NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1036 โล่กำบัง

บทที่ 1036 โล่กำบัง

“ขอบคุณพวกคุณมากที่ช่วยฉันไว้” หลี่ฝางพูดขอบคุณทั้งสองคนนั้น

“ขอบคุณอะไรกัน ถ้าไม่ไหวจริงๆ คุณก็ยอมถวายตัวให้เลยซิ!” หวางซีเหยาพูดกระเซ้าพลางหัวเราะ

“เหยาเหยา!” หยางฉงเห็นหลี่ฝางถูกหวางซีเหยาแซวจนพูดอะไรไม่ออก จึงได้พูดปรามหวางซีเหยาไป

“คุณคิดวางแผนอนาคตไว้แล้วยังล่ะ?” หยางฉงถามหลี่ฝาง

“ยังเลย ฉันคิดจะหาที่อยู่แน่นอนก่อน เรื่องอย่างอื่นค่อยว่ากันทีหลัง” หลี่ฝางพูดอย่างสุขุมเยือกเย็น

“เอาอย่างนี้ไหมล่ะ” หยางฉงคิดดูแล้วก็พูดว่า“คุณก็อยู่ที่เมืองจินซานชั่วคราวก่อนก็แล้วกัน ฉันจะช่วยหางานให้คุณเอง”

“ใช่เลย! เจ๊ใหญ่ฉันจะต้องช่วยคุณได้แน่!” หวางซีเหยาพูดด้วยความดีใจ

“คุณลองคิดดูว่าถนัดงานด้านไหนบ้าง?” หยางฉงถาม

หลี่ฝางได้ยินแล้ว ก็ตบศีรษะตัวเองด้วยความกลัดกลุ้ม เสียดายที่คิดอะไรไม่ออกเลย

เมื่อเห็นท่าทางที่เจ็บปวดของหลี่ฝางแล้ว หยางฉงจึงรีบห้ามไม่ให้เขาใช้ความคิดต่อไปอีก แล้วถามว่า “คุณขับรถเป็นไหมล่ะ?”

“เป็น!” หลี่ฝางคิดดูแล้ว พยักหน้าด้วยความมั่นใจ “แต่ฉันไม่มีเอกสารหลักฐานอะไรเลยนะ”

“ไม่มีปัญหา เรื่องเอกสารฉันจัดการให้ได้ คุณก็มาเป็นคนขับรถให้ฉันก็แล้วกันดีไหมล่ะ?” หยางฉงถาม

“งั้นก็พลอยเป็นมือปืนไปด้วยสิ คอยไล่พวกผู้ชายเฮงซวยที่คอยคิดไม่ซื่อกับเจ๊ใหญ่ฉันไปให้หมดเลย!” หวางซีเหยายืนสะบัดกำปั้นอยู่ข้างๆ

“ได้!” หลี่ฝางพยักหน้า ตอบตกลงโดยไม่ลังเลเลย

อีกฝ่ายยอมที่จะช่วยเหลือตัวเอง ก็เป็นบุญวาสนาอย่างใหญ่หลวงแล้ว ไม่เช่นนั้นละก็ แม้แต่อีกประเดี๋ยวจะไปไหนก็ยังไม่รู้เลย

“ขอบคุณครับ เจ้านายหยาง” หลี่ฝางพูดด้วยรอยยิ้ม

“อย่าเรียกฉันว่าเจ้านายหยางเลย” หยางฉงคิดไม่ถึงว่าหลี่ฝางยังรู้จักพูดแซวเล่นอีก อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา “เรียกชื่อฉันโดยตรงก็ได้นะ”

“ยังมีฉันด้วย คุณก็เรียกฉันว่าเหยาเหยาก็ได้นะ ไม่ต้องเรียกชื่อเต็มหรอก” หวางซีเหยายิ้มแล้วพูดเสริมขึ้น

“ได้เลย ฉันแซ่หลี่ พวกคุณเรียกฉัน เรียกฉันว่า…”

หลี่ฝางรู้สึกค่อนข้างลำบากใจ เพราะเขาจำชื่อของตัวเองไม่ได้เลย

“พวกฉันก็เรียกคุณว่าพี่หลี่ก็แล้วกันนะ” หวางซีเหยาดูออกว่าหลี่ฝางกำลังเคอะเขิน จึงรีบพูดขึ้น

“อึ่ม” หลี่ฝางพยักหน้า ถึงแม้รู้สึกเคอะเขินบ้างก็ตาม แต่ก็ต้องตอบตกลงตามนั้นไปก่อน

หลังจากคุยเรื่องเป็นการเป็นงานจบแล้ว ความสัมพันธ์ของทั้งสามคนก็ใกล้ชิดมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด พูดคุยไปพลางรับประทานอาหารไปพลาง สนุกสนานครื้นเครง ช่างมีความสุขเหลือเกิน

ขณะที่จวนจะรับประทานอาหารเสร็จแล้วนั้น เสียงเคาะประตูดังมาจากข้างนอก

ทั้งสามคนยังไม่ทันลุกขึ้นเลย คนข้างนอกก็เปิดประตูเดินเข้ามาเลย

“เสี่ยวฉง เป็นคุณจริงด้วย เมื่อกี้เดินผ่านมาพอดีได้ยินเสียงของคุณ ก็เลยคิดจะเข้ามาดูหน่อย เป็นยังไงบ้างล่ะ ไม่ได้รบกวนคุณใช่มั้ย?”

ทันใดนั้นก็มีชายหนุ่มอายุราวยี่สิบเจ็ดแปดปี พอเดินเข้ามาก็พูดเองเออเองคนเดียว

ชายหนุ่มคนนี้ดูไปแล้วก็รูปหล่อพอสมควร ใส่ชุดเสื้อสูทเรียบแปล้ ทำให้เขาดูสมาร์ตเท่มีสง่าราศี

เพียงแต่ว่าคำพูดของเขาไม่ค่อยน่าเชื่อถือนัก ทำให้ฟังแล้วก็รู้ว่าเป็นการหาเหตุผลข้ออ้างชัดๆ

“ฮาๆ คุณชายหลิวก็มากินข้าวสถานที่แบบนี้ด้วยเหรอ? ยังบังเอิญมาเจอกับฉันด้วย?” หยางฉงพูดประชดไป จากนั้นก็ไม่ไปสนใจชายคนนั้นอีก แล้วพูดว่า“พวกเราไปกันเถอะ เหยาเหยา พี่หลี่”

“อย่าพึ่งรีบไปสิ เพิ่งจะกินข้าวอิ่ม ไปเที่ยวด้วยกันไหมล่ะ?” ชายหนุ่มไม่สนใจคำพูดประชดของหยางฉง ก็ยังคงพูดตื๊อเหมือนเดิม

“เพื่อนคนนั้นคือใครเหรอ?” เขาหันไปมองหลี่ฝาง

“ไม่ต้องหรอก ลาก่อน” หยางฉงพูดปฏิเสธแล้วลากหลี่ฝางออกไปข้างนอก

ชายหนุ่มก็รีบไปขวางอยู่ตรงหน้าประตู พูดด้วยรอยยิ้มเจื่อนๆว่า “อยู่ต่อหน้าคนอื่นอย่างน้อยก็ควรเห็นแก่หน้าฉันบ้างนะ ทำให้คนอื่นหัวเราะเยาะไม่ดีหรอก”

“คุณกำลังพูดล้อเล่นหรือเปล่า?” หยางฉงแสยะยิ้ม แล้วพูดว่า“ที่นี่นอกจากคุณแล้วก็ไม่มีคนอื่นอีกแล้ว!”

เมื่อได้ยินคำนี้แล้ว ชายหนุ่มสีหน้าเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมขึ้นมาทันที ดูเหมือนจะทนไม่ได้อีกต่อไปแล้ว พูดด้วยเสียงต่ำว่า “เสี่ยวฉง คุณก็กำลังจะเป็นคู่หมั้นของฉันแล้ว คำพูดบางอย่าง อย่าซี้ซั้วพูดไป”

“คู่หมั้นเหรอ? แกฝันไปเถอะ!” หยางฉงพูดด้วยความโกรธว่า “จะบอกแกให้รู้ไว้นะ หลิวเห้าปอ ฉันมีเพื่อนชายแล้ว แกก็ตายใจเสียเถอะ!”

พูดจบ หยางฉงก็ควงแขนของหลี่ฝางไว้ จ้องหน้าหลิวเห้าปอตาขวาง พร้อมกับลากหวางซีเหยา แล้วกำลังจะเดินจากไป

เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางของหยางฉงที่แสดงออกเช่นนี้ สีหน้าท่าทีของหลิวเห้าปอก็เปลี่ยนเป็นมืดดำอย่างรวดเร็ว

หวางซีเหยาก็ตื่นตกใจอย่างมาก ขณะเดียวกันก็มองไปยังหยางฉงด้วยความเป็นห่วง

หลี่ฝางกลับยิ้มฝืดๆ รู้ว่าตัวเองกลายเป็นโล่กำบังไปแล้ว

ขณะที่ทั้งสามคนเดินออกจากห้องจองพิเศษนั้น หลิวเห้าปอที่อยู่ข้างหลังบันดาลโทสะขึ้นมาทันที

“หยางฉง คุณหยุดเดี๋ยวนี้นะ!”

เขาบุกเข้าไปด้วยสีหน้าที่โกรธจัด

“ หลิวเห้าปอ คุณคิดจะทำอะไรอีก?” หยางฉงถามอย่างเรียบเฉย

“หยางฉง คุณคิดว่าคุณเป็นใคร! เกิดมาเป็นคนในตระกูลสูงศักดิ์ คุณคิดว่าการแต่งงานของคุณจะตัดสินใจเองได้เหรอ?” หลิวเห้าปอตะโกนพูดอย่างไม่ไว้หน้า

“ไอ้เวรตะไลนี่เป็นใครกันแน่! เป็นคนที่คุณไปหามาเพื่อยั่วโมโหฉันเหรอ?” เขาชี้หน้าด่าหลี่ฝาง

หลี่ฝางกำลังจะลงมือตามจิตสำนึกของตัวเอง แต่ก็รีบควบคุมอารมณ์หุนหันพลันแล่นเช่นนี้ไว้ ขณะเดียวกันในใจก็แอบสงสัยอยู่ว่า

หรือว่าตัวเองเมื่อก่อนเคยเป็นมือปืนจริงๆหรือ?

“ฉันขอพูดอีกครั้งนะ เรื่องของฉันไม่มีใครห้ามได้ทั้งนั้น!” หยางฉงก็โกรธเช่นกัน พลางตะโกนแล้วถอยไปทีละก้าว“ยังมีอีกนะ เขาจะเป็นใครไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ คุณอย่ามายุ่ง!”

น้ำเสียงหยางฉงแฝงไปด้วยอาการที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ ดูเหมือนว่าทนต่อความอัดอั้นตันใจในอดีตต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว ในที่สุดก็ได้ระเบิดออกมาในเวลานี้

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท