NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1257 ระเบิดกะทันหัน

บทที่ 1257 ระเบิดกะทันหัน

“ไม่ลำบากเลย ลูกเป็นของขวัญที่ฟ้าประทานมาให้ฉัน” หยางฉงส่ายหน้าเบาๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข

อุ้มท้องสิบเดือน บางทีช่วงเดือนต้นๆ ที่เธอแพ้ท้องหนัก เธอจะรู้สึกลำบาก แต่หลังจากนั้นเด็กในท้องค่อยๆ โตขึ้น เธอยิ่งรู้สึกได้ถึงความผูกพันพิเศษบางอย่างระหว่างแม่ลูก

เมื่อก่อนตอนที่ไม่มีลูก สำหรับหยางฉงสิ่งที่สำคัญที่สุดคือหลี่ฝาง ครอบครัวของเธอ แต่หลังจากที่มีเด็กคนนี้ เธอรู้สึกว่าบนโลกใบนี้ไม่มีอะไรสำคัญไปมากกว่าเขาอีกแล้ว

เมื่อสักครู่ที่อยู่ห้องผ่าตัด หยางฉงยังคงกำชับคุณหมออยู่ตลอด หากเกิดเหตุฉุกเฉิน ต้องรักษาเด็กให้ได้

ฉินวี่เฟยจ้องมองหยางฉงที่ยิ้มอย่างมีความสุข เธอรู้สึกดีใจกับเธอจากใจ ว่ากันว่าผู้หญิงคลอดลูกเท่ากับไปเดินที่ประตูนรก ตอนนี้อุปสรรคนี้ผ่านไปแล้ว ทุกอย่างก็คงจะดีขึ้น

“คิดได้หรือยังว่าจะตั้งชื่อลูกว่าอะไร? ชื่อที่เราหาก่อนหน้านี้เป็นไง?”

เมื่อพูดถึงตั้งให้ ฉินวี่เผยรู้สึกปวดหัว พวกเขาหารือกันได้หลายเดือนแล้ว แต่ก็ไม่ได้ชื่อที่ถูกใจสักชื่อ

ตอนนี้เด็กคลอดออกมาแล้ว คงจะเรียกลูกตลอดไม่ได้

“ชื่อของเด็กฉันอยากจะรอพี่หลี่ฝางกลับมา ให้เขาตั้งให้ แต่ชื่อเล่นฉินคิดเอาไว้แล้ว ชื่อว่าผิงอัน ฉันหวังว่าพี่หลี่ฝางจะกลับมาอย่างปลอดภัย ลูกจะเติบโตอย่างปลอดภัย”

เมื่อพูดถึงหลี่ฝาง สายตาของหยางฉงฉายแววด้วยความเป็นห่วง ที่จริงตอนที่อยู่ในห้องผ่าตัด ในหัวของหยางฉงเต็มไปด้วยหลี่ฝาง คิดว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน ปลอดภัยดีหรือไม่

เมื่อนึกถึงว่าหลี่ฝางเป็นไปได้ว่าจะไม่อยู่บนโลกใบนี้แล้ว หยางฉงแทบจะอยากจากไปแบบนี้พร้อมกับเขา แต่ความเจ็บของร่างกายกลับย้ำเตือนเธอเสมอ เพื่อลูก เธอต้องมีชีวิตต่อไป

เมื่อได้ยินคำพูดของหยางฉง ฉินวี่เฟยหลุบตา ใบหน้าของเธอก็ฉายแววกังวลเช่นเดียวกัน

“พี่วี่เฟย เราต้องเชื่อมั่นในตัวพี่หลี่ฝาง เขาจะต้องไม่เป็นไร” หยางฉงเป็นคนเอาใจใส่ เธอสังเกตเห็นอารมณ์ที่เปลี่ยนไปของฉินวี่เฟย จึงดึงมือของเธอพร้อมกล่าวปลอบอย่างใส่ใจ

ฉินวี่เฟยนิ่งไปสักพัก ก่อนฉีกยิ้ม “อืม เขาเป็นคนดวงแข็งเสมอ”

เมี๋ยวชุ่ยเห็นความสัมพันธ์ของสองสาวที่ดีต่อกัน ไม่รู้ว่าควรจะดีใจหรือไม่ดี

พวกเธอทั้งสองสามารถยอมรับกันและกันได้เป็นเรื่องดี แต่ในขณะเดียวกันเมี๋ยวชุ่ยก็กังวล ความสัมพันธ์ของพวกเธอดีมากจนเกินไป เมื่อหลี่ฝางทำการเลือก พวกเธอจะเกิดความเกลียดชังเพราะรัก

ในเวลานี้เอง สิ่งที่น่ากลัวก็ได้เกิดขึ้น

เสียงดังปังลั่นไปทั่ว ตึกทั้งตึกของโรงพยาบาลเริ่มสั่นไหว และเริ่มถล่มอย่างเห็นได้ด้วยตาเปล่า

“ลูก! ลูกยังอยู่ที่ห้องคลอด! ฉันจะไปช่วยลูก!” ทันทีที่ภัยพิบัติเกิดขึ้น สิ่งแรกที่หยางฉงคิดได้คือลูกของเธอ ไม่สนใจความเจ็บปวดของร่างกาย คิดจะมุ่งไปด้านนอกเป็นท่าเดียว

แต่เดินได้ไม่กี่ก้าวก็ส่ายไปส่ายไปล้มลงกับพื้น ฉินวี่เฟยและเมี๋ยวชุ่ยรีบประคองเธอลุกขึ้น

“เสี่ยวฉง ทางด้านลูกมีคุณลุงอยู่ ไม่ต้องเป็นห่วง เขาไม่ปล่อยให้ลูกเป็นอะไรไปหรอก สิ่งสำคัญคือตอนนี้เราต้องรีบหนีออกไปจากที่นี่”

เมี๋ยวชุ่ยปลอบใจหยางฉง พร้อมกับตะโกนกับฉินวี่เฟย “วี่เฟย! ประคองเสี่ยวฉงออกไปเร็วเข้า!”

ระเบิดนี้มาอย่างกะทันหัน เรื่องที่เกิดขึ้นจากความผิดปกติของมีผู้อยู่เบื้องหลัง และเมี๋ยวชุ่ยมั่นใจอย่างมาก ว่าเรื่องนี้ต้องมาเพราะพวกเธอแน่

เมื่อได้ยินคำของเมี๋ยวชุ่ย หยางฉงจึงไม่คลุ้มคลั่งที่จะออกไปช่วยลูกอีก พยายามให้ตนเองสงบ ดีที่ห้องvipที่เมี๋ยวชุ่ยจองเอาไว้อยู่ชั้นสาม อยู่ใกล้กับบันได

หยางฉงเพิ่งคลอดเสร็จ ไม่สะดวกในการเดินเหิน แต่ตอนนี้สถานการณ์คับขัน ไม่หนีก็ต้องตาย เธอจึงต้องทนความเจ็บปวด เดินออกไปยังด้านนอกภายใต้กายประคองของเมี๋ยวชุ่ยและฉินวี่เฟย

ต่อให้หยางฉงพยายามเดิน แต่เมื่อยาชาค่อยๆ หมดไป ความเจ็บปวดในร่างกายค่อยๆ หนักหน่วงขึ้น ท้ายทที่สุดเธอเดินได้ไม่กี่ก้าวก็ต้องหยุดพัก

เศษหินตกลงมาจากเหนือหัวไม่หยุด บางที่ได้ถูกแผ่นปูนอุดทางเดินเอาไว้แล้ว หยางฉงกัดฟัน สลัดมือของเมี๋ยวชุ่ยและฉินวี่เฟยออก

“คุณน้า วี่เฟย อย่าต้องสนใจฉัน! รีบหนีไป! พาฉันไปด้วย พวกทั้งหมดนี่จะออกไปไม่ได้เลย!”

“พูดอะไรของเธอ! อีกแค่ชั้นเดียวก็จะออกไปได้แล้ว อดทนอีกหน่อยเถอะ!” ฉินวี่เฟยไม่ฟังคำของหยางฉง คิดที่จะดึงมือของเธอมาไว้

“ระวัง!” ในเวลานี้เอง แผ่นปูนเหนือหัวของทั้งสามตกลงมา เมี๋ยวชุ่ยใช้พลังทั้งหมดของเธอ ใช้ร่างกายของตนเองบังหยางฉงและฉินวี่เฟยเอาไว้

เสียงดังปังสนั่น ตึกทั้งตึกของโรงพยาบาลกลายเป็นซากปรักหักพัง หวางซีเหยาและไท่ซาง ราฟาเอลทั้งสามเพิ่งมาถึงที่หน้าโรงพยาบาล เผชิญกับเหตุการณ์กะทันหันแบบนี้ ต่างนิ่งอึ้งไป

“เสี่ยวฉง! เสี่ยวฉงเธออยู่ไหน!” หวางซีเหยาคลานออกลงมาจากรถอย่างทุลักทุเล วิ่งไปยังซากปรักหักพังอย่างบ้าคลั่ง

ตะโกนชื่อของหยางฉงเสียงดังลั่น แต่สิ่งที่ตอบเธอกลับที่เพียงแค่ความเงียบงันเท่านั้น

“เสี่ยวฉง เสี่ยวฉงเธออยู่ไหน? ตอบฉันสิ! หือๆๆ ……เป็นแบบนี้ไปได้ยังไง เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไง! เสี่ยวฉง ขอร้องล่ะตอบฉันที!”

หวางซีเหยารู้สึกว่าเธอแทบบ้า เธอเพียงแค่ไปจัดการเรื่องที่บริษัทให้กับหยางฉง กลับไปเมืองจินซานเพียงแค่หนึ่งอาทิตย์เท่านั้น

ทีแรกเธอคิดว่าหยางฉงจะคลอดในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า ไม่ต้องรีบกลับมา แต่ได้รับสายจากเมี๋ยวชุ่ยกะทันหัน บอกว่าหยางฉงคลอดแล้ว

เธอรีบทิ้งงานทุกอย่าง ถึงกับเหมาเครื่องบินทั้งลำเพื่อเร่งมาที่เมืองตงไห่ อุตส่าห์เร่งมาถึงที่โรงพยาบาลแล้ว แต่สิ่งที่เห็นกลับเป็นซากปรักหักพัง

ไท่ซางและราฟาเอลไร้ปฏิกิริยา แต่ในความคร่ำเครียดของทั้งคู่เห็นได้ว่า ตอนนี้พวกเขาเองก็ลนลานทำอะไรไม่ถูก

พวกเขานึกไม่ถึงเลยว่าเพียงแค่ไปรับคนที่สนามบิน ทั้งตึกของโรงพยาบาลจะกลายเป็นพื้นที่ว่างเปล่า

“เหยาเหยา! ฉันอยู่นี่!” ในขณะที่หยางซีเหยาหาจนสิ้นหวัง เสียงที่อ่อนแรงของหยางฉงดังมาจากใต้แผ่นปูนก้อนหนึ่ง

“เสี่ยวฉง? !เสี่ยวฉงใช่เธอไหม? ตอนนี้เธอเป็นยังไงบ้าง? ได้รับบาดเจ็บไหม? ใครอยู่กับเธอบ้าง?”

หยางซีเหยาไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง เธอฟุบลงกับกองซากปรักหักพัง ตะโกนใส่ใต้หิน

ไท่ซางและราฟาเอลที่ค้นหาไปทั่วได้ยินเข้า รีบเดินก้าวเข้ามา

“ฉันอยู่กับพี่วี่เฟย แล้วก็คุณน้าเมี๋ยวชุ่ย ฉันไม่เป็นอะไร แต่คุณน้าเมี๋ยวชุ่ยและพี่วี่เฟยเพื่อปกป้องฉันพวกเธอได้สลบไปแล้ว! เธอไปเรียกคนมา! เร็วเข้า!”

หยางฉงมึนมัวจากเสียงตึกที่ถล่มลงมา เมื่อได้สติก็ได้ยินเสียงเรียกของหวางซีเหยา เธอไม่สนใจฝุ่นควันที่สำลัก รีบตอบกลับโดยทันที

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท