NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1088 การเผชิญหน้าบนซากปรักหักพัง

บทที่ 1088 การเผชิญหน้าบนซากปรักหักพัง

ทั้งสองคนไม่คิดเลยสักนิดว่าหลี่ฝางจะถึงกับใช้ตัวรับดาบของพวกเขา ดวงตาของพวกเขาปรากฏความประหลาดใจ จากนั้นในเวลาต่อมา พวกเขาก็ถูกดาบในมือของหลี่ฝางพรากชีวิตไป

คนที่เหลือก็ตอนนี้เงียบลงในทันที

เวลาการต่อสู้เพียงไม่ถึงหนึ่งนาที ปรมาจารย์การต่อสู้ที่มีชื่อเสียงระดับโลกสี่ในสิบคนเสียชีวิต ส่วนหลี่ฟางกลับแค่ได้รับบาดเจ็บบนตัวสองแห่งเท่านั้น

อันที่จริงทั้งสองแห่งนั้นเขาล้วนคำนวณเอาไว้แล้ว และใช้กำลังภายในปิดผนึกบาดแผลในทันที

อัตราการเสียชีวิตดังกล่าว ทำให้พวกเขารู้สึกน่าขันขึ้นมาเล็กน้อย ปรมาจารย์การต่อสู้ผู้ยิ่งใหญ่ ตอนนี้กลับตายราวกับลูกสมุนที่ไร้ค่า

“ไม่น่าแปลกใจเลย ไม่ว่าจะเป็นสำนักหยิ่งซาและDynasty ล้วนอยากทำทุกวิถีทางได้เพื่อฆ่าคุณ”

ในเวลานี้ โทชิโอะ คามิยะในที่สุดก็เอ่ยปากขึ้นมา “ด้วยอัตราการเติบโตของคุณแบบนี้ หากไม่เริ่มลงมือกับคุณตั้งแต่เนิ่นๆ ไม่แน่ว่าการต่อสู้เพื่อแดนดั่งเทพในอนาคต อาจไม่มีที่สำหรับพวกเราอีกต่อไป”

“แดนดั่งเทพ?”

ในใจของหลี่ฝาง เกิดระลอกคลื่นขึ้นมาอีกครั้ง

“โทชิโอะ คามิยะ ฉันอ่านข้อมูลของนายมาแล้ว ไม่ใช่ว่าในมือของนายมีสมบัติชิ้นหนึ่งอยู่ ในนั้นเก็บซ่อนความลับของแดนดั่งเทพไม่ใช่หรือ? ทำไม อ่านไม่บรรลุ?”

โทชิโอะ คามิยะไม่คาดคิดว่าหลี่ฝางมาถึงขั้นนี้แล้วยังจะมีท่าทีดีเยี่ยมและถามอย่างสงบแบบนี้ขึ้นมา เขานิ่งคิด ก่อนจะเอ่ยตอบอย่างสงบเช่นกัน “ความลับของแดนดั่งเทพ จะบรรลุได้ง่ายขนาดนั้นได้อย่างไร?”

นี่ย่อมแน่นอนอยู่แล้ว เพราะหากโทชิโอะ คามิยะบรรลุแล้วจริงๆ อย่างนั้นในตอนนี้หลี่ฝางก็คงตายไปแล้ว

“ในเมื่อนายไม่เข้าใจ ก็เอาโอกาสนี้มาให้ฉันเสียยังดีซะกว่า ไม่แน่ว่าฉันอาจจะทำสำเร็จก็เป็นได้” จู่ๆหลี่ฝางก็เอ่ยยิ้มๆ

“คุณควรเอาตัวให้รอดซะก่อนแล้วค่อยพิจารณาเรื่องอื่น!” เสียงของโทชิโอะ คามิยะเย็นชา “อาการบาดเจ็บแบบนี้ ต่อให้เป็นคุณ จะสามารถทนรับมันได้นานแค่ไหนเชียว?”

คำพูดของโทชิโอะ คามิยะ ทำให้ดวงตาของปรมาจารย์ทั้งหกที่เหลือสว่างวาบขึ้นในทันที

หลี่ฝางได้รับบาดเจ็บจริงๆ หากพวกเขาประวิงเวลาออกไปอีกสักหน่อย ปล่อยให้หลี่ฝางเสียเลือดมากขึ้น บางทีในไม่ช้า หลี่ฝางก็อาจจะสูญเสียประสิทธิภาพการต่อสู้ทั้งหมดของเขาไป!

หลี่ฝางที่เห็นคนทั้งหกฮึกเหิมขึ้นมาอีกครั้งก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมา

แต่เดิมเขาต้องการใช้ประโยชน์จากความตื่นตะลึงเพื่อพักหายใจสักหลายเฮือก ก่อนจะเริ่มต่อสู้อีกครั้ง

ในเวลาถัดมา ดาบทั้งหกเล่มก็ฟันเข้าใส่หลี่ฝางอีกครั้งอย่างพร้อมเพรียง!

ในเวลานี้ ด้านนอกของสถานที่เต็มไปด้วยผู้คนที่เพิ่งหนีออกมาจากด้านใน พวกเขาฟังเสียงคำราม มองดูอาคารที่สั่นสะเทือนเป็นครั้งคราว ในใจเกิดความเกรงกลัวอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย

เช่นอิปเป้ โคบายาชิ ที่ตอนนี้เกิดความสงสัยอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับตัวตนของตนเป็นครั้งแรกในชีวิต

แล้วลูกชายที่ถูกต้องตามกฎหมายของตระกูลชั้นนำในญี่ปุ่นแล้วอย่างไร? หากต้องเผชิญหน้ากับพลังการต่อสู้ที่น่ากลัวขนาดนี้ เขาจะมีชีวิตรอดไปได้สักกี่วินาทีกัน?

ตัวตนของเขานั้นไม่ธรรมดา ก่อนหน้านี้เขาเคยเห็นยอดฝีมือมาไม่น้อย ปรมาจารย์การต่อสู้เขาเองก็เคยพบแล้วเข้าไปประจบประแจงมาหลายคน โทชิโอะ คามิยะเองเขาก็คุ้นเคยเป็นอย่างดี

แต่ไม่เคยมีครั้งใดเหมือนวันนี้ ที่เหล่าปรมาจารย์การต่อสู้เอาจริงเอาจังขึ้นมา ทำให้เขาเข้าใจแล้วว่าความคิดก่อนหน้านี้ของตนช่างไร้สาระเพียงใด

ความคิดก่อนหน้านี้ของเขาที่คิดว่าหากพวกมือปืนหลายคนหน่อย ก็สามารถฆ่าปรมาจารย์การต่อสู้หรือถึงขั้นปรมาจารย์กำลังภายในได้ ความคิดแบบนี้นั้นในเวลานี้ได้หายไปอย่างสมบูรณ์

หลายคนก็มีความคิดเหมือนกันกับเขา ล้วนเป็นในวันนี้ ในเวลานี้ เป็นเพราะการต่อสู้อันน่าหวาดกลัวครั้งนี้ ที่ทำให้ความคิดในใจเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

ยังมีบางคนที่เฝ้ารอให้ประตูสถานที่รีบพังอย่างรวดเร็ว แบบนี้ พวกเขาก็จะได้เห็นการต่อสู้ภายใน ได้เห็นสงครามที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ในบรรดาผู้คนทั้งหมด ริโกะเป็นคนเดียวที่รอคอยให้หลี่ฝางรอดชีวิตมาพร้อมน้ำตาในดวงตาของเธอ

หัวใจของเธอ เต็มไปด้วยความหวาดกลัว

นั่นเพราะในชีวิตอันแสนสั้นแต่สิบกว่าปีของเธอ มีเพียงครั้งนี้เท่านั้น ที่เธอสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นผ่านตัวของหลี่ฝาง ช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดในชีวิตของเธอคือวันนี้ และช่วงเวลาที่ร้อนรนและหวาดกลัวมากที่สุดก็คือตอนนี้

นอกจากนี้ ยังมีชายร่างสูงใหญ่สวมแว่นกันแดดสีดำซึ่งอยู่ในรถที่จอดอยู่ริมถนนไม่ไกลออกไป ก็กำลังมองสถานการณ์ที่นี่อย่างประหม่า

เขาก็คือตงหมิงที่พบกับหลี่ฝางที่สนามบิน

เขามองไปที่การต่อสู้ซึ่งเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง คิ้วของเขาค่อยๆ ขมวดย่นเข้าหากัน ในที่สุด เขาก็หยิบมือถือขึ้นมาและโทรออก

“โทชิโอะ คามิยะลงมือแล้ว คุณหลี่… เสียเปรียบ”

ปลายสายเงียบไปครู่หนึ่ง ไม่นาน เสียงเย็นชาของฉิงจื่อ ก็ดังขึ้น “ทำตามสถานการณ์ หากช่วยได้ก็ช่วย ถ้าช่วยไม่ได้รีบออกมาทันที!”

น้ำเสียงของเธอ เย็นเยียบราวกับน้ำแข็งก้อนหนึ่งไม่ปาน

“ผมเข้าใจแล้ว” ตงหมิงพูดจบก็วางสาย

ฉิงจื่อที่อยู่อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ หลังจากวางสายไป ก็รีบโทรหาสายลึกลับอีกสายทันที

กำแพงสถานที่จัดงานได้พังทลายลงแล้ว

ในเวลานี้สถานที่ทั้งหมดถูกทำลายลงโดยการต่อสู้จนแทบจะรู้สึกได้ถึงการพังทลาย

มีเศษอิฐและฝุ่นกระจายอยู่เต็มไปหมด จนทำให้เหล่าผู้ที่ชมความตื่นเต้นอยู่ภายนอกต้องถอยหลังออกไปอีกครั้ง

อีกทั้งความตื่นตระหนกของคนเหล่านี้ก็ยังเพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุด จนถึงขึ้นสงสัยขึ้นมาบ้างแล้วว่าพวกเขาได้ข้ามไปยังอีกโลกหนึ่งแล้วใช่หรือไม่

ทำไมสภาพแวดล้อมชีวิตที่ปกติสงบอย่างยิ่งของพวกเขา ถึงได้ไม่มีเรื่องราวกับสัตว์ประหลาดแบบนี้เกิดขึ้น?

นั่นเป็นเพราะพวกเขาได้เห็นน้อยครั้งที่จะเคยเห็นปรมาจารย์ลงมือจริงๆ อีกทั้งยังไม่ต้องพูดถึง ปรมาจารย์กำลังภายในลงมือ

และคนที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างโทชิโอะ คามิยะ นั้นยากขึ้นไปอีกที่จะได้เห็น

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท