NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1225 เมี๋ยวชุ่ยโกรธแล้ว

บทที่ 1225 เมี๋ยวชุ่ยโกรธแล้ว

“ให้ตายเถอะ ฉันจะต้องฆ่าพวกเขาให้ตายเลย!” ไท่ซางกำลังจะไปตามหาพวกฉินวี่เฟย จากนั้นก็ได้รับโทรศัพท์จากไท่ซาง บอกว่าหยางฉงเลือดไหลอยู่ ตอนนี้ช่วยอยู่ที่โรงพยาบาล บอกให้เขารีบไป เขาเลยรีบตามไปอย่างรวดเร็ว

เขาในตอนนี้อดไม่ได้ที่จะต้องรีบตามชาวต่างชาติเหล่านั้นไป เอาพวกเขามาระบายอารมณ์ความโกรธในใจของตัวเอง

“น้าเมี๋ยว เราไปกันหมดแล้ว ใครมาปกป้องพวกคุณล่ะ?ราฟาเอลกับไท่ซางอยู่ที่นี่ ฉันไปเองก็ได้” ส้าวส้วยไม่พอใจที่เมี๋ยวชุ่ยจัดการแบบนี้ เรื่องเกิดขึ้นตามมามากมายมันทำให้เขาวางใจไม่ลง

หลี่ฝางออกไปไม่นานเท่าไหร่ หญิงทั้งสองคนของเขา คนหนึ่งก็ถูกลักพาตัว อีกคนก็เข้าห้องฉุกเฉิน แถมโหจื่อเองก็ยังไม่พ้นขีดอันตราย ถึงแม้จะผ่านการช่วยมาทั้งวันทั้งคืนแล้ว รักษาชีวิตเอาไว้ได้แล้ว แต่ตอนนี้ยังอยู่ICU ยังไม่พ้นขีดอันตราย

เรื่องร้ายแรงขนาดนี้ ถ้าเกิดพวกเขาไปกันหมด ใครจะมารับรองความปลอดภัยของพวกเมี๋ยวชุ่ยล่ะ?

“พวกคุณไปแบบวางใจเถอะ ทางเมืองตงไห่เดี๋ยวฉันรักษาเอาไว้แทนพวกคุณเอง” ในตอนนั้นเอง มีเสียงที่มีพลังดังมาจากทางด้านหลังของส้าวส้วย

“ผู้อาวุโส?คุณมาได้อย่างไร?” เมื่อเห็นผู้อาวุโสที่ยืนอยู่หลังตัวเอง ส้าวส้วยก็ถามด้วยความตกใจ

“เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ฉันไม่ควรมาเหรอ?ฉันสัญญากับหลี่ฝางว่าจะดูแลแทนเขาเอง วันนี้มันเปลี่ยนมาเป็นแบบนี้ ฉันเองก็รู้สึกผิด”

ผู้อาวุโสมองพวกเมี๋ยวชุ่ยด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด รู้ข่าวว่าโหจื่อเจ็บหนักเพียงไม่นาน ก็เกิดเรื่องกับหยางฉงอีก ไม่รู้ว่าเด็กในท้องของเธอจะรักษาเอาไว้ได้หรือไม่

ถ้าเกิดหลี่ฝางรู้ว่าครอบครัวของตัวเองโดนรังแกแบบนี้ พอกลับมาที่เมืองตงไห่เกรงว่าจะฉีกท้องฟ้าออกได้เลยล่ะ สิ่งเดียวที่เขาทำได้คือการพยายามควบคุมเรื่องนี้ แล้วปกป้องคนตระกูลหลี่ที่เหลือให้ดี ไม่อย่างนั้นคงไม่มีทางได้คบค้ากับหลี่ฝางกับหลี่ต๋าคางอีก

“ฉันยังไม่ค่อยวางใจ ให้ไท่ซางอยู่กับพวกคุณที่นี่เถอะ” ถึงแม้ผู้อาวุโสจะรับประกันแบบนี้ แต่ส้าวส้วยก็ยังไม่วางใจ ถึงแม้พวกเขาจะสนิทกับผู้อาวุโสไม่น้อย แต่ถึงอย่างไรคนนอกก็คือคนนอก ใครจะมารับประกันได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีกหรือเปล่า

“ส้าวส้วย คุณวางใจเถอะ ครั้งนี้เราเอานักรบที่เก่งที่สุดในองค์กรออกมาหมดแล้วเพื่อไปตรวจสอบเมืองตงไห่ รับรองว่าจะปกป้องคนตระกูลหลี่เอาไว้ให้ดี ฉันสาบาน ถ้าเกิดมีคนกล้ามาทำอะไรคนตระกูลหลี่แม้แต่ปลายเล็บ ฉันหลิวฮุยจะเอาหัวเป็นประกัน!”

หลิวฮุยที่ตามผู้อาวุโสก้าวออกมา ก่อนจะตบหน้าอกตัวเองพลางสาบาน หลังจากที่ไท่ซางได้ยินส้าวส้วยบอกว่าจะให้ตัวเองอยู่ ก็รีบค้านออกมา

“ทำไมต้องให้ฉันอยู่ต่อด้วย!ให้ราฟาเอลอยู่ตงไห่สิ ฉันจะทำให้ไอ้สารเลวนั่นมันร่างแหลกสลายแน่ๆ !”

“หุบปาก!เรื่องนี้ไม่ต้องปรึกษากัน!ถ้าครั้งนี้คุณกล้าให้พวกน้าเมี๋ยวเจ็บอีก ฉันจะฆ่าคุณเลย!” ไท่ซางเพิ่งพูดจบ ส้าวส้วยก็ส่งสายตาอาฆาตให้เขาทันที พลังทั้งตัวนั้นมันเปลี่ยนไป จากนั้นนักรบแข็งแกร่งอย่างไท่ซางก็ไม่กล้าปล่อยพลังออกไป

ส้าวส้วยนั้นทำให้คนรู้สึกว่าเข้าถึงง่ายเป็นอย่างมาก แถมยังทำให้ไท่ซางลืมไปแล้วว่าเขาเป็นคนที่มีความสามารถมากเทียบเท่ากับหลี่ฝางได้เลยล่ะ

เขารู้สึกได้ถึงความกลัวของส้าวส้วยเหมือนกับหลี่ฝาง ไท่ซางอยากจะพูดอะไร แต่กลับพบว่าตัวเองนั้นขี้ขลาดไม่กล้าพูดออกมา

“เสี่ยวส้วย เป็นพวกพ้องของพวกเราทั้งนั้น อย่าหุนหันไป ครั้งนี้ฟังฉันเถอะ พวกคุณสามคนไปด้วยกัน ถึงแม้ความสามารถของไท่ซางจะเทียบกับคุณไม่ได้ แต่ก็มีผู้ช่วย ความปลอดภัยของเรานั้นเล็กน้อย ตอนนี้ต้องรีบช่วยวี่เฟยออกมาให้ได้ก่อน อย่าให้ศัตรูมันจับตัวประกันของเสี่ยวฝางได้”

ตอนที่บรรยากาศกำลังตึงเครียดนั้น เมี๋ยวชุ่ยก็ตบไหล่ของส้าวส้วย ก่อนจะพูดด้วยเสียงอ่อนโยนและยากที่จะสงสัยว่า

ส้าวส้วยเม้มปากเงียบไปสักพัก ก่อนจะตกลงการจัดการของเมี๋ยวชุ่ย “ผู้อาวุโส งั้นต้องรบกวนคุณแล้วล่ะ”

“อือ วางใจเถอะ จริงสิ เราวิจัยศพของชิวคุนแล้ว พบเรื่องนิดหน่อย นี่เป็นข้อมูลโดยละเอียด พวกคุณไปอ่านระหว่างทาง แล้วพอไปถึงซากปรักหักพังลึกลับก็เอาข้อมูลนี้ให้หลี่ฝางด้วย”

ผู้อาวุโสพูดจบก็ส่งสายตาให้หลิวฮุย หลิวฮุยก็เอากระดาษหนังวัวออกมาจากกระเป๋าเอกสารออกมาพลางส่งให้ส้าวส้วย

ตอนที่พวกเขาตรวจสถานที่นั้นก็พบชิวคุนที่ตายแล้ว เพราะศพของเขานั้นมันแปลกมากเกินไป เลยลากกลับไปวิจัยที่องค์กร แต่คิดไม่ถึงว่ากลับพบเรื่องที่น่าตกใจเป็นอย่างมาก

ถ้าเรื่องนี้สำเร็จ ทั้งโลกอาจจะเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ เวลารีบร้อน ส้าวส้วยเก็บกระดาษหนังวันแล้วก็ตามราฟาเอลกับไท่ซางออกไปจากโรงพยาบาล

“เดี๋ยว เราอย่าเพิ่งเข้าไปเลย ไปขัดขวางกับฉันสักหน่อย” หลี่ต๋าคางเพิ่งมาถึงทางเข้าของซากปรักหักพังลึกลับ ก็ได้รับสายจากเมี๋ยวชุ่ย เขาก็รีบตะโกนเข้าไปในหาพวกมังกรฟ้าเสือขาวที่อยู่ในซากปรักหักพังลึกลับ พลางคิดว่าจะให้พวกเขาไปหยุดนิคที่ลักพาตัวฉินวี่เฟยไป

“เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ คุณลุงหลี่งั้นเหรอ?” มังกรฟ้ามองหลี่ต๋าคางที่หน้าซีดเซียวพลางถาม

“วี่เฟยถูกชาวต่างชาติสามคนจับตัวไป ทั้งสามคนนั้นอาจจะเป็นลูกน้องของอาซาโทสก็ได้ พวกเขาเลยอยากจะพาวี่เฟยเพื่อไปข่มขู่เสี่ยวฝาง”

หลี่ต๋าคางอดทนเป็นอย่างมากก่อนจะบอกเรื่องที่ตัวเองรู้ออกมา สีหน้าของพวกมังกรฟ้านั้นเปลี่ยนไปในทันที ต้องรู้ว่าส้าวส้วยกับไท่ซาง และพวกราฟาเอลอยู่ที่เมืองตงไห่ทั้งหมด มาลักพาตัวฉินวี่เฟยภายใต้ที่ของพวกเขา พลางคิดว่าความสามารถของชาวต่างชาติสามคนนี้จะไม่ใช่ระดับต่ำแน่ๆ

คิดไม่ถึงว่าในเวลาคับขันแบบนี้จะเกิดเรื่องไม่คาดฝัน พวกมังกรฟ้าสบตากัน สุดท้ายก็ตัดสินใจให้พาฉินวี่เฟยลงไปก่อน

ถ้าเกิดให้ชาวต่างชาติสามคนนั้นพาฉินวี่เฟยไปรายงานกับอาซาโทส เรื่องนี้พวกเขาไม่มีทางชนะ ฉินวี่เฟยนั้นสำคัญมากในใจของหลี่ฝาง พวกมังกรฟ้าเองก็รู้

“คุณลุงหลี่ ไปเถอะ ฉันอยากจะเห็นจริงๆ ว่าไอ้บ้าพวกนี้จะมีความอดทนขนาดไหน” มังกรฟ้าวางกระเป๋าที่สะพายลง ก่อนจะบินไปที่ทางนู้น

หลี่ต๋าคางเองก็ไม่ล้าหลัง พลางใช้แรงพุ่งขึ้นไปบนฟ้า พวกเสือขาวเองก็รีบตามไป

“เห้ย!เดี๋ยวก่อน ฉันอยากเข้าห้องน้ำ” ฉินวี่เฟยถูกนิคพวกเขาพาบินไป ตอนแรกนั้นยังสั่นกลัว แต่จากนั้นก็คุ้นเคย แถมยังท้าทายพวกนิคอย่างกล้าหาญ เพื่อยื้อเวลาสักหน่อยเลยบอกว่าอยากจะกินดื่มอะไร แล้วก็อยากจะเข้าห้องน้ำด้วย

“หญิง อย่าได้คืบจะเอาศอก คิดว่าฉันไม่กล้าฆ่าคุณเหรอ?” นิคถูกฉินวี่เฟยโกรธมากจนคุมตัวเองไม่ได้ เขาที่ไม่จริงจังมาตลอดนั้นในที่สุดก็มีความโกรธขึ้นมา

“คุณไม่กล้าจริงๆ ถ้าเกิดฉันตาย คุณจะเอาอะไรไปขู่หลี่ฝาง?รีบหยุดเดี๋ยวนี้ ฉันทนไม่ไหวแล้ว!” ฉินวี่เฟยนั้นไม่กลัวการข่มขู่ของเขาเลย ก่อนจะกลอกตาใส่นิค แล้วพูดออกมาด้วยความอัดอั้น

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน