวส้วยยิ้มแล้วมองท้องฟ้าที่ไกลห่าง ทะเลสีครามและท้องฟ้าสีฟ้ามาบรรจบกันในระยะสายตา กลายเป็นเส้นที่เลือนราง ทะเลและท้องฟ้าเป็นสีเดียวกัน ราวกับว่าประสานเป็นหนึ่งในที่ไกลห่าง

“สำหรับการพัฒนากำลังภายใน ความเป็นจริงมีประวัติมายาวนานมากแล้ว หลายปีที่ผ่านมานี้พวกเราทำกิจกรรมที่ประเทศต่างๆ พบว่ามีการบันทึกกำลังภายในที่โบราณสถานซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนาน

ยาที่สามารถทำให้ฉัน ทำให้ลูกพี่บรรลุกำลังภายใน เป็นหนึ่งในความสำเร็จที่สำคัญที่สุดตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ การประสบความสำเร็จพิเศษว่านอกจากอาศัยพรสวรรค์และการฝึกซ้อมที่ลำบากแล้ว กำลังภายในสามารถบรรลุผ่านพลังภายนอกได้ ถูกคนสร้างขึ้นมา และไม่มีใครรู้ว่าอารยธรรมที่ถูกประวัติศาสตร์ทำลาย หรือองค์กรบางองค์กร จะมีวิธีการกระตุ้นกำลังภายในแบบสมบูรณ์และอย่างเป็นระบบหรือไม่……”

“นายอยากจะพูดอะไรกันแน่ ส้าวส้วย?”

“ฉันอยากจะบอกว่า ถ้าบนโลกใบนี้ยังมีสิ่งที่ทำให้มนุษย์ใช้ในการบรรลุกำลังภายใน บางทีอาจจะสามารถแก้ไขปัญหาที่นายกำลังเผชิญอยู่ก็ได้”

ตอนที่หลี่ฝางรู้สึกงงงวยกับคำพูดร่ายยาวของส้าวส้วย ทั้งยังถามด้วยความรำคาญแล้วนั้น จู่ๆส้าวส้วยก็ถอนสายตากลับมา แล้วมองไปที่หลี่ฝาง

“นี่เป็นสิ่งที่หัวหน้าคาดเดา กำลังภายในของคุณในตอนนี้สืบทอดมาจากลูกพี่ใหญ่ ยิ่งเหมือนอุปกรณ์ที่ลูกพี่ใหญ่ให้นายยืม ไม่ได้เป็นพลังจากตัวของนายเอง ถ้าสามารถมีวิธีกระตุ้นกำลังภายในของนายอีกครั้ง นายสามารถควบคุมกำลังภายในได้ แล้วกำจัดผลกระทบที่ไม่ดี

อีกทั้งสำหรับคนที่มีกำลังภายในอย่างนาย การกระตุ้นกำลังภายในอีกครั้งก็เป็นเรื่องที่สบายมาก สบายกว่าพวกจอมยุทธ์ที่ต้องฝึกฝนด้วยความลำบากเป็นร้อยเท่า”

“ซึ่งหมายความว่า ตอนนี้นายกำลังจะพาฉันไปหาของสิ่งนั้นใช่ไหม” พูดอ้อมไปอ้อมมา ท้ายที่สุดหลี่ฝางก็เข้าใจความหมายของส้าวส้วย

“ไม่ ของหาเจอแล้ว นายไปเอาเองก็พอแล้ว”

“ของอยู่ที่ไหน?” ดวงตาของหลี่ฝางเป็นประกายแวววับ

“เกาะสตาร์ อยู่ในตระกูลของเพื่อนฉัน ตอนนี้พวกเขาเจอเรื่องเดือดร้อน กำลังต้องการให้พวกเราไปช่วยเหลือ”

ส้าวส้วยยิ้มสดใส อธิบายที่มาที่ไปให้หลี่ฝางฟัง

คนที่เก็บของแบบนั้นเอาไว้ชื่อว่าซูเฉิง มีเส้นสายและอำนาจอย่างมากในเกาะสตาร์ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ

ซูเฉิงมีลูกชายสองคนและลูกสาวหนึ่งคน ลูกชายคนโตซูเหวินมีตำแหน่งสำคัญ ทำงานได้โดดเด่น ลูกชายคนที่สองซูโน่เป็นลูกเศรษฐีที่ตรงตามแบบฉบับ ทุกวันเอาแต่เที่ยวเล่นไม่ทำการทำงาน ส่วนลูกสาวคนเล็กซูเชี่ยนยังคงเรียนหนังสือ

“เพื่อนของฉันคนนั้น คือซูโน่ที่คนอื่นมองว่าเป็นคนผลาญตระกูล อย่าโดนหลอกเพราะชื่อของเขา นี่เป็นคนที่มีความสามารถมาก” ส้าวส้วยยิ้ม

ภาพลักษณ์ภายนอกของซูโน่คือคนผลาญตระกูล ทว่าความเป็นจริงเขามีความสามารถมากกว่าคนอื่น ทั้งยังมีชื่อเสียงด้วย

แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือคนในตระกูลของซูโน่ยังไม่มีใครรู้ตัวตนที่เขาซ่อนเอาไว้

ที่ส้าวส้วยรู้ตัวตนของเขา เป็นเพราะตอนที่เขากับหลอซ่าบุกเบิกตระกูล เคยรู้จักกับอำนาจของซูโน่

ถึงแม้ในตอนหลังจะร่วมงานกันน้อย แต่อย่างน้อยก็ยังมีมิตรภาพต่อกัน ไม่ได้ตัดขาดความสัมพันธ์

ครั้งนี้ผ่านการสืบหา ไล่ตามของสิ่งนั้นที่พวกเขาต้องการจนมาถึงตระกูลซู พบว่าตระกูลซูกำลังเผชิญกับปัญหาอยู่พอดี ด้วยเหตุนี้ส้าวส้วยจึงติดต่อซูโน่ ซูโน่เองก็รู้ถึงความสามารถของพวกเขา จากการร่วมงานทำให้เชื่อใจในอุปนิสัยของเขามากกว่า แน่นอนว่าต้องเชิญให้ส้าวส้วยมาช่วยด้วยความดีใจ

……

สามวันหลังจากนี้ เรือพาณิชย์ของซุนจื้อเหวินเคลื่อนเข้าใกล้เกาะสตาร์

หลี่ฝางมองดูไฟสว่างบนเกาะ ค่อยๆกลายเป็นภาพที่งดงาม ยังคงนิ่งเงียบไม่พูดอะไร

“คุณคะ คุณโอเคไหมคะ?” ซุนเฟยเดินมา แล้วเอ่ยถาม

วันนี้เธอสวมชุดเดรส เผยให้เห็นหุ่นอรชรของเธอ ตอนที่ลมทะเลพัดผ่าน หนาวเย็นเป็นพิเศษ

มองดูซุนเฟยที่หนาวเย็นจนตัวสั่น หลี่ฝางพูดเสียงเบา:“ไม่ต้องเชื่อฟังพ่อของคุณ ทำสิ่งที่คุณต้องการ”

ได้ยินหลี่ฝางพูดแบบนี้ ซุนเฟยตัวแข็งทื่อ

ด้วยประสาทการฟังของเขา ถ้าตั้งใจฟัง ทุกอย่างบนเรือนี้ไม่มีความลับใดๆ

ดังนั้นหลี่ฝางจึงได้ยินเป็นธรรม ซุนจื้อเหวินสั่งให้ซุนเฟยแสดงความสามารถของตน เพื่อให้หลี่ฝางอยู่ต่อ

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ซุนจื้อเหวินสั่งให้ซุนเฟยทำ เพียงแต่ก่อนหน้านี้ซุนเฟยไม่ยอมทำตามก็เท่านั้น

“ขอโทษด้วยนะคะ……” ซุนเฟยก้มหน้าลง

“นี่ไม่ใช่ความผิดของคุณ” หลี่ฝางส่ายหน้า ในนัยน์ตาของเขา ซุนเฟยและเกาเมิ่งฉีทับซ้อนกันอีกครั้ง

“คุณเหมือนเพื่อนคนหนึ่งของผมมาก”

ทิ้งคำพูดนี้เอาไว้ หลี่ฝางกระโดด จู่ๆก็ตัวหายไปจากดาดฟ้า

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท