NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1095 สิบสองอัศวิน

บทที่ 1095 สิบสองอัศวิน

หลี่ฝางฟังออกถึงความอยากรู้อยากเห็นและความตื่นเต้นยินดีจากน้ำเสียงของมานากะ

สมองของสาวน้อยคนนี้เติบโตมายังไงกัน วันนั้นเธอเห็นกับตาว่าตนและโทชิโอะ คามิยะต่อสู้กับแบบพลิกฟ้ามัวดิน แต่กลับไม่กลัวเลยแม้แต่น้อย?

“ไม่ ฉันก็แค่ผ่านมา” หลี่ฝางพูดโดยไม่ลังเล

มานากะจู่ๆก็หัวเราะขึ้นมาทันที ดวงตากลมโตของเธอยิ้มราวกับพระจันทร์เสี้ยวและกล่าวว่า “ท่านหลี่ พวกคุณมาเป็นแขกที่บ้านฉันเถอะ! ฉันสัญญาว่าฉันจะไม่ให้ใครรู้เรื่องนี้! อีกทั้งบ้านของฉันก็อยู่ใกล้ที่นี่อย่างมาก รีบไปตอนกลางคืน จะต้องไม่มีใครค้นพบแน่!”

หลี่ฝางมองไปที่มานากะด้วยความงุนงงและสงสัยว่าคืนนี้เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ คนนี้ตกใจหวาดกลัวจนซื่อบื้อไปแล้วหรือเปล่า

หรือบางทีเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ คนนี้ ในสมองอาจมีแผนร้ายอยู่ด้านใน ตัวอย่างเช่น ทำให้ตัวเองปลอดภัยก่อน จากนั้นก็ค่อยขายตนเองออกไปอย่างไม่ลังเล

“ฉัน ฉันก็แค่อยากช่วยพวกคุณ” มานากะเห็นความสงสัยในดวงตาของหลี่ฝางและรีบอธิบายอย่างรวดเร็ว

เมื่อมองดูความจริงใจบนใบหน้าของเด็กสาว หลี่ฝางก็อดไม่ได้ที่จะเชื่อคำพูดของเธอ

แต่แรงจูงใจของเธอนั้นยังคงไม่มากพออยู่ดี

คงไม่ใช่เป็นเพราะตนเองช่วยเธอเอาไว้หรอกนะ?

ถ้าเป็นแบบนั้นอย่างมากเธอก็แค่ช่วยเก็บความลับให้เขาและไม่จำเป็นต้องพาตัวเขากลับบ้านเพื่อให้ที่ซ่อน

“ท่านหลี่ ทาคาดะหลังจากหนีไปจะเล่าเรื่องนี้ออกไปแน่ ต่อให้เขาไม่รู้จักคุณ แต่ว่าด้วยพลังอำนาจและความรอบคอบของแก๊งยามาโตะ พวกเขาก็มีโอกาสสูงอย่างยิ่งที่จะมาค้นที่นี่อย่างละเอียด ถึงเวลานั้นท่านหลี่จะต้องถูกค้นพบแน่”

มานากะช่วยหลี่ฝางวิเคราะห์ “ดังนั้นท่านหลี่ได้โปรดมากับฉันเถอะ! แม้ว่าจะไม่ใช่เพื่อตัวเอง แต่ก็กรุณาคิดเพื่อสาวงามข้างๆคุณดู”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลี่ฝางก็อดไม่ได้ที่จะมองไปยังหยางฉง

มานากะพูดถูก หากเป็นแค่เขาเพียงลำพัง คิดจะซ่อนยังไงก็ได้ทั้งนั้น ถ้าถูกแก๊งยามาโตะพบเจอแม้แต่นิดเดียวทุกอย่างก็ถือว่าเป็นเขาที่พ่ายแพ้

แต่ตอนนี้หยางฉงอยู่กับเขา เขาจำเป็นต้องรับผิดชอบต่อความปลอดภัยของหยางฉง

ดังนั้นเขาจึงไม่คิดอะไรอีก และตอบรับไปตรงๆ

ขณะออกมา ใกล้ๆมีร่างเงาคนกลุ่มหนึ่งอยู่ก่อนแล้ว ดูเหมือนว่ากำลังตรวจสอบสถานการณ์ของที่นี่

ปฏิกิริยาความเร็วของแก๊งยามาโตะ ทำให้ในใจของหลี่ฝางเคร่งเครียดขึ้นมาเล็กน้อย

การพูดคุยเล็ก ๆ น้อย ๆ บนท้องถนน ทำให้หลี่ฝางได้รู้ถึงตัวตนของมานากะ

เธอเป็นคนของตระกูลนางาโตะ

และเป็นเพราะการต่อสู้เมื่อก่อนหน้านี้ นางาโตะถูกฝ่ามือเดียวของหลี่ฝางไปจนกระอักเลือด แต่สุดท้ายเขาก็ได้รับบาดเจ็บและรอดชีวิตมาได้

“นางาโตะเป็นอะไรกับเธอ?”

“เขาเป็นลุงใหญ่ของฉัน” มานากะตอบ

“แล้วเธอยังพาฉันมาที่นี่อีกเหรอ?” ในใจของหลี่ฝางเคร่งขึ้น แต่กลับเอ่ยถามอย่างเงียบ ๆ “เธอไม่รู้เหรอว่าลุงใหญ่ของเธอถูกฉันทำร้าย?”

“ฉันรู้ แต่นี่ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับการที่ฉันช่วยพวกคุณ” มานากะพูดอย่างใจเย็น ในดวงตาของเธอเกิดความเกลียดชังขึ้นมาอยู่หลายส่วน

หลี่ฝางรู้สึกได้ว่า ความเกลียดชังนี้ไม่ได้มุ่งเป้ามาที่ตนง

สาวน้อยคนนี้เกลียดลุงของเธออย่างมาก?

หลี่ฝางไม่รู้เรื่องราวภายใน และยากที่จะพูดอะไร

“ไปเถอะ เข้าไปทางหน้าต่าง แบบนี้ค่อนข้างปกปิดได้บ้าง” มานากะชี้ไปที่ชั้นสอง

หลี่ฝางพยักหน้ารับ จากนั้นก็พาหยางฉงกระโดดเบาๆและขึ้นไปที่หน้าต่าง

เมื่อมานากะกลับมาโดยใช้ประตูใหญ่และเข้าไปในห้องของเธอ เธอก็เห็นหลี่ฝางและหยางฉงกำลังนั่งอยู่บนเบาะที่นั่งด้านใน

ห้องของมานากะนั้นเต็มไปด้วยกลิ่นอายของเด็กผู้หญิง อีกทั้งยังค่อนข้างจะเละเทะอยู่บ้าง ชุดชั้นในและของใช้ส่วนตัวบางอย่าง ถูกโยนลงบนเตียงตามใจชอบ

เพื่อหลีกเลี่ยงความสงสัย ในเวลานี้หลี่ฝางจึงจ้องตรงออกไปนอกหน้าต่างแทน

มานากะที่เพิ่งเข้ามาเมื่อเห็นหลี่ฝางที่ท่าทางเป็นแบบนี้ ก็ดูเหมือนจะยังคิดไม่มีปฏิกิริยาอะไรขึ้นมา จากนั้นเมื่อเธอเห็นหยางฉงชี้ไปที่ของใช้ส่วนตัวเหล่า ใบหน้าก็เปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความเขินอายขึ้นมาทันที

“ขอโทษด้วย ฉันจะเก็บมันเดี๋ยวนี้”

……

โทชิโอะ คามิยะมองไปที่คนหลายคนที่อยู่ตรงหน้าของตน ใบหน้าของเขาเคร่งเครียดอย่างยิ่ง

เขาในเวลานี้ เนื่องจากการระเบิดครั้งใหญ่ครั้งนั้น ทำให้ขนบนตัวของเธอโล้นออกไป มองดูแล้วตลกอย่างยิ่ง แต่บนตัวของเขากลับปล่อยกลิ่นอายดุร้ายออกมาอยู่ตลอดเวลา จนทำให้คนไม่ว่าจะทำยังไงก็หัวเราะไม่ออก

กล่าวอีกนัยก็คือ ผู้ที่กล้าหัวเราะนั้นล้วนตายไปแล้ว

“นางาโตะ นายไม่ได้บอกว่ามีข่าวเกี่ยวกับหลี่ฝางหรือไง คนอยู่ที่ไหน?”

โทชิโอะ คามิยะมองไปยังนางาโตะที่ผ้าพันแผลยืนอยู่ทางซ้าย

“ขออภัยด้วยครับ บางทีเขาอาจจะหนีไปอีกแล้ว… และเป็นไปได้ว่า บางทีคนที่ชื่อทาคาดะนั่นอาจจะให้ข้อมูลผิด” นางาโตะเอ่ยเบาๆด้วยความเกลียดชัง

เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับมานากะหลานสาวสุดที่รักของเขาด้วย อีกทั้งตนก็ได้ถามหลานสาวแล้ว ไอ้คนที่ชื่อทาคาดะนั่นถึงกับกล้าวางแผนสกปรกกับเธอ!

เขายังตัดใจแตะต้องมานากะสักนิดไม่ลงเสียด้วยซ้ำ!

ไอ้คนที่ชื่อทาคาดะนั่น ตอนนี้เขาได้ให้มันได้ลิ้มรสบทลงโทษอันหุนหันไปแล้ว

“ค้นหา! เร่งความพยายาม!” โทชิโอะ คามิยะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ถ้าหากพวกเราไม่ใช้โอกาสนี้ฆ่าเขาให้ราบคาบ หากรอให้เขาฟื้นคืนกำลังกลับมาเมื่อไหร่ ถึงเวลานั้นก็จะเป็นหายนะของพวกเรา!”

พูดไป โทชิโอะ คามิยะก็มองไปที่ชายผิวขาวอีกคนที่อยู่อีกด้านหนึ่ง

“กษัตริย์Dynastyของพวกนายหมายความว่าอย่างไร?”

“สิบสองอัศวินของฝ่าบาทกำลังจะมาถึงที่นี่ในไม่ช้า ถึงเวลานั้น หลี่ฝางต้องตายโดยไม่มีที่ฝังศพแน่!” ชายผิดขาวพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“สิบสองอัศวิน?”

โทชิโอะ คามิยะขมวดคิ้ว สิบสองอัศวินของDynastyนั้นไม่ง่ายเลยที่จะถูกใช้งาน การที่กษัตริย์ส่งสิบสองอัศวินออกมาแบบนี้ นี่ก็เพียงพอแล้วที่จะแสดงทัศนคติของเขาต่อหลี่ฝาง

“ดีมาก”

โทชิโอะ คามิยะหัวเราะเย้ยหยันขึ้นมา แบบนี้ ลองดูสิว่าหลี่ฝางจะหนีไปไหนได้อีก

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท