NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1049 แผนกรักษาความปลอดภัยเหรอ?

บทที่ 1049 แผนกรักษาความปลอดภัยเหรอ?

ภายในถ้ำลึกลับแห่งหนึ่ง

ส้าวส้วยนั่งขัดสมาธิอย่างเงียบๆอยู่บนแผ่นหินสีเขียวก้อนหนึ่ง ร่างกายทั้งตัวไม่มีแม้แต่กลิ่นอายอะไรออกมาเลย หนำซ้ำยังไม่มีทั้งลมหายใจ เสียงหัวใจเต้นเลยแม้แต่นิดเดียว ถ้าหากไม่สังเกตให้ดีแล้ว ก็จะทำให้คิดว่าร่างกายท่อนล่างของเขาหลอมเป็นหนึ่งเดียวกับก้อนหินนั้นไปแล้ว

มีนกน้อยตัวหนึ่งบินอยู่บนท้องฟ้ารู้สึกเหนื่อยล้าแล้ว จึงโผลบินเข้ามายืนเกาะอยู่บนตัวของส้าวส้วย คงคิดว่าเขาเป็นหินก้อนหนึ่ง เตรียมที่จะพักผ่อนสักประเดี๋ยว

ในขณะนี้เอง ส้าวส้วยก็ลืมตาขึ้นมาทันที

“มาแล้ว!”

ส้าวส้วยหัวเราะเสียงดัง ดีดตัวกระโดดขึ้นมา

“รอคุณมานานแล้วล่ะ คุณตงฟาง!”

ในขณะที่สถานการณ์คลื่นใต้น้ำกำลังโหมกระหน่ำซัดสาดอยู่นั้น หลี่ฝางตอนนี้กลับไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรเกี่ยวกับพวกนี้เลยแม้แต่นิดเดียว

บริษัทของหยางฉงมีแผนกรักษาความปลอดภัยที่แยกออกมาโดยเฉพาะ อยู่ชั้นใต้ดินภายในตึกอาคาร กว้างขวางใหญ่โตมากแล้ว และยังซื้อเครื่องออกกำลังกายมากมายหลายชนิดไว้ที่นั่นสำหรับให้บริการพนักงานพวกนั้นอีกด้วย

ยามรักษาความปลอดภัยที่นี่ไม่เพียงแต่เฝ้ายามอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังเป็นคนที่มีความสามารถอย่างแท้จริง เป็นคนที่มีทักษะในการต่อสู้ มิหนำซ้ำยังมีพวกที่เป็นทหารปลดประจำการร่วมอยู่แล้ว

วันนี้แผนกรักษาความปลอดภัยรู้สึกผิดปกติไปบ้าง ทุกคนต่างมารวมตัวอยู่ที่ห้องพักผ่อนกันหมด ดูเหมือนว่ากำลังเปิดประชุมอะไรกันอยู่ แต่กลับดูเหมือนมีแต่ความเงียบสงบและแรงกดดัน

“ฉันไม่ยอม!” ในที่สุด ก็มีชายรูปร่างสูงใหญ่บึกบึนยืนขึ้นมาตะโกนด้วยความโกรธว่า “นอกจากพี่หลงแล้ว ยังมีใครเหมาะที่จะเป็นหัวหน้าพวกเราได้อีกวะ?”

“ถูกต้อง! คนอื่นฉันไม่ยอมรับหรอก!” ชายร่างกำยำอีกคนหนึ่งก็พูดตะโกนตามออกมาว่า “ใช้วิธีเล่นเส้นสายอะไรกันแล้วยัดเข้ามาในแผนกรักษาความปลอดภัยของพวกเรา ใครมาก็อยู่ไม่ได้ทั้งนั้น!”

“ใช่ พี่หลง ตำแหน่งของพี่ถูกคนอื่นแยกไปแล้ว พวกเราจะต้องประท้วงหยุดงานเลย!”

ทุกคนต่างทยอยกันปลุกระดมโห่ร้อง

ผู้ชายเงียบขรึมที่ยืนอยู่ตรงกลางคนนั้น มีชื่อว่าส้งหลง เป็นหัวหน้าแผนกรักษาความปลอดภัยของบริษัท แต่ว่าวันนี้เบื้องบนสั่งปลดเขาออกจากตำแหน่งหัวหน้าอย่างไม่รู้สาเหตุ แล้วให้ไอ้เบื๊อกที่ไม่เคยเห็นหน้าค่าตาเลยมาเป็นหัวหน้าแผนกรักษาความปลอดภัยแทน

ส้งหลงที่ได้ทำงานให้กับบริษัทอย่างขยันขันแข็งมาเป็นเวลาสามปีกว่าแล้ว ก็ย่อมไม่พอใจเป็นธรรมดา

ด้วยความสามารถของเขาแล้ว ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าเมื่อก่อนมีภัยตระกูลหยางเคยช่วยเหลือเขาไว้ เขาก็คงไม่มาเป็นหัวหน้าแผนกรักษาความปลอดภัยอะไรอยู่ที่นี่ให้เสื่อมเสียเกียรติเช่นนี้

แล้วตอนนี้เบื้องบนก็ยังสั่งปลดแม้แต่ตำแหน่งหัวหน้าแผนกรักษาความปลอดภัยของเขาไปอีกเหรอ?

“อีกประเดี๋ยวถ้าไอ้หมอนั่นแล้ว พวกเราก็ไม่ต้องไว้หน้าเขาเลย!” มีคนตะโกนพูดขึ้น

“ถูกต้อง! เดี๋ยวพวกเราจะให้ไอ้หมอนั่นลองลิ้มรสความร้ายกาจของพวกเราบ้าง ถ้าเขาไม่สามารถสู้กับพวกเราได้แล้วละก็ ให้เขาไสหัวออกไปได้เลย!”

อีกคนหนึ่งก็เสนอความเห็นขึ้นมา ก็ได้รับการเห็นด้วยจากทุกคนทันที

แผนกรักษาความปลอดภัยทางนี้ไม่สนใจเล่นตุกติกอย่างอื่น ยึดหลักที่ว่าใครมีความเก่งกาจสามารถก็ยอมรับนับถือคนนั้น ส่วนส้งหลงนั้นก็เป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาพวกเขา ดังนั้นทุกคนต่างก็เลื่อมใสศรัทธาในตัวส้งหลง

ดังนั้นเมื่อได้ยินว่ามีคนที่ใช้เส้นสายเข้ามาแย่งชิงตำแหน่งของหัวหน้าแผนกรักษาความปลอดภัย คนกลุ่มนี้ก็ย่อมต้องไม่พอใจเป็นธรรมดา

“ดี” ส้งหลงครุ่นคิดอย่างถี่ถ้วนสักครู่ พยักหน้าแล้วพูดด้วยเสียงต่ำว่า “ฉันก็อยากดูเหมือนกันว่าไอ้หมอนั่นมันเก่งกาจมาจากไหนกัน!”

……

หลังจากเมื่อวานไปเดินช็อปปิ้งเป็นเพื่อนหวางซีเหยาแล้ว วันนี้หลี่ฝางก็มาทำงานที่บริษัทตามปกติ

เมื่อมาถึงชั้นบน โจวเสว่เลขาสาวที่เคยเห็นหน้าคนนั้นก็เดินเข้ามาหา

“หลี่ฝาง คุณมาแล้ว” โจวเสว่ก็เดินเข้ามาหาเขาอย่างเป็นกันเอง

“สวัสดีค่ะ”

หลี่ฝางยิ้มให้แล้วพยักหน้า ถือเป็นการทักทายเธอ

“หลี่ฝาง เอกสารการลงทะเบียนเข้าทำงานของคุณฉันทำให้เสร็จแล้วนะ คุณลองตรวจดูแฟ้มประวัติข้อมูลของคุณ ถ้าไม่มีปัญหาอะไรละก็ ฉันก็จะบันทึกเก็บไว้แล้ว”

หลังจากที่โจวเสว่พูดกับหลี่ฝางแล้ว ก็ยื่นซองเอกสารใบหนึ่งให้กับหลี่ฝาง

“ไม่ต้องดูหรอก” หลี่ฝางยิ้มแล้วโบกมือให้

เขาก็แค่ขับรถให้กับหยางฉงเท่านั้น อีกอย่างก็ยังไม่รู้ว่าจะทำถึงเมื่อไหร่ การบันทึกข้อมูลพวกนี้ก็คงไม่มีความหมายอะไร

แต่ว่าเมื่อไตร่ตรองดูแล้วโจวเสว่คนพวกนี้ไม่ได้รู้จักฐานะของหลี่ฝาง การที่เธอบันทึกข้อมูลของหลี่ฝางก็เป็นงานในหน้าที่ของเธออยู่แล้ว หลี่ฝางจึงไม่ได้พูดอะไรมาก

“หลี่ฝางงั้นคุณตามฉันมา ฉันจะพาคุณไปดูที่แผนกรักษาความปลอดภัย” โจวเสว่พูดด้วยรอยยิ้ม

เมื่อคราวที่แล้วหยางฉงพาหลี่ฝางขึ้นมาที่บริษัท โจวเสว่รู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ฐานะไม่ธรรมดา หลังจากที่เธอได้แอบสืบมาแล้ว แน่ใจว่าหลี่ฝางไม่ใช่คนขับรถธรรมดาทั่วไปคนหนึ่งเท่านั้นจริงๆ

ดังนั้นในสมองของโจวเสว่ก็จินตนาการเรื่องราวขึ้นมาเอง รู้สึกว่าหลี่ฝางอาจจะเป็นญาติห่างๆของหยางฉงก็ได้ ที่มาขอพักพิงอาศัยหยางฉง เพียงแต่ว่าไม่มีความสามารถในด้านการบริหาร ดังนั้นหยางฉงจึงจัดการให้เป็นคนขับรถแทน

ด้วยเหตุนี้เอง หัวสมองอันน้อยนิดของโจวเสว่ก็บิดเบือนความจริงร้อยแปดพันเก้าตลบ จึงวางตำแหน่งให้หลี่ฝางไปเป็นหัวหน้าแผนกรักษาความปลอดภัยคนหนึ่ง

อย่างน้อยตำแหน่งหัวหน้าแผนกรักษาความปลอดภัยนี้ ก็ไม่ต้องทำอะไรมากมายเป็นพิเศษ ก็ได้รับเงินเดือนเพิ่มขึ้นแล้ว ก็ถือว่าเป็นตำแหน่งที่ไม่เลวเลยทีเดียว

แต่ว่าคำพูดนี้กลับทำให้หลี่ฝางตกตะลึง “แผนกรักษาความปลอดภัยเหรอ?”

“ถูกต้อง หัวหน้าแผนกรักษาความปลอดภัย คุณไม่ต้องทำอะไรมากมายหรอก เพียงแค่คุณมีเวลาว่างก็มาตรวจดูรอบๆก็ได้แล้ว! เป็นไงล่ะ?” โจวเสว่รู้สึกละอายใจเล็กน้อย

เรื่องเล่นเส้นสายแบบนี้ ถึงกับต้องให้พูดชัดเจนขนาดนั้นเชียวเหรอ?

“ก็ได้!”

หลี่ฝางส่ายหน้า ยังคิดว่าหยางฉงเป็นคนจัดการให้ เขาจึงไม่ไปสักถามอีก

การเข้าใจผิดที่สวยงามเช่นนี้ก็ได้เกิดขึ้นมาด้วยสาเหตุเช่นนี้เอง

ในไม่ช้า โจวเสว่ก็พาหลี่ฝางมาที่แผนกรักษาความปลอดภัย เพียงแต่ยังไม่ทันเข้าไปใกล้เลย ทั้งสองคนก็เห็นพวกยามรักษาความปลอดภัยกลุ่มหนึ่งยืนขวางอยู่ตรงหน้าประตูด้วยท่าทางที่ดุดัน

โจวเสว่เห็นคนพวกนี้แล้วก็เข้าใจว่าพวกเขาต้องการทำอะไร จึงรีบตะคอกใส่ว่า “พวกแกคิดจะทำอะไรกันเหรอ? นี่คือหัวหน้าแผนกรักษาความปลอดภัยคนใหม่ของพวกแก หลี่ฝาง!”

“หัวหน้าแผนกรักษาความปลอดภัยเหรอ? ฮ่าๆๆ พวกเราที่นี่ก็มีหัวหน้าแผนกรักษาความปลอดภัยเพียงคนเดียวเท่านั้นก็คือ ส้งหลง!”

ทุกคนต่างจ้องหน้าหลี่ฝางด้วยสีหน้าที่ดุดัน ไม่ยอมลดละให้แม้แต่นิดเดียว

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน