NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1035 สูญเสียความทรงจำ?

บทที่ 1035 สูญเสียความทรงจำ?

“จมน้ำ?” หลี่ฝางยันตัวลุกขึ้นมาช้า ๆ เขาส่ายหัวด้วยความทรมานเล็กน้อย

ในสมองของเขานั้นสับสนไปหมด เหมือนมีภาพเหตุการณ์บางอย่างแวบผ่านไป แต่กลับมองไม่ชัดเจน

หยางฉงจ้องมองหลี่ฝาง เธอดูออกว่าหลี่ฝางเหมือนค่อนข้างจะทรมาน จึงเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง: “คุณเป็นอะไร? ทรมานมากเหรอ?”

หลี่ฝางใช้มือทั้งสองข้างกุมขมับ: “ผม……เหมือนผมจะจำอะไรไม่ได้เลย”

“ไม่เป็นไร คุณอาจจะจมน้ำแล้วหัวกระแทกก็ได้ คุณอย่าพึ่งรีบ ค่อย ๆ คิด”

หลี่ฝางลองผ่อนคลายลง จากนั้นอาการปวดหัวก็ค่อย ๆ ลดลงเหมือนกัน เขายิ้มเล็กน้อย แล้วกล่าว: “ขอบคุณพวกคุณมาก ผมดีขึ้นมากแล้ว อ้อใช่แล้ว ที่นี่คือที่ไหนเหรอ?”

“ที่นี่คือเมืองจินซาน นายจำเรื่องพวกนี้ได้ใช่ไหม?”

“ผมยังพอจำได้……เรื่องราวพื้นฐานเหล่านี้ผมจำได้ ไม่ได้กลายเป็นคนปัญญาอ่อนไป” หลี่ฝางกล่าวล้อเล่น

“แต่ว่า……” หลี่ฝางกล่าวด้วยความสงสัย: “แต่ว่าความทรงจำเกี่ยวกับตัวผมเองเหมือนว่าผมจะจำไม่ได้เลย”

หยางฉงกล่าวปลอบใจเขา: “ไม่เป็นไร สองสามวันนี้คุณอยู่กับพวกเราก่อน ค่อย ๆ คิด พวกเราจะช่วยคุณเอง”

หลี่ฝางตอบอย่างเบลอ ๆ : “ขอบคุณมาก สองสามวันนี้รบกวนพวกคุณแล้วนะ” ระหว่างนั้นเอง ดวงตาของเขาก็พลันเปล่งประกายขึ้นมา เหมือนกับมีอะไรที่สำคัญบางอย่างผ่านแวบไปต่อหน้าเขา

“ผม……เหมือนว่าผมจะแซ่หลี่……” หลี่ฝางกล่าวด้วยความตื่นเต้นดีใจ

“แซ่หลี่?” หยางฉงกล่าวด้วยรอยยิ้ม: “ตอนนี้คุณจำได้แล้วว่าตัวเองแซ่อะไร อธิบายได้ว่าการสูญเสียความทรงจำของคุณเป็นเพียงแค่อาการชั่วคราว ตอนนี้คุณเพิ่งจะฟื้นขึ้นมา ร่างกายยังอ่อนแออยู่มาก ฉันว่าคุณควรพักผ่อนก่อนดีกว่า พักผ่อนดีแล้ว ความทรงจำก็จะค่อย ๆ กลับมาเอง”

“พี่สาวของฉันร้ายกาจมากเลยล่ะ ในเมื่อคุณฟื้นมาแล้ว สำหรับเรื่องตัวตนของคุณ เธอช่วยสืบให้คุณได้นะ”

หวางซีเหยาที่อยู่ด้านข้างสองแขนกอดอกพลางกล่าวโอ้อวด:

“งั้นต้องขอบคุณพวกคุณมากจริง ๆ” หลี่ฝางกล่าวด้วยความซาบซึ้ง

“เกรงใจมากไปแล้ว คุณหลี่ พวกเราสามารถพบกันแบบนี้ แสดงว่าพวกเรามีวาสนาต่อกัน คุณยังไม่ต้องเป็นห่วงหรอก พักผ่อนก่อนเถอะ”

หยางฉงกล่าวจบก็เดินออกไปพร้อมกับหวางซีเหยา

หลังจากที่พวกเธอจากไป หลี่ฝางก็ได้นอนคิดทบทวนอยู่บนเตียงคนไข้อีกเป็นเวลานาน แต่ทว่าก็ยังคิดอะไรไม่ออกเลย

หมอได้ช่วยตรวจร่างกายให้กับหลี่ฝางอีกครั้ง ยังคงไม่พบอะไรผิดปกติเหมือนเดิม

หลี่ฝางเองก็ไม่อยากจะนอนอยู่ที่โรงพยาบาล สูญเสียความทรงจำไปทำให้เขาสับสนกับตัวตนของเขาเป็นอย่างมาก ในขณะเดียวกันก็มีความรู้สึกรีบร้อนที่จะตามหาความทรงจำกลับมา

หนึ่งวันต่อมา หลี่ฝางไม่อยากจะนอนอยู่ที่โรงพยาบาลจริง ๆ เขารีบร้อนที่จะออกจากโรงพยาบาล คุณหมอตรวจร่างกายให้เขาทั้งภายในและภายนอกอีกรอบ หลังจากที่มั่นใจแล้วว่าทุกอย่างปกติดี หลี่ฝางก็ได้ออกมาจากโรงพยาบาล

อีกด้านหนึ่ง ในห้องผู้ป่วยวีไอพีของโรงพยาบาลลับแห่งหนึ่ง กู่ยี่เทียนนอนอยู่บนเตียงด้วยใบหน้าซีดเซียว ผู้อาวุโสที่อยู่ข้างเตียงคนไข้มองดูเขาแวบหนึ่ง แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ: “มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

“ตอนนั้นผมได้ใช้พลังไปจนหมด ในวินาทีสุดท้าย หลี่ฝางก็ได้ใช้พลังที่เหลืออยู่เพียงเล็กน้อยของเขาผลักผมออกมา ตัวเขาเองกลับ……กลับถูกดูดเข้าไปในกระแสพลังงาน จากนั้น ผมก็ได้ถูกพวกมังกรฟ้าหาเจอ พวกเราตามหาในที่ที่พอจะตามหาได้จนทั่ว แต่ก็ไม่เจอหลี่ฝาง”

กู่ยี่เทียนเทียนหยุดไปสักพัก แล้วกล่าวต่อ: “แต่ว่าหลี่ฝางดวงแข็งมาก ผมเชื่อว่าเขายังมีชีวิตอยู่! สถานที่แห่งนั้นแปลกประหลาดมาก เหมือนกับจะมีฟังก์ชันถ่ายโอนอยู่ตลอดเวลา ผมถูกพบที่ภูเขาหลีซาน หลี่ฝางอาจจะถูกส่งตัวไปในที่ที่ไกลกว่าก็ได้!”

เขากล่าวไป ก็ร้อนรนที่จะลุกขึ้นมา กลับถูกผู้อาวุโสกดเอาไว้: “สองสามวันนี้นายพักผ่อนก่อน อาการบาดเจ็บยังไม่หายดี นายยังคิดจะไปไหนอีก?”

“ผู้อาวุโสครับ ร่างกายผมไม่เป็นอะไร เพียงแค่ถูกพลังพิเศษบางอย่างผนึกพลังเอาไว้ มีความเป็นไปได้มากที่หลี่ฝางจะเป็นเหมือนกันกับผม! ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือหาหลี่ฝางให้เจอ ถ้าหากให้คนอื่นรู้สถานการณ์ของเขาในตอนนี้ เขาจะเป็นอันตรายมาก!”

“เรื่องนี้นายไม่ต้องยุ่ง!” ผู้อาวุโสออกคำสั่ง

“ฉันจะส่งคนไปตามหาหลี่ฝางเอง ตอนนี้สิ่งที่นายต้องทำก็คือฟื้นฟูพลังโดยเร็ว มีเพียงแบบนี้ นายถึงจะช่วยได้! สภาพของนายในตอนนี้ ต่อให้ออกไป แล้วจะมีประโยชน์อะไร?”

กู่ยี่เทียนภายในใจหนักอึ้ง พลางกล่าวตอบรับ: “ครับ!”

……

“เฮ้! ทางนี้!” หวางซีเหยาโบกมือให้กับหลี่ฝาง: “คุณนี่ใจร้อนจริง ๆ ให้คุณพักผ่อนอยู่ที่โรงพยาบาลเหมือนกับจะเอาชีวิตคุณแน่ะ รีบขึ้นรถสิ ไปทานข้าวที่บ้านพี่สาวของฉัน ฉลองที่คุณรอดจากความตาย!”

เห็นเพียงหวางซีเหยายืนพิงอยู่ที่รถมินิคันสีแดง ใบหน้าถูกแว่นตากันลมปิดบังเอาไว้ เหลือเพียงจมูกเล็ก ๆ และริมฝีปากที่ประณีตงดงาม ผมยาวคลุมไหล่ เสื้อเชิ้ตตัวเล็กสีขาวเบาสบายผูกปมอยู่ที่บริเวณเอว สวมคู่กับกางเกงยีนขาสั่นที่กำลังฮิตกันในตอนนี้ ทำให้หุ่นที่ดีอยู่แล้วของเธอนั้นดูเซ็กซี่อย่างสุดขีด

หลี่ฝางมองดูเธอ ขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วกล่าว: “เธออายุครบสิบแปดแล้วเหรอ?”

“โถ่เอ๊ย อีกสองเดือนฉันก็จะครบสิบแปดแล้ว! อายุสิบฉันก็ขับรถเองแล้ว ไม่เป็นไรหรอก รีบขึ้นรถเร็วเข้า!”

หลี่ฝางเงียบไปสักพัก จากนั้นก็เปิดประตูรถแล้วขึ้นไปนั่งอย่างว่าง่าย

ตอนนี้เขาไม่รู้แม้แต่ชื่อของตัวเองด้วยซ้ำ แล้วใครจะรู้ล่ะว่ามีใบขับขี่หรือเปล่า บางทีอาจจะไม่สู้ให้ยัยเด็กคนนี้ขับด้วยซ้ำ

หวางซีเหยาเป็นเด็กสาวที่ร่าเริง เธอพูดอย่างไม่หยุดมาตลอดทาง ไป ๆ มา ๆ หลี่ฝางก็ได้มีความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับหวางซีเหยา เด็กสาวคนนี้ปีนี้อายุสิบเจ็ด เรียนมหาวิทยาลัยปีหนึ่ง

สาวสวยคนเมื่อวานชื่อหยางฉง เป็นพี่สาวลูกพี่ลูกน้องของเธอ และเป็นบุตรสาวของตระกูลหยางตระกูลนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงแห่งเมืองจินซาน ถึงแม้จะอายุเพียงยี่สิบสี่ปี แต่ก็ได้เป็นผู้จัดการดูแลที่มีประสบการณ์โชกโชนแล้ว

สิบกว่านาทีหลังจากนั้น รถก็ได้ขับมาถึงร้านอาหารที่ชั้นสูงที่อยู่ตรงข้ามอาคารจินโอว

หลี่ฝางพึ่งจะออกจากโรงพยาบาล หวางซีเหยาจึงสั่งอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง และค่อนข้างจืดมาสองสามอย่าง ในตอนที่อาหารจานแรกมาเสิร์ฟนั่นเอง หยางฉงในชุดทำงานอย่างมืออาชีพก็ได้เดินเข้ามา ดูก็รู้ว่าพึ่งทำงานเสร็จก็ได้มาเลย

“ต้องขอโทษด้วย พึ่งจบการพักร้อนไป งานค่อนข้างจะยุ่ง ยังไม่ทันได้กลับบ้านไปเปลี่ยนชุดก็มาเลย คิดไม่ถึงว่าคุณจะออกมาจากโรงพยาบาลเร็วแบบนี้”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน