NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1241 แม่มดน้อยเจอแม่มดเฒ่า

บทที่ 1241 แม่มดน้อยเจอแม่มดเฒ่า

หลังจากที่ได้ยินหลี่ต๋าคางพูดแล้ว เสือขาวก็อดไม่ได้ที่จะรีบพูดขึ้น “ลุงหลี่ ในเมื่อพื้นของทั้งสองยุทธนั้นไม่ต่างกันมาก คุณก็สอนฉันหน่อยเถอะ”

“เด็กร้อนอย่างแกช่วยฟังที่ฉันพูดให้จบก่อนได้ไหม?” หลี่ต๋าคางจ้องเสือขาว ก่อนจะพูดด้วยความไม่สบอารมณ์ “การรวมพลังปกป้องนั้นอย่างน้อยต้องใช้ความสามารถแดนสูงสุดแต่ถ้าอยากจะรวมพลังการปกป้องสีทองเหมือนฉันล่ะก็ นอกจากความสามารถของแกจะเข้าใกล้แดนดั่งเทพแล้ว ตามแดนที่แกอยู่ในตอนนี้ อย่าว่าแต่เกราะกำบังสีทองเลย ขนาดเกราะป้องกันธรรมดาแกยังรวมไม่ได้เลย”

เมื่อได้ยินดังนั้น เสือขาวก็ถอนหายใจอย่างทุกข์ใจ พลางไม่ยินยอมสักเท่าไหร่ในแววตา “ตอนนี้ฉันไม่มีความสามารถนี้ แต่ไม่ได้หมายความว่าต่อจากนี้ฉันจะไม่มีนี่หน่า ลุงหลี่อย่าใจแคบขนาดนี้เลย สอนฉันหน่อยก็ไม่ได้”

หลี่ต๋าคางเบ้ปาก ไม่ใช่เพราะว่าเขาดูถูกเสือขาว แต่ถ้าจะบอกว่าในมังกรฟ้า เสือขาว หงส์แดง เต่าดำสี่คนนี้ใครมีความพื้นฐานมาดีที่สุด ก็ต้องบอกว่าเป็นมังกรฟ้าแล้วล่ะ ส่วนอีกสามคนนั้นถึงจะมีความสามารถระดับกลางค่อนไปทางสูง ถ้าไม่ใช่ว่าพวกเขาถูกเลี้ยงมาโดยหน่วยการต่อสู้ตั้งแต่ยังเด็ก คงจะไม่มีทางมีความสามารถมาจนถึงตอนนี้

หลี่ฝางกับแคทเธอรินก่อนที่สุสานเทพอ้านจะเปลี่ยนไปอีกครั้งก็รีบไปที่ห้องลับของหลี่ต๋าคางกับคนอื่นๆ ตอนแรกเขาคิดว่าห้องลับนี้จะทำกับตัวเองเหมือนกัน แต่เมื่อเขาเปิดประตูหินแล้ว ตอนที่เห็นทรายสีเหลืองแล้ว ก็ตกใจอึ้งไปทั้งตัว

“นี่พวกเรากำลังทะลุมิติอยู่เหรอ?” เมื่อมองเห็นทะเลทรายที่มองไม่สุดสาย หลี่ฝางก็บ่นเบาๆ

“โลกใต้ดินจริงๆ นี่มันน่ามหัศจรรย์จริงๆ เลย โดยเฉพาะเวลาที่เข้าใกล้แกนกลาง ก็ยิ่งใช้กฎของธรรมชาติไม่ได้สักที ส่วนสุสานเทพอ้านนั้นสร้างจากจุดศูนย์กลาง นี่ก็เป็นเหตุผลว่าทำไมทุกๆ ครึ่งชั่วโมงมันถึงเปลี่ยนไป ฉันว่าปรากฏการณ์นี้ก็ได้อิทธิพลมาจากโลกใต้ดินมาอยู่ไม่น้อย”

ถึงแม้ว่าในสมองของแคทเธอรินนั้นมีข้อมูลเกี่ยวกับโลกใต้ดินมากมาย แต่เมื่อได้เห็นด้วยตาตัวเองจริงๆ ใบหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยความตกใจ

“แคทเธอรินคุณดูให้หน่อยว่าตอนนี้พ่อของฉันอยู่ที่ไหน เดี๋ยวพวกเราจะไปหาเขา”

หลังจากที่ตกใจแล้ว หลี่ฝางก็ยกเท้าก้าวเดินไปที่ทะเลทราย แต่เมื่อเขาเดินไปได้สองก้าว แคทเธอรินที่อยู่ด้านหลังก็ดึงชายเสื้อเขาเอาไว้

“เดี๋ยว เหมือนว่ามีอะไรมาเลยล่ะ!”

อันที่จริงไม่ต้องให้แคทเธอรินเตือน หลี่ฝางเองก็รู้สึกได้ถึงความแปลกไป จากนั้นทรายสีเหลืองตรงขอบฟ้า ก็เหมือนมีอะไรสักอย่างวิ่งเข้ามา

“ดูสิ!พวกเขาอยู่ที่นั่น!” ยังไม่ทันรอให้หลี่ฝางเห็นว่ามีอะไรอยู่ที่ทะเลทราย แคทเธอรินก็ชี้ไปทางเงาของคนบนฟ้าพลางพูด

ขหลี่ต๋าคางกับคนอื่นๆ ในตอนนี้เห็นเงาของหลี่ฝางกับแคทเธอริน พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะรีบบินมาด้วยความรวดเร็ว

“เสี่ยวฝาง รีบเปิดประตูเร็ว!” มาตะขาบยักษ์มากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ทะเลทรายมีเหลืองก็เปลี่ยนเป็นสีดำเหล็ก พวกเขามีความสามารถที่สูงส่ง แต่กลับรับมือพวกสัตว์ประหลาดเจ้าเล่ห์นี้

เหตุผลที่ตะขาบยักษ์นั้นเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว และเปลี่ยนไปเป็นตัวใหญ่ขึ้นนั้น หลี่ฝางเองก็มองเห็นแล้วว่าสิ่งที่ตามพวกหลี่ต๋าคางมาอย่างรวดเร็วคืออะไร

“ให้ตายเถอะ เรามาถึงประเทศคนยักษ์เหรอ?พวกที่ตัวใหญ่เป็นร้อยๆ เมตรนั้นคือตะขาบจริงๆ เหรอ?”

หลี่ฝางพูดเสียงดัง พลางผลักประตูหินกับแคทเธอรินที่อยู่ด้านหลัง

“ช้าก่อน ตอนนี้เรายังออกไปไม่ได้!” แต่เมื่อเปิดประตูไปครึ่งหนึ่ง แคทเธอรินกลับต้องหยุดมือลง

“ถ้าไม่ไปตอนนี้จะให้รอตายหรือไง!ตะขาบมากมายขนาดนั้น เราไม่พอยาไส้พวกมันด้วยซ้ำ”

หลี่ฝางมองตะขาบมากมายที่เข้าใกล้พวกมันมากขึ้น พลางคิดว่าขนลุกไปหมด

“รออีกสักสามนาที หลังจากที่สุสานเทพอ้านเปลี่ยนอีกครั้งเราค่อยออกไป ถ้าไปตอนนี้ เราอาจจะถูกแยกไปที่ห้องลับที่ไม่เหมือนกันอีกนะ”

แคทเธอรินนั้นกลัวมาก แต่หลังจากที่คิดว่าคนเหล่านี้จะแตกแยกกันอีกครั้ง เธอก็ทำได้เพียงให้หลี่ฝางรอสามนาที

“ให้ตายเถอะ หลังจากที่จัดการอาซาโทสเสร็จแล้ว กูจะระเบิดที่นี่ออกให้หมดเลย!”

มันไม่ง่ายเลยที่จะร่วมมือกับหลี่ต๋าคาง ถ้าเกิดว่าแตกแยกไปอีกครึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้ก็ไม่มีความหมายแล้ว ภายใต้ความจนปัญญานั้นหลี่ฝางเลยทำได้เพียงเลือกที่จะสู้กับตะขาบเหล่านั้นสักพัก

“เปิดประตูเหล่านี้ได้แล้วทำไมไม่ไปล่ะ!วุ่นวายกับตะขาบยักษ์เหล่านี้มากมาย ตีกันขึ้นมาก็ไม่จบไม่สิ้น”

หลี่ต๋าคางและคนอื่นๆ ในตอนนั้นมาอยู่ตรงหน้าหลี่ฝางแล้ว เมื่อเห็นหลี่ฝางกับแคทเธอรินยืนอยู่ตรงหน้าประตูไม่ยอมออกไป ก็ถามด้วยความไม่สะดวกใจ

“พ่อ ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะออกไป เราต้องรอสักสามนาทีก่อน ถึงแม้จะรับมือกับตะขาบพวกนั้นยาก เราเองก็ต้องเสียเวลากับมันหน่อย”

หลี่ฝางไม่มีเวลามาอธิบายกับหลี่ต๋าคางมากมายแล้ว เพราะตะขาบใหญ่พวกนั้นมาถึงด้านหน้าแล้ว หลังจากที่พูดแบบง่ายๆ แล้ว เขาก็ปรี่เข้าไปหากลุ่มตะขาบเหล่านั้น

“นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย!ประตูเปิดไปแล้วทำไมถึงไม่ออกไปล่ะ!หลี่ฝางจะเก่งขนาดไหนก็ไม่สามารถสู้กับสัตว์ประหลาดได้มากขนาดนั้น!”

เสือขาวสู้กับตะขาบยักษ์มากมาย พลางตะโกนไปหาหลี่ฝางด้วย

หลี่ฝางกำหมัดแน่น จากนั้นก็ต่อยเข้าไปที่หัวของตะขาบที่อยู่ใกล้

มีเสียง “ปัง” ดังขึ้นในอากาศ หลี่ฝางที่คิดว่าหมัดเดียวจะสามารถแก้ปัญหาได้นั้น ใครจะไปรู้ว่าบริเวณที่ต่อยไปนั้นมันเกิดรอยแยกเล็กๆ ส่วนตัวเขานั้นเพราะแรงที่แข็งแกร่ง เลยถอยไปกลางอากาศเล็กน้อย

“ให้ตายเถอะตัวของตะขาบพวกนี้ทำไมถึงแข็งจัง กูต่อยก็ไม่แตก”

“รับมือกับตะขาบพวกนั้นไม่สามารถใช้ไม้แข็งได้ จุดสำคัญของพวกมันนั้นอยู่ที่กราม บริเวณนั้นมันจะบางกว่าที่อื่นสักหน่อย”

เมื่อหลี่ต๋าคางพูดจบ ก็มีตะขาบยักษ์ที่ยาวประมาณสองร้อนเมตรก็ล้มลงกับพื้น ของเหลวสีเขียวก็ไหลออกมา เหล่าตะขาบด้านข้างนั้นก็ปรี่เข้าไปอย่างรวดเร็ว เพียงไม่ถึงหนึ่งนาทีก็เข้ามากินตะขาบตัวนี้จนสะอาด

“ให้ตายเถอะ สัตว์ประหลาดนั้นกินพวกเดียวกันด้วยเหรอ!” หลี่ฝางเห็นกระดูกสีขาวที่อยู่ที่พ้น ก็อดไม่ได้ที่จะเกิดสงครามเย็นขึ้น

เทพอ้านนั้นเลี้ยงสัตว์ประหลาดเอาไว้ในตอนนั้น พวกนักวิจัยของประเทศญี่ปุ่นนั้นเทียบกันก็เหมือนกับแม่มดน้อยเจอแม่มดเฒ่า นี่มันคือคนบุกเบิกของการเปลี่ยนยีนนี่!

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท