NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1258 เด็กถูกแย่งชิง

บทที่ 1258 เด็กถูกแย่งชิง

“ได้ ได้ ฉันรู้แล้ว เสี่ยวฉงเธอไม่ต้องกลัว เราจะช่วยพวกเธอออกมาให้เร็วที่สุด!”

หวางซีเหยาพลางตะโกนปลอบโยนหยางฉง พร้อมกับเริ่มโยกย้ายเศษซากบนหินปูนพร้อมกับไท่ซางและราฟาเอล

ดีที่ไท่ซางและราฟาเอลเป็นผู้ฝึกยุทธ ไม่นานบริเวณก็ถูกเก็บกวาด เหลือเพียงแต่แผ่นปูนใหญ่ที่ยังไม่ได้ยกออก

แผ่นซีเมนต์นี้อย่างน้อยมีน้ำหนักสี่ถึงห้าตัน แถมตรงกลางยังมีรอยแตกอยู่ ไม่สามารถยกออกทั้งแผ่นเลยได้ ต้องเอาปั้นจั่นมายกออก

“เหยาเหยา เร็วเข้าสิ! คุณน้าออกแล้ว เลือดออกเยอะมาก! ทำยังไงดี! พวกเธอช่วยเราเร็วเข้า!”

“น้าเมี๋ยว! ตื่นสิคะ! พูดอะไรสักคำได้ไหม? น้าเมี๋ยวชุ่ย!”

แสงใต้ล่างที่มืดสลัว หยางฉงมองเห็นเมี๋ยวชุ่ยและฉินวี่เฟยไม่ชัดเจน แต่มือของเธอสามารถลูบคลำร่างของทั้งสองได้ ฉินวี่เฟยไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมากนัก แต่เสื้อผ้าของเมี๋ยวชุ่ยเปียกชุ่ม และมีเลือดไหลหยดจากร่างกายของเธอ

คราวนี้หยางฉงร้อนรนทำอะไรไม่ถูก พลางร้องไห้พร้อมตะโกนออกไปด้านนอก

เมื่อได้ยินเสียงของหยางฉง ไท่ซางและราฟาเอลไม่สามารถใจเย็นอยู่ได้ หากเมี๋ยวชุ่ยเป็นอะไรไปละก็ หลี่ฝางและหลี่ต๋าคางต้องคลั่งแน่

“ปั้นจั่นมาแล้ว! ถอยไปเร็วเข้า!” ดีที่ส้าวส้วยพาคนมาได้ทันเวลา ปั้นจั่นทั้งสองคันทำงานพร้อมกัน ไม่นานแผ่นซีเมนต์ที่ทับร่างของพวกเมี๋ยวชุ่ยก็ถูกยกออก

นาทีที่แผ่นซีเมนต์ถูกยกออก เมื่อทุกคนเห็นท่าทีของเมี๋ยวชุ่ย ต่างก็น้ำตาไหลอย่างกลั้นไม่อยู่

ร่างของเธอบังหยางฉงและฉินวี่เฟยเอาไว้ ปกป้องพวกเธอด้วยทั้งร่าง

“น้าเมี๋ยว!” ส้าวส้วยและคนอื่นๆ ลนลาน ต่างห้อมล้อมเมี๋ยวชุ่ยเอาไว้

“แค่กๆ ……พวกเธอมาแล้วหรือ……” หลังเมี๋ยวชุ่ยได้ยินเสียงของส้าวส้วยและคนอื่นๆ เลือดสดกระอักออกมาจากปากของเธอ กล่าวประโยคด้วยความอ่อนแรงก่อนสลบกับอกของหยางฉง

อันที่จริงเมี๋ยวชุ่ยมีสติอยู่ตลอด เมื่อสักครู่เธอได้ยินเสียงของเหล่าหวางซีเหยาและไท่ซาง เพียงแค่เธอไม่กล้าพูด เธอกลัวว่าเธออ้าปากพูดจะหมดแรง แบบนั้นเธอก็ไม่มีแรงจะจะแบกแผ่นซีเมนต์บนหลังของเธอ

“น้าเมี๋ยวชุ่ย!”

“น้าเมี๋ยว!”

การสลบของเมี๋ยวชุ่ยราวกับสายฟ้าฟาด แม้แต่ส้าวสวยที่ทำงานละเอียดเป็นอย่างดียังต้องร้อนรน

“ลุงหลี่! ลุงหลี่เป็นยังไงบ้าง?” ในเวลานี้เอง คนของส้าวส้วยพบกับหลี่ต๋าคางที่ถูกซีเมนต์ทับอยู่อีกด้าน

ตอนนี้ร่างของเขาเต็มไปด้วยดิน หากไม่ใช่เพราะหน้าอกของเขายังยุบพอง ทุกคนจะคิดว่าเขาตายไปแล้ว

“แค่กๆๆ ……” เมื่อกำจัดซากปูนซีเมนต์บนร่างของหลี่ต๋าคางออกทั้งหมด เขาสำลักไออย่างแรง ก่อนที่จะค่อยๆ ตื่นขึ้น

เมื่อลืมตาขึ้น สายตาของหลี่ต๋าคางก็ฉายแววความอาฆาตอย่างหนัก ก่อนที่จะบีบคอของลูกน้องที่อยู่ใกล้ที่สุด

บุคคลนั้นไม่ทันได้ตั้งตัว เกือบจะถูกหลี่ต๋าคางสังหารไปต่อหน้า ดีที่ส้าวส้วยที่ดูอีกด้านห้ามเอาไว้ได้ทัน

“ลุงหลี่! ใจเย็นก่อน!” ส้าวส้วยรั้งข้อแขนของหลี่ต๋าคางเอาไว้แน่น ตะโกนเสียงดัง

น้ำเสียงของส้าวส้วยเรียกสติของหลี่ต๋าคางกลับมาได้บ้าง ดวงตาที่เต็มไปด้วยความอาฆาตขอจะตื่นขึ้นมาบ้าง ก่อนปล่อยมือที่บีบคออยู่ออก

“ส้าวส้วย ออกคำสั่งลงไป ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ต้องหาท่านจวนให้เจอ! ฉันจะฆ่ามันให้ได้!”

น้ำเสียงของหลี่ต๋าคางทั้งเยือกเย็นและน่ากลัว ร่างของร่างแผ่ไปด้วยพลังหลอซ่า บรรยากาศที่รุนแรงในร่างของเขาทำให้ส้าวส้วยหายใจไม่ออก ลูกน้องที่แดนค่อนข้างต่ำถึงกับสลบไปกับที่

นี่เป็นครั้งแรกที่ส้าวส้วยเห็นหลี่ต๋าคางโกรธ และสิ่งที่ทำให้เขาไม่เข้าใจ คือท่านจวนที่หายตัวไปตั้งนานเกี่ยวอะไรด้วย?

“ลุงหลี่ ท่านจวนนั่นหายตัวไปนานแล้วไม่ใช่หรือ? ทำไมถึงได้ออกคำสั่งไล่ล่าเขากะทันหันล่ะ?”

เมื่อนึกถึงสิ่งที่เกิดเมื่อสักครู่ เส้นเลือดบนหน้าผากของหลี่ต๋าคางนูนขึ้น สูดหายใจเข้า เพื่อสะกดความโกรธเอาไว้พร้อมกล่าว

“เมื่อกี้เขาแย่งลูกของหยางฉงไป โรงพยาบาลระเบิดเป็นฝีมือของเขา”

“อะไรนะ? !” หยางฉงถูกช่วยเหลือออกมาจากเศษซากปรักหักพัง หลังได้ยินคำของหลี่ต๋าคาง เธอตกใจจนเป็นลมสลบไป

คราวนี้เหล่าพยาบาลตกใจกันให้วุ่น เริ่มการช่วยเหลืออย่างยุ่งเหยิง

หลี่ต๋าคางหน้าบูดบึ้งเดินไปยังหน้าเมี๋ยวชุ่ย เช็ดคราบฝุ่นที่เปื้อนบนใบหน้าของเธอออกอย่างอ่อนโยน

“ที่รัก ไม่ต้องเป็นห่วง ผมจะทำให้คนที่ทำร้ายพวกคุณตายทั้งเป็น!”

เมื่อจบคำ หลี่ต๋าคางไม่สนใจบาดแผลตามร่างกายของเขา ฝีเท้าทั้งของข้างไถลกับพื้น ตัวเขาลอยขึ้นไปกลางอากาศ

คนธรรมดารอบข้างต่างร้องอย่างตกอกตกใจ ชราบางคนที่งมงายถึงกับคุกเข่าลงกราบในทิศทางที่หลี่ต๋าคางจากไป คิดว่าเขาเป็นเทวดาลงมาจากสวรรค์

“ไท่ซาง ราฟาเอล พวกแกพาพรรคพวกไปที่ตระกูลตงฟาง ตอนนี้ลุงหลี่ไม่คงที่ อย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่”

แม้หลี่ต๋าคางจะไม่ได้บอกว่าเขาจะไปที่ไหน แต่ในเมื่อเรื่องราวเกี่ยวกับท่านจวน ก็คงจะไม่ไปไหว้วานตระกูลตงฟางไม่ได้

ตอนแรกท่านจวนถือโอกาสที่หลี่ต๋าคางไม่อยู่ ร่วมมือกับสี่ตระกูลใหญ่คิดจะลักพาตัวหลี่ฝาง คิดจะสังหารโหจื่อยังไม่ได้คิดบัญชี

วันนี้กลับเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก เกรงว่าหลี่ต๋าคางจะโกรธจนกำจัดตระกูลตงฟางทั้งหมด แม้ตอนนี้พวกเขาจะไม่ต้องเกรงกลัวสี่ตระกูลใหญ่ แต่ถ้าหากสังหารคนของตระกูลตงฟางทั้งหมด คงจะทำให้เกิดปัญหาที่วุ่นวายขึ้น

ไท่ซางและราฟาเอลพยักหน้า ก่อนที่จะออกจากโรงพยาบาลอย่างแรงแสง พวกเขาสองคนเองก็ไม่เข้าใจว่าส้าวส้วยกังวลอะไรกันแน่ ตอนนี้เรื่องราวเยอะมากพออยู่แล้ว จัดการเรื่องหนึ่งให้สิ้นสุดได้ก็ถือว่าเป็นเรื่องหนึ่ง

ตระกูลตงฟางกำลังเตรียมงานเลี้ยงที่จัดขึ้นทุกเดือน ขณะที่กำลังคึกคัก หลี่ต๋าคางที่ผมยุ่งเหยิงหน้าดำไล่ฆ่าเข้ามาจากหน้าประตูอย่างอาฆาต

พวกที่คิดจะขัดขวางเขาไม่ทันได้เข้าถึงตัวเขา ก็ถูกพลังของหลี่ต๋าคางเล่นงานจนกองกับพื้น

“หลอซ่า! คุณมาที่นี่ทำไม!” ตงฟางเย่นหน้าหม่นหมอง เธอจ้องมองหลี่ต๋าคางที่เต็มไปด้วยความอาฆาตพร้อมกัดฟันถาม

“ส่งท่านจวนมา ฉันจะไว้ชีวิตพวกแก” หลี่ต๋าคางจ้องมองเหล่าตระกูลตงฟางหลายสิบนายด้วยสีหน้าเฉยชา ด้วยน้ำเสียงที่เย็นเยือก

เมื่อได้ยินชื่อของท่านจวน สีหน้าของคนของตระกูลตงฟางเปลี่ยนไป ชราที่อายุค่อนข้างมากเดินมาอย่างสั่นเทาพร้อมกับไม้เท้า กล่าวด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ

“หลอซ่า ท่านจวนความเคลื่อนไหวของเขาไม่แน่นอน ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน ทำอะไร เราเองก็ไม่รู้ หากคุณจะหาเขา คงมาผิดที่แล้ว”

เมื่อหลี่ต๋าคางได้ยินอย่างงั้น สายตาฉายแววพิฆาต เบี่ยงตัว ร่างของเขามาหยุดอยู่ตรงหน้าชรา คว้าตัวเขาขึ้นจากพื้น

“ขอพูดอีกรอบ เอาตัวท่านจวนออกมา ฉันจะปล่อยพวกแกไป”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน