NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1043 สถานภาพของหลี่ฝาง

บทที่ 1043 สถานภาพของหลี่ฝาง

“ใครอนุญาตให้คุณลาออก!” หยางฉงเอ่ยปากพูดด้วยเสียงดุดัน “ฉันเป็นคนสั่งให้เขาทำร้ายหลิวเห้าปอเอง มีอะไรก็มาลงที่ฉันนี่!”

“ลูกสาวของบ้านตระกูลหยาง เก่งกาจมาก! เก่งกาจจริงๆ!” พ่อหลิวโกรธจนไม่ไหวแล้ว ตะโกนเรียกออกไปว่า “ยอมรักษาความปลอดภัยล่ะ! ไปตายที่ไหนกันหมดแล้ว? ยังไม่รีบไสหัวออกมาจับไอ้อันธพาลที่ทำร้ายคนนี้ไปเดี๋ยวนี้!”

พ่อหยางก็เดินออกมาจากฝูงชน แล้วพูดว่า “เจ้าหลิว คุณใจเย็นๆก่อนนะ ในนี่อาจจะมีอะไรที่เข้าใจผิดก็ได้ ฉันขอไปสืบดูให้แน่ชัดก่อน แล้วจะให้เสี่ยวฉงไปขอโทษเห้าปอทีหลัง คุณว่าดีไหมล่ะ?”

“ได้ ฉันก็เห็นแก่หน้าคุณหรอกนะ” พ่อหลิวก็สงบนิ่งไปสักครู่ แล้วพูดอย่างดุดันว่า “รีบจัดการให้เห้าปอแต่งงานกับเสี่ยวฉงให้เร็วที่สุด! ยังมีไอ้เด็กเวรที่ทำร้ายคนคนนั้น ฉันจะ จัดการกับเขาให้สาสมเลยทีเดียว!”

“ไม่มีปัญหา” พ่อหยางก็มองดูหลี่ฝาง ตอบตกลงอย่างไม่ลังเลแม้แต่นิดเดียว

ถึงแม้หลี่ฝางจะร้ายกาจมากก็จริง แต่ว่าพ่อหยางก็ยังเคยเห็นที่ร้ายกาจมากกว่านี้มาแล้ว แน่นอนที่จะต้องจำหน่ายหลี่ฝางออกไป

“มีสิทธิ์อะไร! ฉันไม่ตกลง!” หยางฉงตะคอกด้วยความโมโห “พ่ออย่าคิดจะมากำหนดชีวิตการแต่งงานของฉันเลย!”

“ที่นี่แกไม่มีสิทธิ์ที่จะพูดอะไรทั้งนั้น! ไสหัวกลับบ้านไปเลย!” พ่อหยางพูดกับหยางฉง ด้วยความโมโห “แล้วต่อจากนี้แกก็อยู่แต่ในบ้านห้ามออกไปไหนทั้งนั้น รอหลังจากงานหมั่นเสร็จแล้วค่อยไปบริษัท!”

“พ่ออย่าหวังเลย!”

ในขณะนี้เอง ก็ดึงดูดความสนใจกลุ่มคนพวกนักธุรกิจชาวต่างชาติเข้ามาด้วย

นักธุรกิจชาวต่างชาติพวกนั้นก็เดินเข้ามาแล้ว คนที่ชื่อโฮ่เอ่อคนนั้น พอมาถึงก็สบตากับหลี่ฝางพอดี ทำให้เขาตกใจจนเขาอ่อนทันที

หลี่ฝางก็รู้สึกแปลกใจขึ้นมาทันที ดูเหมือนว่าชาวต่างชาติคนนี้รู้สึกกลัวเขามาก หรือว่าเขาเคยรู้จักตัวเองมาก่อน?

“มานี่สิ!” หลี่ฝางชี้ไปยัง โฮ่เอ่อแล้วตะโกนเรียก

เมื่อเห็นหลี่ฝางที่เงียบเฉยมาตลอดกลับอาละวาดขึ้นมาอย่างกะทันหัน สายตาทุกคนก็จ้องมองไปตามทิศทางที่หลี่ฝางชี้ไป ก็เห็นว่าโฮ่เอ่อเดินออกมาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม

“คุณหลี่ครับ สวัสดีครับ”

“คุณจำฉันได้เหรอ?” มองดูสีหน้าของโฮ่เอ่อที่หวังประจบเอาใจ หลี่ฝางก็ยิ่งรู้สึกประหลาดใจมากขึ้น

“อยู่ อยู่บ้านตระกูลชิวได้รับเกียรติไปชื่นชมท่าทางอันองอาจสง่างามของท่านหลี่ ฮ่าๆ……” โฮ่เอ่อหัวเราะแห้งๆ ในใจก็ยิ่งตื่นเต้นจนบอกไม่ถูก

คนอื่นไม่รู้ แต่เขารู้ดีว่าผู้ชายคนนี้ที่อยู่ตรงหน้ามันช่างน่ากลัวขนาดไหน!

นั่นเป็นคนที่พอพูดไม่ถูกใจก็จะทำร้ายชีวิตคนทั้งหมดที่อยู่ในเหตุการณ์ได้เลยล่ะ!

ตอนนั้นกลุ่มนักธุรกิจของพวกเขาก็ได้ร่วมมือกับตระกูลชิวด้วย ตระกูลชิวจัดงานศึกชิงจ้าวยุทธภพขึ้น ก็ได้เชิญพวกเขาไปร่วมสังเกตการณ์ด้วย

เดิมทีก็แค่อยากจะโชว์ฝีมือของตัวเองเท่านั้น จะได้แสดงฐานะที่มั่นคงของตัวเองมากขึ้นในการร่วมมือทำธุรกิจด้วยกัน คิดไม่ถึงว่าหลี่ฝางกลับโผล่ออกมาอย่างกะทันหัน ทำให้ตระกูลชิวต้องพ่ายแพ้อย่างราบคาบ

ความน่าสะพรึงกลัวของหลี่ฝางในวันนั้น มันฝังลึกอยู่ในใจไม่รู้ลืมของโฮ่เอ่อเลยทีเดียว

เมื่อเห็นโฮ่เอ่อแสดงความนอบน้อมต่อหลี่ฝางเช่นนี้ ผู้คนที่อยู่รอบๆบริเวณนั้นก็ตกใจจนอ้าปากค้าง

การจัดงานเลี้ยงครั้งนี้เดิมทีต้องการจัดขึ้นก็เพื่อจะได้เจรจาธุรกิจร่วมกับนักธุรกิจชาวต่างชาติกลุ่มนี้ โฮ่เอ่อก็เป็นผู้นำกลุ่มนักธุรกิจชาวต่างชาติกลุ่มนี้ด้วย เป็นคนที่ใครๆก็อยากจะเข้าไปเสนอหน้าเอาใจทั้งนั้น

แต่ตอนนี้โฮ่เอ่อกลับแสดงท่าทีที่นอบน้อมต่อหลี่ฝางเช่นนี้…….”

แล้วสถานภาพของหลี่ฝางจะเป็นอะไรได้ล่ะ? ผู้คนที่อยู่รอบๆก็ไม่กล้าแม้แต่จะคิด

หยางฉงยืนมองดูเรื่องทั้งหมดด้วยความมึนงง ดูเหมือนว่าตอนนี้ยังไม่ได้สติกลับคืนมาจากฉากที่ได้เห็นเมื่อครู่นี้

หลิวเห้าปอที่อยู่ข้างๆก็ยิ่งหน้ามืดตาลาย อยากจะรีบสลบให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย จะได้ไม่ต้องเผชิญหน้ากับเรื่องทั้งหมดที่อาจจะเกิดขึ้นตามมา

พ่อหลิวและพ่อหยางทั้งสองคนก็ยิ่งไม่กล้าพูดอะไรอีกเลย มองดูหลี่ฝางด้วยสีหน้าที่เหลือเชื่อ ราวกับว่าตอนนี้ตัวเองยังอยู่ในโลกแห่งจินตนาการ

ในที่สุด พ่อหยางก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า “คุณโฮ่เอ่อคุณรู้จักกับ……..คุณหลี่ท่านนี้เหรอ?”

“พวกคุณถึงกับไม่รู้จักคุณหลี่เลยเหรอ?” โฮ่เอ่อกลับแสดงท่าทีที่เซอร์ไพรส์อย่างมาก ดูเหมือนว่าถ้าไม่รู้จักหลี่ฝางจะเป็นปัญหาที่รุนแรงเลยทีเดียว

“คุณหลี่เป็นถึงสุดยอดปรมาจารย์กำลังภายในของประเทศจีนพวกคุณเลยนะ!”

เพื่อพูดเอาใจหลี่ฝาง เขาจงใจที่พูดเน้นคำว่า “สุดยอดปรมาจารย์กำลังภายใน” ตำแหน่งนี้ออกมา

ในเวลานี้เอง ในที่สุดฝูงชนที่มุงดูก็มีคนตะโกนออกมาว่า “เขาคือหลี่ฝาง ปรมาจารย์ กำลังภายในที่มีอายุน้อยที่สุดหลี่ฝาง!”

ปรมาจารย์กำลังภายใน!

คำคำนี้ ทำให้ทุกคนที่นั่นต่างสงบเงียบลงอีกครั้งหนึ่ง

ปรมาจารย์กำลังภายในหมายความว่าอย่างไร ส่วนใหญ่คนธรรมดาทั่วไปอาจจะไม่รู้จัก แต่ว่าในสังคมคนชั้นสูงพวกนี้แล้ว อย่างน้อยก็พอรู้มาบ้างไม่มากก็น้อย

ส่วนพ่อหยางก็รู้สถานภาพของหลี่ฝางแล้ว มองดูลูกสาวตัวเองและหลี่ฝางด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปทันที

จากก่อนหน้าที่เต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยามโกรธเคือง กลายเป็นชื่นชมยินดีและ เอาอกเอาใจ

เขารู้สึกว่าในที่สุดลูกสาวตัวเองก็ทำถูกต้องแล้วครั้งนี้ ขอเพียงสามารถที่จะดึงหลี่ฝางเข้ามาอยู่ในสนามรบร่วมกับตระกูลหยางได้แล้วละก็ งั้นอำนาจบารมีของตระกูลหยางก็จะพลอยฟ้าพลอยฝนยิ่งใหญ่มากขึ้นไปด้วย!

แค่ตระกูลหลิวเล็กๆตระกูลเดียวจะมาเทียบอะไรได้?

หยางฉงตอนนี้ไม่มีความรู้สึกอะไรเลยกับสายตาที่ชื่นชมของพ่อเธอ เพราะว่าเธอตอนนี้ยังไม่ได้สติกลับคืนมาเลย

ก็เหมือนกับว่าขณะที่คุณเดินไปตามถนนแล้วเห็นขอทานคนหนึ่งกำลังใจหิวตาย จึงเกิดความสงสารเลี้ยงขอทานคนนั้นกินข้าวมื้อหนึ่ง ต่อมาก็มีคนบอกคุณว่า ขอทานคนนั้น เป็นเศรษฐีอันดับหนึ่งของประเทศยังไงอย่างนั้นเลย

ความรู้สึกของหยางฉงตอนนี้ก็เป็นเช่นนี้

หลี่ฝางตอนนี้ในใจกลับคิดว่า : ดูหน้าตาท่าทางของคนพวกนี้แล้ว ฐานะของฉันน่าจะสูงส่งมาก งั้นเรื่องนี้น่าจะแก้ไขได้อย่างง่ายดายแล้วล่ะ!

ท่ามกลางความเงียบสงบนั้น ในห้องโถงใหญ่ข้างนอกก็มีตำรวจกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามา คนที่เดินนำหน้าตะโกนถามว่า “ใครโทรศัพท์ไปแจ้งความ?”

“ผมเอง……” นักธุรกิจที่เป็นเจ้าภาพจัดการเลี้ยงครั้งนี้ก็เดินออกมา พูดด้วยสีหน้ารอยยิ้มเจื่อนๆ

อย่างน้อยเขาก็เป็นคนโทรศัพท์ไป ต่อให้ไม่อยากจะออกหน้า แต่เขาก็ต้องฝืนทนเดินออกมาเพื่ออธิบายสถานการณ์ให้ชัดเจน

เมื่อหัวหน้าคณะตำรวจได้ฟังการบอกเล่าของนักธุรกิจแล้ว มองไปยังบรรยากาศในห้องโถงก็รู้สึกแปลกประหลาดบ้างเล็กน้อย

คนที่นี่ดูแล้วไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นคนที่ถูกทำร้ายหรือเป็นคนที่ทำร้ายคนอื่นดูจากสถานภาพแล้วล้วนไม่ใช่ย่อยเลย หัวหน้าคณะก็ได้แต่จัดการอย่างระมัดระวัง เตรียมที่จะให้คนที่เกี่ยวข้องกลับไปให้ปากคำ

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน