NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1107 เอาคืนแฟนคลับ

บทที่ 1107 เอาคืนแฟนคลับ

ทว่าหลี่ฝางถูกฟางหยู่ถงดึงดูดเข้าเต็มๆ

เสมือนว่าหลี่ฝางมีแรงดึงดูดอะไรบางอย่าง ทำให้ฟางหยู่ถงหลงใหลในแว็บแรกที่เห็น กระทั่งแทบลืมไปว่าตอนนี้เธอกำลังอยู่ในเวลางาน

เธอไม่เข้าใจตนเองว่าทำไมถึงได้เกิดความรู้สึกแบบนี้ขึ้นมาได้ เพียงรู้สึกว่าหลี่ฝางโดดเด่นอย่างมาก เสมือนกับคนรอบข้าง ไม่สิ บรรยากาศรอบข้างไม่เข้ากับเขา มีความโดดเด่นพิเศษบางอย่างที่ทำให้เขาแตกต่างจากฝูงชน

ตอนนี้ในกลุ่มฝูงชนมีคนสองคนที่แต่งกายธรรมดา ที่ไม่ดึงดูดสายตาเลยแม้แต่น้อยจับจ้องไปที่หลี่ฝางเช่นเดียวกัน ในสายตาของพวกเราแฝงไปด้วยความระแวดระวัง

ทุกคนที่คิดเข้าใกล้ฟางหยู่ถง หรือคนที่สนใจในตัวฟางหยู่ถง พวกเขาก็จะทำงานปิดกั้นอย่างเงียบเชียบ และให้ฝ่ายตรงข้ามถอยออกไปเพราะแรงกดดันมหาศาล

สองคนนี้ เป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวของฟางหยู่ถง คอยปกป้องความปลอดภัยของฟางหยู่ถงอยู่ห่างๆ มาตลอด

และเมื่อเห็นคุณหนูของพวกเขาเกิดสนใจในตัวหลี่ฝางขึ้นมากะทันหัน ทั้งคู่เกิดร้อนรนขึ้นมา

เพราะพวกเขารู้สึกถึงอันตรายอันแรงกล้าชนิดหนึ่งจากตัวหลี่ฝาง ความรู้สึกนั้น ช่างเหมือนกับตอนที่พวกเขาอยู่ในป่าในอดีต ที่เผชิญกับศัตรูที่พุ่งเข้ามาเพื่อเด็ดชีวิตของพวกเขาได้ตลอดเวลาอย่างไรอย่างงั้น

ไม่ รุนแรงมากกว่านั้นอีก!

ตอนนี้ หลี่ฝางค่อยๆ ห่างไกลจากถนนใหญ่ เดินเข้าสู่ถนนเส้นเล็กในป่า ส่วนฟางหยู่ถงเองก็เดินตามเขาเข้าไปตามกับต้องมนต์สะกด

บอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหลังนั้นเกิดเป็นปัญหา ไม่มีการปกปิดจากกลุ่มผู้คน พวกเขาทั้งคู่ค่อนข้างเด่นชัด

ตอนนี้เองเมื่อเหล่าแฟนคลับเห็นว่าฟางหยู่ถงสะกดรอยตามไปในที่ที่เปลี่ยวขนาดนั้น เกิดคลั่งขึ้นมาทันที

“ให้ตาย! นี่มันเกิดอะไรขึ้น!”

“ผู้ชายคนนั้นมีเวทมนตร์อะไรหรือเปล่า ถึงได้ลวงนางฟ้าของเราไปได้แบบนี้?”

“ไม่นะ! นางฟ้าของผม กลับมาเร็วเข้า!”

“แม่งเอ๊ง กูทนไม่ไหวแล้วโว้ย! กูจะไปฆ่าไอ้หมอนี่ให้ตายเลย!”

ใยขณะที่ตัวอักษรบนหน้าจอคับคั่งจนแทบระเบิด หลี่ฝางชะงักฝีเท้ากะทันหัน กลับหลังหันจ้องมองไปทางฟางหยู่ถิง

“เธอทำอะไร?”

แม้หลี่ฝางเพียงแค่ถามประโยคง่ายๆ แต่กลับทำให้บอดี้การ์ดทั้งสองถึงกับต้องตั้งหลักขึ้นมา

ฟางหยู่ถงเองก็ไม่คิดว่าหลี่ฝางจะหันกลับมาเค้นถามกะทันหัน เธอก้มหน้าด้วยความประหม่าในทันใด

ในตอนนี้ หน้าจอดุเดือดขึ้นมาอีกครั้ง

“นางฟ้าเขิน! นางฟ้าเขิน!”

“โอ๊ยๆ ฉันจะบ้าอยู่แล้ว ฉันจะจะเห็นหน้ามันแล้ว!”

“เอ๋? ไอ้หมอนี่หน้าตาหล่อดีแฮะ”

“ไม่! จ้าวริเทียนอย่างฉันไม่ยอมเด็ดขาด!”

ฟางหยู่ถงแอบเหลือบมองไปที่หน้าจอ สลับกับหลี่ฝาง ก่อนปริปากอย่างประหม่า ความกล้าหาญต่อหน้ากล้องก่อนหน้าที่ตอนนี้ได้ปลิวหายไปไหนซะหมด

“คุณผู้หญิง คุณจะทำอะไรกันแน่?” หลี่ฝางกล่าวถามอย่างไร้หนทาง

เขารู้อยู่แล้วว่าฝ่ายตรงข้ามไม่มีจุดประสงค์ร้ายอะไร เพียงแค่ไม่ชอบให้มีคนคอยตามก็เท่านั้น

แถมข้างกายเธอยังมีบอดี้การ์ดฝีมือดีสองคนติดตามอยู่ ชัดเจนว่าสถานะของเธอไม่ธรรมดาแน่

เมื่อได้ยินประโยคคำถามของหลี่ฝางอีกครั้ง ก็รู้ได้ว่าหากเธอไม่ตอบอีกคงไม่ดี จึงกล่าว “สวัสดีค่ะพี่ชาย”

“คุณเป็นดีเจ? ตอนนี้กำลังถ่ายทำนอกสถานที่?” หลี่ฝางขมวดคิ้วถาม

ฟางหยู่ถงพยักหน้า พลันนึกวิธีที่จะทำลายบรรยากาศอันน่าอึดอัดนี้ขึ้นมาได้

ไม่งั้นเชิญให้เขาเข้ากล้องพูดอะไรสักหน่อย เพื่อหาบทสนทนา……

ฟางหยู่ถงคิดในใจ กำลังจะเคลื่อนไหว แต่กลับถูกประโยคหนึ่งของหลี่ฝางทำลายจนสิ้น

“อย่าตามผมมาอีก ไปทำงานของคุณเถอะ” เมื่อนึกถึงภายใต้กล้องนั่นไม่รู้ว่ามีคนมากมายแค่ไหนที่กำลังจ้องมองเขาอยู่ หลี่ฝางก็รู้สึกไม่ดีแล้ว

“ให้ตาย! ไอ้หมอนี่มันแสร้งเก่งเกินไปไหม?”

“ไม่ได้ ฉันทนไม่ไหวแล้ว หัวใจฉันจะระเบิด!”

“โอ๊ย นี่คือต้อยต่ำของพวกขี้ประจบใช่ไหม? นางฟ้าที่ฉันกำลังประจบตอนนี้กำลังประจบคนอื่น และเจ้าชายของเธอไม่แยแสเธอเลย”

“ให้ตาย รวมกลุ่มไปอัดหมอนั่นกันเถอะ!”

ทุกคนต่างไม่คาดคิดว่าหลี่ฝางจะมีปฏิกิริยาเช่นนี้ รวมไปถึงฟางหยู่ถง

พื้นฐานสถานะครอบครัวของเธอไม่ธรรมดาจริงๆ นั่นแหละ เธอถูกประคบประหงมตั้งแต่เด็ก รักใครเอ็นดูราวกับไข่ในหิน ใครจะไปคาดคิดว่าผู้ชายตรงหน้าคนนี้ถึงกลับเย็นชาใส่เธอเช่นนี้ได้?

ทันใดนั้น ฟางหยู่ถงไม่สามารถรับได้ ภายใต้ความโมโหเธอวิ่งไล่ตามไป อยากจะรู้ว่าเขาเย็นชาใส่เธอจริงๆ หรือเล่นเกมตั้งใจหลอกให้ตายใจแล้วจึงจัดการทีหลัง

บอดี้การ์ดทั้งสองรีบไล่ตามไป ด้วยความรู้สึกไม่สบาย

ฟางหยู่ถงไล่ตามไปได้อย่างรวดเร็ว เดินไปหยุดอยู่ข้างหลี่ฝาง

หลี่ฝางหมดคำพูด ไม่เข้าใจว่าเด็กสาวหน้าตาสะสวยคนนี้ทำไมถึงได้ตามเขามาให้ได้ ทว่าหลี่ฝางก็มองออกว่าเหตุผลคำพูดจาคงใช้กับเธอไม่ได้ผล เขาเองก็คงใช้ไม้แข็งไล่เธอไปไม่ได้เสียด้วยสิ?

เมื่อเห็นว่าหลี่ฝางไม่พูดจา ฟางหยู่ถงยิ้มอย่างได้ใจ ก่อนกล่าว “พี่ชาย ฉันชื่อว่าฟางหยู่ถง แนะนำตัวหน่อยสิ”

“บนหน้าจอเธอมีแต่ประโยคก่นด่า” หลี่ฝางกล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย

ฟางหยู่ถงเหลือบมองหน้าจอ เธอทำอะไรไม่ถูกขึ้นมาในทันที

บนหน้าจอเต็มไปด้วยข้อความปรากฏขึ้นอย่างบ้าคลั่ง มีแต่ประโยคด่าทอหลี่ฝางทั้งนั้น

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท