NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1189 จัดการศัตรูหัวใจ

บทที่ 1189 จัดการศัตรูหัวใจ

“ใครบอกกันว่าฉันทำเพื่อเขา เขาได้รับสิทธิ์นั้นที่ไหน ฉันก็แค่ไปตามความก้าวหน้าของสังคมก็เท่านั้น เพียงแค่ในประเทศเท่านั้นไม่มีอนาคต การเจาะตลาดต่างชาติเป็นเรื่องช้านานอยู่แล้ว”

มือที่ตักโจ๊กทานเห็นได้ชัดว่าชะงักกึก แต่เธอก็ยังไม่ยอมรับความรู้สึกจริงๆ ข้างใน แถมยังแสร้งทำทีท่าไม่แยแส เหลียงเชี่ยนไร้หนทาง ได้แต่ไม่ขัดใจเธอ

“ประธานฉิน หลี่ฝางเขาไปทำธุรกิจท่านรู้ไหม?” เมื่อนึกขึ้นที่หลี่ฝางพูดเมื่อคืนว่าครั้งนี้คงจะอันตรายมาก เหลียงเชี่ยนจึงอดลองใจไม่ได้

“เขาจะไปไหนมันเกี่ยวอะไรกับฉัน ฉันกับเขาตอนนี้เป็นแค่คนแปลกหน้าเท่านั้น เพราะงั้นเธออย่าพูดถึงเขาต่อหน้าฉันอีก”

อันที่จริงฉินวี่เฟยเห็นข้อความที่หลี่ฝางส่งหาเธอแล้ว เพียงแต่เมื่อเธออ่านจบก็ลบข้อความทิ้งทันที ตอนนี้เธอเลิกกับหลี่ฝางแล้ว ข้อความแบบนี้สำหรับเธอแล้วไร้ความหมายอีกต่อไปแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้หลี่ฝางมีผู้หญิงคนอื่นแล้ว เป็นห่วงเขา กังวลเรื่องของเขาไม่ใช่หน้าที่ของเธออีกต่อไปแล้ว แล้วเธอจะหาเรื่องปวดหัวไปทำไมกัน

“แต่ว่าประธานฉิน หลี่ฝางเขา……”

“ฉันบอกแล้วไม่ใช่หรือว่าอย่าพูดถึงเขาอีก? เหลียงเชี่ยน ถ้าเธอทำเหมือนคำพูดฉันไร้ความหมายอีกละก็ ถ้างั้นตำแหน่งเลขาของเธอก็ไม่ต้องเป็นแล้ว!”

อันที่จริงเหลียงเชี่ยนอยากจะบอกกับฉินวี่เฟยว่า ครั้งนี้หลี่ฝางคงจะมีอันตรายมาก แต่เพิ่งจะเริ่มประโยค ก็ถูกฉินวี่เฟยขัดขึ้นอย่างไร้เยื่อใยเสียก่อน

เมื่อเห็นว่าฉินวี่เฟยโกรธ เหลียงเชี่ยนจึงได้แต่กลืนคำพูดที่อยู่ในลูกคอกลับไป ได้แต่ลอบอวยพรให้กับหลี่ฝางในใจ หวังว่าคราวนี้เขาจะกลับมาอย่างปลอดภัย

สามวันผ่านไป ในสามวันนี้ฉินวี่เฟยนอกจากนอนแล้วก็คือทำงาน ค้านความคิดเห็นของทุกคนต้องตีตลาดประเทศอเมริกาในปลายปีนี้

ผู้ถือหุ้นทั้งหลายต่างไม่เห็นด้วยกับความคิดของเธอ หรือแม้แต่บางคนถึงกับลั่นวาจา บอกว่าหากฉินวี่เฟยทำด้วยตัวคนเดียว จะโหวตให้เธอออกจากตำแหน่งประธาน

ตอนแรกอราฟาเอลที่คิดจะสั่งสอนเหล่าผู้ถือหุ้นที่ไม่พอถึงพอใจสักหน่อย แต่กลับถูกฉินวี่เฟยปฏิเสธ และไล่ราฟาเอลออกไป

หากจะพูดแทนฉินวี่เฟยละก็ ราฟาเอลเป็นคนของหลี่ฝาง เขาเองก็ได้รับคำสั่งจากหลี่ฝางให้มาปกป้องเธอ ในเมื่อตอนนี้ฉินวี่เฟยและหลี่ฝางเลิกกันแล้ว ถ้างั้นราฟาเอลก็ไม่มีเหตุผลที่จะอยู่ข้างกายเขาอีก

สิ่งนี้ทำให้ราฟาเอลที่นิ่งเงียบเสมอลำบากใจ ก่อนที่หลี่ฝางจะไปได้กำชับเป็นพิเศษ ต้องดูแลความปลอดภัยของฉินวี่เฟยให้ดี ตอนนี้ฉินวี่เฟยกลับจะไล่เขาออก นี่มันเรื่องอะไรกัน

ด้วยความสิ้นหวัง เขาทำได้เพียงกลับไปที่รีสอร์ทเพื่อขอความช่วยเหลือ

“พี่ราฟาเอล ทำไมพี่ถึงได้หน้าบึ้งขนาดนั้น ใครทำให้พี่โมโห ผมจะไปสั่งสอนมัน!” โหจื่อที่เข้ามาก็เห็นราฟาเอลที่นั่งขรึมอยู่ที่โซฟา ด้วยใบหน้าที่บูดบึ้งราวกับมีคนติดหนี้เขาเป็นพันล้าน

“ฉินวี่เฟยไม่ต้องการให้ฉันปกป้องเธออีก แต่ลูกพี่ใหญ่มีคำสั่งเด็ดขาด ให้ฉันปกป้องฉินวี่เฟยไร้ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรทั้งนั้น ทำยังไงดี?”

เมื่อราฟาเอลได้ยินเสียงของโหจื่อ เหลือบมองเขาอย่างขอไปที ก่อนที่จะก้มหน้ากล่าว

โหจื่อชินแล้วกับความเย็นชาของราฟาเอล พลันประชิดราฟาเอลอย่างสนิทสนม ก่อนคว้าเมล็ดทานตะวันจากโต๊ะ แทะไปด้วยพร้อมกล่าว

“มันจะไปยากอะไร แม้พี่สะใภ้จะบอกว่าไม่ต้องการให้พี่ปกป้อง แต่เธอเป็นคนธรรมดา จะไปมองเห็นพี่ใหญ่ที่ปกป้องเธออยู่ห่างๆ ได้ยังไง”

“วิธีนี้ใช้ได้!” ประโยคของโหจื่อจุดประกายราฟาเอล เขาดีดลุกขึ้นจากโซฟา ทิ้งท้ายประโยคก่อนที่จะกลับไปยังบริษัทของฉินวี่เฟยด้วยความเร็วแสง

เมื่อเขากลับมายังใต้ตึกของบริษัท ชายคนหนึ่งในชุดสูทสีขาว ในมือถือดอกกุหลาบสีแดงช่อหนึ่งพร้อมด้วยป้ายเพื่อสารภาพรัก

ข้างเขามีรถสปอร์ตเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งจอดอยู่ บนรถเต็มไปด้วยดอกกุหลายอย่างเวอร์วัง การกระทำของเขาทำให้เกิดไทมุงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเหล่าสาวๆ ที่ช่างเพ้อฝันทั้งหลาย ต่างตะโกนร้องด้วยความอิจฉา

เหตุการณ์นี้ทำให้ชายใส่สูทชอบใจ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มได้ใจที่ชวนอ้วก ในมือของเขาถือลำโพงเอาไว้ ตะโกนใส่หน้าบริษัทของฉินวี่เฟยเสียงดัง

“วี่เฟย! ฉันรักเธอ! แต่งงานกับ……” ผมนะ……

ไม่รอให้ชายใส่สูทกล่าวจนจบประโยค ราฟาเอลก็ทำลายลำโพงจนแหลกละเอียด

ชายใส่สูทงงเป็นไก่ตาแตก ดวงตาของเขาแทบจะถลนออกมาจากเบ้า ชายตรงหน้ามันอะไรกัน? เขาจะสารภาพรักแท้ๆ เขาจะมายุ่งอะไรด้วย?

“ให้ตาย แกรนหาที่ตายหรือไง? ถึงได้กล้าพังงานของกู! ชิวคุน ยังไม่รีบจัดการไอ้จนตรอกนี่อีก!”

ชายใส่สูทโมโหจนแทบจะโยนดอกไม้ในมือทิ้ง มุ่งไปที่ชายผมแห้งด้านหลัง แต่ชายวัยกลางคนที่เต็มที่ด้วยกล้ามเนื้อคำรามลั่น

เมื่อคนที่ชื่อชิวคุนได้ยิน ถึงได้เอามือไขว้หลังเดินไปตรงหน้าราฟาเอล ด้วยความโอหัง “ไอ้หนู ถ้าไม่อยากตาย ก็รีบกราบขอโทษคุณชายของเราซะ ไม่อย่างนั้น มือของแกข้างนี้วันนี้คงรักษาเอาไว้ไม่ได้แน่”

ชิวคุนคนนี้เองก็เป็นนักรบเช่นเดียวกัน แต่ความสามารถของเขามีเพียงกำลังภายนอกชั้นกลางท่านั้น อันที่จริงเขาเป็นศิษย์มีสำนัก เพียงแต่ธรรมดาเท่านั้น อายุสี่สิบกว่าแล้วแต่ความสามารถยังอยู่ที่กำลังภายนอกชั้นกลางเท่านั้น

เมื่อรู้ว่าตนเองไร้ความหวังที่จะได้สืบทอดเจ้าสำนัก ชิวคุนจึงลาสำนักตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน เพิ่งพาสถานะนักรบของตนเอง เป็นบอดี้การ์ดให้กับเหล่าคุณชายมั่งคั่ง

อย่าว่าไป แม้กำลังภายนอกชั้นกลางของเขาจะธรรมดาในแวดวงนักรบ แต่เมื่อเทียบกับคนธรรมดาแล้ว กลับเป็นการมีอยู่เยี่ยงราชา สู้คนเดียวยี่สิบถึงสามสิบคนนั้นไม่มีปัญหา

หลายมีมานี้เขาเพิ่งพาทางนี้สร้างเงินได้อยู่ไม่น้อย นานวันเข้า เขาก็เลิกราจากวงการนักรบโดยสมบูรณ์ ไม่รู้เรื่องราวของวงการนักรบแม้แต่น้อย

ราฟาเอลถ่อมตนอยู่เสมอ การแต่งการเองก็เรียบง่าย เสื้อผ้าของเขาส่วนใหญ่หาซื้อตามออนไลน์ร้อยสองร้อยเท่านั้น เพราะงั้นความรู้สึกแรกที่คนอื่นมองเขาคือจนตรอกไม่มีเงิน

แต่สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงความรู้สึกไม่ที่ผิดไป แม้ราฟาเอลจะไม่รวยเท่ากับหลี่ฝาง แต่ในบัตรของเขาก็มีอยู่หลายร้อยล้าน คุณชายมั่งคั่งแบบนี้ ไม่ได้อยู่ในสายตาของแม้แต่น้อย

ไม่ต้องพูดก็รู้ ชิวคุนถูกรูปลักษณ์ภายนอกของราฟาเอลล่อลวงเข้าให้เต็มๆ เพราะงั้นความสามารถของเขาเองก็ไม่ได้หยั่งเชิง คิดว่าเขาเป็นคนธรรมดา

“ให้ผมคุกเข่าขอโทษ เขาไม่คู่ควร” เขาทิ้งประโยคเอาไว้อย่างเย็นชา ก่อนราฟาเอลจะหักแขนทั้งสองข้างของชิวคุน

กระบวนท่าจบลงในพริบตา แม้แต่ปฏิกิริยาของชิวคุนเองก็ช้าไปกว่าครึ่ง เมื่อราฟาเอลยืนอยู่กับที่อีกครั้ง เขาถึงได้โอดครวญราวกับเชือดหมู

เหล่าไทมุงต่างนิ่งอึ้ง อ้าปากกว้างจนสามารถอมไข่ได้ทั้งฟอง ชายใส่สูทตกใจจนฟุบลงกับพื้น จ้องมองราฟาเอลด้วยความผวา อ้ำอึ้งอยู่ครึ่งค่อนวันแค่ก็พูดอะไรไม่ออก

“ฉินวี่เฟย เป็นผู้หญิงของพี่ใหญ่ผม ถ้าแกกล้าคิดไม่ซื่อต่อเธอ ก็เตรียมตัวตายได้เลย”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท