NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่1007 ที่แท้ก็คุณ

บทที่1007 ที่แท้ก็คุณ

สองสามนาทีต่อมา ก็เป็นเกาจื่อซินที่พูดคำขอบคุณอะไรพวกนั้นอีกรอบ

“ทำไมยังไม่จบอีก?คนกลุ่มนี้ก็ไม่เหนื่อยเลยเหรอ?”

ท่ามกลางฝูงชนด้านล่าง หลี่ฝางที่แต่งตัวธรรมดาไม่เป็นที่สะดุดตาก็มองเกาจื่อซินที่อยู่ด้านบนด้วยใบหน้าทำอะไรไม่ถูก

ถ้าไม่ใช่ว่าเห็นว่าสาวน้อยนั้นหน้าตาสละสลวย หลี่ฝางก็หนีไปกินของด้านข้างนานแล้ว มาถึงระดับเช่นเขาในตอนนี้แล้ว กลับไม่ได้สนใจต่อสิ่งที่เรียกว่าพิธีรีตองเลยสักนิด

แน่นอนว่า ที่จริงเขาก็ไม่ได้ให้ความสำคัญขนาดนั้นอยู่แล้ว ก็แค่ความแข็งแรงที่แข็งแกร่งในตอนนี้ ให้ความมั่นใจเขาจนไม่สนใจสายตาคนอื่นก็เท่านั้น

รอจนตอนที่มองไปเห็นเค้กก้อนโตสุดหรูถูกเข็นออกมา สายตาหลี่ฝางเป็นประกายเล็กน้อย

“ตระกูลเกานี่เล่นเป็นเชียวนะ รอตอนวี่เฟยฉลองวันเกิดก่อน จะจัดให้เธอสักงาน!”

แป๊บเดียว เกาจื่อซินก็ตัดตามสัญลักษณ์เสร็จ เค้กทั้งหมดก็ตัดออกอย่างประณีตโดยเชฟขนมที่เตรียมไว้นาน ส่งไปยังมือของแขกเรื่อยๆ

ในที่สุดก็เห็นเกาจื่อซินหยุดคำพูดไร้สาระ หลี่ฝางจึงหาสถานที่ กินเค้กโดยรอบๆด้านไม่มีคนอยู่

งานเลี้ยงวันเกิดเช่นนี้ เหล่าลูกคนรวยที่ไปๆมาๆ แต่ละคนต่างเต๊ะท่าและสำเนียง ถือไวน์แดงแก้วหนึ่งพูดคุยกันอยู่นาน อาหารบนโต๊ะก็มองนานไม่ได้ ไม่งั้นจะถูกมองอย่างว่ามารยาท

และท่ามกลางคนพวกนี้ กลับมีหลี่ฝางที่นั่งกินของอยู่ตรงนั้นคนเดียวไม่พูดอะไร ความแตกต่างนี้เห็นได้ชัดทีเดียว

หลี่ฝางที่นั่งกินของอยู่ตรงที่ไม่มีผู้คนสนใจตรงนั้น เป็นการมีอยู่ที่ช่างสะดุดตาอย่างที่สุด

ณ ที่หนึ่งไม่ไกลจากหลี่ฝาง ชายหนุ่มที่ดูทรงพลังน้อยกว่าผู้คนรอบๆ สวมชุดดูไม่ดีนัก กำลังชี้ไปที่หลี่ฝางและคุยกับผู้หญิงข้างๆ

“คุณดูคนๆนั้นสิ ไม่รู้ว่าเข้ามาได้อย่างไร ไม่มีมารยาทเลยสักนิด น่าเสียดายกับงานที่สูงส่งเช่นนี้จริงๆ”

ถึงแม้ผู้ชายคนนี้อยากเลียนแบบท่าทางพูดไปหัวเราะไปอย่างคนรอบข้าง แต่กลับรู้สึกยิ่งเลียนแบบก็ยิ่งอัปลักษณ์ และยังมีความตลกอยู่หน่อยๆ

ยืนอยู่ข้างกายเขา คือสาวสวยหน้าตาอ่อนหวาน แค่ดูจากท่าทางที่เธอดูอึดอัดเล็กน้อยแล้วนั้น เธอก็น่าจะไม่ได้มางานเลี้ยงแบบนี้บ่อยๆแน่

ตอนนี้หญิงสาวที่ถูกกลายเป็นเจิงเจิง กำลังมองสำรวจร่างนั้นที่กินของอยู่อย่างสงสัย เธอมักรู้สึกว่าคนๆนี้มีความคุ้นเคยแปลกๆ

“เจิงเจิง คุณรออยู่ตรงนี้ก่อน ผมจะไปทักทายเพื่อนเก่าหน่อย”ตอนนี้ จู่ๆชายคนนั้นก็มีตาเป็นประกาย พูดเสร็จก็เดินไป

มองชิวหรูแฟนหนุ่มออกไปแบบนี้ ฝางเจิงเจิงจึงยืนอยู่ที่เดิมสักพักอย่างไม่มีทางเลือก ก็รู้สึกว่าไม่รู้จะทำอย่างไรดี พอคิดๆดูแล้ว จึงเดินไปที่ร่างอันคุ้นเคยนั้นก่อนหน้านี้

ตอนนี้หลี่ฝางที่กำลังกินอย่างมีความสุข จู่ๆก็มีร่างหนึ่งโผล่มาตรงหน้า ส่ายมือตรงหน้าเขา พูดอย่างไม่คาดคิดนักว่า:“หลี่ฝาง ใช่คุณไหม?”

คิดไม่ถึงว่าจะเจอคนที่รู้จักเขาที่นี่ หลี่ฝางตะลึง สำรวจผู้หญิงตรงหน้าอย่างละเอียด

“คุณคือ……ฝางเจิงเจิง?”

เขานึกออกแล้ว ฝางเจิงเจิงนี้คือเป็นเพื่อนที่โรงเรียนของเขา แค่ต่อมาเธอย้ายบ้าน เธอเลยต้องย้ายโรงเรียน ทั้งสองคนเลยไม่เคยเจอกันอีก

หลี่ฝางจำได้ลางๆว่าฝางเจิงเจิงจากไปหลังจากพ่อแม่เขาหายไปได้หนึ่งปี นับๆดูแล้ว ดูเหมือนว่าทั้งสองจะไม่ได้เจอกันนานหลายปีแล้ว

ฝางเจิงเจิงมองหลี่ฝาง ถามอย่างสงสัยว่า:“หลี่ฝาง คุณก็มาร่วมงานเลี้ยงวันเกิดด้วยเหรอ?”

“ใช่ มีปัญหาอะไรไหม?”

หลี่ฝางตอบไปงั้นๆ แล้วก็หยิบของหวานตามมือไปขึ้นมาอีกชิ้นหนึ่ง

“เอ่อ……ไม่มี”ฝางเจิงเจิงสำลักกับคำพูดหลี่ฝาง แต่มองสภาพของหลี่ฝางแล้ว ยังไงก็ไม่เข้ากับงานปาร์ตี้ ทำให่ในใจเธอรู้สึกแปลกประหลาดอย่างมาก

อีกด้าน ชิวหรูได้มาถึงตรงหน้าคนที่เรียกว่า“เพื่อนเก่า”แล้ว จึงพูดด้วยน้ำเสียงเคารพว่า:“คุณชายเกา ไม่เจอกันนาน”

ชายหนุ่มที่ถูกเรียกว่าคุณชายเกา มองชิวหรูแวบหนึ่ง พูดอย่างสงสัยว่า:“คุณคือ?”

ผู้คนที่อยู่รอบๆคุณชายเกาต่างมองไปที่ชิวหรู มองระดับฐานะทางเศรษฐกิจของเขาออกจากการแต่งตัว จึงอดไม่ได้ที่จะส่งสายตาเยาะเย้ยใส่กันและกัน

“คุณชายเกา ผมคือชิวหรูไง ที่ทำความสะอาดนอกหน้าต่างให้บริษัทของคุณเมื่อสองเดือนที่แล้ว ไม่ใช่ว่าบริษัทของผมรับเหมาหรอกเหรอ”

ชิวหรูรีบตอบกลับ ใบหน้าไม่มีความโกรธเคืองไม่พอใจเลยสักนิด

“คุณเองเหรอ!”

ในที่สุดคุณชายเกานึกขึ้นได้จากที่ชิวหรูเตือน แล้วจึงเลิกสนใจชิวหรูทันที

แต่ถือว่าเขาไม่ได้ไม่สนใจชิวหรูไปโดยตรง แต่พูดแนะนำว่า:“ท่านนี้คือประธานชิวแห่งบริษัททำความสะอาดกุยเจิง สร้างตัวด้วยสองมือเปล่า สร้างธุรกิจด้วยตัวเอง ยอดเยี่ยมสุดๆ”

คำพูดของคุณชายเกาดูเหมือนกำลังชมชิวหรู ที่จริงแล้วกลับพูดถึงพื้นหลังของชิวหรูซะหมดเปลือก

บริษัททำความสะอาดกุยเจิงเป็นบริษัทเล็กๆ ไม่มีเบื้องหลังใดๆ ในที่นั้นไม่มีใครสนใจอยากสร้างสัมพันธ์กับเขาเท่าไหร่นัก

แต่ด้วยมารยาท คุณชายเกาจึงยังแนะนำให้พวกเขารอบหนึ่ง

“ท่านนี้คือคุณชายหลี่ ลูกเจ้าของบริษัท Tobu Engineering จำกัด ท่านนี้คือคุณชายหยาง ลูกเจ้าของบริษัท Southern Technology จำกัด สุดท้ายท่านนี้คือคุณชายเจิ้ง”

ทุกๆคน ล้วนแต่เป็นลูกคนรวยที่มีมูลค่าสูงกว่าชิวหรูมากๆ ทำให้ชิวหรูรีบพยักหน้าและโค้งคำนับใส่ ประจบสุดๆ

ไม่ว่าจะเป็นบริษัท Phaeton จำกัดของคุณชายเกา หรือว่าบริษัท Tobu Engineering จำกัด หรือบริษัท Southern Technology จำกัด ล้วนแต่เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียง ไม่ใช่ที่บริษัทเล็กๆอย่างเขาจะเทียบได้เลย

ส่วนคุณชายเจิ้งคนนั้นก็ยืนอยู่ท่ามกลางคนพวกนั้น ถึงแม้คุณชายเกาไม่แนะนำเขา แต่ชิวหรูยังคงมองออกว่าตัวตนเขาไม่ธรรมดา

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท