NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1084 หลี่ฝางที่ถูกทำให้มึนงง

บทที่ 1084 หลี่ฝางที่ถูกทำให้มึนงง

คำพูดนี้ ทำให้ทุกคนในงานตื่นตะลึงไปใจทันที

สหายแบบไหนกันแน่ ที่คู่ควรกับการดูแลเอาใจใส่ของโทชิโอะ คามิยะขนาดนี้?

ริโกะที่ยืนอยู่ข้างหลี่ฝาง กล่าวด้วยใบหน้าชื่นชมเลื่อมใสเป็นอย่างยิ่ง “นี่ต้องเป็นผู้ดำรงอยู่ที่ยอดเยี่ยมมากขนาดไหนกัน ถึงได้สามารถปล่อยให้โทชิโอะ คามิยะแสดงตัวแบบนี้ขึ้นมาได้!”

หลี่ฝางยิ้มอย่างขมขื่น

นั่นเพราะสายตาของโทชิโอะ คามิยะนั่นกำลังมุ่งเป้ามาที่ตัวเขาโดยตรง ดวงตาที่ดุจดั่งเห็นถึงแก่นแท้คู่นั้น เต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้อันเข้มข้น

และเมื่อเห็นโนะชิมะ โคมุระที่ยืนอยู่ข้างหลังโทชิโอะ คามิยะ หลี่ฝางก็พอเดาได้คร่าวๆแล้วว่า จิตวิญญาณการต่อสู้ของโทชิโอะ คามิยะนั้นมาจากที่ไหน

ในเวลานี้ โทรศัพท์มือถือของหลี่ฝางก็ส่งเสียงแจ้งเตือนข้อความขึ้นมา

เสียงที่ดังคมชัด ทำให้คนไม่พอใจและส่งสายตาเตือนในทันที

ในเวลานี้ยังมีเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น ต้องการทำให้ท่านโทชิโอะโมโหหรือยังไงกัน?

หลี่ฝางตรวจดูข้อความนั้นอย่างไม่สนใจอะไรแม้แต่น้อย

“ของได้มาแล้ว ไร้คนขัดขวาง”

เมื่อเห็นคำเหล่านี้ หลี่ฝางก็เงยหน้าขึ้นทันทีและหันไปมองที่โทชิโอะ คามิยะ ในดวงตามีความตกตะลึงอยู่เล็กน้อย

“ที่แท้ เป้าหมายของนายก็คือฉัน”

ในที่สุด หลี่ฝางก็เข้าใจ

ใช้ประโยชน์จากงานเลี้ยงน้ำชา เขาให้หลิวฮุยส่งคนไปค้นบ้านโคมุระ

ผลก็คือ ค้นพบเอกสารนั้นได้โดยตรง อีกทั้งยังไม่มีมาตรการป้องกันอะไรแม้แต่น้อย จนแทบจะคล้ายว่ามันถูกเปิดทิ้งไว้รอใครสักคนมาหยิบไป

อีกทั้งตอนนี้หลี่ฝางก็เข้าใจแล้ว ว่าเอกสารนี้ เป็นเหยื่อล่อชิ้นหนึ่ง เพื่อที่จะดึงดูดตนให้เข้ามาติดกับ

เมื่อเห็นสายตาของหลี่ฝาง โทชิโอะ คามิยะก็คล้ายจะรู้ว่าเขาเดาคำตอบได้แล้ว ทันใดนั้น ใบหน้าของเขาก็มีรอยยิ้มที่มองไม่เห็นปรากฏขึ้น จากนั้นก็เอ่ยปากว่า “ท่านหลี่ เชิญนั่ง!”

ท่านหลี่? คำพูดนี้ ทำให้ทุกคนเริ่มหันไปมองรอบๆด้านอย่างสงสัยในทันที

ริโกะเองก็ไม่มีข้อยกเว้น เธอยืดคอขึ้นและคิดจะดูว่าใครกันที่เป็นสหายของโทชิโอะ คามิยะ

แต่จู่ๆ เธอก็รู้สึกว่าบนมือนั้นว่างเปล่าขึ้นมา หลี่ฝางสลัดหลุดออกจากมือของเธอและเดินไปข้างหน้า

“คุณอาสึกะ…”

ริโกะจ้องมองหลี่ฝางที่เดินออกไปอย่างตะลึงงัน เมื่อได้สติกลับมาก็คิดจะไปดึงหลี่ฝางกลับมาอย่างรีบร้อน แต่กลับไม่สามารถจับเขาเอาไว้ได้

ในจิตสำนึกของทุกคน สหายของโทชิโอะ คามิยะ ไม่ต้องพูดถึงอายุที่ต้องรุ่นราวคราวเดียวกับเขา แต่อย่างน้อยๆก็ต้องเป็นภาพชายวัยกลางคนที่สงบนิ่งมั่นคง

ดังนั้นเมื่อเห็นหลี่ฝางที่อายุยังน้อยขนาดนี้เดินออกไป ก็ไม่มีใครคาดคิดว่าเขาจะเป็นสหายที่โทชิโอะ คามิยะกล่าวถึง

คนเหล่านี้เพียงแต่รู้สึกไม่สมเหตุสมผล พวกเขาคิดว่าหลี่ฝางอยากเด่นจนเป็นบ้าไปแล้ว

ส่วนอิปเป้ โคบายาชิและมิเอะที่เห็นฉากนี้ก็ตะลึงตาค้าง พวกเขาไม่เข้าใจว่าหลี่ฝาง “คนธรรมดา” คนนี้นั้นไปกินหัวใจหมีดีเสือดาวมาจากไหน ถึงได้กล้าที่จะออกไปในเวลานี้

หรือว่าเป็นเพราะเขาไม่รู้จักตัวตนของโทชิโอะ คามิยะ?

ใช่แน่ๆ จะต้องเป็นเพราะความไม่รู้ ก็แค่คนธรรมดาๆคนหนึ่ง เขาคงไม่เคยพบโทชิโอะ คามิยะมาก่อนเลยสักนิด เกรงว่านี่เขาคงคิดไปว่าโทชิโอะ คามิยะเป็นแค่ชายชราธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น!

อิปเป้ โคบายาชิและมิเอะทั้งคู่ ในดวงตาเต็มไปด้วยรอยยิ้มเยาะ มีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่นขึ้นมาทันที

ฮิเดโทชิที่อยู่อีกด้านหนึ่งก็มีความสุขอย่างมาก เขาแทบรอไม่ไหวที่จะเห็นโทชิโอะ คามิยะโกรธขึ้นมาในเร็วๆนี้ และรอดูว่าจะลงโทษหลี่ฝางอย่างไร

ภาพแบบนี้ จะต้องทำให้เขารู้สึกมีความสุขมากขึ้นอย่างแน่นอน

ส่วนโชจิที่อยู่ในฝูงชนก็สามารถมั่นใจในการคาดเดาของตนได้อย่างสมบูรณ์ แต่ว่าแทนที่เขาจะมีความสุข ในใจกลับเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกขึ้นมาหลายส่วน เขาเช็ดเหงื่อเย็น ๆ บนหน้าผากจากนั้นจึงเคลื่อนไหวออกไปด้านนอกฝูงชนอย่างเงียบๆ

ในขณะนี้ สัญชาตญาณของเขาบอกเขาว่ามีบางสิ่งที่อันตรายกำลังจะเกิดขึ้น

ถ้าไม่รีบออกไป ก็อาจตายได้!

ด้วยเหตุนี้ ทุกคนจึงมองหลี่ฝางด้วยสายตาที่แตกต่างกันออกไป มองดูหลี่ฝางเดินเข้าไปนั่งตรงข้ามกับโทชิโอะ คามิยะ จากนั้นจึงหยิบถ้วยชาขึ้นมาถืออย่างสบายๆและดื่มในอึกเดียว!

วินาทีนั้นเอง ความโกลาหลก็เกิดขึ้นในทันใด!

ทุกคนที่เมื่อครู่เตรียมพร้อมรอดูละครฉากเด็ด ล้วนต้องตกตะลึงไป

นั่นเพราะพวกเขาไม่คิดว่า เด็กหนุ่มที่ชอบความเด่นดังคนนี้ ถึงกัลกล้านั่งลงข้างโทชิโอะ คามิยะจริงๆ

อีกทั้งฮิเดโทชิที่อยู่ในฝูงชนในเวลานี้ก็ทั้งตื่นเต้นขึ้นมาเช่นกัน

“เขาตายแน่ๆ! ตายแน่แล้ว!” เขาพูดพึมพำราวกับเป็นบ้า และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโทชิโอะ คามิยะจะลงมือฆ่าเขาในดาบเดียวในเวลาต่อมาทันที

นั่นเพราะดาบที่อยู่ข้างๆโทชิโอะ คามิยะในเวลานี้ ทุกคนล้วนรู้ดีว่า มันคือดาบที่อยู่กับโทชิโอะ คามิยะมานานหลายทศวรรษ และจวบจนปัจจุบันก็ไม่รู้ว่าได้ฆ่าปรมาจารย์ไปแล้วเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่

และทุกคนล้วนเห็นว่าเมื่อหลี่ฝางนั่งลง มือของโทชิโอะ คามิยะก็วางลงบนดาบ

“ท่านหลี่ จิตสังหารของคุณช่างเฉียบแหลมจริงๆ”

ในน้ำเสียงของโทชิโอะ คามิยะ แฝงด้วยร่องรอยความตื่นเต้น

“วิถีดาบของนายก็น่าจะแข็งแกร่งอย่างมากเช่นกัน” หลี่ฝางวางถ้วยชาลง

“คลิก!”

ถ้วยชาเล็กๆ ใบนั้น ขณะที่หลี่ฝางวางลงบนโต๊ะมันก็ถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน

รอยแยกที่ราบเรียบไร้ที่ติ คล้ายกับว่านี่คือรูปลักษณ์โดยธรรมชาติของถ้วยก็ไม่ปาน

ผู้ชมในงานล้วนไม่เห็นว่า ในเวลานี้ กำลังภายในของหลี่ฝางและโทชิโอะ คามิยะ กำลังประมือกันครั้งแรก

โทชิโอะ คามิยะเป็นผู้เริ่มโจมตีก่อน รัศมีดาบอันคมกริบอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ผ่าแยกถ้วยออกจากกัน แต่กลับไม่มีผลต่อหลี่ฝาง

ส่วนใบหน้าของโทชิโอะ คามิยะ กลับปรากฏทั้งความตึงเครียดและความตื่นเต้นขึ้นมา

“ถ้วยของนายนี่ช่างไม่แข็งแรงเอาซะเลย!” หลี่ฝางส่ายหัว

“ไม่เป็นไร ท่านหลี่แค่เปลี่ยนถ้วยก็ได้แล้ว”

โทชิโอะ คามิยะยิ้มพร้อมกับหยิบถ้วยออกมาจากถาดน้ำชาที่อยู่ข้างๆใหม่อีกครั้ง เขาล้างมัน รินชา และส่งไปตรงหน้าหลี่ฝาง

ณ เวลานี้ ทุกคนล้วนแต่ต้องยอมรับแล้วว่า ชายหนุ่มตรงหน้าคนนี้ ก็คือ “สหาย” ของโทชิโอะ คามิยะจริงๆ

ในเวลานี้ ทุกคนเป็นใบ้ไปอีกครั้ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท