NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่1002 ไม่ใช่คนดี

บทที่1002 ไม่ใช่คนดี

คาร์เตอร์ที่เพิ่งไม่กลัวเพราะถือว่ามีคนหนุนหลังตอนนี้อยู่ดีๆก็หายไป เขาพูดสั่นๆว่า:“ผู้กล้าท่านนี้ พวกเราไปแตะต้องอะไรคุณตรงไหน?ถึงจะตายก็ขอให้ผมตายไปอย่างเข้าใจหน่อยได้ไหม?”

เขาไม่พูดถึงก็ดี พอพูดถึงแล้ว ความโกรธในร่างกายหลี่ฝางลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง แรงที่เท้าก็มากขึ้นทันที พูดอย่างเย็นชา:“ได้ ผมก็จะให้พวกคุณตายไปอย่างเข้าใจ!จางจิ้งชื่อนี้ คุณเคยพูดแล้วสินะ!”

“ผม ผมเปล่า”พลังที่ขาของหลี่ฝางมากขึ้นเรื่อยๆ เหยียบจนคาร์เตอร์ใกล้จะหายใจไม่ออก เขาอยากรู้มากว่าจางจิ้งคือใคร แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีความทรงจำอยู่เลย

“เปล่า?”ความโกรธในใจหลี่ฝางพุ่งขึ้น ความอาฆาตแทบจะก่อตัวเป็นสสาร

“พวกคุณไอ้ระยำ คนเพิ่งตายไป คุณกล้าบอกว่าคุณไม่รู้จัก?”

คาร์เตอร์เข้าใจทันที พูดด้วยสีหน้าซีดขาว:“ไม่ รอเดี๋ยว ผมไม่ใช่คนที่คุณจะตามหา พวกเขาต่างหากล่ะ ผมแค่มาดื่มเหล้า”

“อะไรนะ?”หลี่ฝางตะลึง“คุณจะบอกว่าคุณไม่ใช่คนที่ผมจะตามหา”

“ใช่!”คาร์เตอร์พยักหน้าอย่างบ้าระห่ำ

“ผมเป็นนักธุรกิจ ทำธุรกิจการค้าต่างประเทศที่นี่ เพราะว่าเป็นคนบ้านเดียวกัน เลยเรียกพวกเขาออกมาดื่มด้วยกัน ผมไม่รู้จักจางจิ้งอะไรจริงๆ!”

หลี่ฝางสำรวจคาร์เตอร์ดีๆ จึงพบว่าอายุของเขาค่อนข้างเยอะ บุคลิกดูใจเย็น เขาปล่อยขาที่เหยียบคาร์เตอร์ ต่อว่าไปว่า:“ห่า หรือว่าผมตีผิดคน?”

หลี่ฝางเสียใจเล็กน้อย

“ไม่ได้ละ ผมต้องรีบไป มหาวิทยาลัยjแห่งเมืองตง ดูว่าที่นั่นยังมีคนอื่นที่อยู่กับพวกเขาอีกไหม”

หลี่ฝางพึมพำกับตัวเอง แล้วยกเท้าก้าวออกไป

คาร์เตอร์แผ่ตัวไปที่โซฟา ในสายตามีความโชคดีแฝงไว้

เขาไม่รู้ว่าคนบ้าที่สุดยอดอย่างนี้โผล่มาจากไหน แป๊บเดียวก็กำจัดคนในนี้ได้หมด

ยังดีที่ เขาเอาชีวิตคืนมาจากเงื้อมมือของไอ้บ้านี่ได้

ตอนนี้เอง ชายหนุ่มที่ดูสะอาดสะอ้านเพิ่งถือเหล้ามาก็แทรกเข้ามา

“เดี๋ยวก่อน คนๆนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะบริสุทธิ์เลย เขาเป็นลูกพี่ของคนพวกนั้น!”

คำนี้พูดออกไป หน้าคาร์เตอร์ที่ดำเหมือนหมึกก็ซีดขาวด้วยความตกใจ

“คุณเป็นใครอีก?”หลี่ฝางหันหน้าไปมองคนนั้นอย่างเย็นชา

คนๆนั้นกลืนน้ำลาย พูดอย่างนิ่งๆ:“ผมชื่อเฉินหราน เขาเป็นคนผิวดำที่มีอิทธิพลคนหนึ่งของที่นี่ พวกเขาทำเรื่องผิดกฎหมายมากมาย ธุรกิจผิดกฎหมายที่คุณพอจะนึกถึงได้ พวกเขาทำหมด!”

หน้าของหลี่ฝางค่อยๆมองไปที่คาร์เตอร์ ดวงตาคู่นั้นค่อยๆแดงขึ้นมาเหมือนไฟ เขาพูดด้วยใบหน้าเรียบเฉย:“เหรอ?ดูเหมือนผมเกือบจะถูกคุณหลอกแล้ว”

ความอาฆาตอย่างแรงดูเหมือนว่าแม้แต่อากาศก็ยังนิ่งไป คาร์เตอร์รู้สึกว่าตัวเองหายใจไม่ออก ทั้งตัวก็ขยับไม่ได้

“ตอนนี้ไม่ใช่เวลาพูดเรื่องนี้ ผู้หญิงพวกนั้นเมื่อกี๊ออกไปตะโกนเสียงดัง คนในผับแจ้งความแล้ว ยามก็ล้อมรอบแล้ว!คุณรีบไปกับผม ด้านนอกผมมีเพื่อนๆมาช่วยแล้ว ให้พวกเราหนีออกไปได้”เฉินหรานพูดอย่างกังวล

“ไม่ต้องแล้ว!”หลี่ฝางยื่นมือออกไป มือข้างหนึ่งจับคนหนึ่ง จับเฉินหรานกับคาร์เตอร์ทั้งสองคนมาไว้ในมือ

“พวกคุณทั้งสองคนผมมีอะไรจะถาม ไปด้วยกันเถอะ หาที่เงียบๆแล้วบอกผมทุกอย่างที่ผมอยากรู้!”

พูดจบ หลี่ฝางจึงยืนขึ้น คนสองคนที่ถูกเขาจับรู้สึกแค่ว่าเร็วปานลมกรด ทิวทัศน์รอบๆไม่หยุดเปลี่ยนแปลง แม้แต่เสียงกรีดร้องก็ยังส่งเสียงไม่ออก

บาร์ราตรี

เสียงแสบแก้วหูดังไปทั่วถนน หน้าประตูผับติดเส้นกั้นเขต ไม่อนุญาตให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามา

ในกลุ่มคนที่อยู่นอกเส้นกั้นเขต คนสองสามคนนั้นที่ก่อนหน้านี้อยู่กับเฉินหรานรวมตัวกัน สีหน้าดูแย่เล็กน้อย

“ลูกพี่หายไปแล้ว”

“หรือว่าเรื่องนี้เป็นลูกพี่ที่ทำ?ทำอย่างไรดี?”

“และก็ไม่รู้ว่าลูกพี่ตายหรือรอด”

ชายสวมแว่นไม่พูดอะไร จู่ๆก็หันตัวออกไป

คนอื่นๆพูดอย่างประหลาดใจ:“ไอ้แมว คุณไปไหน?”

“ผมไปถามข่าวคราว ไม่ว่าจะทำอะไร ก็ดีกว่ายืนอย่างร้อนใจอยู่ตรงนี้!”

คนอื่นๆสบตากัน รีบตามไปดู

ในโกดังที่ถูกทิ้งร้างแห่งหนึ่ง เฉินหรานเดินออกมากับหลี่ฝางด้วยใบหน้าซีดขาว

อย่าโทษเขา ใครก็ตามเห็น อีกคนถูกบดขยี้จนเป็นลูกชิ้นต่อหน้าตัวเอง สีหน้าก็น่าจะดูไม่ดีทั้งนั้น

“ผู้ชายคนนี้ กล้าหาญมาก”ใบหน้าหลี่ฝางมีรอยยิ้ม แต่รอยยิ้มนี้ช่างเย็นชา ไม่เห็นความอบอุ่น

เพิ่งผ่านการบีบบังคับเขาให้รับสารภาพอย่างโหดร้าย จึงได้รับข้อมูลอย่างมากจากปากของคาร์เตอร์ ก็รู้ว่าผู้ชายคนนี้เป็นคนอย่างไร

นี่คือคนแก๊งคนผิวดำจำนวนมากที่อยู่ในประเทศจีน และยังดึงดูดผู้คนไม่น้อยจากประเทศอื่นๆ

ตามที่คาร์เตอร์บอก เบื้องหลังพวกเขายังมีอิทธิพลต่างชาติแก๊งHappy Brotherที่ใหญ่มากหนุนหลังอยู่ แก๊งHappy Brotherมี ยอดฝีมือที่มีความสามารถเป็นพิเศษหลายคน มีชื่อเสียงในต่างประเทศไม่ใช่น้อยๆเลย ทำอะไรก็โหดมาตลอด

“ทำเรื่องเสียสติออกมาตั้งมากมายขนาดนี้ ไม่ว่าพวกเขามีใครหนุนหลังผมก็จะกำจัดพวกเขาให้เรียบ!”

หลี่ฝางรู้สึกแค่ว่าในใจรู้สึกโมโหอย่างมาก ถ้าหากไม่ระบายออกมา ความคิดของเขาก็ไม่อาจแล่นได้

“คุณชื่อเฉินหรานสินะ คุณกับแก๊งเพื่อนๆของคุณตามสืบผู้ชายคนนี้ สรุปเพื่ออะไรกันแน่?”หลี่ฝางมองไปที่ชายคนนั้นที่พูดเขาจับมาแล้วถาม

เผชิญหน้ากับผู้ชายตรงหน้าที่น่ากลัวเหมือนปีศาจ เฉินหรานเงียบลง จากนั้นจึงพูด:“แก้แค้น!”

เขาเล่าเรื่องของตัวเองให้หลี่ฝาง

ที่แท้เขากับเพื่อนๆสองสามคนนั้นล้วนแต่เป็นสมาชิกบริษัทที่ชื่อว่า“ไห่หลง”เพราะว่ากล้าสู้กล้าตี เลยได้รับการใช้งานในตำแหน่งที่สำคัญอย่างมากจากเบื้องบน

เดิมทีขอบเขตของพวกเขามีขนาดไม่ใหญ่ การกระทำก็ถือว่ามีกฎเกณฑ์ รายได้ที่รับมาก็มาจากค่าคุ้มครองเท่านั้น ดูแลสถานที่พวกนั้น

ผู้ชายที่เพิ่งถูกหลี่ฝางตีเข้าไป ทำความชั่วตามต้องการในถิ่นของพวกเขา และทำเรื่องผิดกฎหมายมากมาย

ไห่หลงผู้ชายคนนี้แน่นอนว่าไม่ยอมวางมือยุติเรื่องราวแน่ เลยท้าทายกับผู้ชายคนนั้น

สุดท้ายยังไม่ทันรอสองฝ่ายสู้กัน หยูไห่หลงลูกพี่ของบริษัท ไห่หลง กรุ๊ปก็ถูกพาออกไป ถูกตั้งข้อหาจงใจฆ่า แป๊บเดียวก็ถูกทิ้งเข้าไปในโรงพัก

และก็ไม่รู้ว่าประสบอะไรบ้างด้านใน ไม่ถึงหนึ่งเดือนก็ไม่รอดและตายไปในที่สุด

หยูไห่หลงตาย คนทั้งบริษัท ไห่หลง กรุ๊ปก็ตื่นตระหนก และถูกฝ่ายตรงข้ามตีจนแยกย้ายไป

ส่วนเฉินหรานพวกเขาห้าคนกลับอยากแก้แค้นให้ลูกพี่มาเสมอ รอโอกาสที่จะแก้แค้น

น่าเสียดายที่ผ่านไปนานขนาดนี้แล้ว ข้อมูลพวกเขาก็สอบถามได้มาไม่น้อย กลับไม่มีโอกาสในการลงมือมาตลอด

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท