NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1029 คนสองคนที่ถูกทารุณ

บทที่ 1029 คนสองคนที่ถูกทารุณ

ทันทีที่ก้าวแรกของทั้งสองคนเหยียบลงไปในอากาศ ก็ได้ทำให้สิบสองคนทองเกิดปฏิกิริยาตอบสนองขึ้นแล้ว และตามที่ทั้งสองได้ขยับเข้าใกล้ สองในสิบสองคนทองก็ได้ก้าวเท้าใหญ่ ๆ มาทางพวกเขา

พลังอันแปลกประหลาดที่อยู่โดยรอบได้รวมตัวกันอีกครั้ง กลายเป็นเหมือนกับชุดนักรบที่งดงามและลึกลับครอบคลุมอยู่บนร่างกายของพวกมัน

“เห็นที่พวกมันทำหรือยัง?” จู่ ๆ กู่ยี่เทียนก็ได้เอ่ยขึ้น: “เรียนแบบพวกมัน เรียนรู้ที่จะใช้ประโยชน์จากพลังงานอันแปลกประหลาดของที่นี่ ในสภาพแวดล้อมที่อำนวยแห่งนี้ นายจะสามารถแสดงพลังที่แข็งแกร่งกว่าโลกภายนอกออกมาได้ร้อยเท่าพันเท่า”

กล่าวไป รัศมีบนร่างกายของกู่ยี่เทียนก็ได้เริ่มเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว รัศมีอันทรงพลังนั่นช่างน่าเกรงขามอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ราวกับได้กลายเป็นลมพายุที่มีตัวตนขึ้นมาจริง ๆ พัดจนแสงอรุโณทัยที่อยู่โดยรอบลอยกระจัดกระจาย

“พูดเช่นนี้……” หลี่ฝางดีใจขึ้นมา เขาเข้าใจความหมายของกู่ยี่เทียนในทันที

“อยู่ที่นี่ หลังจากที่พลังได้เพิ่มสูงขึ้นร้อยเท่าพันเท่าแล้ว ล้วนเป็นพลังของแดนเต๋า ความได้เปรียบทางสภาพร่างกายของสิบสองคนทองนั้นได้ลดลงไปอย่างมา!” ถึงแม้อีกฝ่ายจะเป็นคนร่างยักษ์ที่สูง ร้อยเมตรสองตัว แต่ถึงยังไงพวกมันก็เป็นแดนเต๋าเหมือนกัน พลังที่เพิ่มขึ้นของทั้งสองฝ่ายนั้นไม่ได้แตกต่างกันนัก

เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ไม่ใช่ว่าพวกหลี่ฝางจะไม่มีแรงต่อต้านเลยอีกต่อไป

“ลงมือเถอะ แยกกันไปคนละทิศ อย่ายืดเยื้อ ทะลวงให้ได้อย่างเร็วที่สุด!”

“วางใจเถอะ!”

หลี่ฝางหัวเราะเสียงดัง แล้วยื่นมือออกไปคว้า วินาทีนั้นเอง พลังอันแปลกประหลาดที่อยู่โดยรอบก็ได้แย่งกันเข้ามารวมตัวกันในมือของหลี่ฝาง เพียงไม่นาน ก็ได้จับตัวเป็นดาบขนาดใหญ่ที่ยามวสี่สิบเมตร!

หลี่ฝางได้โบกขยับแขนทั้งสองข้างของเขา ดาบเล่มใหญ่ก็ได้ฟันเข้าไปหาคนยักษ์ตัวนั้น!

เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ในโลกภายนอก อยู่ที่นี่กลับสามารถทำได้ง่าย ๆ

และที่มือขวาของคนยักษ์สีทองเองในเวลานี้ ก็ได้จับตัวเป็นง้าวยักษ์ขนาดสองร้อยกว่าเมตรขึ้นมา และฟันลงมาที่หลี่ฝางอย่างเต็มแรง!

แต่ทว่า ผลลัพธ์กลับเกินความคาดหมายของหลี่ฝาง

ง้าวยักษ์ที่มีขนาดสองร้อยกว่าเมตรนั่น คาดไม่ถึงว่าจะถูกดาบเล่มใหญ่ของหลี่ฝางตัดขาดไปอย่างง่ายดาย ราวกับตัดขาดของเล่นเด็กที่ทำมาจากพลาสติกอย่างไรอย่างนั้น

และส่วนที่ถูกตัดขาดไปนั้น ก็ได้สลายตัวออกไปอีกครั้ง กลายเป็นแสงอรุโณทัยที่ล่องลอยอยู่ทั่วท้องฟ้า

อีกส่วนหนึ่งยังคงอยู่ในมือของคนยักษ์ สั่นเพียงเล็กน้อยก็ได้กลับคืนสู่สภาพเดิม

ทันใดนั้นหลี่ฝางก็ได้หัวเราะขึ้นมาอย่างเสียงดัง เขาฟันลงไปที่คนยักษ์อีกครั้ง และเป็นอีกครั้งที่เขาได้ตัดง้าวยาวนั่นขาดไปได้อย่างง่ายดาย จากนั้นก็ตัดง้าวนั่นออกเป็นหลาย ๆ ท่อน

เผชิญหน้ากับคนยักษ์สีทองที่ไม่มีอาวุธในมือ หลี่ฝางก็ได้ฟันลงไปอย่างไม่รีรอ

เสียงดังสนั่นหวั่นไหว!

หลี่ฝางถูกกระแทกจนกระเด็นถอยหลังกลับอย่างคาดไม่ถึง!

ร่างกายที่แข็งทื่อของคนยักษ์สีทองนั่น อยู่เหนือจินตนาการของหลี่ฝาง!

อีกด้านหนึ่ง ทันทีที่กู่ยี่เทียนเห็นหลี่ฝางใช้ดาบฟันอาวุธของคนยักษ์จนขาด เขาก็พลันตื่นเต้นขึ้นมาและบุกเข้าไปมือเปล่า

เขาที่ไม่ชอบใช้อาวุธ จึงเลือกที่จะต่อสู้กับคนยักษ์โดยมือเปล่า คนยักษ์เองก็เผชิญหน้ากับเขาด้วยมือเปล่าเช่นกัน เขาถูกต่อยจนลอยกระเด็นออกไปในหมัดเดียว

ในกลางอากาศ กู่ยี่เทียนก็ได้ก็กระอักเลือดสด ๆ ออกมาคำหนึ่ง

“สัตว์ประหลาดพวกนี้ทำมาจากอะไรกันแน่?”

ทั้งสองคนต่างก็ตกใจเป็นอย่างมาก เพราะว่าจุดที่หลี่ฝางฟันลงไปนั้น ปรากฏเป็นเพียงรอยสีขาวบาง ๆ ยังไม่ทันที่ดีฟังจะยืนได้อย่างมั่นคง รอยสีขาวนั่นก็ได้อันตรธานหายไปแล้ว

นี่จะสู้ต่อไปได้ยังไง?

“ก่อนหน้านี้นายผ่านไปได้ยังไง?” หลี่ฝางถามขึ้นมาอย่างอดไม่ได้

“ผ่านไปไม่ได้สักหน่อย” กู่ยี่เทียนกระอักเลือดออกมาคำหนึ่ง และได้เช็ดปากของตัวเอง แล้วยิ้มกล่าวอย่างขมขื่น: “ครั้งที่แล้วฉันพึ่งจะทะลวงเข้าขั้นแดนเต๋า พึ่งจะเผชิญหน้าก็ถูกอัดออกมาแล้ว”

“……” หลี่ฝางพูดไม่ออก

ใช้กำลังภายในสร้างดาบเล่มใหญ่ยาวสี่สิบเมตรออกมา ในเมื่อก่อนหลี่ฝางไม่กล้าแม้แต่จะคิด เขากล้าพูดได้ว่า ถ้าหากอยู่ที่โลกภายนอกเขามีความสามารถแบบนี้ เพียงแค่ฟันลงไปหนึ่งครั้ง ก็สามารถฟันภูเขาเล็ก ๆ ลูกหนึ่งออกจากกันได้จริง ๆ

“ตอนนี้จะสู้ยังไง?” ทั้งสองคนหมดหนทาง จึงทำได้เพียงจ้องมองตากัน

“สู้ไม่ได้ ต้องหาโอกาสผ่านไปถึงจะได้” หลี่ฝางกล่าว

“อีกเดี๋ยวจะต้องเทียบความเร็วในการเคลื่อนที่กับพวกมันสักหน่อย คนยักษ์สองตัวนี้มีรูปร่างใหญ่แบบนี้ ปฏิกิริยาตอบสนองจะต้องช้าแน่ วนไปวนมาก็ทำให้มันพวกมันตายได้แล้ว”

“ลองดูแล้วกัน”

คนยักษ์ที่สูงขนาดร้อยเมตรสองตัวนี้ แค่ก้าวเดียวของมันก็เทียบได้กับร้อยก้าวของคนธรรมดาแล้ว การเคลื่อนไหวของพวกมันช้างั้นเหรอ? กู่ยี่เทียนรู้สึกสงสัยเล็กน้อย

“ในตอนที่พวกเราสองคนมุ่งหน้าไปที่เกาะหยกขาวนั่น จะต้องใช้วิธีวิ่งเป็นเกลียวสลับกันไปมา ไอ้สองตัวนั่นตัวใหญ่แบบนั้น พอถึงตอนนั้นจะต้องชนเข้าด้วยกันแน่!” หลี่ฝางกล่าวด้วยท่าทางดุร้าย

วินาทีนั้นเอง เงาร่างสองสายก็ได้พุ่งออกไป กลายเป็นเงาร่างสองสายที่วิ่งสลับกันเป็นเกลียว

และคนยักษ์ทั้งสองตัวที่อยู่ด้านหลังนั้นก็ได้ชนเข้าด้วยกันอย่างที่พวกเขาคาดการณ์ไว้

“ไอ้โง่สองตัว!” หลี่ฝางหัวเราะชอบใจ

แต่ทว่าในวินาทีต่อมา เสียงหัวเราะของเขาก็ได้หยุดลงอย่างกะทันหัน เพราะว่าคนยักษ์ทั้งสองตัวนั้นต่างก็ได้ยื่นมือข้างหนึ่งของตัวเองออกมา สองมือขยับเข้าใกล้ ฝ่ามือประสานกัน ทันใดนั้น ก็ได้ดูดซับเอาพลังอันแปลกประหลาดที่อยู่โดยรอบเข้าไปราวกับกระแสน้ำวน เพียงแค่ชั่วพริบตาเดียว ก็ได้รวมตัวกันกลายเป็นก้อนพลังที่น่าสะพรึงกลัวก้อนหนึ่งขึ้นมา

“หลบเร็ว!”

เมื่อทั้งสองคนได้เห็นภาพเช่นนี้ ก็หวาดผวาจนวิญญาณแทบออกจากร่าง ต่างก็รีบเคลื่อนตัวลอยออกไปในทิศทางตรงกันข้ามทันที วินาทีต่อมา ก้อนพลังงานก้อนนั้นก็ได้ถูกฟาดลงมาตรงที่ทั้งสองคนยืนอยู่เมื่อสักครู่

ทันใดนั้น แสงและความร้อนก็ได้แพร่กระจายออกเป็นวงกว้างอย่างไม่หยุดหย่อน ราวกับการระเบิดครั้งใหญ่ของอวกาศอย่างไรอย่างนั้น

ม้วนเอาทุกสิ่ง ทำลายล้างทุกอย่าง

ถึงแม้ว่าทั้งสองคนจะอยู่ภายใต้การผลักดันจากสภาพแวดล้อมที่พิเศษแห่งนี้ ความเร็วที่สุดในการพุ่งตัวออกไปได้เร็วกว่าความเร็วของเสียง ในระหว่างที่ทั้งสองคนหายใจนั้นก็ได้ถูกคลื่นแห่งการทำลายล้างกลืนกินเข้าไปเหมือนกัน โชคดีที่รัศมีพลังของทั้งสองได้ปกป้องพวกเขาอยู่ตลอดเวลา ให้พวกเขาไม่ถูกกลืนหายไปในทันที และในตอนที่รัศมีพลังจะถูกทำลายไปโดยสิ้นเชิงนั่นเอง พวกเขาก็หลบหนีออกมาจากบริเวณคลื่นแห่งการทำลายล้างนั้นได้

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน