ครึ่งชั่วโมงต่อมา หลี่ฝางสมปรารถนาที่ได้เห็นคนสองคนนั่งอยู่ด้วยกันอย่างเก้ ๆ กัง ๆ ที่ห้องโถง หลบ ๆ ซ่อน ๆ ราวกับนกกระทาตัวน้อย
บนโต๊ะมีกาแฟรสชาติหอมเข้มข้นวางอยู่สามแก้ว หลี่ฝางยกขึ้นมาหนึ่งแก้วแล้วจิบหนึ่งคำ และกล่าวด้วยรอยยิ้ม: “พวกนายไม่ต้องเครียดมากนักหรอก ในเมื่อพวกนายรับปากทำงานให้ฉันแล้ว ฉันก็จะไม่ลงโทษพวกนายแบบไม่มีเหตุผลหรอก ฉันคนนี้นะ รักและทะนุถนอมลูกน้องมาโดยตลอด”
สีหน้าของทั้งสองคนเปลี่ยนตามกันไปติด ๆ และไม่ได้เอ่ยอะไรอีกเลย
“ฉันรู้ว่าฉันพูดไปตอนนี้พวกนายก็ไม่เชื่อ งั้นฉันเองก็ไม่อยากพูดอะไรมาก มอบภารกิจให้พวกนายไปทำเลยแล้วกัน” หลี่ฝางวางกาแฟลงแล้วกล่าว
“ฉันรู้ว่ามีคนอยู่ไม่น้อยที่รับภารกิจมาลอบฆ่าฉัน สิ่งที่ฉันจะให้พวกนายทำ ก็คือปลอมตัวเป็นฉัน แล้วอยู่ที่นี่ จับพวกแรงงานฟรีที่ส่งมาถึงประตูบ้านพวกนั้น อ้อไม่สิ พวกมือสังหารพวกนั้นเอาไว้ให้หมด จากนั้นใช้วิธีที่ฉันใช้กับพวกนายใช้กับพวกมันอีกครั้ง เพียงแค่กดปุ่มไม่กี่ปุ่มก็โอเคแล้ว ง่ายนิดเดียว”
อีกไม่นานหลี่ฝางก็ต้องไปสำรวจสุสานจูหลงแล้ว เขาไม่มีเวลาที่จะมารอให้พวกมือสังหารติดเบ็ดทีละคนอยู่แบบนี้จริง ๆ ดังนั้นจึงได้มีความคิดนี้ขึ้นมา
กำลังภายในระยะแรกสองคนบวกกับพลังที่หลบซ่อนอยู่ของสถานตากอากาศ น่าจะเพียงพอที่จะจัดการกับพวกมือสังหารให้สิ้นซาก นอกจากนี้พลังของที่นี่จะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ ราวกับก้อนหิมะที่กลิ้งลงมาจากเขาสูงเพราะการมาเยือนของพวกมือสังหาร
สำหรับการปลอมเป็นหลี่ฝางนั้น มันง่ายมาก แค่ให้หลิงหลงแต่งหน้าให้พวกเขาหน่อยก็เรียบร้อยแล้ว
ส่วนตัวเขาเองระยะนี้ก็จะส่งฉินวี่เฟยให้ไปอยู่ที่สถานตากอากาศ เพื่อปกป้องเธอเป็นการชั่วคราว
หลังจากที่แนะนำให้กับพวกอัลวาทั้งสองคนเสร็จ หลี่ฝางก็พาฉินวี่เฟยจากไปทันที ปล่อยให้พวกอัลวาทั้งสองคน ร่างสั่นสะท้านอยู่ที่วิลล่าที่ “น่าขนลุก” แห่งนี้ กอดกันตัวกลม
……
เวลาสามวันผ่านไปภายในชั่วพริบตา
เมืองฉางเกา ด้านเหนือของภูเขาหลีซาน
สุสานจักรพรรดิมังกรได้ซ่อนอยู่ในนั้นนั่นเอง
ทีมงานทั้งหมดสิบเก้าคน หลี่ฝางไม่รู้จักซะส่วนใหญ่ แต่เขาได้เหลือบมองไปรอบ ๆ จากปฏิกิริยาตอบสนองของลมหายใจพบว่ามีเพียงเขาและกู่ยี่เทียนเท่านั้นที่เข้าขั้นแดนเต๋า ส่วนคนอื่น ๆ นั้นเป็นเพียงยอดฝีมือกำลังภายในเท่านั้นเอง
ในนั้นยังมีคนที่คุ้นหน้าคุ้นตาอยู่คนหนึ่ง นั้นก็คือกู่เฟยจางแห่งหุบเขาราชายา ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ากู่ยี่เทียนใช้วิธีอะไร ถึงหลอกล่อคนหลงใหลในยาที่ไม่สนใจเรื่องภายนอกคนนี้มาได้
ในเวลานี้ทุกคนต่างก็กำลังฟังที่กู่ยี่เทียนกล่าวอย่างตั้งอกตั้งใจ
“ถึงแม้ว่าสุสานจูหลงจะได้ถูกบุกเบิกมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว แต่มาจนถึงทุกวันนี้ ขอบเขตที่พวกเราสำรวจนั้นก็ไม่ได้กว้างนัก เพราะในส่วนที่ลึกลงไปนั้นมันอันตรายมากเกินไป”
“ปรากฏการณ์ที่แปลกประหลาดต่าง ๆ อันตรายที่ซ่อนอยู่ ต่อให้เป็นยอดฝีมือกำลังภายใน ถ้าไม่ระวังก็อาจติดกับได้”
“หลายปีมานี้ ไม่รู้ว่าต้องพลีชีพไปกี่ชีวิตแล้ว ถึงได้ยืนหยัดมาจนถึงวันนี้ ดังนั้นผมหวังว่าทุกท่านจะต้องระวังให้มาก จะบุ่มบ่ามไม่ได้เด็ดขาด”
ไม่นาน ทุกคนก็ได้มาถึงด้านบนของสุสานจูหลง ฐานลับที่ซ่อนอยู่ในภูเขา
และภายใต้การนำพาของกู่ยี่เทียน ทุกคนก็ได้เข้ามาในฐาน เดินมุ่งหน้าไปยังด้านล่าง ไม่นานก็ได้มาถึงช่องว่างที่มีขนาดกว้างขวาง
ช่องว่างที่มีขนาดกว้างขวางนี้ ทั้งหมดนี้ถูกค้ำยันด้วยโลหะ มีความสูงสิบกว่าเมตร ทั่วทุกหนแห่งเต็มไปด้วยเหล่าพนักงานที่กำลังยุ่งวุ่นวาย ราวกับฉากในหนังแนววิทยาศาสตร์ไม่มีผิด
และในสุดสายตาของทุกคนนั้น ก็คือประตูใหญ่บานหนึ่งที่สูงอย่างน้อยสามเมตร ไม่รู้เหมือนกันว่าประตูใหญ่บานนั้นหนาเท่าไหร่ แต่ก็เต็มไปด้วยความปลอดภัยที่หนักแน่น
“เปิดประตู”
กู่ยี่เทียนตะโกนเสียงดัง
ทันใดนั้น พนักงานสองสามคนไม่รู้ว่าทำยังไง ประตูบานนั้นก็ได้ค่อย ๆ เปิดออกต่อหน้าทุกคน
พอทุกคนได้เห็นด้านข้างของประตูต่างก็ตกใจขึ้นมาทันที
ประตูใหญ่บานนี้มีความหนาอย่างน้อยห้าสิบเซนติเมตร!
“นี่ทำมาจากโลหะสั่งทำพิเศษ ตามมาตรฐานป้องกันนิวเคลียร์” กู่ยี่เทียนมองดูท่าทางตกใจของทุกคน อดไม่ได้ที่จะยิ้มขึ้นมา
และทุกคนได้เดินตามกู่ยี่เทียนเข้ามาในประตูใหญ่แล้วถึงพบว่า ข้างในนั้นเป็นทางเดินยาวประมาณสิบกว่าเมตร และฝั่งตรงข้ามนั้นยังมีประตูใหญ่อีกบานหนึ่งที่เหมือนกันไม่มีผิด
หลังจากที่ทุกคนได้เข้ามาแล้ว ประตูใหญ่ที่อยู่ด้านหน้าบานนั้นก็ได้ค่อย ๆ ปิดลง สิบกว่าวินาทีต่อมา ประตูใหญ่ที่อยู่ด้านหลังบานนั้นถึงได้เปิดออกต้อนรับทุกคน
“ภายในสุสานจูหลงเต็มไปด้วยพลังอันแปลกประหลาดบางอย่าง ถ้ายังไม่ถึงขั้นกำลังภายใน แค่สัมผัสก็ต้องตายทันที เพื่อความปลอดภัยของทุกคนที่อยู่ที่นี่ จึงได้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยอยู่ทั้งหมดสามชั้น” กู่ยี่เทียนกล่าวอธิบาย
“แต่สำหรับปรมาจารย์กำลังภายในอย่างพวกเราแล้ว พลังอันแปลกประหลาดนั่นไม่ใช่ยาพิษอะไร แต่เป็นยาบำรุงอันยอดเยี่ยม”
เป็นอย่างที่คิดไว้จริง ๆ ด้านหลังของประตูใหญ่บานที่สอง ยังมีประตูใหญ่ที่เหมือนกันอยู่อีกบานหนึ่ง
และหลังจากที่ทุกคนได้เข้ามายังประตูชั้นที่สาม ก็ได้พบว่าสภาพแวดล้อมโดยรอบได้ออกมาจากฐานปฏิบัติงาน และได้เข้าสู่สุสานจูหลงเป็นที่เรียบร้อย
ภายใต้ความมืดมิด กู่ยี่เทียนได้เอ่ยขึ้นมาอย่างช้า ๆ : “เริ่มเตรียมใช้กำลังภายในป้องกันต้องแต่ตอนนี้เลย ถึงแม้ตรงนี้พลังอันแปลกประหลาดจะถูกเจือจางไปบ้างแล้ว แต่ว่าพวกคุณก็น่าจะรู้สึกได้แล้วใช่ไหม? เดี๋ยวก็จะเข้าถึงส่วนในของสุสานจูหลงแล้ว เตรียมพร้อมตั้งแต่ตอนนี้ก่อนเถอะ”
ปรมาจารย์กำลังภายในทุกคนต่างก็ปฏิบัติตามอย่างเงียบ ๆ ในความมืด
สามารถมาถึงขั้นปรมาจารย์กำลังภายในได้ แน่นอนว่าไม่มีใครที่โง่เง่า กู่ยี่เทียนกล่าวเน้นย้ำครั้งแล้วครั้งเล่า นั่นแสดงให้เห็นว่าข้างในนั้นอันตรายเป็นอย่างมาก
ในเวลานี้ ไม่มีใครที่คิดอยากได้หน้าได้ตา ร่ำรวยอย่างเงียบ ๆ ถึงเป็นวิถีแห่งราชา
ตามที่ทุกคนต่างก็ได้ขับเคลื่อนพลังภายในของตัวเอง ค่อย ๆ เพิ่มขึ้น ทำให้แม้แต่เสียงฝีเท้าและเสียงลมหายใจได้อ่อนแรงลงจนไม่ได้ยิน
ยังดีที่ถึงแม้จะอยู่ในความมืดพวกปรมาจารย์กำลังภายในก็ยังมองเห็นสิ่งต่าง ๆ ได้ชัดเจนราวกับตอนกลางวัน ดังนั้นจึงทำให้ไม่สูญเสียตำแหน่งของคนร่วมทีมไป
ไม่นาน ความสว่างก็ได้ค่อย ๆ ปรากฏขึ้นมาตรงหน้า และตามด้วยเสียง “ถึงแล้ว” ของกูยี่เทียน จู่ ๆ โลกแห่งใหม่ก็ได้ปรากฏสู่สายตาของทุกคน