NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1100 เพื่อนร่วมทีมไม่ได้เรื่อง

บทที่ 1100 เพื่อนร่วมทีมไม่ได้เรื่อง

ในใจของหลี่ฝางหัวเราะหึหึ เขารู้ว่าทั้งสองคนเป็นคนที่หลิวฮุยส่งมาสนับสนุนเขา

“อย่ากังวลไปเลยน้องชาย มีพี่น้องของพวกเราหลายคนที่ล้วนเป็นคนจิตใจดีมีความกระตือรือร้นแบบเดียวกันกับเรา อีกเดี๋ยวพวกเขาก็มาถึงแล้ว!” ถังเทียนเต๋อกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“โอ้? มีคนมาเยอะเหรอ?” ดวงตาของหลี่ฝางเป็นประกาย “แบบนี้จะมีปัญหาอะไรรึเปล่า?”

“มีปัญหาอะไรกัน? พวกเรามาที่นี่ก็เพื่อผดุงความยุติธรรม!” หูเข่อสีหน้าชอบธรรมอย่างยิ่ง

“สารเลว พวกแกอย่ามาเพิกเฉยฉัน!” เสียงตะคอกด้วยความโกรธของเฟอร์กัสดังขึ้นมา

เขาไม่อยากเสียเวลาอีกต่อไป ได้ยินคำพูดของอีกฝ่าย เกรงว่าอีกสักครู่คงมีคนมามากขึ้นเรื่อยๆแล้ว หากอีกฝ่ายมีผู้สนับสนุนมาแล้ว แบบนั้นแผนของวันนี้ก็จะเปล่าประโยชน์ลง

หลี่ฝางหัวเราะหึหึ เขาไม่สนใจว่าเฟอร์กัสจะโกรธหรือไม่ สำหรับเขาแล้ว ยิ่งเฟอร์กัสโกรธมากเท่าไร โอกาสของเขาก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น

หลี่ฝางหันไปหาหูเข่อแล้วพูดว่า “หนึ่งคนหนึ่งปรมาจารย์ เป็นไง มีความมั่นใจไหม?”

“นายออกจะดูถูกพวกเราเกินไปแล้ว” พวกเขาหัวเราะขึ้นมา

“ฉันสองคนก็ยังไม่มีปัญหา”

“ฉันสามคน!”

“ฉันสี่!”

“ฉันห้าคน…”

ฟังการทะเลาะกันระหว่างคนทั้งสอง หลี่ฝางรู้สึกหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออกอยู่บ้าง นี่หลิวฮุยไปหาสมบัติมีชีวิตมาจากที่ไหน?

แต่ในทันใด การทะเลาะวิวาทระหว่างทั้งสองก็จบลง นั่นเพราะกลุ่มคนฝั่งตรงข้ามตอนนี้กำลังเกิดจิตสงครามพุ่งขึ้นมาดุเดือด

“ดีมาก” หลี่ฝางแสยะยิ้ม “แบบนี้ค่อยเหมือนกับการต่อสู้หน่อย…”

สองคำสุดท้ายดูเหมือนจะยังคงก้องไปรอบ ๆ แต่เงาร่างของหลี่ฝางนั้นกลับหายไปอย่างไร้ร่องรอยแล้ว

ในพริบตา คราบเลือดก็สาดกระเด็นไปทุกทิศทาง

นักรบกำลังภายนอกสี่คนถูกหลี่ฝางสังหารลงภายในพริบตาเดียว

ส่วนเฟอร์กัสที่เป็นปรมาจารย์กำลังภายใน กลับทำได้เพียงมองดูหลี่ฝางลงมือและไม่มีเวลาพอที่จะหยุดยั้งเอาไว้ได้เลยสักนิด

เห็ดได้ชัดว่า ความเร็วของหลี่ฝางนั้นสูงกว่าเขามาก

ใบหน้าของเฟอร์กัสแสดงอาการตื่นตระหนกออกมาหลายส่วน

ความแข็งแกร่งดังกล่าว ทำให้เฟอร์กัสรู้สึกถึงความไร้ซึ่งพลังอย่างลึกซึ้ง ถึงแม้ว่าจะเป็นปรมาจารย์กำลังภายในเหมือนกัน แต่ความแตกต่างระหว่างพวกเขานั้นกลับยิ่งใหญ่มากขนาดนี้

“หรือว่านายหายดีอย่างสมบูรณ์แล้ว?” เฟอร์กัสถามเสียงเข้ม

“นายว่ายังไงล่ะ?” หลี่ฝางทำแค่เพียงยิ้มจางๆ ความแข็งแกร่งของเขาฟื้นคืนกลับมาแล้วประมาณ 70% แต่การจัดการกับเฟอร์กัสนั้นถือว่าง่ายดายอย่างมาก

ช่องว่างความแตกต่างระหว่างปรมาจารย์กำลังภายในด้วยกันนั้นอาจมีขนาดใหญ่กว่าระหว่างคนทั่วไปและปรมาจารย์กำลังภายในเสียด้วยซ้ำ

ยิ่งไปกว่านั้น นับประสาอะไรกับการที่ดินแดนแท้จริงของหลี่ฝางคือแดนเต๋าซึ่งได้อยู่ห่างออกไปไกลกว่าปรมาจารย์กำลังภายในแล้ว แม้ว่าเขาจะไม่สามารถใช้พลังของแดนเต๋าได้ แต่เท่านี้ก็เพียงพอที่จะบดขยี้เฟอร์กัสลงแล้ว

ในเวลาต่อมา ออร่าของหลี่ฝางก็ถูกปลดปล่อยออกมาและปกคลุมทุกคนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามในทันที

ส่วนปรมาจารย์การต่อสู้ทั้งเจ็ดคน ก็รู้สึกเพียงราวกับว่าพวกเขากำลังถูกภูเขาลูกใหญ่กดทับ ทั้งร่างหนักอึ้งสุดขีด

เฟอร์กัสที่เห็นดั้งนั้นก็รีบปล่อยออร่าของตนออกมาอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นออร่าทั้งสองก็ผลักดันซึ่งกันและกันและต้านทานการโจมตีจากออร่าของหลี่ฝางเอาไว้

ออร่าของเฟอร์กัสมีเอกลักษณ์อย่างมาก มันสามารถขับไล่ออกซิเจน อีกทั้งยังทำให้คนที่ถูกปกคลุมอยู่ในออร่าไม่สามารถหายใจเอาออกซิเจนเข้าไปได้แม้แต่เล็กน้อย ซึ่งมันทำให้รู้สึกอึดอัดอย่างยิ่ง

แม้ว่ามันจะไม่ได้ทรงพลังเท่ากับจิตสังหารออร่า ของหลี่ฝาง แต่ก็สร้างผลเสียที่มีประโยชน์อย่างมากเช่นกัน

“ฆ่า!” เฟอร์กัสคำรามขึ้นจากนั้นจึงพุ่งเข้าใส่หลี่ฝาง

ทันใดนั้น ปรมาจารย์ห้าคนที่อยู่ข้างหลังก็พุ่งเข้าใส่หลี่ฝางพร้อมกับเขา ส่วนอีกสองคนก็รีบพุ่งเข้าใส่ถังเทียนเต๋อและหูเข่อ

“น่าเสียดายแล้ว” หลี่ฝางส่ายหัว ไม่รู้ว่าเขากำลังหมายถึงอะไร จากนั้นก็ตรงเข้าใส่เฟอร์กัส

หลี่ฝางไม่ได้ใช้ทักษะการต่อสู้อะไรเป็นพิเศษ อีกทั้งยังใช้อาวุธไม่เก่ง อาวุธที่ดีที่สุดของเขาก็คือร่างกายอันแข็งแกร่งที่ได้มาจากการหล่อเลี้ยงและฝึกฝนอย่างหนักจากกำลังภายใน

ทันใดนั้น การต่อสู้อันดุเดือดก็เริ่มขึ้น

ขณะที่ถังเทียนเต๋อและหูเข่อทั้งสองคนที่กำลังเผชิญหน้ากับการต่อสู้กับคนสองคนยังมีท่าทีไม่รุ่มร้อนอะไร ดูเหมือนว่าทั้งสองคนนั้นจะตกอยู่ในทางตันอย่างสมบูรณ์

ส่วนหลี่ฝางที่กำลังต่อสู้กับปรมาจารย์หลายคน การแสดงออกก็ไม่ได้แตกต่างจากปรมาจารย์สิบอันดับแรกของญี่ปุ่นในวันนั้นมากสักเท่าไหร่ แทบจะพูดได้ว่า พวกเขากำลังถูกหลี่ฝางทุบตี

ในไม่นาน หลายคนก็ได้รับบาดเจ็บไปทั้งตัว

เมื่อเผชิญหน้ากับชายผู้นี้ที่เกือบจะทำลายปรมาจารย์ระดับแนวหน้าของญี่ปุ่นลงจนหมด และได้รับการยกย่องจากกษัตริย์ของพวกเขา ในใจของคนเหล่านี้ก็เกิดความกดดันอันยิ่งใหญ่เกินกว่าจะจินตนาการได้

นอกจากนี่จะเป็นเพราะผลการต่อสู้อันน่าทึ่งของหลี่ฝางแล้ว ยังเป็นเพราะพลังที่มองไม่เห็นของปรมาจารย์กำลังภายในซึ่งได้สร้างขึ้นมาเป็นเวลานานและทำให้พวกเขาเกิดเป็นชุดความคิดที่ว่า ปรมาจารย์นั้นย่อมไม่มีทางเทียบได้กับปรมาจารย์กำลังภายในอย่างแน่นอน

ดังนั้นคนเหล่านี้จึงขลาดกลัวมาตั้งแต่แรกและส่งผลให้เป็นการยากที่จะต่อสู้

ส่วนเฟอร์กัสที่มีฐานะที่เป็นแกนหลักของคนกลุ่มนี้ในตอนนี้ก็รู้สึกไม่สบายใจเช่นกัน เขาสามารถพูดได้ว่าถูกมัดมือมัดเท้า ไม่เพียงแต่ต้องรับการโจมตีจากหลี่ฝางเท่านั้น แต่เขายังต้องปกป้องเพื่อนร่วมทีมของเขาเป็นครั้งคราวอีกด้วย

เป็นเพราะกลุ่มปรมาจารย์การต่อสู้กลุ่มนี้ แต่ละคนล้วนเหมือนคนโง่ ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีหรือการหลบหลีก ล้วนช้ากว่าปกติไปมากกว่าหนึ่งระดับ จนแทบจะเป็นการยืนนิ่งๆให้หลี่ฝางทุบตีไปแล้ว

เขาไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไม ด้วยกลยุทธ์เดียวกัน โทชิโอะ คามิยะเมื่อใช้มันออกมา ก็สามารถจัดการกับหลี่ฝางจนเกือบจะตายอยู่ที่นั่นได้ แต่เมื่อเขาใช้มัน สิ่งที่ต้องก็ยังคงเป็นหลี่ฝางที่ไม่ได้อยู่ในสภาพสมบูรณ์เช่นกัน แต่เขากลับถูกหลี่ฝางทุบตีเป็นกระสอบทรายแทน

หลังจากการเผชิญหน้ากันอีกครั้ง เฟอร์กัสที่ใช้พลังมากเกินไปก็เก็บออร่าของตนกลับมา ส่วนปรมาจารย์การต่อสู้ทั้งห้าตอนนี้กลับหมดแรงไปจนไม่แม้แต่จะยืนขึ้นมาได้อีก

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท