NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1276 ถูกชิงร่าง

บทที่ 1276 ถูกชิงร่าง

“เสี่ยวฝาง!” เมื่อเห็นส้าวส้วยที่ถูกหลี่ฝางเล่นงานจนบาดเจ็บ หลี่ต๋าคางขมวดคิ้วแน่นเป็นปม ทำตาขวางใส่หลี่ฝาง

หลี่ฝางดูผิดปกติอย่างแรง แม้รูปลักษณ์ภายนอกยังเป็นเขาแต่ข้างในลึกๆ กลับไม่ใช่เขาในอดีตอีกต่อไปแล้ว

เมื่อได้ยินคำเอ็ดของหลี่ต๋าคาง หลี่ฝางหลุบสายตา หลังจากนั้นจึงรู้สึกปวดหัว พลันกุมขมับด้วยสีหน้าที่เจ็บปวด

“เสี่ยวฝาง แกเป็นอะไรไป?” ส้าวส้วยที่ไหวตัวได้คลานลุกขึ้นจากพื้น กล่าวถามหลี่ฝางที่เจ็บปวดอย่างแสนสาหัส

ครึ่งชั่วโมงก่อนหน้า หลี่ฝางที่หายตัวไปอาทิตย์กว่าปรากฏตัวขึ้นที่หน้าบ้านพักตากอากาศ ทีแรกส้าวส้วยอยากจะถามเขาว่าอาทิตย์กว่านี้เขาไปไหนมา แต่เพราะเรื่องของหลี่ต๋าคางจึงต้องปล่อยเรื่องนี้ไปก่อน

หลี่ฝางยังไม่ทันได้ย่างกายเข้าไปที่บ้านพักตากอากาศ ก็ถูกส้าวส้วยลากมาที่นี่เสียก่อน ระหว่างทางส้าวส้วยคิดที่จะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในระหว่างนี้ให้กับหลี่ฝางได้รู้อย่างคร่าวๆ

แต่หลี่ฝางเสมือนว่าเขาไม่สนใจเรื่องพวกนี้แม้แต่น้อย สิ่งเดียวที่เขาสงสัยคือเด็กที่หยางฉงเพิ่งคลอด แม้แต่เมี๋ยวชุ่ยที่บาดเจ็บสาหัสหนักก็ไม่ได้ถามสักคำ

“ส้าวส้วย! เทพอ้านอยู่ในร่างฉัน!” ทันใดนั้นหลี่ฝางคว้าแขนของส้าวส้วย กล่าวประโยคนี้ออกมา

เมื่อได้ยินอย่างงั้น หลี่ต๋าคางและส้าวส้วยต่างแสดงสีหน้าตกใจ

“นี่มันเรื่องอะไรกัน? เทพอ้านไม่ได้สาบสูญไปในสุสานถล่มเหรอไง? ทำไมถึงได้ไปอยู่ในร่างของแกได้?”

ส้าวส้วยรู้สึกว่าสมองของเขาทำงานไม่ทัน นี่มันเรื่องอะไรกัน อุตส่าห์กลับมาแล้ว แต่กลับบอกตนว่าเขาไม่ใช่หลี่ฝางตัวจริง?

หลี่ฝางนั่งลงกับพื้นอย่างเหนื่อยหอบ พลางเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับเขาให้พับเหล่าหลี่ต๋าคางฟัง

“ฉันเองก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ตอนที่สุสานถล่ม ฉันรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างมุดเข้ามาที่ตัวฉัน แล้วฉันก็สลบไป”

“เมื่อฉันฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง ก็พบว่าตัวเองเหมือนอยู่อีกห้วง ข้างหน้าขาวไปหมด ตอนนั้นฉันคิดว่าตัวเองตายไปแล้ว แต่ข้างหน้าของฉันมีคนแก่ปรากฏตัวขึ้นกะทันหัน เขาบอกกับฉันว่าเขาเป็นเทพคนแรกตอนโกลาหล ชื่อว่าเทพไท่จี๋”

“การฝึกในเริ่มแรกไม่ได้แยกเผ่าธรรมหรือมาร หลังจากนั้นเทพหมิงและเทพอ้านอันที่จริงแยกออกมาจากร่างของเทพไท่จี๋ เทพหมิงเป็นตัวแทนของจิตวิญญาณด้านสว่างในตัวเขา ส่วนเทพอ้านเป็นพลังชั่วร้ายที่แยกออกไปจากตัวของเขา”

“เทพไท่จี๋ยังบอกว่า แม้ว่าฉันจะเป็นเทพอ้านกลับชาติมาเกิด แต่ลูกของฉันพิเศษมาก เขาเกิดมาก็มีพลังของนักรบชั้นแรก และร่างกายของเขาหลอมรวมพลังของด้านมืดจะสว่างได้อย่างสมบูรณ์แบบ”

“เขายังบอกอีกว่า คนที่ได้เด็กคนนี้ ก็จะได้ครอบครองทั้งโลก หลังพูดเรื่องพวกนี้จบ เทพไท่จี๋ก็หายตัวไป หลังจากหายมึน ฉันก็พบว่าตัวเองอยู่ที่ชานเมืองตงไห่”

“ฉันกำลังจะเดินเข้าไปที่บ้านพักตากอากาศ ก็ถูกเทพอ้านที่อยู่ในตัวฉันแย่งชิงร่างกาย แม้ฉันจะเห็นและได้ยินว่าตัวเองทำอะไรลงไปบ้าง แต่ควบคุมร่างกายตัวเองไม่ได้”

“ฉันว่าเทพอ้านต้องรู้เรื่องราวที่เทพไท่จี๋พูดกับฉันผ่านความทรงจำของฉัน เพราะงั้นเขาถึงได้รีบร้อนแย่งชิงเด็กคนนี้ไป หลังจากนั้นฉันเห็นว่าเขาทำร้ายแก เลยใจร้อน ก็เลยแย่งร่างกลับคืนมา”

หลี่ฝางพูดออกไปเยอะมาก และรีบร้อน เพราะเขาไม่รู้ว่าร่างกายจะถูกเทพอ้านแย่งชิงกลับไปเมื่อไหร่ เขาต้องกำชับเรื่องราวทุกอย่างให้ชัดเจนในเวลาอันสั้น

หลังจากที่หลี่ต๋าคางและส้าวส้วยได้ยินอย่างงั้น ทั้งคู่สีหน้าหนักอึ้ง ทีแรกคิดว่าผ่านเรื่องราวของอาซาโทสไปก็จะไม่มีเรื่องราวอะไรอีก แต่ใครจะไปรู้ว่าเรื่องราวจะพัฒนาไปจนไม่สามารถควบคุมได้

เมื่อจ้องมองผิงอันที่หลับลึกในตู้ทารก ความอ่อนโยนปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหลี่ฝาง นี่เป็นลูกคนแรกของเขา ไม่ว่ายังไงเขาก็จะต้องปกป้องให้เขาปลอดภัยไปทั้งชีวิต

“เรื่องนี้ฉันว่าต้องปรึกษากับท่านผู้อาวุโส เราไม่ค่อยรู้เรื่องราวเกี่ยวกับการฝึกฝนของประวัติศาสตร์ แล้วอีกอย่าง ต้องหาวิธีกำจัดเทพอ้านในร่างของแกทิ้งซะ”

เมื่อนึกถึงความอำมหิตของหลี่ฝางเมื่อสักครู่ หลี่ต๋าคางรู้สึกไม่สบายใจ เรื่องนี้ต้องจัดการแต่โดยเร็ว

“ฉันจะติดต่อหาท่านผู้อาวุโสเดี๋ยวนี้” ส้าวส้วยพยักหน้า ก่อนที่จะรีบติดต่อไปยังท่านผู้อาวุโส

เพิ่งต่อสาย รถยนต์สีดำคันหนึ่งก็ได้จอดอยู่ที่นอกสวนของทาเคชิตะ มัตสึซากะ ท่านผู้อาวุโสและหลิวฮุยเดินลงมาจากรถ เมื่อเห็นทาเคชิตะ มัตสึซากะและท่านจวนที่ตายอย่างน่าอนาถไม่วายขมวดคิ้วอย่างสงสัย

“หลี่ฝาง? ! แกกลับมาแล้วหรือ!” หลังจากที่เห็นเงาร่างของหลี่ฝาง หลิวฮุยตกใจจนดวงตากลมโตจนแทบหลุดออกจากเบ้า

แม้ท่านผู้อาวุโสเองก็เกิดประหลาดใจมากเช่นเดียวกัน แต่ต่อหน้าลูกน้องจะเสียภาพลักษณ์ เขานิ่งไปสักพัก ก่อนที่จะหยักหน้าให้กับหลี่ฝางด้วยรอยยิ้ม

“ท่านผู้อาวุโส หลิวฮุย ไม่เจอกันนานเลย!” หลี่ฝางทักทายกับผู้อาวุโสและหลิวฮุย

“ต๋าคาง แกนี่ใจร้อนจริงๆ ไม่ควรที่จะฆ่าทาเคชิตะ มัตสึซากะแต่แรก” ท่านผู้อาวุโสคิดว่าเขารีบมาที่นี่อาจจะรักษาชีวิตของทาเคชิตะ มัตสึซากะเอาไว้ได้ แต่ใครจะไปรู้เมื่อมาถึงทาเคชิตะ มัตสึซากะก็ได้ตายสนิทไปแล้ว

แม้ว่าจะรู้ว่าเคชิตะ มัตสึซากะสมควรตายที่สุด แต่ยังไงตอนนี้เขาอยู่ที่นี่ก็เป็นชาวต่างชาติ เสียชีวิตในประเทศจีนต้องก่อให้เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นแน่

แผนการของท่านผู้อาวุโสในคราแรกต้าเซี่ยหลงเช่วจะจับกุมตัวทาเคชิตะ มัตสึซากะเพื่อคุมขังเอาไว้ หลังจากนั้นก็สังหารเขาทิ้งไปอย่างเงียบเชียบให้เขาหายไปจากโลกใบนี้

แต่ตอนนี้ได้สายไปแล้ว

“แค่กๆ ท่านผู้อาวุโส เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของพ่อผม ผมเป็นคนทำเอง” เมื่อหลี่ฝางเป็นทาเคชิตะ มัตสึซากะและท่านจวนที่ตายอย่างอนาถ จึงกระแอมไออย่างประหม่า

เมื่อท่านผู้อาวุโสได้ยินประโยคของหลี่ฝางจึงขมวดคิ้วอย่างสงสัย จ้องมองหลี่ฝางอย่างไม่อยากจะเชื่อ

ในสายตาของท่านผู้อาวุโส ฝ่ายตรงข้ามไม่ใช่คนที่โหดเหี้ยมอำมหิตที่สำคัญอะไร ต่อให้จะฆ่าคน ก็ไม่มีทางใช้วิธีที่น่าอนาถเช่นนี้

“เฮ้อ เรื่องนี้ซับซ้อนมาก แม้ผมจะเป็นคนลงมือฆ่า แต่ก็พูดได้ว่าผมไม่ได้ฆ่า เพราะตอนนี้ร่างของผมถูกเทพอ้านครอบงำ ตัวผมควบคุมร่างกายไม่ได้”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน