NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 918 ยินดีด้วยลูกพี่

บทที่ 918 ยินดีด้วยลูกพี่

ออร่าที่บริสุทธิ์ในแหวนหยกนี้ สำหรับปรมาจารย์กำลังภายในอย่างหลี่ฝาง สามารถพูดได้ว่าเป็นสมบัติล้ำค่าหายาก

และในตอนนี้ กำลังภายในของหลี่ฝางถูกผสานหลอมรวมเข้ากับออร่าที่บริสุทธิ์เหล่านี้ จึงทำให้กำลังภายในของหลี่ฝางแข็งแกร่งขึ้นเป็นอย่างมาก ถ้าหากสามารถดูดซับพลังภายในทั้งหมดได้ งั้นเขาก็สามารถเลื่อนระดับขั้นต่อไปได้ กลายเป็นแข็งแกร่งยิ่งขึ้น จนไปถึงจุดที่เกินสิ่งที่หลี่ฝางจินตนาการเอาไว้

หลี่ฝางคิดถึงตรงนี้ ก็รู้สึกยินดีและหัวใจพองโตอย่างไม่สามารถควบคุมได้เลย

ชิวทิงหยุนที่อยู่ด้านข้างพอเห็นหลี่ฝางแบบนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกแปลกเล็กน้อย ไม่รู้ว่าเรื่องอะไรที่ทำให้หลี่ฝางที่มีบุคลิกหน้าตายเกิดความสุขอย่างชัดเจนได้ขนาดนี้

แต่ชิวทิงหยุนรู้ ที่ทำให้หลี่ฝางมีความสุขเช่นนี้ ทำมาก็คือแหวนหยกวงที่อยู่ในมือของเขานั่นเอง

หลี่ฝางออกมาจากการเข้าฌาน ทันใดนั้นก็ออกคำสั่งกับชิวทิงหยุนทันที: “ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ไม่ว่าใครก็ห้ามเข้ามา ไม่ว่าใครทั้งนั้นเข้าใจมั้ย?”

ถึงแม้จะรู้สึกประหลาดใจต่อคำสั่งนั้นของหลี่ฝาง แต่ชิวทิงหยุนก็ไม่ได้แสดงท่าทีอะไร แค่พยักหน้าและเดินออกไปที่หน้าประตู และเฝ้าประตูแทนหลี่ฝาง

ส่วนหลี่ฝางก็เริ่มดำดิ่งเข้าฌานลึกไปกว่าเดิมทันที เริ่มใช้ออร่าบริสุทธิ์ในแหวนค่อยๆ ผสานพลังเข้ากับกำลังภายในของตัวเอง

ถึงแม้ว่าจะทำได้ช้ามากๆ แต่หลี่ฝางไม่ได้วิตกเลยแม้แต่น้อย

การพัฒนาตนเองในครั้งนี้ ทำให้ตนได้มีโอกาสเปลี่ยนแปลงตัวเอง แน่นอนว่าหลี่ฝางต้องไม่ชะล่าใจเป็นธรรมดา

และในตอนนั้นไท่ซางก็พาหยูหลิงฮุ่ยเดินมา เห็นชิวทิงหยุนยืนอยู่หน้าห้อง จึงถามขึ้นแบบประหลาดใจอย่างอดไม่ได้: “ทำไมเธอถึงมายืนตรงนี้?”

“คุณชายกู่บอกว่าไม่อนุญาตให้ใครเข้าไปทั้งนั้น ฉันมายืนเฝ้าตรงนี้ให้คุณชายกู่ค่ะ” ชิวทิงหยุนตอบอย่างรีบร้อน

ไท่ซางได้ยินแบบนั้นก็พอเดาอะไรออก จึงไม่ได้พูดอะไร แค่พยักหน้า และโอบหยูหลิงฮุ่ยพาไปยังเรือน2

ส่วนหยูหลิงฮุ่ยขณะที่จากไปกลับมองชิวทิงหยุนด้วยสายตาที่ดูถูกสุดๆ และรู้สึกพอใจมากๆ ในใจ

ถึงแม้ชิวทิงหยุนจะสวยกว่าหล่อน แต่หลี่ฝางก็เป็นแค่จอมยุทธตัวน้อยๆ คนนึงเท่านั้น จะมาเทียบกับปรมาจารย์อย่างไท่ซางได้ยังไง? ดังนั้นเธอจึงรู้สึกว่าตัวเองเก่งกว่าชิวทิงหยุนมาก

แต่ว่าหล่อนก็ไม่ได้พูดอะไร ถึงยังไงดูๆ แล้วความสัมพันธ์ระหว่างไท่ซางกับหลี่ฝางก็ดีอยู่ หล่อนไม่อยากทำให้ไท่ซางโมโหเพราะว่าพูดอะไรมั่วซั่ว

ชิวทิงหยุนไม่มีปฏิกิริยาอะไรต่อสายตาดูถูกของหยูหลิงฮุ่ย เธอแค่ยืนอย่างตั้งใจอยู่ตรงนั้น ทำตามที่หลี่ฝางต้องการ ป้องกันประตูเอาไว้ไม่ให้ใครเข้าไปทั้งนั้น

เพียงพริบตา เวลาก็ผ่านไปคืนนึง

ทั้งคืนนี้ หลี่ฝางไม่ได้ออกจากห้องเลยสักก้าวเดียว ชิวทิงหยุนก็ไม่กล้าออกไปไหน ยืนนิ่งอยู่ตรงนี้ทั้งคืน

ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าฝึกวิทยายุทธมาตลอดทั้งปีจนร่างกายดี เกรงว่าเธอคงจะเป็นลมไปแล้ว

สีของฟ้องฟ้าค่อยๆ สว่างขึ้น จู่ๆ ก็มีเสียงเบาดังขึ้นมาจากทางเรือน2 เห็นแค่หยูหลิงฮุ่ยเปิดประตูเดินออกมา

เมื่อออกมาก็เห็นชิวทิงหยุน ดูเหมือนว่าช็อกที่เธอยังคงยืนอยู่ตรงนี้ หยูหลิงฮุ่ยไม่ได้เห็นใจแต่อย่างใด และเกิดความคิดที่ไม่ดีเล็กน้อย

“ปรมาจารย์ไท่ซางสั่งให้เธอไปยกอาหารเช้ามา” หยูหลิงฮุ่ยชี้ชิวทิงหยุน พลางสั่งเธออย่างไม่เกรงใจ

ที่จริงแล้วไท่ซางสั่งให้หล่อนไม่เอาอาหารเช้า แต่หล่อนเห็นชิวทิงหยุนอยู่ตรงนี้ จึงมีคิดความที่จะบงการชิวทิงหยุน

“โทษที คุณชายกู่ยังไม่ให้ฉันจากไปไหน” ชิวทิงหยุนมองหยูหลิงฮุ่ย พลางตอบกลับอย่างเรียบเฉยไม่แข็งกร้าวไม่ถ่อมตัว

คำตอบนี้ผิดคาดหยูหลิงฮุ่ยโดยสิ้นเชิง ทันใดนั้นจึงทำให้หล่อนทั้งโมโหทั้งร้อนรน แล้วพูดเอะอะ: “เธอกล้าฝ่าฝืนคำสั่งของปรมาจารย์ไท่ซางเหรอ? ไม่อยากอยู่แล้วใช่มั้ย?”

ชิวทิงหยุนหันหน้าหนี ไม่มองหยูหลิงฮุ่ยเลยสักนิด

ตอนนี้เธอเชื่อมั่นในการคาดเดาของตัวเองแล้ว ระหว่างหลี่ฝางกับไท่ซาง หลี่ฝางถึงจะเป็นลูกพี่ ดังนั้นคำสั่งของหลี่ฝาง เธอจึงทำตามอย่างรอบคอบ ไม่ฟังคำพูดคนอื่นเลย

ยิ่งชิวทิงหยุนเป็นแบบนี้ ยิ่งทำให้หยูหลิงฮุ่ยโมโห ตนคอยติดตามปรมาจารย์ไท่ซางชัดๆ ส่วนอีกฝ่ายก็คอยตามเป็นคนไร้ประโยชน์คนนึง อีกฝ่ายมีสิทธิ์อะไรถึงไม่เห็นหล่อนอยู่ในสายตากัน?

ทันใดนั้น หยูหลิงฮุ่ยพลางเดินเข้าไป พลางง้างมือขึ้น ราวกับอยากจะสั่งสอนชิวทิงหยุนสักครั้ง

และในขณะนั้น ประตูของเรือน3 จู่ๆ ก็เปิดออก

หลี่ฝางเดินออกมาจากด้านในห้อง และมองหยูหลิงฮุ่ยอย่างเย็นชา วินาทีนั้นก็ทำให้ร่างของหยูหลิงฮุ่ยแข็งทื่อ ราวกับเลือดทั่วร่างกายนั้นถูกแช่แข็ง

“เกิดอะไรขึ้น?” หลี่ฝางถามอย่างเย็นชา

“ขอโทษค่ะ……” ชิวทิงหยุนรีบก้มหน้า และเล่าเรื่องที่เกิดเมื่อครู่นี้ให้หลี่ฝางฟัง ไม่ได้ปิดบังแต่อย่างใด

“ไท่ซาง!” หลังจากหลี่ฝางฟังจบ ก็เรียกด้วยเสียงเย็นชาอีกครั้ง

เสียงนี้ไม่ได้ดัง แต่ในพริบตาก็สามารถปลุกไท่ซางได้ วินาทีต่อมา ไท่ซางก็ตื่นตัวขึ้นมา และหยิบเสื้ออย่างลวกๆ และรีบพุ่งออกมา

“ลูกพี่ นายเรียกฉัน……” เสียงของไท่ซางหยุดชะงักลง และสัมผัสได้ถึงออร่าที่ไม่เหมือนปกติของหลี่ฝาง ไท่ซางเบิกตากว้าง

“ลูกพี่ นี่นาย……”

เพราะว่าช็อกมากไป น้ำเสียงของเขาจึงสั่นเล็กน้อย

เพราะว่าออร่านี้ไม่ได้ดูแปลกหน้าสำหรับเขา ตอนแรกที่หลี่ฝางสู้หนึ่งต่อสามกับศัตรู ขณะที่พลานุภาพแรงกล้า ปะทุออกมาจากร่างนั้น ก็มีออร่าเป็นแบบนี้

แต่ทว่าตอนแรกนั้นบ้าคลั่งสุดๆ แต่วันนี้ กลับแอบซ่อนไว้อยู่ข้างในเท่านั้น

หลี่ฝางพยักหน้า ถือได้ว่าตอบข้อสงสัยของไท่ซาง

ทันใดนั้น ไท่ซางก็มีคลื่นเพิ่มขึ้นในใจอย่างคงที่ รู้สึกประหลาดใจที่ความสามารถของหลี่ฝางเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว พูดได้ว่าราวกับนั่งจรวดเลย รู้สึกไม่สบายใจอีกครั้ง ความสามารถเพิ่มระดับขึ้นอีกแล้ว หลังจากนี้เขาคงต้องยิ่งระวังความคิดพวกนั้นของตนซะแล้ว

ไท่ซางพลางคิดแบบนี้ และรีบพูดกับหลี่ฝางอย่างเคารพ: “ยินดีด้วยครับลูกพี่ ขอแสดงความยินดีด้วยครับลูกพี่!”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท