NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1118 ฉันเป็นลูกศิษย์ที่ซื่อสัตย์ที่สุดของท่าน

บทที่ 1118 ฉันเป็นลูกศิษย์ที่ซื่อสัตย์ที่สุดของท่าน

ใบหน้าของไท่ซางที่ร้องห่มร้องไห้ ท่าทีร้องขออย่างขมขื่น เหมือนกับเป็นคนละคนกับเมื่อครู่ที่อวดดี ทำให้คนของตระกูลหยางที่อยู่ตรงนั้นทำอะไรไม่ถูก พลางอึ้งไปเมื่อได้เห็นฉากนี้

“ไท่ ปรมาจารย์ไท่ซาง……” หยางเทียนลี่ตะโกนออกมาเพราะรับไม่ได้ “ท่านทำอะไรน่ะปรมาจารย์ไท่ซาง ไอ้คนจนคนนี้อยากจะมาปีนเกลียวตระกูลหยางของเรา ทำไมท่าน……”

ตอนที่หยางเทียนลี่พูดออกมาทำให้คนของตระกูลหยางคิดตาม ตอนแรกพวกเขาเห็นหยางฉงพาหลี่ฝางมานั้น ก็คิดว่าหลี่ฝางนั้นใช้วิธีอะไรก็ไม่รู้เข้าหาหยางฉง ทำทุกวิถีทางให้เข้ามาหาตระกูลหยางได้

คิดไม่ถึงว่าไอ้คนจนในใจของพวกเขา จะมาเป็นคนสูงส่งพอที่จะทำให้ปรมาจารย์กำลังภายในคุกเข่าลงต่อหน้าเขาในทันที และร้องขอชีวิต ภาพแบบนี้ มันทำให้ตระกูลหยางไม่เข้าใจเลยจริงๆ

ไท่ซางนั้นไม่สนใจว่าคนอื่นจะมองตัวเองอย่างไร สำหรับเขา การมีชีวิตอยู่นั้นสำคัญที่สุด ถ้าตายไปก็ไม่เหลืออะไรแล้ว

การมีเรื่องกับหลี่ฝาง เขากลัวว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน

เขานั้นไม่อยากตายทั้งๆ ที่อายุเพียงเท่านี้!

ขอร้องอยู่นาน แต่ก็พบว่าหลี่ฝางนั้นไม่พูดอะไร ไท่ซางเองก็เข้าไปกอดเท้าของหยางฉง ก่อนจะร้องไห้ต่อหน้าหยางฉง พลางอยากจะใช้หยางฉงในการทำให้หลี่ฝางใจอ่อน

ในตอนนั้น ก่อนหน้านี้ที่ใช้พลังของคนคนเดียวก็ทำให้ตระกูลหยางตกใจกลัวได้อย่างปรมาจารย์กำลังภายใน ตอนนี้กลับมาร้องไห้โฮต่อหน้าหยางฉง ด้วยใบหน้าน่าสงสาร คนตระกูลหยางก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว

หยางฉงเองก็ไม่รู้จะทำอะไรเมื่อได้เห็นภาพแบบนี้ จากนั้นก็มองไปทางหลี่ฝาง ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี

เมื่อได้เห็นท่าทีของไท่ซาง หลี่ฝางก็อดไม่ได้ที่จะถาม “คุณเป็นใคร?”

ไท่ซางตกใจเล็กน้อย ก่อนจะมีสติกลับมา ก็รีบอธิบาย “พี่ใหญ่ ความทรงจำของคุณยังไม่กลับมาอีกเหรอ?ฉันคือไท่ซาง ลูกน้องที่ซื่อสัตย์และมากความสามารถที่สุดของท่านไงล่ะ!พี่ใหญ่นั้นให้ฉันมาเพื่อปกป้องคุณ!”

“ไท่ซางงั้นเหรอ?” หลี่ฝางมองไท่ซางด้วยความสงสัย ชื่อนี้เคยได้ยินมาจากกู่ยี่เทียน เลยเริ่มเทียบจากที่กู่ยี่เทียนบอกว่าทั้งดำทั้งผอม

เมื่อได้ยินคำพูดของไท่ซาง คนตระกูลหยางก็มีเสียงดังก้องในหู เหมือนกับมีฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ ทำให้คนตระกูลหยางหัวหมุนไปตามๆ กัน

เป็นถึงปรมาจารย์กำลังภายใน ทำไมถึงกลายมาเป็นลูกศาย์ของไอ้กระจอกคนนี้ได้ล่ะ?

เมื่อคิดว่าเมื่อก่อนตัวเองเสียแรงทำดีกับไท่ซางไป หยางเทียนลี่ที่เชิญไท่ซางมาได้ เมื่อมาเห็นว่าไท่ซางคุกเข่าลงร้องไห้ต่อหน้าหลี่ฝาง เลยคิดว่าฟ้ากลับตาลปัตร จนเกือบจะคิดว่าตัวเองบ้าไปแล้ว

“ไม่ ไม่มีทาง นี่มันไม่สมเหตุสมผลเลย……” หยางเทียนลี่ตาค้างไป ก่อนจะพึมพำกับตัวเอง

ในคนที่เป็นแดนสุดกำลังภายนอกนักรบ ที่เข้าใจโลกของยุทธภพอย่างเย่นหย่งเฟิงก็ตกใจขึ้นมา เหมือนกับว่าคิดอะไรขึ้นมาได้ สีหน้าเลยเปลี่ยนไป ก่อนจะรีบกำหมัดเคารพหลี่ฝางพลางถาม “ท่านเป็นหลี่ฝาง ปรมาจารย์หลี่งั้นเหรอ?”

หลี่ฝางพยักหน้า แต่ไม่ได้พูดอะไร

“โอ๊ย!” เย่นหย่งเฟิงมีใบหน้าที่แสดงว่า “ต้องเป็นแบบนี้อยู่แล้ว” ออกมา แต่ไม่ทันรอให้คนอื่นๆ ถาม ก็กำมือทั้งสองข้างให้หลี่ฝางอีกครั้ง และโค้งอย่างเคารพกว่าเดิม “เย่นหย่งเฟิง คารวะปรมาจารย์หลี่!”

ท่าทีเคารพแบบนี้ แถมคำว่าปรมาจารย์หลี่ ทำให้คนของตระกูลหยางไม่มีสติกลับมา

ถึงอย่างไร ถึงคนตระกูลหยางจะเป็นคนใหญ่คนโต แต่ก็ยังเป็นเพียงคนธรรมดาๆ อยู่ดี สำหรับนักรบกำลังภายใน เลยไม่ได้รู้อะไรมาก

และยิ่งไม่ต้องพูดถึง หลี่ฝางนั้นขึ้นมาอยู่บนจุดสูงสุดในเวลาอันสั้น แถมยังเป็นปรมาจารย์กำลังภายในที่อายุน้อยด้วย

มีเพียงหยางจื้อเฉิงกับหยางเทียนลี่แค่สองคน ที่จู่ๆ ก็มีสติกลับมา แต่สีหน้าก็เปลี่ยนไปเป็นตกใจเป็นอย่างมาก

“ปรมาจารย์หลี่……หรือว่าจะเป็นปรมาจารย์หลี่ที่สงครามญี่ปุ่นน่ะเหรอ?”

“ใช่แล้วล่ะ เป็นปรมาจารย์หลี่คนนี้นี่เอง คนเพียงคนเดียว ทำให้ตระกูลชิวในหนานเจียงนั้นถูกกำราบ แล้วปั่นป่วนตระกูลหวาง ทำให้ตระกูลหวางจำเป็นต้องก้มหัวให้ แถมยังฆ่าปรมาจารย์สิบกว่าคนที่ญี่ปุ่นอีกด้วย ทำให้ญี่ปุ่นคิดว่านี่เป็นปรมาจารย์หลี่ที่พลิกฟ้าแผ่นดิน!”

ในตอนนั้นเอง ทั้งบริเวณนั้นต่างมีเสียงฮือฮา

เรื่องของตระกูลชิวกับตระกูลหวาง เป็นเรื่องที่ผ่านไปแล้ว หลี่ฝางไม่เหลือความทรงจำในด้านนี้เลย ได้แต่ฟังคนอื่นพูดมาทั้งนั้น

ส่วนเรื่องของญี่ปุ่น กลับเพิ่งเกิดมาเมื่อไม่นานมานี้ แต่เพราะเรื่องวุ่นวายเป็นอย่างมาก เลยปิดเอาไว้ไม่อยู่ ดังนั้นเลยเผยแพร่ออกไปอย่างรวดเร็ว แต่ก็มีเพียงคนชั้นสูงเท่านั้นที่รู้

ทั้งตระกูลหยาง ก็มีแต่หยางจื้อเฉิง หยางเทียนลี่และอีกไม่กี่คนที่รู้เท่านั้น

แต่การไม่รู้ก็ไม่ได้ทำให้คนของตระกูลหยางหยุดตกใจได้ เพราะถึงอย่างไรแค่ได้ยินการอธิบายเพียงอย่างเดียว การทำเรื่องแบบนั้นได้ ก็น่ากลัวมากเกินพอแล้ว

คนของตระกูลหยางคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าตอนแรกที่ไอ้คนจนกระจอกที่พวกเขาคิดว่าถูกหยางฉงพากลับมาเพราะจะปีนเกลียวกับตระกูลหยางนั้น ที่มานั้นยิ่งใหญ่จนมองไม่เห็นจุดจบเลยล่ะ

เมื่อมันยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ถึงจะอยากทำลายตระกูลหยาง เกรงว่ามันจะเป็นเรื่องง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก มันง่ายเหมือนการขยี้มดตัวหนึ่งเลยล่ะ

ในตอนนั้นเอง แววตาคนของตระกูลหยางก็มีทั้งความเคารพและความกลัวต่อหลี่ฝาง

แต่คนที่เกลียดและพูดจาไม่ดีกับหลี่ฝางในตอนแรกนั้น ตอนนี้กลับหน้าซีดไปหมด

ไท่ซางในตอนนี้ ยังคงทำตัวน่าสงสารสมเพชอยู่ตามเคย

“ขอร้องล่ะพี่สะใภ้ พี่ใหญ่รักคุณมากที่สุด คุณช่วยพูดให้หน่อยนะ ไว้ชีวิตลูกศิษย์เถอะ เดี๋ยวศิษย์จะยอมตอบแทนพี่สะใภ้อย่างงามเลยล่ะ!” ไท่ซางขอร้องไม่หยุด

เขาในตอนนี้ ไม่ใช่เขาแบบเดิมแล้ว บางทีอาจจะยังอวดเก่งกับคนอื่นๆ อยู่ และหลงในราคะ แต่เมื่อเจอหลี่ฝาง ในใจเขาก็ไม่มีการต้านทานเลย แต่ตอนนี้ความจำของหลี่ฝางยังไม่กลับมาเหมือนเดิม

หยางฉงรับท่าทีแบบนี้ของไท่ซางเอาไว้ไม่ได้ เลยอดไม่ได้ที่จะส่งสายตาให้หลี่ฝางสักหน่อย

หลี่ฝางจนปัญญาเล็กน้อย ก่อนจะโบกมือแล้วพูดกับไท่ซาง “ช่างมันเถอะ ลุกขึ้นมาเถอะ……

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน