เจียงมั่นหวั่นเป็นคนที่มีเสน่ห์มากๆ คนนึงอย่างไม่ต้องสงสัย เธอขยับเล็กน้อย ยิ้มนิดหน่อย ก็สามารถคว้าใจคนอื่นไปได้แล้ว ทำให้ทุกคนตกหลุมรักเธออย่างช่วยไม่ได้
แม้กระทั่งพวกลูกคุณหนูที่ถูกเลี้ยงมาอย่างร่ำรวยตั้งแต่เล็ก ความงามก็ล้วนแต่เทียบเธอไม่ติด
และขณะที่เธอเข้าใกล้หลี่ฝางมากขึ้น สายตาทั้งสองฝ่ายที่จ้องมองมาบรรจบกัน ทันใดนั้น ก็ราวกับกว่าสายตาทุกคู่ในห้องโถงต่างจับจ้องมาที่นี่อย่างนั้นแหละ
และในตอนที่กำลังเดินเข้าไปหาหลี่ฝางเจียงมั่นหวั่นก็ขาอ่อน และตอนที่กำลังจะล้มลง ยิ่งทำนำพาเสียงร้องที่ตกใจ
“ระวัง!”
ในเวลานี้คนไม่น้อยต่างก็อยากจะพุ่งเข้าไปกอดเธอไว้ ให้เธอจำตนได้ และได้เข้าใกล้สาวสวย
และหนึ่งในนั้นที่ชื่อเผิงลี่หุย พูดได้ว่าเป็นคนที่เร็วที่สุด
เขาตามจีบเจียงมั่นหวั่นถึงขั้นคลั่งไคล้ได้แล้ว ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอเธอก็ตกหลุมรักเข้าอย่างจัง ถอนตัวไม่ขึ้นแล้ว
หลังจากนั้นเขาก็เริ่มตามจีบเจียงมั่นหวั่นอย่างเอิกเกริก แต่กลับมีแค่ตัวเขาที่ซาบซึ้ง ตั้งแต่ต้นจนจบก็จีบเจียงมั่นหวั่นไม่ติด
การแห้วซ้ำๆ ไม่ได้ทำให้เขาหดหู่ แต่กลับยิ่งทำให้เขามีกำลังใจมากยิ่งขึ้น
และตอนนี้ เมื่อโอกาสดีๆ แบบนี้มาถึง เผิงลี่หุยจึงพุ่งตัวออกมาทันที
ขณะที่เขาก็กำลังจะโอบตัวเจียงมั่นหวั่นไว้ จู่ๆ ก็มีเท้าข้างนึงปรากฏขึ้นใต้เท้าของเขา เขาที่พุ่งตัวออกมาก็สะดุดทันที
เสียง “กึก” ดัง เผิงลี่หุยล้มไปพองกับพื้นอย่างไม่เป็นท่า แต่สาวในฝันของเขากับถูกอีกคนนึงโอบไว้แล้ว
ในตอนนั้นหลี่ฝาง ใช้มือข้างนึงโอบเจียงมั่นหวั่นไว้ ขณะเดียวกันตาคู่นั้นก็สบตากับเจียงมั่นหวั่นอย่างลึกซึ้ง ราวกับเวลาหยุดนิ่งในวินาทีนี้
อย่างไรก็ตามฉากสวยงามอย่างในละครก็อยู่ไม่ได้นาน เพราะว่าทันใดนั้น เสียงที่โกรธเพราะอับอายก็ดังขึ้นมา
“ไอ้ชั่ว เมื่อกี้นายขัดขาฉันใช่มั้ย!” เผิงลี่หุยไม่ง่ายเลยกว่าที่จะคลานขึ้นมาจากพื้น เมื่อเห็นภาพตรงหน้า ทันใดนั้นก็รู้สึกโมโหขึ้นมาทันที และอดไม่ได้ที่จะตะคอกเสียงดัง
และที่ทำให้เขากระอักกระอ่วนก็คือ หลังจากที่เขาตะคอกเสียงดัง หลี่ฝางที่โอบเจียงมั่นหวั่นอยู่นั้นไม่ได้สนใจเขาเลยสักนิด
ทันใดนั้นเผิงลี่หุยก็โมโหจนหัวระเบิด และพุ่งเข้าไปหาหลี่ฝางโดยไม่คิดเลยสักนิด
และผู้คนที่ดูอยู่โดยรอบก็ราวกับกลายเป็นเผิงลี่หุย ทั้งหมดล้วนแต่อดไม่ได้ที่อยากจะพุ่งเข้าไปชกหลี่ฝางสักหมัด
เมื่อเห็นเผิงลี่หุยพุ่งเข้าไปอย่างโกรธจัด พวกเขาก็สามารถนึกภาพได้ ว่าอีกสักครู่หลี่ฝางจะมีจุดจบเลวร้ายขนาดไหน
และในขณะนั้น คนที่ทุกคนคาดไม่ถึงจู่ๆ ก็ออกมายืน และห้ามเผิงลี่หุยเอาไว้
“สถานการณ์แบบนี้ลงมือคงไม่เหมาะมั้ง?” ลู่เผิงเฟยหัวเราะหึๆ พลางพูด
คนที่อยู่ที่นี่มีไม่กี่คนที่ไม่รู้จักลู่เผิงเฟย และเผิงลี่หุยก็ต้องเป็นเช่นนั้นธรรมดา
เขารู้จักฐานะของลู่เผิงเฟย และก็รู้ว่าตัวเองหาเรื่องลู่เผิงเฟยไม่ไหว ดังนั้นเขาจึงลังเลอยู่ครู่
ที่จริงยังอยากจะพูดแย่ๆ กับหลี่ฝางอีกสักคำ จากนั้นค่อยหันหลังเดินไป หาทางลงให้กับตัวเอง แต่เมื่อเห็นท่าทีของหลี่ฝางแล้ว เขาก็ด่าหลี่ฝางขึ้นมาทันที
“ไอ้ชั่ว หยุดปากของแกเลยนะ!”
เมื่อเห็นว่านานแล้วแต่หลี่ฝางก็ไม่ปล่อยเจียงมั่นหวั่นสักที แถมกลับยังค่อยๆ จูบลงไปที่ข้างแก้มของเจียงมั่นหวั่น ทำให้แก้มขาวๆ บนหน้าของเจียงมั่นหวั่นกลายเป็นสีแดงก่ำขึ้นมาทันที
เจียงมั่นหวั่นก็คิดไม่ถึงเลยว่าหลี่ฝางทำแบบนี้ การกระทำมันฉุกละหุก ทำให้เธอตอบสนองไม่ทัน
ตอนนี้ เผิงลี่หุยก็ควบคุมตัวเองไม่อยู่เลย ในหัวโล่งไปหมด ไม่สนใจใครทั้งนั้น เดินข้ามผ่านลู่เผิงเฟยและจะพุ่งเข้าใส่หลี่ฝาง
เพียงพริบตา กำปั้นของเผิงลี่หุยก็พุ่งเข้าไปทางหน้าของหลี่ฝาง
เพราะว่าพุ่งเข้าไปแรงเกิน แม้จะพุ่งตัวออกไปโดยแรงแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน
และในความคิดเป็นเรื่องที่ดี แต่ความจริงกลับโหดร้าย
ขณะที่เผิงลี่หุยออกหมัดชกไปทางหน้าของหลี่ฝาง จู่ๆ ขวดเหล้าขวดนึงก็ปรากฏขึ้นระหว่างทางของกำปั้น
“เพล้ง!”
เสียงแก้วแตกดังขึ้น ขวดเหล้าทั้งขวดถูกเผิงลี่หุยชกด้วยมือเปล่าจนแตก
ทันใดนั้น เผิงลี่หุยก็กุมกำปั้นที่อาบไปด้วยเลือดสดๆ และร้องโอดครวญขึ้นมา
เสียงโอดครวญดังขึ้น ทันใดนั้นทำเอาคนฟังแสบแก้วหู
ใครก็คิดไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ และยิ่งคาดไม่ถึงว่า ความเร็วของหลี่ฝางจะเร็วได้ถึงเพียงนี้ ราวกับว่าเผิงลี่หุยจงใจชกขวดเหล้าให้แตกเองอย่างนั้นแหละ
“ไม่เบา ไม่เบาเลยนี่ กำปั้นเหล็กของนายฝึกมาได้ไม่เลวจริงๆ ”
หลี่ฝางพูดราวกับชื่นชมด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ เผิงลี่หุยที่ได้ฟังกลับรู้สึกขัดหู และคนอื่นๆ ที่ได้ยินก็อดไม่ได้ที่จะอ้าปากค้าง แอบถอนหายใจกับความไร้ยางอายของหลี่ฝางที่ไม่เคยมีใครเคยทำมาก่อน
“ไอ้สารเลว!ฉันจะให้แกได้รับรู้ถึงผลที่จะตามมาจากการแกล้งฉัน!”
ความโกรธในใจของเผิงลี่หุยยิ่งรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ แม้กระทั่งถึงขั้นทำให้สองตาของเขาแดงก่ำ วินาทีนั้น สติสัมปชัญญะของเขาได้ถูกความโกรธเผาไหม้ไปเรียบร้อยแล้ว
ในใจของเขามีแค่ความคิดเดียว นั่นก็เคืองให้หลี่ฝางชดใช้ด้วยเลือด
เสียงดัง “เพล้ง” เผิงลี่หุยคว้าขวดเหล้ามาแล้วทุบจนแตก เขาจับขวดเหล้าที่แตกจนคมแล้วแทงไปทางหลี่ฝาง
ขอแค่ได้ระบายอารมณ์โกรธนี้ จะไปกลัวว่าหลังจากนี้จะต้องชดใช้ยังไง เขาก็รับแล้ว
ส่วนหลี่ฝางที่มองดูเผิงลี่หุยพุ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง สองตาแดงก่ำ ในใจกลับถอนหายใจ
“ทำไมถึงต้องหาเรื่องใส่ตัวด้วยนะ?”