NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1148 เจิ้งเหวินซิงต้องตาย

บทที่ 1148 เจิ้งเหวินซิงต้องตาย

เจิ้งชิงส่ายหน้าแผ่วเบากับประโยคของหลี่ฝาง พร้อมกล่าว “ตระกูลเจิ้งออกหนึ่งร้อยล้าน เงินสดของข้าน้อยรามือ เรื่องนี้ก็ถือว่าผ่านไปแล้ว”

เจิ้งเหวินซิงที่เป็นคนในตระกูลเจิ้ง ไม่มีทางที่จะยกเขาให้กับหลี่ฝาง ไม่เช่นนั้นก็เท่ากับตบหน้าตัวเองงั้นเหรอ?

เจิ้งเหวินซิงที่อยู่ด้านหลังปากสั่น

เริ่มแรก เขาตั้งรางวัลค่าหัวของหลี่ฝางที่สองร้อยล้าน แถมตอนท้ายยังขึ้นเป็นห้าร้อยล้าน ตอนนี้ปู่ของตนออกหนึ่งร้อยล้านจะทำให้หลี่ฝางพอใจได้อย่างไรกัน?

เจิ้งชิงที่เผชิญกับหลี่ฝางไม่หวั่นไหว จึงคิดว่าหนึ่งร้อยล้านคงจะน้อยไป จึงได้แต่ขึ้นราคา “ห้าร้อยล้าน!”

หลี่ฝางยังคงนิ่งเฉยเช่นเคย

เขาต้องการให้เจิ้งเหวินซิงตาย เพราะฝ่ายตรงข้ามต้องการชีวิตของเขา ในเมื่อนับชีวิตเข้ามาแล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องจะที่ตีค่าได้ด้วยเงินทอง

ในเวลานี้ ปรมาจารย์ถังที่นิ่งเงียบมาตลอด ก็ปริปากพูด “ข้าน้อยคือหลี่ฝางใช่ไหม ปรมาจารย์หลี่?”

เมื่อประโยคนั้นหลุดออกมา ทุกคนในงานต่างตกตะลึง

ทุกคนในงานต่างก็เป็นชนชั้นสูง ชื่อเสียงของหลี่ฝางนั้นเคยได้ยินอยู่แล้ว

“กระผมถังโจว ปรมาจารย์หลี่ไม่ทราบว่าเคยได้ยินบ้างไหม” ถังโจวกล่าวอย่างเชื่องช้า

“เกินกำลังภายในสู่แดนเต๋า คุณมีอะไรจะพูดไหม?” หลี่ฝางหรี่ตา

อย่างไรซะ ข่าวคราวที่เขาจะมาเมืองตงนั้น ไม่ได้ทำการปกปิดแต่อย่างใด หลิวฮุยที่รู้อยู่แต่แรกได้รั้งเขาเอาไว้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว

เมื่อรู้ตัวว่าการรั้งของเขานั้นไร้ผล หลิวฮุยที่ไร้หนทางจึงนำข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับตระกูลเจิ้งให้กับหลี่ฝางและหวังว่าหลี่ฝางจะไม่ทำให้เกิดเรื่องใหญ่

ในนี้ก็มีถังโจวที่อายุสี่สิบห้า ก็ได้เป็นกำลังภายในแปดสิบเข้าสู่แดนเต๋านักรบมากฝีมือ

“กระผมกับศิษย์น้องเจิ้งรู้จักกัน เมื่อสมัยหนุ่มกระผมอายุมากกว่าเขาสี่ปี เขานับผมเป็นศิษย์พี่ เรื่องในวันนี้กระผมไม่ยุ่งเกี่ยวไม่ได้”

ถึงโจวส่ายหน้ากล่าว “ปรมาจารย์หลี่ชีวิตมีแต่มองไปข้างหน้า แม้คนได้ล้มตายไปมากมาย แต่คนที่มีชีวิตอยู่อย่างไรก็ต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป แก้แค้นกันไปมาเมื่อไหร่จะจบสิ้น ไม่อย่างนั้นจะเปลี่ยนวิธีอื่นเพื่อคลี่คลายความบาดหมางนี้ได้”

หลังจากที่รู้ว่าคนตรงหน้าคือหลี่ฝาง เจิ้งชิงก็รู้แล้วว่าเรื่องนี้ไม่มีทางจบง่ายๆ แน่ จึงให้ราคาที่สูงส่ง

ราคานี้เป็นราคาที่เงินสดที่สูงที่สุดที่ตระกูลเจิ้งจะให้ได้

ทรัพย์สินและกระแสเงินสดเป็นคนละเรื่อง ตระกูลเจิ้งมีทรัพย์สินที่หนาแน่น แต่กระแสเงินสดนั้นมีจำกัด

เมื่อได้ยินตัวเลขนั้น ทุกคนในงานก็ต่างตกตะลึง เงินสดจำนวนมากขนาดนี้ จะมีใครมากมายที่ไม่ตาร้อน

เมื่อได้ยินคำของเจิ้งชิง ปฏิกิริยาของหลี่ฝางนั้นก็เยือกเย็นมากกว่าเดิม

“ผมบอกแล้ว ว่าถ้าไม่ตายก็ไม่รามือ”

เจิ้งชิงและถังโจวสบสายตากัน เหมือนว่าต่างฝ่ายต่างได้เห็นความลำบากใจของอีกฝ่าย

เจิ้งเหวินซิงเองก็ได้เห็นสิ่งนี้เช่นเดียวกัน พลันคุกเข่าลงอย่างหวาดผวา พร้อมกล่าวเสียงหลง “ปู่ผมยังหนุ่ม ผมยังเปลี่ยนตัวเองได้ ผมยังไม่อยากตาย!”

เจิ้งเหวินซิงมีอำนาจและเงินทองมากมาย อยากจะใช้อย่างไรก็ได้ แล้วจะยอมไปตายได้อย่างไร?

เมื่อเจิ้งชิงเห็นเจิ้งเหวินซิงเช่นนั้น ไม่วายถอนหายใจมองไปทางถังโจว

“พี่ถัง……”

“ไม่ต้องพูดอะไรหรอก” ถังโจวส่ายหน้า พลางกล่าว “ศิษย์น้องเจิ้ง กระผมติดหนี้บุญคุณของท่าน ผมจะคืนให้ในตอนนี้”

เขากล่าวพร้อมกันไปทางหลี่ฝาง

“ปรมาจารย์หลี่ ท่านเป็นนักรบ พูดด้วยความสามารถของตัวเองดีกว่า”

“ตรงนี้เหรอ?” หลี่ฝางนึกถึงคนรอบข้าง พลางกล่าวอย่างเย้ยหยัน

หากพวกเขาสู้กันตรงนี้โดยไม่คำนึงถึงสิ่งใด คนที่อยู่ที่นี่คงไม่มีใครมีชีวิตรอดไปได้แน่

“ไม่ใช่อยู่แล้ว!” ถังโจวมีสีหน้าเคร่งครัด “สามวันให้หลัง บนภูเขาจิ่วเจ หากกระผมแพ้เจิ้งเหวินซิง ก็แล้วแต่ท่านจะจัดการ ห้าพันล้านก็ยังเป็นของท่านเช่นเคย แต่หากท่านแพ้เรื่องนี้เป็นอันหายกัน เป็นไง?”

เมื่อได้ยินว่าชีวิตของตนเองอยู่ในการเดิมพัน ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้า

แต่เมื่อนึกถึง หากไม่มีการเดิมพันในครั้งนี้ ตอนนี้เขาก็คงจะตายไปแล้ว

ในใจเจิ้งเหวินซิงได้แต่ยอมรับชะตากรรมอย่างไร้หนทาง

หลี่ฝางไตร่ตรอง สักพักใบหน้าเผยรอยยิ้มขึ้นเล็กน้อย

“เจิ้งเหวินซิง……”

เมื่อเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่ฝาง ในใจของถังโจวก็เกิดลางสังหรณ์ที่ไม่ดีขึ้น

ทันใดนั้น ไม่ทันรอให้ถังโจวมีการเคลื่อนไหวใดๆ ก็เห็นร่างของหลี่ฝางแว็บผ่าน กำปั้นก็ตกอยู่บนร่างของเจิ้งเหวินซิง

“……วันนี้ต้องตาย!”

เมื่อทุกคนในการไหวตัวได้ หลี่ฝางก็ได้กลับมายังที่เดิมเป็นอันเรียบร้อย ทว่าเจิ้งเหวินซิงกลับยืนอยู่ตรงนั้นไม่ไหวติง ดวงตาเบิกกว้างร่างกายแข็งทื่อ

หัวใจของเขาถูกหมัดของหลี่ฝางจนหยุดเต้น

“ไม่!”

ทันใดนั้นเจิ้งชิงคำรามอย่างโกรธแค้น หลังสิ้นเสียงคำราม เจิ้งชิงที่เจ็บปวดแสนสาหัสเป็นลมหยุดหายใจล้มไปด้านหลัง แต่ได้ถังโจวประคองเอาไว้

“หลี่ฝาง……” ถังโจวจ้องเขม็งหลี่ฝาง ก่อนจะฉายแววอาฆาตในสายตา

เขาไม่คิดเลย ว่าหลี่ฝางคิดจะฆ่าก็ฆ่าเลยต่อหน้าเขา เพราะงั้นจึงช้าไปหนึ่งก้าว จนทำให้เจิ้งเหวินซิงหมดลมหายใจทันที

“เดิมพันนี้ ผมรับปากสามวันให้หลัง เตรียมให้ดี”

หลี่ฝางหมุนตัว พลางทิ้งท้ายประโยคอย่างเย็นชา ก่อนจะหันหลังเดินออกไป

แผ่นหลังที่ค่อยๆ ลับตาของหลี่ฝาง ทุกคนในที่นี้ต่างรู้ดี ว่าผืนแผ่นดินเมืองตงกำลังจะเปลี่ยนไป

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน