NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1196 ท้อง

บทที่ 1196 ท้อง

หยางฉงเข้าไปในห้องน้ำอย่างไร้คำพูด เมื่อเธอเห็นแท่งตรวจครรภ์ขึ้นสองขีด เธอตัวแข็งทื่อ กระทั่งหวางซีเหยามาเคาะประตูห้องน้ำอย่างร้อนใจ เธอถึงได้สติกลับคืนมา

“เสี่ยวฉง เป็นไงบ้าง? พูดอะไรสักอย่างสิ! ฉันจะตายอยู่แล้ว!”

หวางซีเหยาที่รออยู่ที่ห้องนั่งเล่นเห็นว่าหยางฉงไม่ออกมาสักที รีบร้อนอย่างมาก แทบอยากจะผลักประตูเข้าไป

เมื่อได้ยินเสียงของหวางซีเหยา หยางฉงถึงได้ค่อยเปิดประตูห้องน้ำออก เมื่อเห็นใบหน้าที่ร้อนใจของหวางซีเหยาจึงกล่าวอย่างมึนงง “เหยาเหยา ฉันท้อง……”

หวางซีเหยาแย่งแท่งตรวจครรภ์ในมือของหยางฉงมาไว้ มองดูอยู่หลายรอบถึงได้ยอมรับความจริงที่ยากจะเชื่อ

“ไม่เป็นไร เสี่ยวฉง ไม่เป็นไรนะ เธอออกมาก่อน เราค่อยๆ คิดหาวิธีแก้ปัญหา”

หวางซีเหยาประคองหยางฉงอย่างระแวดระวังไปที่โซฟา ก่อนคุกเข่าคุยกับเธอ “เสี่ยวฉง เธอคิดจะทำยังไง?”

อันที่จริง หวางซีเหยาไม่คิดที่จะให้หยางฉงเก็บเด็กคนนี้ไว้ ยังไงซะความหมายของหลี่ฝางตอนนี้ชัดเจนมาก เขาตัดสินใจที่จะเลิกกับหยางฉงแน่แล้ว

หากหยางฉงคลอดเด็กคนนี้ออกมา ถ้างั้นสำหรับเธอก็เป็นเพียงความรับผิดชอบเท่านั้น

“เหยาเหยา ฉันไม่รู้ ฉันไม่รู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้ ฉันคิดว่าฉันจะเดินไปกับหลี่ฝางได้จนนาทีสุดท้าย”

หยางฉงน้ำตาไหลเอ่อ สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสองวันนี้เกิดความคาดหมายของเธอมาก

หากหลี่ฝางไม่ได้ฟื้นความจำ หรือหลี่ฝางอาจจะเลือกเธอละก็ หยางฉงจะเก็บเด็กคนนี้เอาไว้อย่างไม่ลังเล

แต่ตอนนี้หลี่ฝางไม่อยู่แล้ว เขาตัดสินใจเลิกกับเธอแล้ว เด็กคนนี้จะมีความหมายอะไร

“ฉันมันโง่ อันที่จริงตอนแรกฉันนึกถึงจุดจบแบบนี้แล้ว ฉันควรจะรักตัวเองให้มาก เป็นความผิดของฉัน ฉันทำร้ายเด็กที่ไม่เกี่ยวข้องด้วย”

หยางฉงร่ำไห้พลางลูปบริเวณท้องของเธอ แม้จะตั้งครรภ์ได้เพียงหนึ่งเดือน แต่เหมือนกับว่าเธอรู้สึกได้ถึงชีวิตน้อยๆ อย่างไรอย่างงั้น

“ไม่ใช่ความผิดของเธอ เสี่ยวฉง เธอมาเป็นแบบนี้” หยางฉงที่เต็มโทาตัวเองอยู่อย่างนั้น หวางซีเหยาแทบจะทนไม่ไหวที่จะหั่นหลี่ฝางเป็นชิ้นๆ

“เสี่ยวฉง ตอนนี้เธอท้องอยู่ ตื่นเต้นมากไม่ได้ อย่าร้องไห้ แบบนี้เธอจะเสียสุขภาพ”

หยางฉงในตอนนี้ราวกับขาดที่ยึดเหนี่ยว เรื่องของหลี่ฝางทำให้เธอขาดสติไปอย่างสิ้นเชิง

หวางซีเหยาต้องทำให้เธอใจเย็นลงก่อน ต่อให้เธอไม่ได้ท้อง น้ำตาท่วมแบบนี้ทุกวันก็ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหา

เมื่อได้ยินว่าเธอทำแบบนี้ไม่ดีต่อเด็กในท้อง หยางฉงจึงได้สติกลับคืนมาบ้าง เธอสูดหายใจกลั้นน้ำตา

“เหยาเหยา ขอบคุณมากนะที่ปลอบใจฉัน เธอวางใจเถอะ ฉันไม่ทำร้ายตัวเอง ต่อให้เพื่อเด็กในท้อง ฉันก็ต้องอยู่ต่อไป”

ความหมายของหยางฉงคิดจะเก็บเด็กคนนี้เอาไว้ หวางซีเหยาทั้งดีใจและกังวล

เธอดีใจที่ในที่สุดหยางฉงก็ยืนหยัดได้เสียที เธอกังวลหลังคลอดเด็กออกมา จะมีคำครหาต่างๆ มากมาย

“เสี่ยวฉง เธอจะเก็บเด็กคนนี้เอาไว้จริงหรือ? ถ้าหลี่ฝางเลือกฉินวี่เฟยคนนั้น เธอจะทำยังไง? เธอจะอธิบายยังไงกับที่บ้านเธอ?”

หวางซีเหยาเข้าใจในเหล่าลุงป้าของหยางฉงดี ตอนนี้พวกเขายอมรับให้หยางฉงเป็นหัวหน้าครอบครัว เป็นเพราะเกรงกลัวหลี่ฝาง หากพวกเขารู้ว่าเมื่อถึงตอนนั้นหลี่ฝางได้เลิกกับหยางฉงไปแล้ว ต้องคิดหาทุกวิถีทางเพื่อขับไล่หยางฉงออกจากตระกูลหยางแน่

เมื่อถึงตอนนั้น เธอจะเพิ่งพาอะไรในการดูแลตัวเองและลูก?

แถมหยางฉงก็เป็นคนมีชื่อเสียง ท้องก่อนแต่งแบบนี้ สำหรับเธอไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ ราคาที่คลอดบุตรออกมาแพงมหาศาล หวางซีเหยาไม่ต้องการให้หยางฉงรับชะตากรรมแบบนั้น

“เสี่ยวฉง เธอจะลองคิดทบทวนใหม่ไหม เด็กคนนี้เรา……”

“เหยาเหยา ฉันคิดดีแล้ว ฉันจะเก็บเด็กคนนี้ไว้ ไม่ว่าหลี่ฝางจะอยู่กับฉันไหม ฉันก็ไม่มีทางฆ่าเด็กคนนี้ ในเมื่อเขาเลือกฉันแล้ว ในเมื่อเขาเลือกฉัน งั้นฉันไม่ว่ายังไงก็ไม่มีวันทิ้งเขา”

ไม่รอให้หวางซีเหยาได้อธิบาย หยางฉงจึงฉีกรอยยิ้มขัดขึ้น เธอยอมรับว่าเมื่อสักครู่เธอมีความคิดที่จะเอาเด็กออก แต่ความคิดนี้ก็อยู่ในหัวของเขาเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น

อันที่จริงหลี่ฝางก่อนหน้านี้เคยบอกแล้ว รอเรื่องของท่านปู่หยางผ่านไปก่อนค่อยแต่งงานกับหยางฉง และจะคลอดลูกสาวหนึ่งลูกชายหนึ่งกับหยางฉง น่าเสียดาย ที่ไม่ทันรอให้เรื่องราวเสร็จสิ้น หลี่ฝางก็ฟื้นความจำเสียก่อน ที่เขาสัญญาว่าจะแต่งงานกับเธอก็ไม่ได้ทำตามสัญญา

ในเมื่อตอนนี้ฟ้าได้ส่งเด็กคนนี้ให้เธอแล้ว หยางฉงก็ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ ยังไงซะเด็กก็ไม่เกี่ยวข้องด้วย เธอไม่มีเหตุผลและไม่มีสิทธิ์ที่จะยับยั้งความหวังที่จะมีชีวิตของเด็ก

ยิ่งไปกว่านั้น เป็นไปได้ว่าเด็กคนนี้จะเป็นโซ่ตรวนหนึ่งเดียวของเธอและหลี่ฝาง หยางฉงไม่อยากจะตัดโซ่ตรวนสุดท้ายนี้ ต่อให้เก็บเป็นความหวังของตนเองก็ยังดี

หลังจากที่หยางฉงได้รู้จักกับหลี่ฝาง กระทั่งทั้งคู่รักกัน เธอถือว่าหลี่ฝางเป็นโลกทั้งใบของเธอ หลี่ฝางไปแล้ว เสาที่ค้ำยันเธอเอาไว้ก็ล้มเช่นกัน

ส่วนเด็กคนนี้ เป็นความหวังที่หยางฉงที่จะมีชีวิตต่อไป หากเสาต้นนี้เสียไปด้วย หยางฉงไม่รู้ว่าควรจะมีชีวิตต่อไปยังไงจริงๆ

“ในเมื่อเธอคิดดีแล้ว งั้นฉันจะสนับสนุนเธอเต็มที่! แต่เราหาตัวไอ้บัดซบหลี่ฝางให้เจอก่อนดีกว่า เขาคิดจะปัดความรับผิดชอบ ไม่มีทาง! ฉันต้องอัดมันให้เละแทนลูกสาวบุญธรรมของฉัน!”

หวางซีเหยาเป็นคนใจกว้างเสมอ ในเมื่อหยางฉงรู้สึกว่าไม่มีอะไรงั้นเธอก็ไม่มีปัญหา ความสัมพันธ์ของเธอกับหยางฉง ต่อให้ตระกูลหยางขับไล่หยางฉงออกจากตระกูล เธอก็เลี้ยงดูสองแม่ลูกหยางฉงได้สบาย

“เธอรู้ได้ไงว่าต้องเป็นลูกสาว ถ้าเป็นลูกชายล่ะ” เมื่อเห็นความมั่นใจของหวางซีเหยา หยางฉงอดยิ้มไม่ได้

ร้องไห้อยู่ครึ่งค่อนวัน ในที่สุดก็เห็นหยางฉงยิ้มได้เสียที หวางซีเหยาก็ต้องคิดหาทุกวิธีเพื่อเอาใจอยู่แล้ว เธอมุดหัวเข้าไปที่ท้องน้อยของเธอ กล่าวด้วยน้ำเสียงออดอ้อน

“ฉันบอกว่าเป็นลูกสาวก็ต้องเป็นลูกสาวสิ ทางที่ดีต้องคลอดเสี่ยวฉงน้อยที่ทั้งสวยและน่ารักแบบเธอยิ่งดี ไม่เอาเด็กผู้ชาย ถ้าเป็นผู้ชายสารเลวแบบหลี่ฝางต้องแย่แน่”

“ฉันว่าเป็นเด็กผู้ชาย แบบนี้ฉันจะได้มีที่รำลึก” เมื่อได้ยินคำของหวางซีเหยา หยางฉงเกิดเศร้าขึ้นมาอีกครั้ง

หัวข้อนี้เธอก็เคยได้หารือกับหลี่ฝางเช่นเดียวกัน หลี่ฝางก็พูดแบบเดียวกัน บอกว่าต้องคลอดลูกสาวที่น่ารักเหมือนกับเธอ

“โอ๊ย เราไม่พูดถึงไอ้บัดซบนั่นแล้ว! เสี่ยวฉงตอนนี้เธอต้องรักษาสุขภาพให้ดี อย่าให้สารเลวอย่างหลี่ฝางมีผลกระทบต่อสุขภาพของเธอได้ เธอไม่ทำเพื่อตัวเอง ก็ต้องทำเพื่อลูกในท้องของเธอ”

หวางซีเหยาที่รู้ตัวว่าพูดผิดไปจึงรีบเบี่ยงความสนใจของหยางฉง เธอสาบานว่าต่อจากนี้จะไม่พูดถึงหลี่ฝางอีก

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท