NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1069 ดูว่าคุณจะเคลียร์อย่างไร

บทที่ 1069 ดูว่าคุณจะเคลียร์อย่างไร

“คุณอาซุน เรื่องนี้มัน……”

หลี่ฝางยังไม่ทันพูดจบ คุณชายโล่ก็ขัดออกมาก่อน

“หุบปาก!”

ซุนกั๋วอันได้ฟังดังนั้นก็ตะโกนเสียงดังขึ้นมา ก่อนจะให้คุณชายโล่หุบปากอย่างเชื่อฟัง

เมื่อเทียบกับตระกูลซุน ตระกูลโล่นั้นไม่ใช่อะไรด้วยซ้ำ ตอนที่เขาเพิ่งจะถูกทำร้ายทำไมซุนกั๋วอันไม่ปรากฏตัว?ทำไมถึงมาในตอนนี้?เพียงแค่คิดว่าถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป คุณชายโล่คงจะทำให้ตระกูลซุนเสียหน้า เพียงเท่านั้น

แต่ซุนกั๋วอันเองก็โมโห เหมือนกับว่าคนไร้ประโยชน์อย่างคุณชายโล่ ถ้าเกิดไม่ใช่ปัญหาของศักดิ์ศรี เขาคงจะตบเข้าฉาดใหญ่ไปนานแล้ว

“คำพูดเมื่อกี้ ฉันไม่อยากพูดอีกรอบ” หลี่ฝางมองซุนกั๋วอันอย่างเย็นชา โดยที่ไม่ได้สนใจคำพูดของเขาเลยแม้แต่น้อย

“ปรมาจารย์หลี่ บนโลกใบนี้ ไม่ใช่ว่ามีอิทธิพลแล้วจะทำอะไรก็ได้ตามใจชอบนะ” ในตอนนั้น ซุนกั๋วอันเองก็เริ่มมีน้ำโหแล้ว

ในฐานะที่เป็นคนของตระกูลซุน เขาเดินไปที่ไหนจะมีใครไม่ไว้หน้าเขาบ้าง?แม้แต่สองตระกูลที่เหลือของสามตระกูลใหญ่ด้านยุทธภพ ยังไม่เคยไม่ไว้หน้าเขาขนาดนี้เลย

แต่เมื่อเผชิญหน้ากับหลี่ฝาง เขาที่เป็นคนของตระกูลซุนและมีไพ่เด็ดกลับเปลี่ยนเป็นขยะชิ้นหนึ่งภายในทันที ก่อนจะถูกหลี่ฝางเหยียบเอาไว้ใต้เท้า

หลี่ฝางเพิ่งมาเป็นหนึ่งในอันดับกำลังภายในไม่กี่ปี คนคนนั้นของตระกูลซุนเป็นอันดับกำลังภายในมานานหลายปีแล้ว ทำไมหลี่ฝางถึงจะไม่ไว้หน้าได้!

หลี่ฝางยิ้มอย่างเยือกเย็น “คุณเป็นตัวอะไรเหรอ ถึงได้มีสิทธิ์มาพูดคำนี้?”

เมื่อพูดอะไรไปแบบนี้ คนที่อยู่บริเวณนั้นก็ฮือฮากันขึ้นมา

“เห็นแบบนี้คือคุยไม่จบแล้วล่ะ ถึงหลี่ฝางจะเป็นอันดับกำลังภายใน ฝีมือของซุนกั๋วอันก็ไม่ใช่น้อยๆ พอดีที่วันนี้ให้พวกเราดู อันดับกำลังภายในจะเก่งกาจมากขนาดไหน”

“เชอะ พวกเราถอยออกมาหน่อยเถอะ เพื่อไม่ให้พวกเขาเจ็บตัว”

“คุณว่าปรมาจารย์อู๋จะลงมือไหม?”

“เขางั้นเหรอ?ทั้งสองฝ่ายไม่ใช่คนที่จะมีเรื่องด้วยได้ เขาจะลงมือได้อย่างไร”

บรรยากาศในตอนนี้ มันทำให้น่าหนักใจกว่าเดิม

ซุนกั๋วอันมองหลี่ฝางด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

เมื่อครู่หลี่ฝางพูด ว่าตัวเองเป็นตัวอะไร?

คำพูดแบบนี้ ทำให้ความโกรธของซุนกั๋วอันนั้นกดเอาไว้ไม่อยู่ เกรงว่าถ้ารู้ว่าอีกฝ่ายเป็นอันดับกำลังภายใน เขาเองก็ไม่อยากยอมอยู่ดี

อันดับกำลังภายในแล้วจะทำไม คนที่เข้าไปในกำลังภายในกลับถูกคนที่ไม่มีกำลังภายในสู้จนแพ้ในประวัติศาสตร์ ก็ไม่ใช่ว่าไม่มี!

สำหรับซุนกั๋วอัน หลี่ฝางนั้นอายุน้อยเกินไป ถึงจะเป็นกำลังภายใน แล้วจะเก่งกาจขนาดไหน?เขาใช้ประสบการณ์ในการฝึกยุทธ์มาหลายสิบปี ไม่แน่ว่าอาจจะได้สั่งสอนชายหนุ่มคนนี้!

ในตอนนั้น พลังในตัวของซุนกั๋วอัน ค่อยๆ ระเบิดออกมา

ขณะนั้นเอง ซุนกั๋วอันก็เริ่มโจมตีหลี่ฝาง

เขานั้นรวดเร็วมาก เพียงไม่นานก็มาคนในบริเวณนั้นก็งงจนตาลาย จากนั้นก็เห็นหมัดของซุนกั๋วอัน ที่ต่อยลงไปบนหน้าของหลี่ฝางอย่างรวดเร็ว

ระยะห่างแบบนั้น มันไม่สามารถหลบได้เลย ซึ่งคนในสถานที่นั้นต่างคิดอยู่

ขณะเดียวกันในใจของทุกคนก็สงสัย ว่าอันดับกำลังภายในนั้น หรือจะเป็นฝีมือนี้?

เป็นไปตามคาดว่าเด็กเกินไป ถึงแม้จะมีฉายาเป็นอันดับกำลังภายใน ก็เท่านั้นไม่ใช่หรือไง!

ในใจของซุนกั๋วอันนั้นมีความพอใจเป็นอย่างมาก ในขณะเดียวกันก็มั่นใจกับสิ่งที่ตัวเองคาดเดาเอาไว้

เป็นไปตามคาด ถึงแม้เขาจะเป็นอันดับกำลังภายใน แต่ก็ยังอายุน้อยเกินไป เทียบกับนักรบที่มีประสบการณ์ด้านการต่อสู้มากมายอย่างเขาไม่ได้เลย!

เมื่อคิดว่าตัวเองสามารถต่อยอันดับกำลังภายในได้ ซุนกั๋วอันก็ยิ่งยิ้มอย่างเย่อหยิ่ง

แต่เพียงไม่นาน รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็นิ่งไป

เพราะเมื่อเขาต่อยออกไป ก็ได้ผ่านตัวของหลี่ฝางในทันที เหมือนกับต่อยจินตภาพไม่มีผิด

ไม่!นี่มันเป็นภาพลวงตา!

คิดว่าเงาในสายตาของคนเหล่านี้ ตอนนี้มันเหมือนจะค่อยๆ หายไปจากสายตาแล้ว

เพียงไม่นาน ซุนกั๋วอันก็ตัวแข็งทื่อ

ความเร็วระดับนี้ เกรงว่าอันดับกำลังภายในของตัวเอง ก็คงจะทำไม่ได้เช่นเดียวกัน

“ไว้ชีวิต……”

ปฏิกิริยาของเขา คือการเปิดปากพูด หวังว่าจะไว้หน้าตระกูลซุน แล้วให้หลี่ฝางไว้ชีวิตเขาไป

แต่เมื่อเขาเพิ่งจะเปิดปากพูด ก็มีแรงกระทบมหาศาลมาระเบิดที่หลังของเขา ก่อนจะทำให้เขากระเด็นไป

“ผ่าง!”

ซุนกั๋วอันชนกับกำแพง ก่อนจะมีเสียงดังออกมา ทันใดนั้นทุกคนก็เพิ่งจะมีสติกลับมา แต่กลับไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น

เพราะเมื่อครู่มันเป็นเวลาเพียงแวบเดียว พวกเขาเลยมองไม่ชัดเจน

“มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

ทุกคนต่างรู้สึกงุนงง พลางมองหลี่ฝางที่ไม่ขยับเลยอย่างอึ้งไป กับซุนกั๋วอันที่ถูกทำร้ายจนทะลุพื้น จนไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

“ไอ้งั่ง!” ปรมาจารย์อู๋หัวเราะเสียงเย็นชา

เขาเป็นคนเดียวที่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามันเกิดอะไรขึ้น และเข้าใจอะไรมากกว่าคนอื่น และสามารถรับรู้ได้ถึงความกลัวของหลี่ฝาง

ในโลกยุทธภพ อันดับกำลังภายในนั้นเป็นสิ่งที่ไม่สามารถเข้าโจมตีได้ การที่จะกล้ามาประลองกับปรมาจารย์นั้น มันเป็นเหมือนการรนหาที่ตาย

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ก็ยิ่งยกย่องการกระทำของตัวเองเมื่อครู่ขึ้นไปอีก ไม่อย่างนั้น คนที่จะกระเด็นออกไปคงจะเป็นเขา

ถึงแม้คนเหล่านั้นจะไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่พวกเขากลับเข้าใจเรื่องเรื่องหนึ่งแล้ว

ก็คือฝีมือของอันดับกำลังภายใน มันมีความแตกต่างกับคนที่ไม่มีกำลังภายในเป็นอย่างมากเหมือนฟ้ากับเหว

ความคิดแบบนี้ ทำให้คนที่อยู่บนจุดสูงของสังคมนั้นยิ่งรู้ฝีมือของอันดับกำลังภายในมากกว่า ในใจก็เคารพเกรงกลัวอันดับกำลังภายในมากกว่าเดิม

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท