NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1235 แก้แค้นด้วยตนเอง

บทที่ 1235 แก้แค้นด้วยตนเอง

เมื่อได้ยินหลี่ต๋าคางบอกว่าเมี๋ยวชุ่ยไม่เป็นอะไรมากแล้ว หลี่ฝางจึงโล่งอก แต่ประโยคของส้าวส้วยต่อจากนั้นกลับทำให้สีหน้าของเขาเปลี่ยนในพริบตา ร่างของเขาสั่นเทา คว้าแขนของส้าวส้วยเอาไว้

“แกว่าอะไรนะ? โหจื่อบาดเจ็บสาหัสงั้นหรือ? แล้วหยางฉงเธอเกือบแท้งมันหมายความว่ายังไง?”

ต่อให้หลี่ฝางตัดสินใจที่จะเลิกกับหยางฉงแล้ว แต่เมื่อเขาได้ยินข่าวเรื่องราวที่เกี่ยวกับหยางฉง ในใจก็ไม่วายกระตุกวูบ เขาไม่คิดเลยว่าหยางฉงจะท้อง แถมยังเกือบแท้งอีกต่างหาก

หลี่ฝางรู้จักหยางฉงดี เพราะงั้นเด็กคนนี้ต้องเป็นสายเลือดของเขาตระกูลหลี่อย่างแน่นอน ข่าวคราวนี้ราวกับระเบิดใต้น้ำอย่างแรง จนเกิดคลื่นยักษ์กระหน่ำในใจของหลี่ฝาง

“เรื่องนี้ค่อนข้างซับซ้อน แต่นายวางใจเถอะ พวกเขาสองคนพ้นขีดอันตรายแล้ว ตอนนี้โหจื่อย้ายไปห้องผู้ป่วยธรรมดาแล้ว เด็กในท้องหยางฉงก็รักษาเอาไว้ได้”

ส้าวส้วยถอนหายใจเมื่อเห็นสายตาที่สับสนของหลี่ฝาง เรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงนี้เยอะมาก คนนอกอย่างเขาก็ไม่รู้ว่าควรจะแก้ไขปัญหายังไง แถมหลี่ฝางยังไงเจ้าของเรื่องอีกต่างหาก

“ใครทำ! กูจะฆ่ามัน! แล้วพวกแกฉันให้พวกแกอยู่ตงไห่เพื่ออะไร? แค่ผู้หญิงคนเดียวก็ปกป้องไม่ได้ พวกแกเป็นไอ้งั่งหรือไง? !”

หลี่ฝางที่เคร่งขรึมใจเย็นมาตลอด เมื่อได้ยินคำของส้าวส้วยจู่ๆ ก็ดีดเด้งราวกับคนบ้า ใบหน้าบิดเบี้ยวอย่างน่ากลัว ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความอาฆาต มือทั้งสองข้างกำคอเสื้อของส้าวส้วยแน่น ในสายตาแฝงไปด้วยความถือโทษ

เมื่อเห็นหลี่ฝางใช้ความรู้สึกตัดสินเรื่องราว หลี่ต๋าคางขมวดคิ้วแน่น เดินไปที่ข้างหลี่ฝางตบบ่าเขาเพื่อให้เขาใจเย็นลง “เสี่ยวฝาง ปล่อยมือ นี่ไม่ใช่ความผิดของส้าวส้วย”

ราวกับว่าเสียงของหลี่ฝางมีมนต์สะกดอะไรบางอย่าง เคาะลงบนหัวของหลี่ฝางอย่างแรง เขาจ้องมองคอเสื้อที่ถูกเขากำเอาไว้ ในสายตาแฝงไปด้วยความรู้สึกผิด “ส้าวส้วย โทษทีโมโหใส่นาย”

ส้าวส้วยจัดแจงเสื้อผ้า ไม่ถือโทษหลี่ฝาง เมื่อหลี่ต๋าคางเห็นว่าหลี่ฝางได้สติคืนมาแล้ว ถึงได้เข้าประเด็น

“เรื่องพวกนี้เป็นฝีมือลูกน้องของอาซาโทส ระหว่างทางที่เรามาได้ประลองกับเขาแล้ว ฉันรู้สึกว่าก่อนที่จะหาตัวอาซาโทสเพื่อแก้แค้น มีอยู่เรื่องหนึ่งที่แกควรทำความเข้าใจก่อน”

สำหรับหลี่ต๋าคาง เรื่องของโหจื่อและหยางฉงตอนนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญ สิ่งเดียวที่พวกเขาต้องคิดในตอนนี้คือจะกำจัดอาซาโทสได้อย่างไร

หลี่ฝางจ้องมองซองเอกสารที่หลี่ต๋าคางยื่นไปที่หน้าของตน ก่อนเปิดออกด้วยความสงสัย เมื่อเขาเห็นรายละเอียดในเอกสาร นิ่งไปอยู่สักพัก ก่อนที่จะค่อยๆ ผ่อนคลาย

เรื่องการเปลี่ยนยีนอันที่จริงเขาพอเดาได้อยู่ก่อนแล้ว เพียงแต่นึกไม่ถึงเลยว่คนประเทศญี่ปุ่นจะโหดร้ายได้ถึงเพียงนี้ เมื่อนึกถึงคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขาสองคนแทบจะสิ้นลมเพราะอาซาโทส ในใจของหลี่ฝางเกิดความโกรธและอาฆาตอย่างไร้ที่สิ้นสุด

ครั้งนี้ไม่ว่ายังไงก็จะต้องฆ่าอาซาโทสให้ได้

เขายืดข้อมูลเล็กน้อย หลี่ฝางพ่นลมหายใจอย่างโมโห ในสายตาเต็มไปด้วยความเย็นชา “พ่อ หัวของอาซาโทสของจะเด็ดมาให้ได้ ถึงตอนนั้นพ่ออย่ายื่นมือเข้ามา ผมจะจัดการเอง”

“ก็ต้องแบบนั้นอยู่แล้ว ความแค้นของตัวเองก็ต้องแก้เอง” หลี่ต๋าคางจ้องมองอย่าเรียบเฉย น้ำเสียงแฝงไปด้วยความพึงพอใจ

ตั้งแต่ที่หลี่ฝางฝึกยุทธมา หลี่ต๋าคางก็คิดที่จะให้เขาต่อสู้ด้วยตนเอง เดินผิดทางก็ดี คนอื่นรังแกก็ดี ต้องเพิ่งพาตนเองก้าวข้ามผ่านมา

หลี่ต๋าคางอย่างมากก็แค่แนะนำอย่างในทีแรก เขาคิดว่า มีเพียงอุปสรรคที่ประสบกับตัวจะเข้าใจชีวิตได้มากขึ้น หากหลี่ฝางมีชีวิตอยู่ในเกราะป้องกันของตระกูลหลี่ตลอด ชีวิตนี้เขาจะไม่มีทางนั่งอยู่บนตำแหน่งนักรบที่แข็งแกร่งที่สุด

ในขณะที่ทุกคนกำลังเดินทางต่อ ท่านกัวที่มาพร้อมกับท่านชายป๋ายยู่กลับเดินออกมา ลูบเคราแพะของตนเองพร้อมกล่าว

“เฮ้อ ฉันว่านะสหายน้อย พวกแกจะสู้กับอาซาโทสนั่นยังไงก็ได้ เราไม่เข้าไปยุ่ง แต่หินคริสทัลเราไม่อยู่นิ่งแน่ ตกลงกันก่อน ชีวิตจะเป็นยังไงขึ้นอยู่กับโชคชะตา ถึงเวลาฉันไม่ออมมือแน่”

เมื่อได้ยินประโยคของท่านกัว หลี่ฝางเผยรอยยิ้มที่ประหลาด “ท่านอาวุโส พวกท่านรู้หรือยังว่าหินคริสทัลซ่อนอยู่ที่ไหน?”

หลี่ฝางเดาได้อยู่ก่อนแล้วว่าคนพวกนี้เป็นไปได้สูงมากว่าจะไม่ต่อกรกับอาซาโทส เพราะงั้นเขาจึงมีแผนสำรอง แพร่ข่าวออกไปว่าในซากปรักหักพังมีหินคริสทัล แต่ไม่ได้บอกว่าอยู่ไหน

หากคนพวกนี้อยากจะหาหินคริสทัลให้พบ ก็ต้องช่วยเขาจัดการอาซาโทสให้ได้เสียก่อน

“แกกล้าใช้เราเป็นหมาก! รนหาที่ตาย!” นักรบคนอื่นๆ เมื่อได้ยินอย่างนั้นสีหน้าบึ้งตึงอย่างหม่นหมอง แถมยังมีบางคนเตรียมความพร้อม คิดจะใช้กำลัง

หลายปีมานี้แม้พวกเขาจะถอยออกจากวงการต่อสู้แล้ว แต่ในอดีตก็เป็นคนที่มีชื่อเสียง เพิ่งลงจากเขาก็ถูกคนรุ่นหลังใช้เป็นหมาก หยิ่งยโสอย่างพวกเขาจะทนได้ยังไง

หลี่ฝางโบกมือ กล่าวอย่างนิ่งเฉย “ความสามารถของเหล่าอาวุโสไม่ธรรมดาเลย แถมบางของยังอยู่เหนือผมอีกต่างหาก แต่ผมหลี่ฝางไม่ใช่คนซื่อ หากพวกท่านคิดจะสู้ ผมก็จะสู้อย่างถึงที่สุด ยังไงซะฆ่าหนึ่งคนก็พอประมาณ ฆ่าสองคนก็ได้เลือด”

“ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าผมตาย พวกท่านก็จะไม่มีทางได้รู้อีกเลยว่าหินคริสทัลอยู่ที่ไหน แน่ใจหรือว่าจะลงมือกับผม?”

เหล่านักรบไม่คิดเลยว่าหลี่ฝางจะน่าโมโหถึงขนาดนี้ ต่างโมโหเป็นฟืนเป็นไฟ อยากจะฆ่าแต่กลับไม่กล้าลงมือ พริบตาทั้งสองฝ่ายต่างประจันหน้าต่อกัน

“แค่กๆ เราต่างก็เป็นคนสายเดียวกัน มีเรื่องอะไรค่อยๆ คุยกัน ไม่จำเป็นต้องสู้กันหรอก” ผ่านไปราวสามสี่นาที ท่านกัวถึงได้กระแอมเบาๆ เดินออกมาจากกลุ่มฝูงชน สายตาของเขาพิจารณาหลี่ฝาง ก่อนหัวเราะ

“สหายน้อย ถ้าเราช่วยแกฆ่าอาซาโทสนั่นแล้ว คุณก็จะบอกที่ตั้งตำแหน่งของหินคริสทัลกับเราใช่ไหม?”

เมื่อจับจ้องชายชราตรงหน้าของตนเอง หลี่ฝางพยักหน้า “ไม่ผิดหรอก ขอแค่พวกท่านร่วมมือกับผมกำจัดอาซาโทสได้ ที่ตั้งตำแหน่งของหินคริสทัลผมจะบอกพวกคุณเอง”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน