NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1174 เลิกรา

บทที่ 1174 เลิกรา

ฉินวี่เฟยเองก็เป็นห่วง เธอลืมไปแล้วว่าหลี่ฝางไม่ใช่คนธรรมดาแล้ว เมื่อได้เห็นคนเหล่านั้นฟุบอยู่ที่พื้นโดยไม่มีแรงจะขัดขืน เธอเลยยิ้มออกมา ก่อนจะดึงแขนของหลี่ฝาง เพราะไม่อยากเสียเวลาเพราะเรื่องนี้

“หลี่ฝาง เรากลับบ้านเถอะ”

หลี่ฝางกับฉินวี่เฟยนั้นคิดได้แล้วก็ไปด้วยกัน คนเศษเดนแบบนี้ไม่มีความจำเป็นต้องกำจัด เลยเก็บพลังเอาไว้ ก่อนจะจูงมือของฉินวี่เฟยแล้วเดินเข้าไปที่บ้านของเธอ

เพิ่งจะเดินเข้ามา ฉินวี่เฟยก็ปิดปากของหลี่ฝางด้วยความอารมณ์ดี ว่ากันว่าหวานกว่าคู่แต่งงานใหม่ หลี่ฝางกับฉินวี่เฟยนั้นไม่ได้เจอกันมาหลายเดือน ฉินวี่เฟยเลยคิดถึงเขาจนจะเป็นบ้า

ไม่ได้ให้โอกาสในการพูดเลย หลังจากที่ฉินวี่เฟยปลดปล่อยอารมณ์กับหลี่ฝางนั้น ฉินวี่เฟยก็อยู่ภายในอ้อมกอดของหลี่ฝางก่อนจะพูด “หลี่ฝาง ช่วงหลายเดือนมานี้คุณไปไหนมาเหรอ?ฉันคิดว่าคุณจะทิ้งฉันแล้ว”

คำพูดของเธอนั้นทำให้หลี่ฝางพูดอะไรไม่ออก ตัวเองจะบอกฉินวี่เฟยอย่างไรว่ามีหยางฉงอยู่น่ะ?

“คุณเป็นอะไรเหรอ?ฉันรู้สึกว่าหลังจากที่คุณกลับมาแล้วมันไม่เหมือนเมื่อก่อนเลย เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า?” หลังจากที่สังเกตเห็นอารมณ์ที่เปลี่ยนไปของหลี่ฝาง ฉินวี่เฟยก็เงยหน้าถามด้วยความกังวล

ไม่รู้ว่าทำไม เธอถึงรู้สึกว่าหลี่ฝางในตอนนี้นั้นไม่เหมือนจริงเลย เหมือนกับว่าวินาทีถัดไปจะหายไปเสียอย่างนั้น ในใจก็เต้นแรงเป็นอย่างมาก ก่อนจะใช้มือทั้งสองกอดหลี่ฝางเต็มแรง

“หลี่ฝาง ตอนที่คุณไม่อยู่นั้นฉันกลัวจริงๆ ฉันกลัวว่าคุณจะทิ้งฉันไปแล้ว กลัวว่าคุณจะไม่กลับมาแล้ว ฉันฝันร้ายทุกวันคืน และเห็นว่าคุณคบกับผู้หญิงคนอื่นไปแล้ว”

ฉินวี่เฟยพูดด้วยเสียงน้อยใจทำให้หลี่ฝางทำอะไรไม่ถูกอยู่ในใจ พลางเอามือใหญ่นั้นลูบหัวของเธอ ในหัวก็คิดแล้วคิดอีก และยังไม่รู้ว่าควรจะบอกเรื่องที่ตัวเองรักกับคนอื่นกับฉินวี่เฟยอย่างไร

อันที่จริงหลี่ฝางก็ไม่ได้ถือว่ารักคนอื่น เพราะเมื่อมีความทรงจำกลับมาเขาก็ยังรักฉินวี่เฟย แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่รู้สึกอะไรกับหยางฉงเลย ทำได้เพียงพูดว่าใจของเขานั้นมีอยู่ถึงสองคน

ถึงแม้จะบอกว่าเขาดูเลวมาก แต่เรื่องจริงมันก็คือแบบนี้ แถมเขาก็ยังควบคุมไม่ได้อีกใครให้ตัวเองความจำเสื่อมกันล่ะ?

“วี่เฟย ถ้าฉันไปรักผู้หญิงคนอื่นแล้วจริงๆ คุณจะทำอย่างไร?” ลังเลอยู่นาน หลี่ฝางยังตัดสินใจที่จะสารภาพกับฉินวี่เฟย ถึงอย่างไรเรื่องแบบนี้จะปิดบังต่อไปก็ไม่ได้ ถึงอย่างไรวันหนึ่งเธอก็ต้องรู้

คำพูดของหลี่ฝางทำให้ฉินวี่เฟยตัวสั่นไป ก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมองหลี่ฝางด้วยความไม่อยากจะเชื่อ น้ำตาก็ไหลลงมาสองสาย ปากเล็กๆ ก็อ้าออกมา แต่กลับพูดอะไรไม่ออกเลย

ท่าทีที่ไร้เสียงของเธอทำให้หลี่ฝางเจ็บปวดเป็นอย่างมาก ก่อนจะเช็ดน้ำตาให้เธออย่างอ่อนโยน น้ำเสียงก็อธิบายด้วยความร้อนและกังวลใจ

“วี่เฟย คุณฟังฉันอธิบายก่อน คุณรู้ว่าก่อนหน้านี้ฉันบาดเจ็บอย่างร้ายแรง ฉันความจำเสื่อม ฉันจำอะไรไม่ได้ ฉันไม่ได้อยากหักหลังคุณ แต่ว่าถ้าฉันจำเรื่องแต่ก่อนได้ ฉันจะไม่มีทางทำเรื่องผิดต่อคุณ”

น้ำตานั้นไหลเป็นสายลงบนใบหน้า ฉินวี่เฟยคิดว่าในใจของตัวเองนั้นเหมือนกำลังจะตายไป เธอขบริมฝีปาก ไม่อยากจะยอมรับความจริงนี้

เธอไม่ใช่ว่าจะคิดเรื่องนี้ไม่ออก เธอเองก็เคยฝันว่าหลี่ฝางคบกับหญิงคนอื่น วันเหล่านี้เธอได้แต่บอกตัวเอง ว่าหลี่ฝางนั้นรักเธอ แล้วจะไม่มีทางทำเรื่องที่ผิดต่อตัวเองเด็ดขาด

แต่ว่าตอนนี้ เรื่องที่เธอกลัวที่สุดก็มาถึงแล้ว

“ผู้หญิงคนนั้นสวยไหม?อ่อนโยนมากเลยใช่หรือเปล่า?เธอดีกว่าฉันแน่นอนเลยใช่ไหม ไม่อย่างนั้นคุณจะไปรักเธอได้อย่างไร” คำพูดนี้ก็ไม่รู้ว่าฉินวี่เฟยกำลังถามหลี่ฝาง หรือกำลังพูดอยู่คนเดียว

น้ำเสียงที่น้อยเนื้อต่ำใจขนาดนี้ทำให้หลี่ฝางปวดใจจนหายใจแทบไม่ออก เขาไม่รู้ว่าจะปลอบใจฉินวี่เฟยอย่างไรดี เลยทำได้เพียงขอโทษแบบนี้

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน ฉินวี่เฟยถึงจะหยุดร้องไห้ ดวงตาทั้งสองแดงก่ำ ที่ตอนแรกประกายเหมือนดวงดาวในตอนนี้กลับมืดลง เมื่อมองหลี่ฝางอยู่นาน ก่อนจะยิ้มอย่างขมขื่นออกมา

“คุณความจำเสื่อมเลยไปรักหญิงอื่น ฉันไม่ว่าคุณหรอก แต่ว่าพวกเราทั้งสองนั้นจบลงตั้งแต่ตอนนี้เถอะ ฉันรับไม่ได้ที่คนที่ฉันรักจะมาคบกับหญิงคนอื่นนะ”

คำพูดของฉินวี่เฟยเหมือนมีดบาดลงกลางใจหลี่ฝาง มันเจ็บจนเขาแทบหายใจไม่ออก อันที่จริงเขานั้นเดาเหตุการณ์ออกแล้ว แต่ยังไม่ยอมเลยขอให้ฉินวี่เฟยให้อภัย

“วี่เฟย คุณอย่าเป็นแบบนี้เลยได้ไหม?ฉันยังรักคุณอยู่ ในใจของฉันมีคุณมาโดยตลอด ฉันยังรักคุณอยู่จริงๆ พวกเราไม่เลิกกันได้ไหม?”

หลี่ฝางพูดพลางอยากจะแตะฉินวี่เฟย แต่กลับถูกเธอปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย “หลี่ฝาง ฉันเชื่อว่าคุณเคยรักฉัน แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่ผ่านไปแล้ว ในเมื่อคุณคบกับหญิงอื่นแล้ว งั้นก็อย่ามามีอะไรคลุมเครือกับฉัน ฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่จะอาวรณ์ขนาดนั้น พวกเราสองคนจากกันแต่โดยดีเถอะ”

คำพูดนี้ฉินวี่เฟยกัดฟันพูด เธอเองก็ไม่อยากเลิกกับหลี่ฝาง แต่เธอเองก็รับไม่ได้ที่มีหญิงอีกคนอยู่

ด้านความรู้สึกนั้นฉินวี่เฟยสะอาดหมดจด เธอไม่ยอมให้ในใจของคนที่ตัวเองรักมีคนอื่นด้วยหรอก

เมื่อเห็นอารมณ์ที่แน่วแน่ของฉินวี่เฟย แววตาของหลี่ฝางก็ปวดเป็นอย่างมาก ในคอก็เหมือนมีอะไรขวางอยู่ เขาหลับตาที่ทั้งเจ็บและบวมก่อนจะพยายามสงบสติอารมณ์ แล้วพูดขึ้นอีกครั้ง

“ขอโทษ วี่เฟย ฉันรู้ว่าฉันทำเรื่องหน้าไม่อาย แต่ว่า พวกเราทั้งสองนั้นไม่มีความเป็นไปได้เลยเหรอ?ฉันรักคุณมากจริงๆ เลย ฉันไม่อยากเสียคุณไป”

เมื่อเห็นชายที่ตัวเองรักเป็นอย่างมาก ฉินวี่เฟยก็ปวดใจจนตัวสั่น เธออยากเลิกเสียที่ไหน แต่ถ้าไม่เลิกแล้วจะทำอย่างไร?หรือจะให้เธอแบ่งหลี่ฝางกับผู้หญิงคนนั้นเหรอ?

จะเป็นไปได้อย่างไร!ฉินวี่เฟยนั้นไม่มีทางที่จะรักได้น้อยขนาดนั้นหรอก!

“ไม่เลิกก็ได้ ขอแค่คุณเลิกกับผู้หญิงคนนั้น ฉันก็จะทำเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น พวกเราทั้งสองคนก็จะกลับไปเป็นเหมือนเดิม”

เมื่อได้ยินว่าฉินวี่เฟยอยากให้ตัวเองเลิกกับหยางฉง หลี่ฝางก็ลังเล เขาไม่รู้จริงๆ ว่าจะเลือกอย่างไรดี หญิงทั้งสองคนนั้นเป็นคนที่เขารัก เขาไม่อยากเสียไปเลย

“วี่เฟย ฉันไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี คุณให้เวลาฉันหน่อยได้ไหม?ฉันจะจัดการเรื่องให้เสร็จ”

“เหอะ ในเมื่อคุณเลือกไม่ได้ ฉันจะจากไปเอง จากนี้คุณก็ไม่ต้องมาหาฉันแล้ว ฉันไม่อยากเห็นคุณอีก”

ความลังเลของหลี่ฝางทำให้ฉินวี่เฟยฟิวส์ขาด ตอนแรกที่เธอหวังจะให้หลี่ฝางเลือกตัวเองอย่างไม่ลังเล แต่ตอนนี้ท่าทีของเขา ผู้หญิงคนนั้นคงจะอยู่ในใจของเขาไม่น้อยเลย

เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ทั้งสองคนจากกันแต่โดยดี

หลังจากพูดจบ ฉินวี่เฟยก็ใส่เสื้อผ้าก่อนจะจากไป หลี่ฝางอยากจะตามไป แต่ว่ากลับหาทางไม่เจอ เลยได้แต่มองฉินวี่เฟยจากไปไกล

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน