“ไม่ลำบากเลย ลูกเป็นของขวัญที่ฟ้าประทานมาให้ฉัน” หยางฉงส่ายหน้าเบาๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข
อุ้มท้องสิบเดือน บางทีช่วงเดือนต้นๆ ที่เธอแพ้ท้องหนัก เธอจะรู้สึกลำบาก แต่หลังจากนั้นเด็กในท้องค่อยๆ โตขึ้น เธอยิ่งรู้สึกได้ถึงความผูกพันพิเศษบางอย่างระหว่างแม่ลูก
เมื่อก่อนตอนที่ไม่มีลูก สำหรับหยางฉงสิ่งที่สำคัญที่สุดคือหลี่ฝาง ครอบครัวของเธอ แต่หลังจากที่มีเด็กคนนี้ เธอรู้สึกว่าบนโลกใบนี้ไม่มีอะไรสำคัญไปมากกว่าเขาอีกแล้ว
เมื่อสักครู่ที่อยู่ห้องผ่าตัด หยางฉงยังคงกำชับคุณหมออยู่ตลอด หากเกิดเหตุฉุกเฉิน ต้องรักษาเด็กให้ได้
ฉินวี่เฟยจ้องมองหยางฉงที่ยิ้มอย่างมีความสุข เธอรู้สึกดีใจกับเธอจากใจ ว่ากันว่าผู้หญิงคลอดลูกเท่ากับไปเดินที่ประตูนรก ตอนนี้อุปสรรคนี้ผ่านไปแล้ว ทุกอย่างก็คงจะดีขึ้น
“คิดได้หรือยังว่าจะตั้งชื่อลูกว่าอะไร? ชื่อที่เราหาก่อนหน้านี้เป็นไง?”
เมื่อพูดถึงตั้งให้ ฉินวี่เผยรู้สึกปวดหัว พวกเขาหารือกันได้หลายเดือนแล้ว แต่ก็ไม่ได้ชื่อที่ถูกใจสักชื่อ
ตอนนี้เด็กคลอดออกมาแล้ว คงจะเรียกลูกตลอดไม่ได้
“ชื่อของเด็กฉันอยากจะรอพี่หลี่ฝางกลับมา ให้เขาตั้งให้ แต่ชื่อเล่นฉินคิดเอาไว้แล้ว ชื่อว่าผิงอัน ฉันหวังว่าพี่หลี่ฝางจะกลับมาอย่างปลอดภัย ลูกจะเติบโตอย่างปลอดภัย”
เมื่อพูดถึงหลี่ฝาง สายตาของหยางฉงฉายแววด้วยความเป็นห่วง ที่จริงตอนที่อยู่ในห้องผ่าตัด ในหัวของหยางฉงเต็มไปด้วยหลี่ฝาง คิดว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน ปลอดภัยดีหรือไม่
เมื่อนึกถึงว่าหลี่ฝางเป็นไปได้ว่าจะไม่อยู่บนโลกใบนี้แล้ว หยางฉงแทบจะอยากจากไปแบบนี้พร้อมกับเขา แต่ความเจ็บของร่างกายกลับย้ำเตือนเธอเสมอ เพื่อลูก เธอต้องมีชีวิตต่อไป
เมื่อได้ยินคำพูดของหยางฉง ฉินวี่เฟยหลุบตา ใบหน้าของเธอก็ฉายแววกังวลเช่นเดียวกัน
“พี่วี่เฟย เราต้องเชื่อมั่นในตัวพี่หลี่ฝาง เขาจะต้องไม่เป็นไร” หยางฉงเป็นคนเอาใจใส่ เธอสังเกตเห็นอารมณ์ที่เปลี่ยนไปของฉินวี่เฟย จึงดึงมือของเธอพร้อมกล่าวปลอบอย่างใส่ใจ
ฉินวี่เฟยนิ่งไปสักพัก ก่อนฉีกยิ้ม “อืม เขาเป็นคนดวงแข็งเสมอ”
เมี๋ยวชุ่ยเห็นความสัมพันธ์ของสองสาวที่ดีต่อกัน ไม่รู้ว่าควรจะดีใจหรือไม่ดี
พวกเธอทั้งสองสามารถยอมรับกันและกันได้เป็นเรื่องดี แต่ในขณะเดียวกันเมี๋ยวชุ่ยก็กังวล ความสัมพันธ์ของพวกเธอดีมากจนเกินไป เมื่อหลี่ฝางทำการเลือก พวกเธอจะเกิดความเกลียดชังเพราะรัก
ในเวลานี้เอง สิ่งที่น่ากลัวก็ได้เกิดขึ้น
เสียงดังปังลั่นไปทั่ว ตึกทั้งตึกของโรงพยาบาลเริ่มสั่นไหว และเริ่มถล่มอย่างเห็นได้ด้วยตาเปล่า
“ลูก! ลูกยังอยู่ที่ห้องคลอด! ฉันจะไปช่วยลูก!” ทันทีที่ภัยพิบัติเกิดขึ้น สิ่งแรกที่หยางฉงคิดได้คือลูกของเธอ ไม่สนใจความเจ็บปวดของร่างกาย คิดจะมุ่งไปด้านนอกเป็นท่าเดียว
แต่เดินได้ไม่กี่ก้าวก็ส่ายไปส่ายไปล้มลงกับพื้น ฉินวี่เฟยและเมี๋ยวชุ่ยรีบประคองเธอลุกขึ้น
“เสี่ยวฉง ทางด้านลูกมีคุณลุงอยู่ ไม่ต้องเป็นห่วง เขาไม่ปล่อยให้ลูกเป็นอะไรไปหรอก สิ่งสำคัญคือตอนนี้เราต้องรีบหนีออกไปจากที่นี่”
เมี๋ยวชุ่ยปลอบใจหยางฉง พร้อมกับตะโกนกับฉินวี่เฟย “วี่เฟย! ประคองเสี่ยวฉงออกไปเร็วเข้า!”
ระเบิดนี้มาอย่างกะทันหัน เรื่องที่เกิดขึ้นจากความผิดปกติของมีผู้อยู่เบื้องหลัง และเมี๋ยวชุ่ยมั่นใจอย่างมาก ว่าเรื่องนี้ต้องมาเพราะพวกเธอแน่
เมื่อได้ยินคำของเมี๋ยวชุ่ย หยางฉงจึงไม่คลุ้มคลั่งที่จะออกไปช่วยลูกอีก พยายามให้ตนเองสงบ ดีที่ห้องvipที่เมี๋ยวชุ่ยจองเอาไว้อยู่ชั้นสาม อยู่ใกล้กับบันได
หยางฉงเพิ่งคลอดเสร็จ ไม่สะดวกในการเดินเหิน แต่ตอนนี้สถานการณ์คับขัน ไม่หนีก็ต้องตาย เธอจึงต้องทนความเจ็บปวด เดินออกไปยังด้านนอกภายใต้กายประคองของเมี๋ยวชุ่ยและฉินวี่เฟย
ต่อให้หยางฉงพยายามเดิน แต่เมื่อยาชาค่อยๆ หมดไป ความเจ็บปวดในร่างกายค่อยๆ หนักหน่วงขึ้น ท้ายทที่สุดเธอเดินได้ไม่กี่ก้าวก็ต้องหยุดพัก
เศษหินตกลงมาจากเหนือหัวไม่หยุด บางที่ได้ถูกแผ่นปูนอุดทางเดินเอาไว้แล้ว หยางฉงกัดฟัน สลัดมือของเมี๋ยวชุ่ยและฉินวี่เฟยออก
“คุณน้า วี่เฟย อย่าต้องสนใจฉัน! รีบหนีไป! พาฉันไปด้วย พวกทั้งหมดนี่จะออกไปไม่ได้เลย!”
“พูดอะไรของเธอ! อีกแค่ชั้นเดียวก็จะออกไปได้แล้ว อดทนอีกหน่อยเถอะ!” ฉินวี่เฟยไม่ฟังคำของหยางฉง คิดที่จะดึงมือของเธอมาไว้
“ระวัง!” ในเวลานี้เอง แผ่นปูนเหนือหัวของทั้งสามตกลงมา เมี๋ยวชุ่ยใช้พลังทั้งหมดของเธอ ใช้ร่างกายของตนเองบังหยางฉงและฉินวี่เฟยเอาไว้
เสียงดังปังสนั่น ตึกทั้งตึกของโรงพยาบาลกลายเป็นซากปรักหักพัง หวางซีเหยาและไท่ซาง ราฟาเอลทั้งสามเพิ่งมาถึงที่หน้าโรงพยาบาล เผชิญกับเหตุการณ์กะทันหันแบบนี้ ต่างนิ่งอึ้งไป
“เสี่ยวฉง! เสี่ยวฉงเธออยู่ไหน!” หวางซีเหยาคลานออกลงมาจากรถอย่างทุลักทุเล วิ่งไปยังซากปรักหักพังอย่างบ้าคลั่ง
ตะโกนชื่อของหยางฉงเสียงดังลั่น แต่สิ่งที่ตอบเธอกลับที่เพียงแค่ความเงียบงันเท่านั้น
“เสี่ยวฉง เสี่ยวฉงเธออยู่ไหน? ตอบฉันสิ! หือๆๆ ……เป็นแบบนี้ไปได้ยังไง เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไง! เสี่ยวฉง ขอร้องล่ะตอบฉันที!”
หวางซีเหยารู้สึกว่าเธอแทบบ้า เธอเพียงแค่ไปจัดการเรื่องที่บริษัทให้กับหยางฉง กลับไปเมืองจินซานเพียงแค่หนึ่งอาทิตย์เท่านั้น
ทีแรกเธอคิดว่าหยางฉงจะคลอดในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า ไม่ต้องรีบกลับมา แต่ได้รับสายจากเมี๋ยวชุ่ยกะทันหัน บอกว่าหยางฉงคลอดแล้ว
เธอรีบทิ้งงานทุกอย่าง ถึงกับเหมาเครื่องบินทั้งลำเพื่อเร่งมาที่เมืองตงไห่ อุตส่าห์เร่งมาถึงที่โรงพยาบาลแล้ว แต่สิ่งที่เห็นกลับเป็นซากปรักหักพัง
ไท่ซางและราฟาเอลไร้ปฏิกิริยา แต่ในความคร่ำเครียดของทั้งคู่เห็นได้ว่า ตอนนี้พวกเขาเองก็ลนลานทำอะไรไม่ถูก
พวกเขานึกไม่ถึงเลยว่าเพียงแค่ไปรับคนที่สนามบิน ทั้งตึกของโรงพยาบาลจะกลายเป็นพื้นที่ว่างเปล่า
“เหยาเหยา! ฉันอยู่นี่!” ในขณะที่หยางซีเหยาหาจนสิ้นหวัง เสียงที่อ่อนแรงของหยางฉงดังมาจากใต้แผ่นปูนก้อนหนึ่ง
“เสี่ยวฉง? !เสี่ยวฉงใช่เธอไหม? ตอนนี้เธอเป็นยังไงบ้าง? ได้รับบาดเจ็บไหม? ใครอยู่กับเธอบ้าง?”
หยางซีเหยาไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง เธอฟุบลงกับกองซากปรักหักพัง ตะโกนใส่ใต้หิน
ไท่ซางและราฟาเอลที่ค้นหาไปทั่วได้ยินเข้า รีบเดินก้าวเข้ามา
“ฉันอยู่กับพี่วี่เฟย แล้วก็คุณน้าเมี๋ยวชุ่ย ฉันไม่เป็นอะไร แต่คุณน้าเมี๋ยวชุ่ยและพี่วี่เฟยเพื่อปกป้องฉันพวกเธอได้สลบไปแล้ว! เธอไปเรียกคนมา! เร็วเข้า!”
หยางฉงมึนมัวจากเสียงตึกที่ถล่มลงมา เมื่อได้สติก็ได้ยินเสียงเรียกของหวางซีเหยา เธอไม่สนใจฝุ่นควันที่สำลัก รีบตอบกลับโดยทันที