NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่1003 คุณมาได้อย่างไร?

บทที่1003 คุณมาได้อย่างไร?

“เพื่อนสี่คนนั้นของคุณเป็นอย่างไร?”หลี่ฝางลูบคาง สายตาแสดงความประหลาดใจ

ความหมายของหลี่ฝางก็คือ สามารถช่วยพวกเขาแก้แค้นได้ ถ้าเพิ่งพวกเขาแค่อย่างเดียว กลัวว่าชาตินี้ไม่อาจหาทางแก้แค้นได้ แต่มีหลี่ฝางคนที่มีความสามารถไม่ธรรมดาแบบนี้ จะต่างกัน

ในใจเฉินหรานรู้สึกดีใจ พูดว่า:“พวกเขาสี่คนล้วนแต่เป็นเพื่อนรักที่ฝ่าอันตรายกับผมมาเป็นสิบปี เชื่อได้แน่นอน”ภายใต้เจตนารมณ์ของหลี่ฝาง เฉินหรานติดต่อเพื่อนสี่คนนั้นของเขา พวกเขาพูดคุยกันสสิบนาทีได้ สี่คนนั้นก็ขับsuvคันเก่าๆคันหนึ่งมาปรากฏที่โกดังรกร้าง

ในตอนนี้หลี่ฝางกับเฉินหรานก็ยืนขึ้นมา เดินไปทางพวกเขา

“พี่ใหญ่!”ทั้งสี่คนตะโกนไปทางเฉินหราน ขณะเดียวกันก็ใช้สายตาแปลกใจมองไปที่หลี่ฝางอยู่เรื่อยๆ มองผู้ชายแปลกหน้านี้ สายตาของทั้งสี่คนดูซับซ้อนเล็กน้อย กลับเป็นหลี่ฝางที่มีใบหน้านิ่ง สายตาราบเรียบสุดๆ ไม่มีความรู้สึกและคลื่นใดๆ

ใบหน้าเฉินหรานมีรอยยิ้มออกมา พูดกับหลี่ฝางว่า:“ยอดฝีมือ ผมแนะนำเพื่อนสี่คนนี้ให้คุณสักหน่อย”

เพราะว่าหลี่ฝางไม่ได้บอกชื่อของตัวเองกับเขาไป ดังนั้นเฉินหรานได้แต่เรียกหลี่ฝางว่ายอดฝีมือ หลี่ฝางหัวเราะถือว่ายอมรับชื่อเล่นนี้ แต่สายตาของสี่คนที่อยู่ตรงข้าม กลับดูครุ่นคิดขึ้นมาอย่างละเอียด ยังไงตัวของหลี่ฝางก็เล็กขนาดนั้น ถึงจะสุดยอด แต่จะสุดยอดถึงไหนเชียว?

สำหรับการแนะนำตัวของเฉินหราน สี่คนนี้ต่างรู้สึกว่าเฉินหรานชมหลี่ฝางมากไปแล้ว

ตอนนี้ เฉินหรานก็ชี้ไปที่คนอ้วนๆ แนะนำว่า:“คนนี้คือTank เป็นเหมือนชื่อเลย!”

แล้วชี้ไปที่คนเตี้ยๆอีกคน“เจียวพี!”

จากนั้นจึงชี้ไปที่ชายหนุ่มที่มีร่างสูงใหญ่“เฮยท่าน!”

สุดท้ายก็ชี้ไปที่ชายสวมแว่น“ไอ้แมว!”

“และนี่ก็คือเพื่อนรักทั้งสี่คนของผม”

เฉินหรานพูดจบ ใบหน้ากลับเผยรอยยิ้มที่ดูมั่นใจ

ไม่ว่าใครก็ตามที่มีเพื่อนรักที่ฝ่าฟันอันตรายไม่ทิ้งไปไหนสักคนหนึ่ง ถือว่าหาได้ยากในชีวิตแล้ว

ส่วนเขากลับมีเพื่อนรักแบบนี้ถึงสี่คน เป็นแบบที่เอาชีวิตไปฝากฝังได้ แน่นอนว่าต่างกับคนทั่วไป

“โอเค!”หลี่ฝางพยักหน้า“ผมฟังเฉินหรานเล่าเรื่องราวของพวกคุณมาแล้ว พวกคุณอยากแก้แค้น ส่วนเป้าหมายของผมนั้นสอดคล้องกับพวกคุณ สุภาษิตว่าไว้ว่า ศัตรูของศัตรูคือมิตร ดังนั้น ก่อนที่พวกคุณจะมา ผมกับเฉินหรานได้หารือเรื่องที่จะร่วมมือกันแล้ว”

พูดจบ เขาก็ส่งสายตาให้เฉินหราน สื่อให้เขาพูดต่อ

เฉินหรานถอนหายใจ จากนั้นก็หัวเราะ:“พูดง่ายๆ ก็คือยอดฝีมือท่านนี้จะให้การสนับสนุนทางการเงิน พวกเราไปรวบรวมข้อมูล จากนั้นก็ปล่อยให้ยอดฝีมือออกโรง กำจัดฝ่ายตรงข้ามทีละนิด”

“อ๋า?”Tankที่ปากไวก็ทนไม่ไหวพูดว่า:“นี่ไม่ใช่ว่าชายชีวิตให้คุณเหรอไง?”

เพิ่งพูดออกมาก็ถูกไอ้แมวดึงไว้ ตระหนักได้ว่าตัวเองพูดผิด จึงรีบหุบปาก

เฉินหรานหัวเราะอย่างอึดอัดไปให้หลี่ฝาง กำลังจะอธิบายแทน Tank กลับถูกหลี่ฝางตัดบทโดยตรงว่า:“ไม่ต้องอธิบายแล้ว ให้ผมพูดเองเถอะ”

เขามองไปที่พวกเขา พูดด้วยใบหน้าเรียบเฉย:“พูดตรงๆนะ พวกคุณสี่ห้าคนนี้ อยากแก้แค้นแทนเจ้านายตัวเอง โค่นล้มอีกฝ่าย เป็นการไม่รู้จักประมาณตนทำให้ตัวเองต้องตาย ซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย ถึงแม้ที่ตัวพวกคุณห้าคนจะติดระเบิดไปทั่วกายแล้วบุกเข้าไปสำนักงานใหญ่ของฝ่ายตรงข้ามให้ตายไปด้วยกัน ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะทำลายพวกเขาทิ้งได้”

สีหน้าของคนพวกนั้นดูแย่ขึ้นมาเพราะคำพูดของหลี่ฝาง พวกเขาอยากโต้แย้ง แต่หลี่ฝางพูดนั้นเป็นความจริง ทำให้พวกเขาไม่มีสิทธิ์ไปโต้แย้งได้

“ผมให้การสนับสนุนทางการเงินกับการกระทำของพวกคุณ ที่จริงแล้วไม่ได้ขัดแย้งกับเป้าหมายเดิมของพวกคุณ กลับกัน ยังให้เป้าหมายของพวกคุณมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นจริงด้วย

แต่ว่า……ถ้าคุณบอกว่าขายชีวิตให้ผม นั่นก็ไม่ผิด แต่คุณต้องเข้าใจว่า คนที่อยากขายชีวิตให้ผมนั้นมีจำนวนมาก ไม่ใช่ว่าต้องแค่พวกคุณเท่านั้น ผมแค่เห็นว่าพวกคุณเชื่อถือได้เลยช่วยพวกคุณ เข้าใจไหม?”

คนพวกนั้นก็มีสีหน้าหม่นลง

พูดขึ้นแล้ว พวกเขาล้วนแต่ไม่ใช่เด็กๆกันแล้ว เหตุผลนี้เข้าใจอยู่แล้ว ก่อนหน้านี้ Tankจะพูดอย่างนั้น ก็เป็นเพียงการต่อต้านจากจิตใต้สำนึกที่มีต่อลูกพี่เท่านั้น

ความสัมพันธ์ทั้งได้และเสียอย่างนี้ ที่จริงแล้วพวกเขาต่างเข้าใจกันอย่างดี

ต่อมาเรื่องก็จะง่ายมากขึ้น ห้าคนนี้สืบข่าวของอีกฝ่ายต่อไป ส่วนหลี่ฝางกลับออกไปจากที่นี่แล้วกลับบ้าน

ที่เขาต้องทำนั้นก็แค่รวบรวมข่าว รอเวลาที่เหมาะสมค่อยลงมือก็พอ

หลี่ฝางกลับถึงบ้าน มองเห็นฉินวี่เฟยนอนหลับพิงไปที่โซฟา บนโต๊ะยังมีฝาชีคลุมอาหารไว้อยู่ น่าจะเป็นเพราะรอเขาดึกไปจนหลับ จึงอดไมได้ที่จะยิ้ม และในใจก็รุ้สึกอบอุ่น

และเสียงเปิดประตูของหลี่ฝางก็ปลุกฉินวี่เฟย เธอขยี้ตา มองเห็นหลี่ฝาง ก็หัวเราะ:“คุณกลับมาแล้วเหรอ?ยังไม่กินข้าวสินะ ฉันไปอุ่นข้าวให้”

“ไม่ต้องรีบร้อนไปทำหรอก”หลี่ฝางเข้ามานั่งบนโซฟา เอาฉินวี่เฟยเอาโอบไว้ในอ้อมแขน“คนพวกนั้นเลวมาก ได้รับบทลงโทษกันหมดแล้ว”

ฉินวี่เฟยที่อยู่ในอ้อมแขนไม่ส่งเสียงขัดขืน ร่างกลับค่อยๆกระตุกขึ้นมา หลี่ฝางลูบหลังปลอบเธอเบาๆ ปล่อยให้เธอร้องไห้

ผ่านไปสักพัก ฉินวี่เฟยค่อยๆสงบลง จึงถามว่า:“จิ้งจิ้งเธอ……เธอเป็นอย่างไรบ้าง?”

“เธอถูกครอบครัวรับกลับไปแล้ว น่าจะเอาฝังลงอีกไม่กี่วันนี้”หลี่ฝางพูดเบาๆ สายตามีความโศกเศร้าไม่น้อย

ตอนที่ฉินวี่เฟยได้ยินตรงนี้ ก็ทนไม่ไหวร้องไห้ทันที:“จิ้งจิ้งเธอเป็นผู้หญิงที่ดีมาก……ที่จริงบ้านเธอก็ไม่ค่อยมีเงินอยู่แล้ว พ่อก็พิการอีก ……ไม่ง่ายเลย……แต่……แต่……ทำไม……”

ฉินวี่เฟยยิ่งพูดยิ่งร้องไห้ก็ยิ่งเสียใจ ซบอยู่ในอ้อมแขนหลี่ฝางจนทำเสื้อผ้าของเขาเปียกขนาดใหญ่

หลี่ฝางก็ไม่รู้ว่าควรจะปลอบเธออย่างไร ได้แต่ถอนหายใจเงียบๆในใจ ตบฉินวี่เฟยเบาๆ

ร้องไห้ไปอีกสักพัก น่าจะร้องจนเหนื่อย ฉินวี่เฟยจึงซุกไปอยู่ในอ้อมแขนของหลี่ฝาง โอบกอดหลี่ฝางเงียบๆ ทั้งสองคนไม่พูดอะไรกัน ดื่มด่ำไปกับความเงียบที่หายากแบบนี้

วันถัดมา ฉินวี่เฟยไปบริษัท ส่วนหลี่ฝางกลับไปที่สถานตากอากาศ

ลงจากรถเดินเข้าไปสถานตากอากาศ หลี่ฝางเจอโหจื่อเป็นอย่างแรก เขาก็ขยิบตาให้ ทำให้หลี่ฝางแปลกใจอย่างมาก

“คุณทำอะไร?”หลี่ฝางถามอย่างแปลกใจ

“หึหึหึ กิ๊กของคุณมาหาถึงที่เลย”โหจื่อทำท่าทางเหมือนกำลังดูฉากเด็ดละคร หัวเราะอย่างสับปลับ

“กิ๊ก?ใครมาเหรอ?”ในใจหลี่ฝางหม่นลงเล็กน้อย

“สาวน้อยคนต่างชาติคนหนึ่ง ฮี่ฮี่ ไอ้เด็กอย่างคุณนี่เจ๋งไม่เบา เริ่มดึงดูงสาวต่างชาติมาอย่างไม่รู้ตัวแล้ว”

โหจื่อทำหน้าทะเล้นตบไหล่ของหลี่ฝาง:“น้องชาย ขอให้โชคดีนะ ครั้งนี้ผมช่วยคุณไม่ได้แล้ว”

“เอ๊ะ?เอ๊ะเอ๊ะ?อย่าไปสิ คุณคุยกับผมก่อนมีอะไร ……”

หลี่ฝางยื่นมือจะคว้าโหจื่อที่จะหนีไป กลับเห็นส้าวส้วยที่ไม่รู้ว่าปรากฏตัวตั้งแต่เมื่อไหร่ ใบหน้ามีรอยยิ้มบางๆ โบกมือไปที่เขา

“ส้าวส้วย?เมื่อวานคุณไปไหนมา?ไม่เห็นคุณเลย”หลี่ฝางเดินเข้าไป

ส้าวส้วยยิ้ม:“ผมจะไปรับคนๆหนึ่ง”

“ใคร?”หลี่ฝางใจเต้น

“คุณเห็นก็จะรู้เอง”ส้าวส้วยตบไหล่ของหลี่ฝาง:“ดูแลตัวเองด้วย”

ปกติโหจื่อก็ไม่จริงจังอะไรอยู่แล้ว แต่พอเห็นว่าแม้แต่ส้าวส้วยก็เป็นแบบนี้ หลี่ฝางจึงตกใจทันที

“ส้าวส้วย คุณอย่าขู่ให้ผมกลัว ส้าวส้วย……คุณอย่ามาเล่นตัวน่า เป็นใครกันแน่ บอกผมมาดีๆ”

ส้าวส้วยชี้ไปที่ประตูห้อง ไม่พูดอะไร บอกเป็นนัยให้หลี่ฝางเข้าไปดูเอง

หลี่ฝางกลืนน้ำลาย เดินเข้าไปผลักประตูเปิดไปเบาๆ

“คุณเองเหรอ?”

มองหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า หลี่ฝางตะลึงเล็กน้อย สายตาตื่นตระหนกหน่อยๆ

ส่วนหญิงสาวด้านในเห็นหลี่ฝาง ทันใดนั้นก็ถลาเข้ามาทางหลี่ฝางแล้วตะโกนอย่างร่าเริง

“อาจารย์ ฉันคิดถึงคุณจัง!”

หลี่ฝางเบี่ยงตัวหลบ ดึงหญิงสาวที่โผใส่อากาศหลับมา เพื่อไม่ให้เธอลอยออกไปเพราะแรงของตัวเอง

“ชูซี คุณมาได้ไงเนี่ย?”

มองหญิงสาวที่ดวงตาเป็นประกายและสดใส หลี่ฝางก็ปวดหัวทันที

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน