NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1242 ปะหน้ากับศัตรูที่ไม่มีทางไป

บทที่ 1242 ปะหน้ากับศัตรูที่ไม่มีทางไป

เมื่อกำหมัดโจมตีไปที่จุดของตะขาบ จากนั้นหลี่ฝางก็ลงมืออย่างเต็มแรงมากขึ้นเรื่อยๆ แทบจะต่อยตัวละหมัด ตะขาบที่ถูกพวกเขาต่อยนั้นก็กลายมาเป็นอาหารของตะขาบตัวอื่นๆ ในทันที จากนั้นหลี่ฝางก็ค่อยๆ สังเกตเห็นความผิดปกติ

“พ่อ คุณเห็นหรือเปล่าว่าตะขาบพวกนี้มันเหมือนจะตัวใหญ่กว่าเมื่อกี้ไม่น้อยเลย?” ขาของตะขาบพวกนั้นมันใหญ่พอๆ กับตัวของหลี่ฝาง แต่ตอนนี้ขาของตะขาบกลับใหญ่กว่าตัวเองถึงสองเท่า

เมื่อหลี่ต๋าคางได้ฟังคำของหลี่ฝางดังนั้นก็เพิ่งจะสังเกตเห็น เขาเหมือนจะรู้ว่าทำไมตะขาบเหล่านี้ถึงตัวใหญ่ได้ขนาดนี้ เป็นเพราะกินไปเท่าไหนก็ใหญ่มากขึ้นเท่านั้น เมื่อครู่ที่กินพวกของตัวเองเข้าไป ตัวก็ใหญ่ขึ้นเกือบเท่าตัว

และก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะภาพลวงตาของหลี่ต๋าคางหรือเปล่า ตะขาบเหล่านี้เหมือนจะมีแรงมากขึ้นกว่าเดิม อีกอย่างยังมีความคิดมากขึ้น เมื่อเห็นว่าพวกเขาโจมตีที่กรามของตัวเอง ก็รู้ว่าจะต้องเข้ามาโดยที่ก้มหัวลงเพื่อปิดจุดด้อยของตัวเอง

“เสี่ยวฝาง เรายังต้องรออีกนานแค่ไหนถึงออกไปได้?ตะขาบพวกนี้ประหลาดเป็นอย่างมาก เหมือนจะพัฒนาตัวเองพลางตีกันเราเลยล่ะ”

หลี่ฝางเองก็สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของตะขาบเหล่านี้ ตอนแรกที่เขาต่อยนั้นยังสบายอยู่ไม่น้อย แต่ตอนนี้กลับค่อยๆ กินแรงมากขึ้นเรื่อยๆ แถมเสือขาวที่แรงค่อนข้างน้อย หงส์แดงกับแคทเธอรินยิ่งด้อยกว่าเข้าไปใหญ่

“รีบไปเร็ว!” ผ่านไปสามนาที หลี่ฝางก็รีบตะโกนคำเหล่านี้ออกมา

ทั้งห้าคนนั้นสะบัดตะขาบเหล่านั้นออกจากตัวเองให้เร็วที่สุดในชีวิต ก่อนจะรีบวิ่งไปที่ประตูหินที่อยู่ไม่ไกล

“ฉันไม่อยากเห็นตะขาบอีกเลยในชีวิตนี้!มันเหมือนฝันร้ายเลยล่ะ!”

คนเหล่านี้ที่หนีออกมาจากห้องลับก็พิงกำแพงพลางหายใจหอบแล้วพูดขึ้นด้วยความเห็นใจ

“มีคนมาแล้ว!” ยังไม่ทันรอให้มีแรงกลับมา แคทเธอรินก็มีสีหน้าเปลี่ยนไป เมื่อเห็นสีหน้าหลี่ฝางก็เดาว่าคนที่มานั้นไม่น่าจะมาดีเท่าไหร่

จากนั้นทั้งสามคนก็เดินออกมาจากมุม หลังจากที่หลี่ต๋าคางเห็นใบหน้าของพวกเธอแล้วก็ยิ้มขึ้นด้วยความเย็นชา

“พี่เหยหู่ โชคของเราไม่เลวเลยนะ ฝ่าบาทให้เราออกมาหาหลี่ฝาง เพิ่งเดินไปไม่กี่ก้าวก็เจอแล้ว”

นิคมองหลี่ฝางด้วยความดูแคลน ในแววตาก็มีความตื่นตาตื่นใจไม่น้อยเลย

ร่างกายของพวกเขาทั้งสามคนนั้นฟื้นฟูแล้ว แถมยังมีความสามารถมากกว่าเดิมเพราะการช่วยเหลือจากอาซาโทส

โดยเฉพาะเหยหู่ สภาวะกลายร่างเป็นสัตว์ประหลาดของเขาในตอนนี้เปลี่ยนได้ตามใจชอบ เวลาเองก็ยาวกว่าเมื่อก่อนอีกเท่าตัว ดังนั้นพวกเขาเลยกล้ามาตามหาหลี่ฝางอย่างกล้าหาญ

“สามคนนี้ทำร้ายโหจื่อ ลักพาตัวฉินวี่เฟย แล้วก็ทำให้หยางฉงเกือบแท้งด้วย ลูกชาย ถึงเวลาที่จะแก้แค้นแล้วล่ะ”

หลี่ต๋าคางมองเหยหู่เหล่านั้น ก่อนจะมีความโกรธที่ข่มเอาไว้ในใจปะทุออกมา

พวกเขาคนตระกูลหลี่นั้นตามล้างเช็ดความผิดมาตลอด ใครจะไปกล้าทำอะไรคนที่พวกเขารัก นั้นมันเป็นความเจ็บปวดที่ต้องจ่าย

หลังจากที่หลี่ฝางได้ฟังคำพูดของหลี่ต๋าคางแววตาก็เปลี่ยนไป ทั้งตัวนั้นก็มีแต่ความอาฆาต มือทั้งสองก็กำแน่น ก่อนจะโจมตีโดยที่ไม่ได้พูดอะไรเลย

เมื่อเจอการโจมตีของหลี่ฝางที่แข็งแกร่ง เหยหู่กลับไม่ได้ถอยเลย แต่กลับเอียงตัวเล็กน้อย เหมือนกับสิงโตสะบัดแผงคอเท่านั้น จากนั้นเท้าซ้ายก็ถอยหลังไปครึ่งก้าว จากนั้นจึงกำหมัดแล้วโจมตีกลับไป

ตอนที่หมัดทั้งสองชนกันนั้น เหมือนกับว่าอากาศทั้งหมดตรงนั้นมันแตกสลาย ทางเดินยาวแคบนั้นก็ม้วนขึ้นมาอย่างรุนแรง จากนั้นก็พัดจนลืมตาไม่ขึ้น

หลี่ฝางขมวดคิ้ว จากนั้นเรือนร่างก็ไม่ได้ขยับไปไหนเลย รอยเลือดนั้นก็มีรอยเลือดมาจากมุมปากของเขา

เหยหู่ได้เห็นสถานการณ์ดังนั้นก็เสียงดังขึ้น ก่อนจะออกแรงมากขึ้น หลี่ฝางพึมพำเล็กน้อย จากนั้นก็ถอยหลังไป ก่อนจะขมวดคิ้วอย่างแน่น ส่วนหมัดนั้นกลับดันไปด้านหน้าครึ่งหนึ่ง

คิดไม่ถึงว่าหลี่ฝางนั้นสามารถรับแรงที่แข็งแกร่งของตัวเองได้แบบนั้น สีหน้าของเหยหู่นั้นเคร่งเครียดมากขึ้น จากนั้นก็ยึดเท้าซ้ายเอาไว้แน่น จากนั้นก็ขยับไปทางซ้ายเล็กน้อย ก่อนจะใช้หมัดขวาต่อยไปที่หน้าอกของหลี่ฝาง

มือซ้ายของหลี่ฝางนั้นใช้พลังแห่งการเขมือบกลืนของเทพอ้านที่ผนึกไม่ได้อีกแล้ว เขานั้นรีบเก็บมือขวาที่รับมือกับเหยหู่ ก่อนจะวางใจเย็นลง พลางเอี้ยวตัวหลบหมัดที่หนักแน่น

ส่วนตอนแรกที่คิดว่าจะดูการต่อยตีอยู่ข้างๆ อย่างหลี่ต๋าคางในตอนนี้ก็สังเกตเห็นความแปลกไปของหลี่ฝาง มันมีประกายมาอยู่ด้านข้างหลี่ฝาง ส่วนมือซ้ายนั้นก็จับชายเสื้อของเขาก่อนจะเหวี่ยงเขาไปด้านบนตัวของเสือขาว

“ไอ้กระจอก บอกว่าจะแก้แค้นด้วยตัวเอง สุดท้ายยังจะให้ฉันมาเก็บกวาดอีก” หลี่ต๋าคางนั้นด่าหลี่ฝางโดยไม่หันหัวไปมอง จากนั้นก็รับยุทธของเหยหู่ไปอีกสามกระบวนท่า

หลี่ฝางมองแขนซ้ายของตัวเองที่ไม่มีแรงอีกแล้ว ก่อนจะต่อยไปที่กำแพงหินอย่างไม่สบอารมณ์

เทพอ้านบ้า พลังแห่งการเขมือบกลืนบ้าบอของแก กูจะระเบิดหลุมศพให้แตกเลย!

ก่อนหน้านี้ที่เหยหู่เคยประลองกับหลี่ต๋าคาง แต่ไม่ได้รู้สึกว่าเขามีความแข็งแกร่งอะไร ตอนแรกที่คิดว่าจะสามารถรับยุทธทั้งสามนั้นได้ แต่ใครจะไปรู้ว่าเพียงยุทธเดียวก็หลีกไม่ได้แล้ว

หลี่ต๋าคางนั้นหมัดหนักเหมือนภูเขาไท่ เพียงหมัดเดียวก็ทำให้กระดูกของเหยหู่หักเป็นสองท่อน เหยหู่ไม่ทันได้มีปฏิกิริยาอะไร หมัดที่สองที่สามก็ถูกต่อยลงไปด้วย จากนั้นก็ถูกหลี่ต๋าคางค่อยจนลงไปนอนแน่นิ่งกับพื้น

“พี่ใหญ่!” นิคกับจอห์นนั้นตกใจเป็นอย่างมาก หลังจากที่ตกโกนแล้วก็อยากจะเข้าไปช่วย แต่กลับถูกหลี่ฝางกับพวกเสือขาวนั้นขวางเอาไว้

“ยังอยากจะเข้าไปช่วยอีก เคยถามปู่เสือขาวของคุณหรือยัง?ไอ้บ้า ดูกระบวนท่านี้!” เสือขาวนั้นไม่ชอบหน้านิคกับจอห์นอยู่แล้ว ตอนนี้ไม่ง่ายเลยที่จะได้โอกาส เขาจะต้องได้ระบายอารมณ์สักหน่อย

ตอนแรกที่ต่อยตีกันบริเวณทางเดิน เมื่อหินดินทรายพัดผ่านไป ก็เปลี่ยนเป็นฟ้าสีเหลืองอร่ามเสียอย่างนั้น

เหยหู่ได้รับหมัดของหลี่ต๋าคางสามหมัด จากนั้นก็มีเลือดสดๆ ไหลออกมาจากปาก กระดูกก็หักไป เมื่อเขามีสติกลับมาก็รู้ว่าตัวเองไม่ใช่คู่แข่งของหลี่ต๋าคางเลย

เมื่อเห็นคนที่เดินเข้ามาหาตัวเองอย่างหลี่ต๋าคาง เหยหู่ก็มีแววตาหดลง จากนั้นก็มีเสียงแผดราวกับสัตว์ประหลาดคำราม ก่อนจะเข้าสู่สภาวะกลายร่างเป็นสัตว์ประหลาดอีกครั้ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน