NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1057 รีบขอโทษคุณหลี่เร็วเข้า

บทที่ 1057 รีบขอโทษคุณหลี่เร็วเข้า

ในตอนนั้นเอง จู่ ๆ ประตูใหญ่ของผับก็ไปได้เปิดออก ผู้คนกลุ่มใหญ่ได้หลั่งไหลเข้ามา

คนที่นำหน้าก็คือเฮียเว่ยที่มีชื่อเสียงโด่งดังนั่นเอง

เฮียเว่ยโมโหเป็นอย่างมาก ในมือของเขามีเรื่องราวอยู่มากมาย ส่วนเว่ยหุยน้องชายของเขา กลับโทรฟ้องตัวเองว่าถูกคนทำร้าย

ถึงแม้น้องชายของเขาจะไม่ได้เรื่อง ทั้งยังชอบสร้างปัญหาให้กับเขาแต่นั่นก็เป็นน้องชายของเขา ทำไมถึงถูกคนทำร้ายได้ล่ะ?

เขาจึงตัดสินใจทันที จะต้องสั่งสอนไอ้คนที่ทำร้ายน้องชายของเขาให้หนัก ๆ พอดีกับจะได้ระบายอารมณ์ร้ายนั่นออกมา

“ไอ้เหี้ยตัวไหนต่อยน้องชายกูวะ ไสหัวออกมาซะ!”

ทันทีที่เข้ามาในผับ เฮียเว่ยก็ได้ตะโกนขึ้นมา

“พี่ครับ พี่ ผมอยู่ตรงนี้!” เว่ยหุยในตอนนี้ร้องตะโกนด้วยความดีใจอย่างสุดขีด พลางชี้ไปที่จมูกของตัวเอง พลางร้องไห้ฟ้องทุกข์เรื่องที่ตัวเอง “ได้เผชิญกับความน่าเวทนา”

เฮียเว่ยที่รู้จักสันดานน้องชายของตัวเองดีนั้นแน่นอนว่าเขาไม่ได้เชื่อคำพูดของน้องชายตัวเองไปทั้งหมด แต่ความจริงแล้วจะฟังหรือไม่ฟังนั้นก็ไม่ต่างอะไร ตอนนี้เขาแค่อยากจะอัดคน

ในตอนที่เฮียเว่ยกำลังจะดูว่าใครกันที่กล้าขนาดนี้นั่นเอง จู่ ๆ เขาก็ได้มองเห็นหลี่ฝางที่กำลังนั่งดื่มเหล้าอย่างสบายอกสบายใจอยู่ตรงนั้น

ทันใดนั้น ดวงตาทั้งสองข้างของเฮียเว่ยก็เปล่งประกายขึ้นมา ท่าทางของเขาได้เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือทันที

“คุณหลี่ คุณก็อยู่ด้วยเหรอเนี่ย!” เขาเดินเข้าไปหาด้วยรอยยิ้มที่ประจบสอพลอ

“หืม? นายรู้จักฉันด้วยเหรอ?” หลี่ฝางถามด้วยความสงสัย ตัวเองมีชื่อเสียงแบบนี้ตั้งแต่ตอนไหนกัน?

“ฮ่า ๆ งานเลี้ยงในคืนวันนั้นผมเองก็ได้เข้าร่วมด้วย พอดีเลยได้เห็นร่างอันทระนงองอาจของคุณหลี่เข้า ผมชื่นชมนับถือคุณหลี่จากใจจริงเลยนะ!”

“อ๋อ” หลี่ฝางเข้าใจแล้ว ที่แท้รู้จักเขาแบบนี้นี่เอง ไม่แน่ว่าหมอนั่นอาจจะรู้ฐานะที่แท้จริงของตัวเองก็ได้

“คุณหลี่ครับ ได้พบกับคุณที่นี่ถือเป็นเกียรติของผมจริง ๆ!” เฮียเว่ยกล่าวไปพลางหยิบไวน์แดงขวดหนึ่งขึ้นมา และกล่าวกับหลี่ฝาง: “ผมดื่มให้คุณแก้วหนึ่ง ผมหมดแก้ว คุณตามสบาย”

ด้วยเหตุนี้ ภายใต้สายตาของประหลาดใจของผู้คนที่อยู่รอบ ๆ เฮียเว่ยได้ดื่มไวน์ขวดนั้นไปจนหมดขวด

“อืม” หลี่ฝางยกแก้วขึ้นเล็กน้อยเป็นสัญญาณ แม้แต่ดื่มเป็นสัญลักษณ์สักนิดก็ไม่มี

และการเปรียบเทียบเช่นนี้ ทำให้ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นตะลึงงันไปทันที

นี่คือเฮียเว่ยเชียวนะ!

คิดไม่ถึงว่าเขาจะออกตัวดื่มให้กับคนคนหนึ่ง แถมยังดื่มหมดไปทั้งขวด สุดท้ายแล้วไอ้หนุ่มที่อยู่ตรงข้ามกลับไม่แตะเลยสักนิด?

ทุกคนสงสัยแม้กระทั่งว่าได้เกิดภาพหลอนขึ้นตรงหน้าของตัวเอง

เว่ยหุยในเวลานี้ก็งงงวยไม่อยากจะเชื่อสายตา สามารถทำให้พี่ชายของตัวเองปฏิบัติด้วยด้วยความเคารพนับถือเช่นนี้ จะต้องเป็นคนที่เก่งกาจกว่าพี่ชายของตัวเองอีกมากแน่นอน

ไม่อย่างนั้นล่ะก็ ต่อให้เป็นเพื่อนในระดับเดียวกัน ก็ไม่มีทางที่จะทำให้เฮียเว่ยเอาอกเอาใจเช่นนี้

เว่ยหุยคิดแล้วคิดอีก ยังคงรู้สึกว่ากลืนความโกรธนั้นไม่ลง จมูกที่เจ็บปวดนั้นทำให้เขาทนไม่ได้จริง ๆ เขากล่าวขึ้นมาเสียงต่ำ: “พี่ใหญ่……”

แต่ทว่าเขาพึ่งจะส่งเสียงออกมา ก็ถูกเฮียเว่ยหยุดเอาไว้ทันที

“แผลบนหน้าของนายน่ะไปหาที่ทำแผลเอาเอง อย่ามารบกวนฉันคุยกับคุณหลี่”

บังเอิญพบกับหลี่ฝาง ทำให้เขาไม่มีอารมณ์จะไปสนใจเรื่องอื่นแล้ว

นี่เป็นถึงปรมาจารย์กำลังภายในที่มีชื่อเสียงโด่งดังเชียวนะ!

“ไม่ต้องรีบ ให้น้องชายนายพูดให้จบก่อน” หลี่ฝางมองไปที่เว่ยหุยพลางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่

หัวใจของเว่ยหุยนั้นพลันเต้นเสียงดัง “ตึกตัก” ขึ้นมา

“แกทำเหี้ยอะไรอีกแล้ววะ!” เมื่อเฮียเว่ยได้ยินน้ำเสียงของหลี่ฝางก็รู้ทันทีว่าจะต้องแย่แน่ จึงหันหลังกลับไปถลึงตาใส่เว่ยหุย

“พี่! เป็นเขาที่ต่อยผม!” เว่ยหุยกล่าวด้วยท่าทางน้อยใจ: “ผมบอกกับเขาว่าผมเป็นน้องชายของพี่ กลับบอกว่าเฮียเว่ยจะประสาอะไร เขาบีบให้ตายได้ในนิ้วมือเดียว!”

หลี่ฝางได้ยินดังนั้นแทบอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา ความสามารถในการบิดเบือนข้อเท็จจริงของไอ้หมอนั่นไม่เลวเลยจริง ๆ

ส่วนเฮียเว่ยเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็หน้าดำหน้าแดงขึ้นมา เว่ยหุยไม่เคยเห็นพี่ชายของตัวเองหน้าดำหน้าแดงแบบนี้มาก่อนเลย

เว่ยหุยรู้สึกดีใจขึ้นมาภายในใจ นึกว่าในที่สุดพี่ชายของตัวเองก็ได้โมโหขึ้นมาแล้ว ตอนที่เขากำลังจะเอ่ยปากพูดนั่นเอง จู่ ๆ เท้าของเฮียเว่ยก็ได้ถีบเข้ามา จนเว่ยหุยต้องลงไปกองกับพื้น

เว่ยหุยเอ๋ออยู่กับที่

“ไอ้โง่เอ๊ย! แกหาเรื่องใครไม่หาเรื่องกลับไปหาเรื่องคุณหลี่!” เฮียเว่ยโกรธจัดจนระเบิดออกมา เขายกแขนขึ้นและฟาดลงไปบนใบหน้าของเว่ยหุยอย่างเต็มแรง

บีบเขาให้ตายด้วยนิ้วมือเดียวงั้นเหรอ?

ยังไม่ต้องพูดถึงหรอกว่าคำพูดนี้นั้นเป็นเว่ยหุยแต่งขึ้นมาเองหรือเปล่า หรือต่อให้ไม่ใช่……หลี่ฝางก็สามารถทำตามที่เขาพูดได้จริง ๆ!

เขายังไม่อยากตายเร็วแบบนี้หรอกนะ!

เว่ยหุยใช้มือกุมใบหน้าที่แสบร้อนเอาไว้ บนใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

เขาคิดไม่ถึงว่าพี่ชายแท้ ๆ ของตัวเองจะตีเขา

“แกมองเหี้ยอะไร ยังไม่รีบขอโทษคุณชายหลี่อีก!” เฮียเว่ยตวาดอย่างโมโห

เว่ยหุยเองก็โมโห และตะโกนขึ้นมา: “พี่ เขาต่อยผมนะ ทำไมผมต้องขอโทษเขาด้วย!”

เมื่อได้ยินคำพูดประโยคนี้ เฮียเว่ยยิ่งโมโหขึ้นไปอีก เขาเดินเข้าไปแล้วตบลงไปอีกครั้ง และกดศีรษะของเว่ยหุยลงพลางกล่าว: “ฉันให้แกโขกหัวขอโทษคุณหลี่ แกไม่ได้ยินหรือไง?”

ศีรษะของเว่ยหุยถูกเฮียเว่ยกดบังคับให้โขกศีรษะลงไป ทันใดนั้นน้ำตาแห่งความอัปยศก็หลั่งไหลออกมาจากดวงตาของเขา

เขาไม่เข้าใจว่าทำไมพี่ชายของตัวเองถึงทำแบบนี้ แต่เขาก็ไม่กล้าขัดคำสั่งของพี่ชายตัวเอง

ยิ่งไปกว่านั้น เขาดูออกว่าพี่ชายของตัวเองกลัวชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าคนนี้มาก ไม่อย่างนั้นล่ะก็ คงไม่จำเป็นที่จะทำแบบนี้เลย

หลี่ฝางมองดูภาพตรงหน้านี้ด้วยรอยยิ้มที่ไม่สามารถอธิบายได้ จนกระทั่งศีรษะของเว่ยหุยได้กระแทกลงไปบนพื้น ถูกเฮียเว่ยบีบกดเอาไว้จนเงยหัวไม่ขึ้น เขาถึงได้เอ่ยขึ้นมาอย่างเรียบ ๆ : “เอาละ จบแค่นี้เถอะ นายเองก็พอได้แล้ว”

“ขอบคุณคุณหลี่มากครับ” เฮียเว่ยพลันรู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก และโบกมือให้กับพวกคนที่อยู่ด้านหลัง: “รีบลากไอ้ไม่ได้เรื่องนี่ออกไป อย่าให้มันขายหน้าอยู่ที่นี่!”

อันที่จริง การกระทำเช่นนี้ของเขาทั้งหมดก็เพื่อปกป้องน้องชายของตัวเอง

ก็เพราะว่าเขารู้ฐานะของหลี่ฝาง ดังนั้นเขาจึงรู้ว่า ถ้าวันนี้ตัวเองไม่ยอมอ่อนข้อ งั้นพวกสองพี่น้องเกรงว่าคงจะไม่ได้เห็นแม้แต่ดวงอาทิตย์ในวันพรุ่งนี้

ยอดฝีมือกำลังภายใน จะต้องมีความสามารถถึงขั้นนี้แน่นอน!

และสำหรับหลี่ฝางแล้ว ถ้าหากไม่ใช่การแสดงละครแผนทรมานร่างกายของเฮียเว่ย จุดจบของเว่ยหุยในวันนี้จะต้องไม่สวยแน่

แต่ว่าในเมื่อเฮียเว่ยเคารพนบนอบเช่นนี้ ไฟโมโหในใจของหลี่ฝางก็ได้มอดดับไปแล้ว

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท