NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1019 ตายเรียบ

บทที่ 1019 ตายเรียบ

การที่เขาพุ่งเข้าไปข้างหน้า ร่างเขาบ้าคลั่งถึงขีดสุด เพียงพริบตาก็กลายเป็นยักษ์สูงสามเมตร ท่าทางราวกับรถถังคันนึง พุ่งเข้ามาชนหลี่ฝางอย่างบ้าคลั่ง

แรงกระแทกนี้เพียงพอที่จะทำให้กำแพงเป็นรูปใหญ่ได้เลย คนธรรมดาโดนชนเข้าก็เหมือนกับโดนรถบดถนนเหยียบเอา แต่การโจมตีแบบนี้เมื่อมาอยู่ต่อหน้าหลี่ฝาง มันน่าขำพอๆ กับหนอนขยับต้นไม้

หลี่ฝางยื่นมือนั้นออกไปเล็งไปทางคนหัวโล้นร่างใหญ่ กำลังกายในมารวบรวมอยู่ที่ฝ่ามือของเขา กลายเป็นเหมือนหอกของร่างกายแล้วยิงออกไป เหมือนอุกกาบาตพุ่งลงทะลุฟ้า คนหัวโล้นกลิ้งลงไปกองกับพื้น ต่อมาเป็นครั้งที่สอง ครั้งที่สาม……ทั้งหมดล้วนเกิดขึ้นภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งวินาที

เพียงพริบตา ทุกคนที่อยู่ในรัศมีโดยรอบของหลี่ฝาง นอกจากพวกเฉินหรานห้าคนนั้น ทั้งหมดก็ล้มลงไปกองกับพื้น

พวกเฉินหรานห้าคนนั้นที่นั่งยองๆ อยู่ในกรงก็ตาอึ้งปากค้าง ราวกับได้ดูมายากลที่น่าอัศจรรย์

ถึงแม้พวกเขาจะรู้ว่าตนมีเจ้านายที่ลึกลับและแข็งแกร่งมาก แต่พวกเขาก็คิดไม่ถึง ว่าเขาจะแข็งแกร่งถึงขั้นนี้

“เอ๋? ยังไม่ตายเหรอ?” หลี่ฝางก้มหน้ามองดูศพของชายหัวโล้นร่างใหญ่ จู่ๆ ก็ยิ้มอย่างประหลาดใจ เขายื่นมือออกไปทางชายหัวโล้นร่างใหญ่แล้วคว้าไว้

ในตอนนี้เมื่อครู่เขานอนนิ่งอยู่บนพื้นไม่กระดิก จู่ๆ ชายหัวโล้นร่างใหญ่ราวกับศพจริงๆ ก็ขยับ ราวกับกระต่ายน้อยที่ตกใจกลัวจนกระโดดดึ๋งไปข้างหลัง เขาจะกระโดดหนีจากเงื้อมมือหลี่ฝางไปได้ยังไง?

ใจของหลี่ฝางเต้น สถานการณ์เป็นไปตามใจเขา กลายเป็นเหมือนพัฒนาการ มัดชายหัวโล้นร่างใหญ่จนแน่นสุดๆ และล้มลงไปกองกับพื้นไม่กระดิก

“ไอ้หมอนี่……”

หลี่ฝางมองไปที่แผลที่น่าตกใจบนร่างของชายหัวโล้นร่างใหญ่ ส่วนที่บาดเจ็บก็ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว อวัยวะภายในกับกล้ามเนื้อที่โผล่ออกมาโดนอากาศยังคงเต้นเล็กน้อย ปล่อยความร้อนสดๆ ออกมา

“ไอ้หมอนี่เป็นมนุษย์จริงดิ?” หลี่ฝางหนังตากระตุก และเหยียบไปที่หน้าอกของชายหัวโล้นร่างใหญ่ และพูดถาม: “นี่ นายเป็นตัวอะไรเหนี่ย?”

“นายถามว่าฉันเป็นตัวอะไร? เหอะ เหอะๆๆๆ ……นี่ควรจะให้ฉันตอบนายยังไงดี?”

ชายหัวโล้นร่างใหญ่ที่แต่เดิมร่อแร่จู่ๆ ก็หัวเราะฮี่ๆ หัวเราะแบบโอเวอร์ แม้กระทั่งน้ำตาก็ไหลออกมา หัวเราะจนใบหน้ามีรอยย่น ปากจะฉีกถึงรูหู

“ถึงยังไง……”

หลี่ฝางขมวดคิ้ว เมื่อเห็นภาพนี้ ใบหน้าก็ค่อยมีความตกตะลึงปรากฏขึ้น

ก็พบว่าขนตามตัวของชายหัวโล้นร่างใหญ่หนาและยาวขึ้นอย่างรวดเร็ว กลายเป็นขนสีดำปกคลุมไปทั่วร่าง ร่างสูงขึ้น กล้ามเนื้อระเบิดใหญ่ขึ้น เสื้อผ้าบนร่างก็ฉีกขาด

“……ฉันก็ไม่รู้……”

แค่ระยะเวลาสั้นๆ ไม่กี่วินาที จากชายหัวโล้นร่างใหญ่ที่เป็นมนุษย์ กลายเป็นสัตว์ประหลาดขนยาวที่ยืนยืดตรง แล้วสูงสามเมตรเต็มๆ !

“……ว่าฉันเป็นตัวอะไรกันแน่!”

การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่เหมือนกับการเปลี่ยนครั้งที่แล้ว ชายหัวโล้นร่างใหญ่ได้สูญเสียสติไปหมดแล้ว

สายตาที่โหดร้ายแวบเข้ามาในดวงตาของเขา แลบลิ้นออกมาเลียปาก น้ำลายไหลออกมาตามฟันที่แหลมคม และหยดลงบนพื้น

ทันใดนั้นบนหน้าของหลี่ฝางก็มีสีหน้าสนุกลอยขึ้นมา

“คิดไม่ถึงจริงๆ ……ในความเป็นจริง สัตว์ประหลาดแบบนายจะมีตัวตนอยู่ด้วยจริงๆ ”

เขายิ้มพลางพูด

สัตว์ประหลาดชายหัวโล้นร่างใหญ่ดูเหมือนจะโกรธจัด เขาฉีกปากใหญ่ และแสดงให้เห็นรอยยิ้มที่โหดเหี้ยมจนหน้าเบี้ยว และชกไปทางใบหน้าของหลี่ฝางอย่างจัง!

ฟิ้ว!

เร็วจนน่ากลัว ทั้งร่างกลายเป็นภาพติดตาที่ยากที่จะมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า การกระทำทำลายหลุมอากาศ จนเกิดลมพัดแรง

นิ้วของหลี่ฝางกระดิกเบาๆ

เดิมทีเพราะว่าการแปลงร่างของสัตว์ประหลาดถูกจำกัดไว้เล็กน้อยจึงอดไม่ได้ที่จะทำให้พลังของเขาที่พันธนาการเอาไว้แข็งแกร่งอีกครั้ง และปราบปรามสัตว์ประหลาดตัวนี้อย่างรุนแรง

“กร๊อบแกร๊บๆ !”

กระดูกของสัตว์ประหลาดยักษ์ถูกกดทับกรอบเกิดเสียงกร๊อบ

สัตว์ประหลาดคำรามอย่างไม่รู้จักเหนื่อย พลางดิ้นรน แต่จะดิ้นรนยังไงก็ดิ้นไม่หลุดจากเชือกที่พันตัวอยู่ได้ ดิ้นรนอยู่สักพัก สัตว์ประหลาดก็ล้มลง

บนสีดำบนตัวเขาหายไปอย่างรวดเร็ว และกลายร่างกลับเป็นชายหัวโล้นร่างใหญ่อย่างรวดเร็ว นอนอยู่บนพื้นไม่ขยับ หมดสติไปแล้ว

“ขนาดนี้ยังไม่ตาย เป็นร่างที่ถึกจริงๆ ” หลี่ฝางบ่นชื่นชม และมีความสนใจจะวิจัยชายหัวโล้นร่างใหญ่นี่เล็กน้อย

“มัดเขากลับไป ต้องมีคนจำนวนไม่น้อยที่สนใจจะทำการวิจัยเขา!” หลี่ฝางคิดแบบนี้ พลางยื่นมือออกไป หั่นกรงออก และช่วยคนข้างในออกมา

“พวกนายเผยตัวตนได้ยังไง?” หลี่ฝางถาม

คนพวกนั้นก้มหน้า บนหน้ามีความอายเล็กน้อย และเป็นเฉินหรานที่กัดฟันเอ่ยปากพูด: “ขอโทษครับเจ้านาย ทำให้ผิดหวังแล้ว ช่วงนี้พวกเราตรวจสอบพวกเขาบ่อยเกินไป ผลเลยถูกพวกเขาจับได้”

“ช่างมันเถอะ” หลี่ฝางก็ไม่ได้ตั้งใจจะติดตามเรื่องพวกนี้มากมาย ตัวพวกเขานั้นก็เป็นกลุ่มคนธรรมที่ไม่ค่อยมีวิทยายุทธเท่าไหร่ สามารถทำมาถึงขั้นนี้ได้ก็ถือว่าไม่เลวแล้ว

“ไอ้หัวล้านนี้นายรู้จักมั้ย?” หลี่ฝางถาม

“รู้จัก” เฉินหรานลากขาที่บาดเจ็บ เดินกะเผลกเข้ามา: “คืนนี้ชื่อว่ามาร์คัส เป็นคนที่รับผิดชอบกลุ่มคนผิวสีกลุ่มนี้ได้ยินมาว่าในกลุ่มคนผิวสีกลุ่มนั้นเขาได้ตำแหน่งรองจากลูกพี่พวกนั้นโอนีล”

“เห็นที่อำนาจของพวกเขาในเมืองตงก็เท่านี้แล้ว” หลี่ฝางพยักหน้า “ยังไงพวกนายก็ถูกเปิดโปงแล้ว งั้นก็ไม่จำเป็นจะต้องอยู่เป็นเหยื่อล่อปลาตัวใหญ่แล้ว ฆ่าพวกมันให้หมดพร้อมกันทีเดียวเถอะ”

เฉินหรานถามอย่างสงสัย: “โอนีลน่าจะอยู่ที่รังของพวกมัน แต่ถึงยังไงพวกมันก็อยู่ในเมือง ถ้าหากเกิดเรื่องใหญ่แล้ว เกรงว่า……”

“วางใจเถอะ” หลี่ฝางยิ้ม: “ฉันจะแอบลอบเข้าไปอย่างระมัดระวัง ไม่ถูกจับได้หรอก”

เมื่อเห็นรอยยิ้มที่จริงใจของหลี่ฝาง เฉินหรานก็วางใจลงไม่น้อย และพยักหน้ารัวๆ จากนั้นก็พูดสิ่งที่ตัวเองรู้ออกมา

หลี่ฝางที่ได้รับฟังข้อมูลมาก็ยิ้มอ่อน เข้าไม่สามารถปล่อยคนในกลุ่มนั้นไปได้แม้สักคนเดียว ส่วนเรื่องแอบเข้าไปลอบสังหาร……

ฆ่าทุกคนทิ้งให้หมดมันก็คือการแอบลอบเข้าไปอย่างสมบูรณ์แบบครั้งนึงไม่ใช่เหรอ?

วันถัดมา ข่าวที่ดังอย่างกับระเบิดก็ถูกพูดต่อกันในแวดวงใต้ดินเมืองตง

กองกำลังของคนผิวสีตายเรียบ!ในเวลาหนึ่งคืน รังใหญ่กับที่มั่นสามแห่งถูกถอนรากถอนโคนหมดเลย ไม่มีคนเหลือรอดสักคน ลูกพี่โอนีลก็หายตัวไปอย่างลึกลับ

ที่แปลกก็คือคนตายเยอะขนาดนี้ คนที่อยู่รอบข้างพวกเขาไม่ได้ยินแม้แต่เสียงสั่นอะไรเลย!

แล้วก็คนตายเยอะขนาดนี้ ด้านบนแม้แต่ข่าวสักนิดก็ยังไม่มี คนผิวสีที่เคยยโสโอหังอย่างมาก ก็หายไปในกลีบเมฆอย่างเงียบๆ

“คนกลุ่มนี้รวยจริงๆ หึๆ ”

ทำลายอำนาจนี้ เจ้านายหลี่ที่อยู่เบื้องหลังการหายตัวไปของโอนีล ภายหลังจากการทรมานอย่างสาหัสนับสิบครั้ง ก็สามารถรีดทรัพย์สินของพวกเขาทั้งหมดออกมาจากปากของโอนีลได้ รวมๆ แล้วก็เกือบสองร้อยล้าน

หลังจากทำความสะอาดและย้ายหลายรอบแล้ว ทรัพย์สินมหาศาลจำนวนนั้นก็สามารถโอนไปยังบัญชีของหลี่ฝางในต่างประเทศได้

กลายเป็นทรัพย์สินที่ใสสะอาด

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท