NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1128 อวยพรวันเกิด

บทที่ 1128 อวยพรวันเกิด

“ปรมาจารย์ท่านนั้นก็ชื่อหลี่ฝางเหรอ?”

ทุกคนที่ได้ยินดังนั้นพลันรู้สึกประหลาดใจขึ้นมาเป็นอย่างมาก

“นี่เหรอที่เรียกว่าคนเดียวกันชะตาไม่เหมือนกัน?” ซูจื่อเย่กล่าวเย้ยหยัน: “คนหนึ่งเป็นถึงปรมาจารย์กำลังภายใน ตำแหน่งน่าเคารพเชิดชู อีกคนกลับเป็นแค่รปภ. เล็ก ๆ อ้อ ใช่แล้ว หัวหน้ารปภ…….”

จู่ ๆ หลี่ฝางก็คิดว่าตัวเองอัดไอ้หนุ่มซูจื้อเย่ในตอนนี้ก็เป็นความคิดที่ไม่เลวเหมือนกัน

และในตอนนั้นเอง ข่งจูที่อยู่ด้านข้างก็ได้เอ่ยปากกล่าวขึ้นมาอีกครั้ง: “ใช่แล้ว ได้ยินว่าคิดจะสำเร็จเป็นปรมาจารย์กำลังภายในนั้นไม่ง่ายเลย จะต้องฝึกฝนอย่างยากลำบากเป็นสิบ ๆ ปีถึงจะเข้าขั้นกำลังภายในได้ งั้นปรมาจารย์กำลังภายในของตระกูลหยางคนนั้น คงไม่ใช่ตาแก่อายุเจ็ดสิบแปดสิบหรอกนะ……”

ทันใดนั้น ทุกคนต่างก็มีความอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาทันที

เพราะถึงยังไง ถ้าหากหญิงสาวที่งดงามดั่งหยกอย่างหยางฉง จะแต่งกับตาแก่คนหนึ่งล่ะก็ คิดยังไงก็เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะเต็มใจ

คงไม่ใช่สิ่งของที่ใช้แลกเปลี่ยนกับผลประโยชน์ของตระกูลอีกหรอกนะ……

ทันทีที่นึกถึงตรงนี้ ทุกคนต่างก็อดไม่ได้ที่จะเห็นอกเห็นใจหยางฉงขึ้นมา

ตอนนี้หลี่ฝางยังคงรักษาใบหน้าให้อยู่ในความสงบเหมือนเดิม แต่ภายในใจนั้นแทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป บุคลิกของเขาคงต้องถูกทำลายไม่เหลือแน่

ยังดีที่ ในเวลานี้ซูจื้อเย่ได้เอ่ยขึ้นมา: “ไม่ ปรมาจารย์ท่านนี้ไม่ธรรมดาเชียวนะ พูดได้แม้กระทั่งว่าเป็นอัจฉริยะแห่งยุคสมัยท่านหนึ่ง ได้ยินว่าปีนี้ก็มีอายุแค่ยี่สิบสามยี่สิบสี่เท่านั้นเอง!”

“อายุยี่สิบสามยี่สิบสี่?” ทุกคนต่างมีท่าทางตะลึงงันไปทันที

ความลำบากกว่าที่จะสำเร็จเข้าขั้นกำลังภายใน เพียงแค่ดูปรมาจารย์กำลังภายในอันน้อยนิดที่อยู่บนโลกใบนี้ก็สามารถจินตนาการได้แล้ว แต่คิดไม่ถึงว่าปรมาจารย์กำลังภายในคนนั้นจะมีอายุเพียงยี่สิบสามยี่สิบสี่ คะแนนความสำเร็จที่น่าหวาดกลัวเช่นนี้ จะให้คนไม่ตกตะลึงได้ยังไง?

“พระเจ้า นั่นมันร้ายกาจจริง ๆ เลยนะ!” ข่งจูอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา

ในเวลานี้ลู่เผิงเฟยกำลังยืนอยู่ในที่ห่างออกไปไม่มากนัก เมื่อได้ยินคำวิพากษ์วิจารณ์ทางฝั่งหลี่ฝาง จึงอดไม่ได้ที่จะยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย และแอบส่งสายตาให้กับหลี่ฝางอย่างเงียบ ๆ

หลี่ฝางเองก็จนปัญญา การประเมินค่าที่โลกภายนอกมีต่อคนคนหนึ่ง ผ่านปากต่อปาก ไม่เป็นเทพก็เป็นมารไปนานแล้ว เรื่องพวกนี้หลี่ฝางเองก็ไม่จำเป็นต้องเก็บมาใส่ใจ

ในเวลานี้ซูจื้อเย่ก็ได้เห็นลู่เผิงเฟยอีกครั้ง จึงรีบเดินขึ้นไปหาพลางกล่าว: “คุณชายลู่ ก่อนหน้านี้เป็นผมที่พูดผิดไป วอนคุณชายลู่โปรดให้อภัยด้วย”

เขาคิดว่าตัวเองเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างลู่เผิงเฟยและหลี่ฝางแล้ว ในเมื่อหลี่ฝางต้องถูกตระกูลลู่ดึงไปเป็นพวก หลังจากนี้ก็ไม่จำเป็นที่เขาจะต้องหาเรื่องอยู่ตลอดเวลาอีก จึงคิดที่จะมาอมแซมความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับลู่เผิงเฟย

ส่วนลู่เผิงเฟยหลังจากที่ได้พูดคุยกับหลี่ฝางแล้วนั้น ก็ได้กล่าวกับซูจื้อเย่ด้วยรอยยิ้ม: “คุณชายซูไม่ต้องทำเช่นนี้ก็ได้ เรื่องนี้ผ่านไปแล้ว ก็ให้มันผ่านไปเถอะ”

ในเมื่อหลี่ฝางไม่เอาความ เช่นนั้นเขาก็ไม่จำเป็นที่จะต้องทำให้ความสัมพันธ์กับซูจื้อเย่แข็งกระด้างมากเกินไป

ความจริงแล้วที่หลี่ฝางทำแบบนี้ ก็เพราะเขาดูออกว่าลู่เผิงเฟยอยากจะพัฒนาธุรกิจที่เมืองจินซาน ในเมื่อเป็นเช่นนั้น หลีกเลี่ยงที่จะมีเรื่องกับคนอื่นได้ก็หลีกเลี่ยง

เรื่องของตัวเองหลี่ฝางสามารถจัดการได้ ไม่จำเป็นต้องดึงลู่เผิงเฟยเข้ามาเกี่ยวข้อง

ในตอนนั้นเอง โจวยู่ยินที่อยู่ด้านบนก็ได้ถือไมค์และเริ่มกล่าว ผู้คนที่อยู่ด้านล่างต่างก็เงียบไปอย่างรวดเร็ว

หลังจากที่โจวยู่ยินกล่าวจบไปอย่างสั้น ๆ ก็ได้เริ่มมีคนอวยพรวันเกิดมอบของขวัญให้กับคุณย่า

ความจริงแล้วคนส่วนมากได้มอบของขวัญให้ไปตั้งแต่แรกแล้ว

ส่วนตอนนี้ส่วนมากล้วนเป็นของขวัญที่ล้ำค่า เพื่อเป็นการเอาฤกษ์เอาชัย

และในเวลานี้ฟางหยู่ถงเอง ก็ได้พาหลี่ฝางเข้าไปมอบของขวัญให้กับคุณย่าพร้อมกัน

มองดูหลี่ฝางที่เดินอยู่ด้วยกันกับฟางหยู่ถง สีหน้าของซูจื้อเย่ก็ดูไม่ได้ขึ้นมา ภายในสายตานั้นไม่พอใจเป็นอย่างมาก

ถึงแม้ธุรกิจของครอบครัวของเขาจะไม่ใช่เล็ก ๆ แต่ต่อให้เป็นธุรกิจที่ใหญ่เพียงใด ก็ไม่ใช่ว่าจะสมดั่งใจ ไร้เทียมทานทุกอย่าง

ก็เหมือนกับธุรกิจของครอบครัวของเขา มาถึงตอนนี้ก็ได้ถึงคอขวดแล้ว คิดจะก้าวหน้าไปอีกขั้น ก็จะต้องมีเงินสนับสนุนจำนวนมหาศาล

และคุณพ่อของฟางหยู่ถงนั้นก็ได้กำสมาคมเงินทุนในการลงทุนเอาไว้ในมือ จึงได้มีเงินทุนจำนวนมหาศาล

เพียงแค่ซูจื้อเย่สามารถจีบฟางหยู่ถงติดได้ เช่นนั้นครอบครัวของเขาก็จะได้รับเงินสนับสนุนจากคุณพ่อของฟางหยู่ถงจำนวนมหาศาล เดินไปข้างหน้าอีกก้าว พัฒนาขอบเขตธุรกิจให้ครอบคลุมไปทั่วตลาดในเมืองจินซาน บางทีอาจจะเป็นไปได้

แต่ทว่าทุกอย่างนั้นกลับได้ถูกพนักงานเล็ก ๆ อย่างหลี่ฝางทำลายลง!

ภายในใจของซูจื้อเย่นั้น ไฟโมโหได้ลุกโชนมากขึ้นเรื่อย ๆ

ไม่นาน หลี่ฝางและฟางหยู่ถงก็ได้มาถึงด้านหน้าของโจวยู่ยิน

ไม่นาน หลี่ฝางก็ได้กล่าวอวยพรประมาณว่า “อายุยืนร้อยปี” ตามฟางหยู่ถงสองสามประโยค ล้าจึงหยิบเอาของขวัญออกมา

ของขวัญชิ้นนี้เป็นฟางหยู่ถงได้จัดเตรียมเขาไว้และให้เขามองในนามของเขา กำไลหยกมูลค่าสี่ล้านกว่าหยวน สามารถพูดได้ว่ามูลค่าไม่ธรรมดา

“ดี พ่อหนุ่มที่แสนดี ฮ่า ๆ ๆ”

โจวยู่ยินดีใจเป็นอย่างมาก ได้เห็นหลานสาวแสนรักแสนหวงของตัวเองมีแฟนกับเขาเสียที นอกจากนี้ดูท่าทางของฟางหยู่ถงแล้วเหมือนจะมีความสุขมากที่ได้คบกับแฟนหนุ่มคนนี้ สำหรับหญิงชราแล้วเป็นเรื่องที่น่าดีใจเป็นอย่างมาก

แต่ทว่าคนที่อยู่ด้านหลังของหญิงชรา กลับมีสีหน้าท่าทางที่แตกต่างกันไป เหมือนกับว่าล้วนมีความคิดที่ไม่เหมือนกัน

เมื่อได้เห็นหลี่ฝางปรากฏตัวขึ้นที่นี่ หยางเทียนลี่ทั้งตกใจ ทั้งหวาดกลัว และยังเต็มไปด้วยความสงสัย

หลังจากเรื่องที่คฤหาสน์ตระกูลหยางในวันนั้น เขาก็มีความรู้สึกหวาดกลัวหลี่ฝางอยู่ตลอดเวลา ส่วนที่สงสัยและประหลาดใจ นั้นก็เพราะหลี่ฝางเป็นเขยของตระกูลหยางของเขาแท้ ๆ ทำไมแค่พริบตาเดียว ถึงได้กลายเป็นแฟนหนุ่มของฟางหยู่ถงไปแล้วล่ะ?

หรือว่าเร็วแบบนี้ ตระกูลหยางของพวกเขาก็ต้องศูนย์เสียเทพคุ้มครององค์นี้ไปซะแล้วเหรอ?

ทันทีที่นึกถึงตรงนี้ ภายในใจของหยางเทียนลี่ก็พลันรู้สึกทุกข์ทรมานขึ้นมาทันที

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท