NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1058 ไม่เสแสร้งแล้ว ฉันจะบอกความจริงก็ได้

บทที่ 1058 ไม่เสแสร้งแล้ว ฉันจะบอกความจริงก็ได้

ท่าทางน่าสังเวชของเว่ยหุย ทำให้ลูกน้องของเฮียเว่ยอดที่จะสงสารไม่ได้ แต่พวกเขาไม่กล้าที่จะพูดอะไร และยิ่งไม่กล้าขอร้องอ้อนวอนแทนเว่ยหุย

วันนั้นหลังจากที่เฮียเว่ยกลับมาจากงานเลี้ยงค็อกเทล ก็ได้คุยโวเรื่องที่ได้เจอหลี่ฝางกับพวกลูกน้องอยู่บ่อยครั้ง ท่าทางเคารพนับถือในระหว่างที่กล่าวนั้น ทำให้พวกลูกน้องเข้าใจอย่างลึกซึ้งว่าเฮียเว่ยมีท่าทียังไง

“เอาละ จบแค่นี้แล้วกัน ต่อไปก็อบรมสั่งสอนน้องชายของนายให้ดี อย่าให้เขาก่อเรื่องตามอำเภอใจอีก ฉันไปก่อนล่ะ” หลี่ฝางกล่าวจบ ก็หมุนตัวเดินออกไปจากผับ

ในเมื่อแก้ปัญหาเสร็จแล้ว งั้นเขาก็ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาอยู่ที่นี่อีกต่อไป

หลังจากที่หลี่ฝางออกจากผับไป ในที่สุดเฮียเว่ยก็ผ่อนคลายลง และรีบเข้าไปพยุงเว่ยหุย เห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยเลือดของเขาก็อดที่จะสงสารไม่ได้

เฮียเว่ยกล่าวแนะนำสั่งสอนขึ้นมา: “นายอย่าโทษพี่เลย ถ้าพี่ไม่ทำแบบนี้ เกรงว่าคืนนี้พวกเราคงต้องจบเห่ทั้งสองคนแน่ คุณหลี่คนนั้น ไม่ใช่คนที่พวกเราจะล่วงเกินได้ นายจำไว้ให้ดี ต่อไปถ้าเจอหลี่เข้า จะต้องแสดงความเคารพนอบน้อมเป็นอย่างมากออกมา เข้าใจไหม?”

เมื่อเว่ยหุยได้ยินพี่ชายของตัวเองพูดแบบนี้ ถึงแม้ยังคงไม่รู้ว่าหลี่ฝางเป็นใครมาจากไหน แต่ก็นับว่าเขาได้รู้ถึงความน่ากลัวของหลี่ฝางแล้ว จึงรีบพยักหน้าทันที

ส่วนจางเฉิงที่แอบดูเรื่องสนุกอยู่ที่มุมห้องในตอนนี้นั้นได้ตะลึงงันไปโดยสิ้นเชิง

นี่ใช่เฮียเว่ยที่ร่ำลือในสังคมสายงานเดียวกันว่าโหดเหี้ยมเลือดเย็นคนนั้น?

จางเฉิงเข้าใจขึ้นมาอย่างเลือนรางแล้วว่า หลี่ฝางเป็นการดำรงอยู่ที่เขาไม่อาจล่วงเกินได้

ในตอนนี้พวกโจวหมิงยังคงรอหลี่ฝางอยู่ที่ด้านนอกอย่างร้อนรน

“ทำยังไงดี พวกเราแจ้งตำรวจดีไหม?”

ทุกคนมองดูเฮียเว่ยพาคนบุกเข้าไปในผับอย่างฮึกเหิมตาเป็นมัน แต่ผ่านไปนานขนาดนี้แล้วก็ยังไม่ออกมา ภายในใจนั้นเป็นกังวลมากจริง ๆ

ทุกคนต่างก็เห็นกับตาว่าเฮียเว่ยได้พาคนเข้าไปกลุ่มใหญ่ แต่ก็ยังไม่เห็นหลี่ฝางออกมาสักที ต่างก็เป็นห่วงสุด ๆ

“หลี่ฝางคงไม่ถูกพวกเขา……” ผู้หญิงคนหนึ่งกล่าวเสียงสั่น

“เป็นไปไม่ได้ เฮียเว่ยเป็นคนระดับไหนกัน เขาไม่มีทางทำเรื่องโง่ ๆ แบบนั้นหรอก” โจวหมิงเอ่ยขึ้นมาทันที

“ผมว่านะ พวกเรารวบรวมเงินกันแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ดีไหม?” หลี่เหวยกล่าวอย่างหน้านิ่วคิ้วขมวด

“คุณคิดว่าจ่ายเงินไปตอนนี้จะมีประโยชน์ไหม? ต่อให้มีประโยชน์ จำนวนเงินที่สามารถจบเรื่องนี้ได้ก็ไม่ใช่ว่าพวกเราจะมีกำลังหามาได้” จางเสว่ส่ายหัวกล่าว

หลังที่รู้ว่าเป็นเฮียลั่วเธอก็รู้ว่าพวกเธอไม่สามารถจัดการเรื่องนี้ได้ ดังนั้นเธอจึงได้โทรหาหยางฉงไปนานแล้ว

จางเสว่คิดว่า ต่อให้อีกฝ่ายเป็นเฮียลั่ว ก็น่าจะเห็นแกหน้าหยางฉงอยู่บ้าง

“งั้นทำยังไงล่ะ?” โจวหมิงต่อยเข้าไปที่เสาไฟที่อยู่ด้านข้างอย่างจัง ในดวงตามีแววตำหนิตัวเองและเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไปผ่านไปแวบหนึ่ง

“ผมนึกออกแล้ว! พี่ส้งของพวกเราเหมือนจะรู้จักกับเฮียเว่ย พวกเราลองถามพี่ส้งดูดีไหม!” ทันใดนั้นหานจื้อเย่ก็พลันเอ่ยขึ้นมา

“ใช่!” ทุกคนดวงตาเป็นประกายขึ้นมา พวกเขาเคยได้ยินเรื่องนี้มาจริง ๆ : “ผมจะถามพี่ส้งตอนนี้เลย!”

โจวหมิงแทบทนรอไม่ไหวที่จะโทรหาส้งหลง แต่ทว่าไม่นาน สีหน้าท่าทางของโจวหมิงก็แปลกประหลาดขึ้นมา

“พี่ส้งว่ายังไงบ้าง?” ทุกคนเอ่ยอย่างร้อนรน

“พี่ส้งบอกว่า……” โจวหมิงอ้าปากขึ้น และกล่าวอย่างน่าเหลือเชื่อ: “พี่ส้งบอกว่าเรื่องนี้พวกเราไม่ต้องยุ่ง พี่หลี่ไม่เป็นอะไรด้วยซ้ำ”

“หา? นี่พี่ส้งหมายความว่ายังไง” หลี่เหวยอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา

“ไม่ต้องยุ่งแล้ว? พี่หลี่ไม่เป็นอะไร? หรือว่าพี่ส้งได้โทรคุยกับเฮียเว่ยแล้ว?” หานจื้อเย่พลันกล่าวคาดเดาขึ้นมา

“ก็ไม่แน่ อาจจะเป็นไปได้!” ทุกคนต่างก็ทยอยกล่าวขึ้นมา

ถึงแม้ปกติแล้วส้งหลงจะไม่ค่อยพูดมาก ดูแล้วเหมือนจะเย็นชาเล็กน้อย แต่ทุกคนต่างก็รู้ว่า ส้งหลงดีกับพวกเขามาก เป็นประเภทภายนอกดูเย็นชาแต่ข้างในอบอุ่น

ในตอนนั้นเอง ก็มีเสียงรอยเท้าดังมาจากด้านหลัง

ทุกคนรีบหันกลับไปดู ก็พบว่าประตูผับได้ถูกผลักเปิดออก หลี่ฝางได้เดินออกมาอย่างช้า ๆ ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

“หรือว่าพี่ส้งได้โทรไปจริง ๆ เห็นผลเร็วขนาดนี้เชียว?” ทุกคนต่างก็พึมพำ

“พี่หลี่ พี่ไม่เป็นอะไรนะ!” โจวหมิงเดินเข้าไปรับอย่างดีอกดีใจ

“พวกนายยังไม่กลับไปอีกเหรอ” หลี่ฝางมองดูคนพวกนั้นและอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา

“พวกเราเตรียมบุกเข้าไปสู้ตายแล้ว จะทิ้งคุณไว้แล้วหนีไปได้ยังไง?” โจวหมิงเดินเข้ามาพลางหัวเราะเอิ๊กอ๊าก อยากจะดูว่าหลี่ฝางได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า

“แค่ก ๆ นายรักษาระยะห่างจากฉันหน่อยได้ไหม? ฉันไม่มีความรู้สึกต่อผู้ชายหรอกนะ” หลี่ฝางรีบขยับหลบ

“พี่หลี่ พี่ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” ทุกคนต่างก็ได้มุงล้อมเข้ามา และแย่งกันเอ่ยถาม: “พี่หลี่ พี่จัดการกับเฮียเว่ยได้ยังไงเหรอ?”

“ไม่มีอะไร ใช้เหตุผลกำราบคนไงล่ะ เฮียเว่ยไม่ใช่คนไร้เหตุผล แค่เล่าเรื่องราวให้เขาเข้าใจก็เรียบร้อยแล้ว” หลี่ฝางกล่าวด้วยรอยยิ้ม

ใช้เหตุผลกำราบคน? ทุกคนต่างก็พูดอะไรไม่ออก

ถ้าเฮียเว่ยเป็นคนมีเหตุผล จำเป็นที่พวกเขาจะต้องเป็นกังวลแบบนี้เหรอ?

เพียงแต่ว่าหลี่ฝางไม่อยากจะพูด พวกเขาเองก็ไม่ถามต่อ

เหตุการณ์ที่เผชิญในคืนนี้ทำให้ทุกคนหมดอารมณ์เที่ยวต่อ จึงแยกย้ายกันกลับไป

แต่หลี่ฝางคิดว่า คืนนี้คนพวกนี้จะต้องคาดเดาเกี่ยวกับตัวตนของเขาไปต่าง ๆ นานาอย่างแน่นอน ไม่แน่ว่าในสมองอาจจะแต่งเรื่องอะไรขึ้นมาก็ได้

เป็นอย่างที่คิดไว้จริง ๆ ในตอนที่หลี่ฝางเดินเข้าสู่ห้องพนักงานรักษาความปลอดภัยในวันถัดมา มองดูสายตาอันแปลกประหลาดเหล่านั้น หลี่ฝางก็รู้ทันทีว่าคนพวกนั้นจะต้องเอ่ยถามเขาแน่

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท