NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่979 ทำความดีให้มากเถอะ

บทที่979 ทำความดีให้มากเถอะ

หลี่ฝางในตอนนี้แทบจะฆ่าคนในซ่องโจรทิ้งหมดแล้ว ถึงแม้เขาจะไม่ชอบที่ฆ่าคนมั่ว แต่คนในนี้เขาฆ่าแล้วไม่ออมมือสักนิด

เพราะว่าคนในนี้สมควรตายหมด

ส่วนวอล์คเกอร์ในตอนนี้ก็ตะลึงงันไปหมด ฐานที่เขาใช้ความเพียรพยายามจัดการมาสิบกว่าปี ได้กลายเป็นซากปรักหักพังไปหมดแล้ว อิทธิพลกองกำลังติดอาวุธของเขาจบเห่โดยสิ้นเชิง จะหาคนที่ตายเทียบกับคนที่สมบูรณ์แล้วนั้นยังยากกว่าเลย

“คุณมันบ้า!คุณทำลายทุกอย่างของผม!”มองดูหัวโจกที่ทำทุกอย่างนี้ลง วอล์คเกอร์จึงสบถด่าเหมือนคนบ้า:“ปีศาจ!คุณควรลงนรก!พระเจ้าจะลงโทษคุณ!”

“สมองของผู้ชายคนนี้มีปัญหาเหรอ?”หลี่ฝางมองดูวอล์คเกอร์อย่างแปลกๆ มองดูอาชญากรที่ก่ออาชญากรรมนับครั้งไม่ถ้วน ที่ฆ่าคนจำนวนมาก คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดคำนี้ออกมา จนรู้สึกว่าตลกหน่อยๆ

“ช่างเถอะ ขี้เกียจจะพูดกับคุณละ”หลี่ฝางกลอกตาใส่ แล้วใช้มือตบวอล์คเกอร์จนหมดสติ

จากนั้นหลี่ฝางก็เอาสายตามองไปที่ชายหญิงคู่นั้น

“พวกคุณคือคนของบริษัทคลอริสสินะ?”หลี่ฝางถามไปอย่างนั้น

มองสภาพสองคนนี้ที่ดูกังวล หลี่ฝางจึงยิ้มไปให้ทั้งสองคน พูดปลอบใจว่า:“อย่ากังวล ผมไม่กำจัดพวกคุณทิ้งทันทีหรอก”

รูปแบบการปลอบใจแบบนี้ กลับทำให้ทั้งสองคนยิ่งกังวล

พูดไป เขาก็ยื่นมือออกไป ยาฉีดในกล่องโลหะก่อนหน้านี้ก็ลอยตกไปอยู่ในมือของหลี่ฝาง

“นี่มันอะไร?”หลี่ฝางถามอย่างแปลกใจ

ทั้งสองคนเงียบไม่พูดอะไร

“ดูเหมือนพวกคุณสองคนจะแยกความดีความชั่วไม่ออกนะ”หลี่ฝางขมวดคิ้ว แล้วแพร่ความอาฆาตออกมา

“เดี๋ยวก่อน”ทันใดนั้นหญิงสาวก็พูดออกมา:“ที่เขารู้ฉันรู้หมด ที่ฉันรู้เขาไม่รู้ค่ะ”

ชายหนุ่มตะลึงเล็กน้อย แล้วก็ตอบสนองกลับได้ทันที หันกลับจะหนีไปโดยไม่คิดอะไรเลย

อย่างไรก็ตามเผชิญหน้ากับหลี่ฝาง จะให้เขาหนีได้อย่างไร?จากนั้นเขาก็ล้มลงไป

“คุณรู้จักผม?”หลี่ฝางมองหญิงสาวแล้วถาม

“ฉันไม่รู้จักคุณ แต่นี่ไม่ได้ขัดขวางฉันที่จะรับรู้ถึงความน่ายำเกรงของคุณ”หญิงสาวหัวเราะอย่างไม่แคร์

“ฉันชื่อเซียร์รา เป็นนักวิทยาศาสตร์……คนหนึ่ง”

“อ้อ?”หลี่ฝางแปลกใจเล็กน้อย“คุณศึกษาวิจัยอะไร?”

“พันธุวิศวกรรม”เซียร์ราหัวเราะ“ฉันเคยเป็นหนึ่งในผู้รับผิดชอบของห้องปฏิบัติการที่เจ็ด”

“เหรอ?”หลี่ฝางหัวเราะ“งั้นทำไมตอนนี้คุณถึงตกสู่ระดับนี้ได้ล่ะ?”

“ฉันจะมีหนทางอะไรได้?”มีความเศร้าเล็กน้อยในแววตาของเซียร์รา“เป็นหนึ่งในผู้รับผิดชอบโครงการของห้องปฏิบัติการที่เจ็ด ทั้งห้องปฏิบัติการที่เจ็ดสาขาสองมีแค่ดร.ร็อดนี่กับฉันที่อยู่ในระดับเดียวกัน แต่ว่าเขาสมรู้ร่วมคิดกับระดับที่สูงกว่าในบริษัท กดขี่ข่มเหงฉันอย่างสิ้นเชิง ดังนั้น ฉันจึงกลายเป็นสภาพแบบนี้”

ตอนที่เซียร์ราพูดนั้นดูสงบจิตสงบใจ อย่างไรก็ตามหลี่ฝางสามารถฟังความโศกเศร้าและเกลียดชังที่แฝงอยู่ออก

ถึงแม้ตอนที่พูด น้ำเสียงเซียร์รานิ่งสงบมาก แต่หลี่ฝางฟังความเจ็บปวดของเธอออก“การดัดแปลงพันธุกรรมทำให้ฉันทำไม่ได้แม้อยากตาย ได้แต่ถูกเขาทรมานไม่หยุด เจ็บปวดตลอดไป การมีอยู่ของบริษัทคลอริส ฉันไม่อาจหนีไปจากขุมนรกนี้ได้เลย”

พูดไป สายตาที่เธอมองไปที่หลี่ฝางทันใดนั้นก็ร้อนแรงขึ้นมา:“แต่คุณพาฉันออกไปได้!ขอร้องล่ะ แค่คุณยอมช่วยฉัน ฉันสามารถตอบแทนได้ทุกอย่าง!”

หลี่ฝางมองเซียร์ราที่มีสายตาเป็นประกาย ถอนหายใจ แล้วพูดว่า:“ถ้าคุณยอมพูดข้อมูลของบริษัทคลอริสออกมา ผมรับปากคุณได้”

“ฉันรู้!”เซียร์ราพูดเสียงสูง:“ไม่มีใครเข้าใจสถานการณ์สาขาที่สองมากไปกว่าฉันแล้ว!”

……

อย่างที่หลี่ฝางคิดไว้ การเคลื่อนไหวของในประเทศนั้นติดตามได้อย่างรวดเร็ว ในช่วงเวลาสั้นๆก็ทำลายBlood goldอย่างราบเรียบ

องค์กรขนาดใหญ่ที่อยู่รอดปลอดภัยดีมาสิบกว่าปีนี้ ติดต่อกับอีกหลายประเทศ ในที่สุดก็ถูกทำลายลงอย่างราบเรียบ ไม่อาจที่จะฟื้นฟูขึ้นมาได้อีกแล้ว

และในขณะที่สังคมโลกยังตกใจกับเหตุการณ์นี้ ในประเทศก็ได้ดำเนินการปฏิบัติการลับอีกแห่งแล้ว จู่โจมสาขาของห้องปฏิบัติการลับคลอริสอย่างน่าประหลาดใจ

พวกเขาได้รับข้อมูลที่เด็ดขาดโดยสมบูรณ์!

ส่วนในฐานะที่มาข้อมูล หลี่ฝาง ตอนนี้พาเซียร์รามาถึงสาขาที่สอง

ในเมื่อเซียร์ราบอกข้อมูลที่เขาต้องการแล้ว งั้นการตอบแทน ยุติฐานที่สองเองกับมือก็เป็นค่าตอบแทนที่เขาให้

ดูเหมือนฐานลับที่ได้รับการคุ้มกันอย่างแน่นหนานั้นไม่มีประโยชน์ใดๆเลยต่อหน้าผู้แข็งแกร่งแดนเต๋าที่รู้ข้อมูลทุกอย่าง ระบบป้องกันซ่อนเร้นของระดับชั้นสำหรับหลี่ฝางแล้วไม่ต่างอะไรกับความโปร่งใส การดัดแปลงนักรบหรือสิ่งประหลาดทางพันธุกรรมพวกนั้นเผชิญหน้ากับหลี่ฝางก็แค่ตายไปอย่างเปล่าประโยชน์

และลึกด้านในไม่หยุด หลี่ฝางก็มองเห็นภาพที่โหดร้ายและน่ากลัว

ฉากพวกนั้นที่เหมือนนรกทำให้ความโกรธของหลี่ฝางลุกโชน แทบอยากจะทำลายทั้งหมดในนี้ เผาทำลายฐานทัพนี้ให้พินาศหมดสิ้น

แป๊บเดียว หลี่ฝางที่กำจัดทั้งฐานทัพทิ้งก็เห็นคนนั้นที่ชื่อว่าดร.ร็อดนี่

“ผมยอมแพ้ ผมยอมแพ้แล้ว!ผมรู้เทคโนโลยีหลักเยอะมาก ผม……”ดร.ร็อดนี่คุกเข่าขอร้องลงกับพื้น“ผมมีเงินเยอะมาก แค่ไม่ฆ่าผม ก็เอาทั้งหมดนี้ให้คุณ……”

หลี่ฝางไม่พูดอะไร ได้แต่เอ่ปืนพกให้เซียร์รากระบอกหนึ่ง หันกลับแล้วเดินออกไป

เสียงปืนดังขึ้น จากนั้นก็มีเสียงปืนดังไม่หยุด จนกระสุนในปืนยิงหมด ด้านในไม่มีเสียง

เซียร์ราออกมาจากด้านในห้อง ใบหน้ามีพร้อมรอยยิ้ม น้ำตาไหลลงมาจากขอบตา

ประสบการณ์ความน่ากลัวที่เหมือนกับตกนรก ในที่สุด ก็จบลงแล้ว

“ขอบคุณท่าน จากนี้ไป ฉันเป็นของท่านแล้ว”เธอเดินเข้ามา เช็ดน้ำตาที่สะอาดแล้วพูด

มองเธออย่างราบเรียบ หลี่ฝางพูดเสียงเย็นชา:“คำว่าขอบคุณพวกนี้ไม่ต้องพูดแล้ว ผมเอาคุณไว้ก็ไม่มีประโยชน์ อยากตอบแทนผมจริงๆ ก็แสดงสติปัญญาอันเฉลียวฉลาดของคุณในการศึกษาวิจัยอย่างเต็มที่ ทำความดีเยอะๆหน่อยเถอะ”

เซียร์ราตะลึงงัน

เธอเข้าใจ ก่อนที่ตัวเองจะกลายเป็นผู้ถูกทำร้าย แต่หนึ่งในผู้รับผิดชอบของห้องปฏิบัติการนี้ เป็นคนที่ทำร้ายเหยื่อคนหนึ่ง

เธอมีความผิด

แป๊บเดียว ห้องปฏิบัติการลับแห่งที่สามก็ถูกกวาดล้างหมด ภารกิจสำเร็จไปได้ด้วยดี สมาชิกทีมหลงหยาที่รับภารกิจครั้งนี้ก็เริ่มรวมตัวกันที่ฐานที่สอง

แต่ว่าตอนที่สมาชิกของทีมหลงหยามาที่ฐานที่สอง ก็มองเห็นแค่เซียร์ราที่รออยู่ที่นี่ ส่วนหลี่ฝางก็หายไปไม่เจออีก

เซียร์ราที่อยู่นั้นก็เข้าใจว่า ชีวิตที่เหลือของเธอ ไม่ว่าจะเพื่อชดใช้บาปก็ดี ใช้ชีวิตธรรมดาก็ดี เงื่อนไขอย่างเดียวที่แน่ใจได้ ก็คือร่างของชายคนนั้น สลักไว้ในใจเธอตลอดกาล

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน