NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1062 ผู้อาวุโสมาเยือนจินซานอีกครั้ง

บทที่ 1062 ผู้อาวุโสมาเยือนจินซานอีกครั้ง

ตอนนี้เจ้ามือได้คว่ำถ้วยเขย่าลูกเต๋าลงไปบนโต๊ะเป็นที่เรียบร้อย ทันใดนั้น ผู้คนที่อยู่รอบโต๊ะต่างก็เริ่มร้องตะโกนขึ้นมา

เสียงตะโกนทำให้ตรงนี้คึกคักเดือดดาลอย่างสุดขีด แม้แต่หลี่เหวยเองก็อดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นตาม

ส่วนนิ่งหรงหรงที่ตามอยู่ด้านหลังของหลี่ฝางนั้นกระวนกระวายมากในเวลานี้ เพราะว่าหลี่ฝางยังไม่ได้มีความเคลื่อนไหวใด ๆ เลย

ถ้าหากช้าไปกว่านี้ จะลงเดิมพันไม่ทันแล้วนะ!

ณ ตอนนี้เธอเพียงได้ยินหลี่ฝางคุยกับคนที่อยู่ด้านข้าง: “นายแทงอะไร?”

“แทงสูง!” หลี่เหวยกล่าวอย่างมั่นอกมั่นใจ: “พี่หลี่ เชื่อผม แทงสูงชนะแน่นอน!”

หลี่เหวยได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้มาบ้าง ดังนั้นจึงมั่นใจเป็นพิเศษ คิดว่าตัวเองอาจจะหาเงินไม่ได้มากมายอะไรจากโต๊ะพนัน แต่จะให้ชนะได้เงินนิดหน่อยก็พอได้อยู่

หลี่ฝางได้ยินดังนั้นกลับเอ่ยขึ้นมาพร้อมรอยยิ้ม: “แทงสูงชนะเงินอยู่ก็จริง แต่ก็ไม่มาก”

กล่าวไป หลี่ฝางก็วางชิปกองเล็ก ๆ ลงไปบนทริปเปิ้ลที่มีสีดำ

“อ๊ะ!” หลี่เหวยตะลึงงัน: “พี่หลี่ พี่แทงทริปเปิ้ลเหรอ?”

“ถ้านายอยากชนะเยอะหน่อย ก็แทงเหมือนกันกับฉัน” หลี่ฝางกล่าวพลางยิ้มอ่อน ๆ

“แต่ว่า……” หลี่เหวยลังเลขึ้นมาทันที

ภายในใจของนิ่งหรงหรงที่ตามอยู่ด้านหลังหลี่ฝางเองก็ลังเลไปครู่หนึ่ง แต่ก็ถูกกวาดล้างด้วยภาพที่หลี่ฝางไม่เคยไม่ชนะไปในทันที เธอสงบสติอารมณ์ และวางชิปทั้งหมดตามหลี่ฝางลงไป

และหลังจากที่หลี่เหวยลังเลอยู่สักพัก จู่ ๆ ก็กัดฟันขึ้นมา และวางชิปของตัวเองลงตามหลี่ฝางไป

“แสวงหาความร่ำรวยในอันตราย ผมแทงเลยแล้วกัน!”

ยังไงซะนี่ก็เป็นเงินของเฮียเว่ย เสียไปเขาก็ไม่เสียดาย

“เปิด!”

ท่ามกลางเสียงโห่ร้องดังกึกก้อง เจ้ามือค่อย ๆ เปิดถ้วยเขย่าลูกเต๋าออก ทันใดนั้น ลูกเต่าสามลูกก็ได้ปรากฏขึ้นต่อสายตาของทุกคน

“หก หก หก ทริปเปิ้ล!”

ตามด้วยเสียงอันไพเราะจากเจ้ามือเจ้ามือสาวสวย ทันใดนั้น ทั่วทั้งโต๊ะพนันก็เดือดดาลขึ้นมา สายตาของทุกคนต่างมองไปที่ตำแหน่งแทงทริปเปิ้ล มีเพียงสามคนที่แทงตรงนั้น

“จ่ายหนึ่งต่อสิบแปด! รวยแล้ว!” หลี่เหวยดวงตาคู่นั้นเบิกกว้าง ตื่นเต้นดีใจจนหัวใจแทบหยุดเต้น

นิ่งหรงหรงกลับไม่ได้เก็บอารมณ์ของตัวเองเอาไว้เลยสักนิด เธอดีใจจนกระโดดขึ้นมา

“ชนะแล้ว! เย้! รวยแล้ว!”

ชนะในครั้งนี้ สำหรับนิ่งหรงหรงแล้วถือว่าได้เงินไปจำนวนมาก สำหรับหลี่เหวยนั้น กลับเหมือนถูกลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่ง ร่ำรวยขึ้นมาแล้ว

ชนะเงินหลายล้านในหนึ่งเกม ทำให้คนใช้แรงงานที่มีเงินเดือนเพียงเดือนละไม่กี่พันหยวนอย่างหลี่เหวยรู้สึกไม่ค่อยจะจริงสักเท่าไหร่

หลี่ฝางยิ้มเล็กน้อย เขาไม่ดูชิปที่เจ้ามือเลื่อนส่งมาเลยสักนิด และออกไปจากโต๊ะพนันโต๊ะนั้นทันที

ในวินาทีที่ถ้วยเขย่าลูกเต๋าของเจ้ามือคว่ำลงไปนั้น เขาก็ได้ยินชัดเจนแล้วว่าลูกเต๋าที่อยู่ที่อยู่ในถ้วยนั้นออกอะไร ทริคเล็ก ๆ เช่นนี้ สำหรับหลี่ฝางแล้ว ไม่มีค่าพอที่จะเอ่ยถึง

แต่สำหรับคนอื่น ๆ นั้น มันน่าเหลือเชื่อจริง ๆ

เฮียเว่ยเดินตามอยู่ที่ด้านหลังของหลี่ฝาง ทำได้เพียงถอดทอนใจอยู่ภายในใจหลายครั้ง

ปรมาจารย์กำลังภายใน น่าเกรงขามขนาดนั้นจริง ๆ หรือ?

เมื่อเห็นหลี่ฝางจากไป นิ่งหรงหรงก็รีบหอบเอากล่องชิปตามขึ้นมาทันที และเอ่ยถามด้วยท่าทางดีอกดีใจ: “เซียนพนัน เกมต่อไปพวกเราเล่นอะไรดี?”

“พอแค่นี้เถอะ แค่เล่น ๆ ก็พอแล้ว อย่างจริงจังกับมันมาก” หลี่ฝางกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“อ่อ……” นิ่งหรงหรงก้มหน้าด้วยความโศกเศร้าเล็กน้อย แต่ว่าไม่นาน เธอก็กลับมาร่าเริงเหมือนเดิม และหันไมกล่าวกับหลี่ฝาง: “เซียนพนัน พวกเราเพิ่มเพื่อนกันนะ ต่อไปจะได้ติดต่อกันบ่อย ๆ !”

หลี่ฝางนั้นยากที่จะปฏิเสธคำร้องขอสาว ๆ ได้อยู่เสมอ ดังนั้นเขาครุ่นคิดอยู่สามวินาที ก็หยิบโทรศัพท์ออกมา

แต่ว่ายังไม่ทันที่เขาจะมีการเคลื่อนไหวอะไร จู่ ๆ หน้าจอโทรศัพท์ก็ได้สว่างขึ้น ข้างบนปรากฏชื่อหลิวฮุยขึ้นมา

หลี่ฝางสงสัยเล็กน้อยว่าทำไมหลิวฮุยถึงได้โทรมา หลังจากที่เอ่ยขอโทษกับนิ่งหรงหรง เขาก็ไปหามุมที่เงียบสงบและกดรับโทรศัพท์

“ฮัลโหล!”

“หลี่ฝาง ผู้อาวุโสมาหานายด้วยตัวเองแล้ว ตอนนี้นายอยู่ที่ไหน?”

หลิวฮุยกล่าวกับหลี่ฝางอย่างรีบร้อน

ผู้อาวุโสมาที่เมืองจินซานเมื่อครั้งที่แล้ว เป็นเขาที่ออกแรงในการจัดการมาตรการรักษาความปลอดภัย คิดไม่ถึงว่าพึ่งผ่านไปไม่กี่วัน ผู้อาวุโสก็ได้กลับมาอีกครั้ง อีกทั้งยังฉุกละหุกเช่นนี้ เป็นธรรมดาที่หลิวฮุยจะรู้สึกประหม่า

“ผู้อาวุโสมาอีกแล้วเหรอ?”

หลี่ฝางตกใจขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ จึงรีบเอ่ยขึ้นมา: “ตอนนี้ผมอยู่ข้างนอก ตอนนี้ผู้อาวุโสอยู่ที่ไหน?”

“ผู้อาวุโสอยู่ที่บ้านของโจวซู นายบอกที่อยู่ฉันมา เดี๋ยวฉันให้คนไปรับนาย” หลิวฮุยกล่าว

“……ก็ดีเหมือนกัน” หลี่ฝางกล่าวและได้บอกตำแหน่งของที่นี่ไป

วางสายโทรศัพท์ไป หลี่ฝางก็รู้อับอายเล็กน้อย เพราะยังไงผู้อาวุโสก็อายุมากขนาดนี้แล้ว มาหาเขาตั้งสองครั้งในเวลาไล่เลี่ยกันแบบนี้ ทำให้เขาค่อนข้างรู้สึกผิดจริง ๆ

แต่ว่าครั้งนี้ผู้อาวุโสได้มาหาเขาด้วยตัวเองอีกครั้ง เกรงว่าคงมีเรื่องสำคัญบางอย่างที่จะบอกกับเขา

“คุณหลี่ เป็นอะไรไปเหรอครับ?” เฮียเว่ยสัมผัสได้ถึงความผิดปกติของหลี่ฝาง จึงถามขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง

“ไม่มีอะไร”

หลี่ฝางไม่ได้กล่าวอะไร เขาเพียงแค่รอให้หลิวฮุยมารับเขาก็พอ

“เจ้าสามเว่ย นายก็อยู่ที่นี่ด้วยเหรอเนี่ย!”

ในตอนนั้นเอง เสียงเสียงหนึ่งก็ได้ดังขึ้น และทำให้เฮียเว่ยหันขวับไปทันที

นั่นเป็นชายวัยกลางคนที่มีอายุสี่สิบกว่า ๆ ท่าทางดูมีวิชาความรู้สุขุมลุ่มลึก แฝงพลังอำนาจอยู่ด้วยเล็กน้อย ดูแล้วค่อนข้างจะไม่ธรรมดา

เมื่อเห็นผู้ชายคนนี้ เฮียเว่ยก็ได้ยิ้มอย่างไม่ค่อยจะเต็มใจ: “เฮียแเฟ่ย ไม่เจอกันนานเลย”

เฮียเว่ยที่แข็งกร้าวมาโดยตลอด ในตอนที่ต้องเผชิญหน้ากับชายที่ชื่อเฮียแเฟ่ยคนนี้ กลับดูค่อนข้างจะเก้ ๆ กัง ๆ

“อยู่ว่าง ๆ ไม่มีอะไรทำ ก็เลยมาเดินเล่นที่นี่” เฮียแเฟ่ยหัวเราะเสียงดัง จากนั้นก็มองไปทางหลี่ฝาง

“คุณหลี่ คิดไม่ถึงว่าคุณจะมาที่นี่ ทำให้ร้านเล็ก ๆ ของผมรู้สึกเป็นเกียรติจริง ๆ เลย!” ทันทีที่พูดออกมาก็ทำให้หลี่ฝางรู้ว่า เขาทราบฐานะที่แท้จริงของหลี่ฝาง

หลี่ฝางพยักหน้าให้กับชายที่ดูสุขุมคนนั้น ไม่ได้ตอบสนองโดยตรง แต่กลับหันๆ ไปถามเฮียเว่ย: “ใครเหรอ?”

ได้ยินดังนั้น เฮียเว่ยก็รู้สึกดีใจขึ้นมา และรีบแนะนำให้กับหลี่ฝางทันที: “เฮียแเฟ่ยเฟ่ยเหวินเย่า เถ้าแก่ใหญ่ของที่นี่!”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท