NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่954 โค่นแชมป์มวย

บทที่954 โค่นแชมป์มวย

และในเวลานี้เอง จู่ ๆ ก็ได้ยินเพียงเสียงอู้อี้ดังมาหนึ่งครั้ง เฉียงจื่อก็ได้ถูกหวางเฉินหาจุดอ่อนพบ หนึ่งหมัดชกเข้าที่หน้าอก ใบหน้าขาวซีดก้าวถอยหลังติดต่อกันไปหลายก้าว

และหวางเฉินที่ได้โอกาสก็ไม่ยอมปล่อยไปง่าย ๆ พลันเตะเท้าข้างหนึ่งออกไป และเตะจนเฉียงจื่อลงไปกองบนพื้น เขาดิ้นรนอยู่ครึ่งค่อนวันก็ไม่อาจลุกขึ้นมาได้

“ฮ่า ๆ ๆ พวกแกแพ้แล้ว เป็นยังไง เฮียจาง ยอมแพ้ไหม?” เมื่อจ้าวหู่เห็นสถานการณ์เช่นนี้ เขาก็มองสบตาพลางหัวเราะเสียงดังอย่างยโสโอหังพร้อมเดินออกมา

“เฮียจาง ฉันให้โอกาสเฮียอีกครั้ง ขอเพียงเฮียยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านให้กับคุณหวาง จากนั้นก็มอบอาณาเขตของตัวเองออกมา ฉันก็จะไว้ชีวิตของเฮีย เป็นยังไง”

“จ้าวหู่ แกฝันไปเถอะ!” เฮียจางตวาดเสียงดัง

“ฮ่า ๆ ดูเหมือนว่าเฮียจางจะไม่ต้องการโอกาสนี้แล้วสินะ?” จ้าวหู่กล่าวเยาะเย้ย: “ฉันแนะนำเฮียให้นึกถึงชีวิตของลูกน้องของตัวเองบ้างนะ”

“ลูกพี่ พวกเราลงมือพร้อมกัน ต่อให้เขาร้ายกาจแค่ไหน ก็มีเพียงคนเดียว จะรับมือพร้อมกันได้กี่คนกันเชียว?”

ลูกน้องของเฮียจางคนหนึ่งร้องตะโกนออกมา พร้อมกับพาคนที่เหลือบุกเข้าไปหาหวางเฉิน

และวินาทีต่อมา หวางเฉินหนึ่งหมัดหนึ่งคน ต่อยจนทุกคนถอยหลังกลับมา เรียบง่ายหนักแน่น

ในตอนนี้ เฮียจางก็ได้รับรู้ถึงความแตกต่างระหว่างสองฝ่ายโดยสิ้นเชิง ภายในใจมืดมัว และกำลังจะรับปากข้อเรียกร้องของจ้าวหู่ไป

แต่ในตอนนั้นเอง จู่ ๆ ก็มีเสียงเสียงหนึ่งดังขึ้นมา

“เฮียจาง จ่ายสองล้าน ฉันช่วยเฮียจัดการพวกเขาเป็นยังไง?”

ทุกคนต่างมองไปยังตรงนั้น เห็นเพียงหลี่ฝางกำลังเดินออกมาจากตรงนั้นอย่างช้า ๆ

“แกเป็นใคร ถ้าไม่อยากตายก็รีบใส่หัวไปไกล ๆ ซะ!” ลูกน้องคนหนึ่งกระโดดออกมา ใช้นิ้วชี้จมูกหลี่ฝางพลางด่าว่า

วินาทีต่อมา จู่ ๆ ลูกน้องคนนั้นก็ได้ลอยกระเด็นออกไป และลงไปนอนสลบอยู่บนพื้น

ส่วนคนที่อยู่รอบ ๆ นั้นไม่เห็นด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น

ในเวลานี้ ในที่สุดทุกคนก็ได้เห็นรูปร่างหน้าตาของหลี่ฝางอย่างชัดเจน และเฉียงจื่อเองในที่สุดก็ได้คลานลุกขึ้นมาจากพื้น เมื่อเห็นหลี่ฝาง เขาก็ตะโกนออกมาพลางเบิกตากลมโตอย่างไม่อยากจะเชื่อ: “คุณชายหลี่!”

“นายรู้จักเขาเหรอ?” เฮียจางเอ่ยถามขึ้นมาอย่างอดไม่ได้

“เขา เขาคือ……”

“ฉันเป็นแค่คนที่สนใจในศิลปะการต่อสู้คนหนึ่งเท่านั้นเอง” หลี่ฝางไม่ได้ให้เฉียงจื่อกล่าวจนจบ เขาเดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้ม

เขายังอยากจะเล่นสนุกอีกสักหน่อย ให้เฉียงจื่อบอกสถานะของเขาออกมา แล้วเขาจะเล่นสนุกได้ยังไง?

คนที่รักในศิลปะการต่อสู้?

เหล่าผู้คนที่ชื่นชอบในศิลปะการต่อสู้พวกนั้นมีความสามารถแบบนี้เหรอ?

เฮียจางกล่าวขึ้นมาอย่างลังเล: “คุณชายท่านนี้ ฝีมือของอีกฝ่ายนั้นแข็งแกร่งมาก ดังนั้น……”

“ไม่ต้องพูดอะไรมาก” หลี่ฝางเอ่ยขึ้นมาด้วยความรำคาญเล็กน้อย: “ยอมจ่ายหรือเปล่า เฮียบอกมาเลยดีกว่า”

เฮียจางยังคงลังเลอยู่ แต่เฉียงจื่อที่อยู่ด้านข้างก็ได้รีบเอ่ยขึ้นมา: “รีบตกลงเร็ว คุณหลี่ยอมลงมือ เฮียยังจะลังเลอะไรอีก”

เขาเองก็พอจะมองความหมายของหลี่ฝางออกบ้าง ในเมื่อหลี่ฝางเอ่ยปากแล้ว เขาก็ไม่กล้าจะพูดอะไรอย่างผลีผลาม จึงตัดสินใจเอ่ยตามความหมายของหลี่ฝาง

เฮียจางชะงักงัน ถึงแม้เขายังสงสัยอยู่บ้างแต่ก็รู้ว่าตอนนี้ไม่มีวิธีอื่นอีกแล้ว ถ้าหากไม่ทำอะไรสักอย่าง สุดท้ายก็จะเสียทุกอย่างไป ถ้าจะให้เป็นแบบนั้น สู้พยายามอีกสักตั้งจะไม่ดีกว่าเหรอ

“โอเค งั้นก็สองล้าน! ฉันรับปากนาย!”

ถึงแม้ว่าสำหรับเฮียจางแล้วเงินสองล้านจะไม่ใช่จำนวนน้อย ๆ แต่ถ้าหากพ่ายแพ้ในวันนี้ เกรงว่าแม้แต่เงินสองล้าน เขาก็ปกป้องเอาไว้ไม่ได้

“ดีมาก เงินก้อนนี้ได้มาง่ายจริง ๆ” หลี่ฝางยิ้มเบา ๆ พลางเดินขึ้นไปด้านหน้า

อีกด้าน จ้าวหู่กล่าวเหน็บแนม: “เจ้าหนุ่ม เห็นเงินละโมบโลภมาก บางทีอาจจะจบอย่างอนาถก็ได้นะ”

“งั้นเหรอ?” หลี่ฝางยิ้มอย่างดูแคลน

“ดีมาก เจ้าหนุ่ม แกแย่แล้ว” จ้าวหู่ยิ้มเยาะ จากนั้นก็หันไปเอ่ยกับหวางเฉิน : “คุณหวัง ผมเพิ่มให้อีกห้าแสน จัดการไอ้หมอนี่ซะ”

“ได้” หวางเฉินพยักหน้า จากนั้นก็พุ่งเข้ามาหาหลี่ฝางทันที

ท่าทางอันทรงพลังของหวางเฉินนั้นดึงดูดสายตาผู้คนยิ่งนัก ส่วนหลี่ฝาง กลับยืนอยู่ตรงนั้นอย่างไม่ขยับ ราวกับตกใจจนเอ๋อไปยังไรอย่างนั้น

การประลองที่ดุเดือดเช่นนี้ ทำให้ผู้คนที่มุงดูเบิกตากว้างขึ้นมาทันที

“ตกลงเขาโอเคไหมน่ะ?” เฮียจางเอ่ยถามด้วยความกังวล

“ไม่ต้องเป็นห่วง แน่นอน……” เฉียงจื่อยังไม่ทันได้พูดจบประโยค ทันใดนั้นก็ได้เบิกตากว้าง ราวกับได้พบเจอเรื่องราวที่น่าเหลือเชื่ออะไรบางอย่าง

ระหว่างนั้นหลี่ฝางพลันพุ่งตัวออกไปด้านหน้า พื้นดินโคลนนุ่ม ๆ ที่ใต้ฝ่าเท้า จู่ ๆ ก็ได้เกิดเป็นรอยเท้าลึกขึ้นมาสองรอย

ส่วนหลี่ฝางก็ได้ข้ามผ่านระยะห่างนี้ไปภายในชั่วพริบตา และพุ่งมาถึงด้านหน้าของหวางเฉิน ถึงขนาดทำให้หวางเฉินถึงกับตอบสนองไม่ทัน จากนั้น ก็ถูกมัดของหลี่ฝางต่อยเข้าที่หน้าอกเต็ม

ยังไม่ทันได้ตอบสนองอะไรเลยด้วยซ้ำ หวางเฉินก็ได้ถูกหลี่ฝางต่อยลอยออกไปแล้ว

เสียง “ปัง” ดังขึ้นหนึ่งครั้ง หวางเฉินก็ได้ลงไปนอนกองอยู่บนพื้นแล้ว

วินาทีนี้ ทั่วทั้งพื้นที่ก็ได้เงียบไปทันที

ทุกคนล้วนคิดไม่ถึงว่า ฝีมือของหลี่ฝางจะน่ากลัวเช่นนี้

แชมป์มวยที่ก่อนหน้านี้แข็งแกร่งขนาดนั้น กลับถูกหลี่ฝางโค่นลงด้วยหมัดเดียว?

ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นยังไม่ทันได้มองชัดเลยด้วยซ้ำ การต่อสู้ก็ได้จบลงอย่างเงียบ ๆ แล้ว

ภายในใจของทุกคนต่างก็มีความคิดอย่างหนึ่งแวบขึ้นมา ชายที่อยู่ตรงหน้าคนนี้เป็นใครมาจากไหนกันแน่?”

แต่แล้วเสียงร้องโอดโอยเสียงหนึ่ง ก็ได้ดึงดูดสายตาของผู้คนให้มองไปอีกครั้ง

ระหว่างนั้นขาข้างหนึ่งของหลี่ฝางก็ได้เหยียบลงไปบนมือของหวางเฉิน ทันใดนั้นก็ทำให้แชมป์มวยคนนี้ร้องโอดโอยขึ้นมาอย่างโหยหวน

หลี่ฝางใบหน้าสงบนิ่ง สถานการณ์ตรงหน้าไม่ได้ทำให้เขามีท่าทีใด ๆ เลย

ถ้าหากวันนี้เป็นเขาที่นอนอยู่ตรงนี้ เช่นนั้นจุดจบของเขาจะดีกว่าหวางเฉินในตอนนี้ไปสักเท่าไหร่กัน หรืออาจถึงขั้น อนาถากว่าหวางเฉินอีกมาก

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท