NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1329 รักที่ไม่สมหวัง

บทที่ 1329 รักที่ไม่สมหวัง

“เสี่ยวหลินตัง เธอจะลำบากไปทำไมกัน? กู่ยี่เทียนอะไรนั่นเขาไม่ได้ชอบเธอ ทำไมเธอต้องดื้อรั้นวิ่งตามเขาด้วย? ทำไมถึงอยู่กับฉันไม่ได้? ฉันสู้มันไม่ได้ตรงไหนกันแน่?”

อูหลิงจ้องมองเสี่ยวหลินตังที่กำลังยุ่งอยู่กับการเก็บของ ในที่สุดก็ปะทุ พลันแย่งเสื้อผ้าออกจากมือของเขาโยนลงกับพื้น คำถามเธออย่างโมโห

นี่เป็นครั้งแรกที่อูหลิงโมโหใส่เสี่ยวหลินตัง ทำให้เสี่ยวหลินตังกระตุกวูบ น้ำตาที่เหือดแห้งไหลอาบอีกครั้ง ไม่กล้าจ้องหน้าอูหลิง

“ก็ฉันชอบเขา จะให้ฉันทำยังไง? ฉันเองก็อยากจะเลิกชอบเขา อยู่กับคนที่รักฉัน แต่ฉันทำไม่ได้ ในใจฉันมีแต่กู่ยี่เทียนคนเดียว ฉันไม่มีพื้นที่ให้นายแล้ว”

“อูหลิง อย่าเสียเวลากับฉันอีกเลย ปล่อยวางจากฉันซะเถอะ เราเป็นไปไม่ได้ ฉันสำหรับเผ่าของนาย เป็นเพียงคนนอก ฉันไม่มีทางที่จะอยู่กับนาย”

แม้เผ่ากู่จะไม่ได้มีปฏิกิริยาที่ย่ำแย่ต่อเสี่ยวหลินตังเหมือนกับไขจี๋เออสองพี่น้อง พี่เสี่ยวหลินตังก็รู้สึกได้ พวกเขาก็ยังคงระมัดระวังกับเธอ

หากเธอไม่ได้เป็นคนที่ฐานะเป็นคนรักของอูหลิง คนของเผ่ากู่คงจะไม่เกรงใจพวกเขาแล้ว

ทีแรกอูหลิงเห็นเสี่ยวหลินตังน้ำตาไหล พลันลนลานทำอะไรไม่ถูก แต่เมื่อได้ยินประโยคหลังของเสี่ยวหลินตัง มือที่คิดที่จะเช็ดน้ำตาให้กับเขาหดกลับ

ดวงตาเต็มไปด้วยความเสียใจ มือทั้งสองข้างกำแน่น ในใจมีความโกรธและเสียใจอย่างบอกไม่ถูก

เขาชอบเสี่ยวหลินตังมาหลายปี หรือแม้แต่เพื่อให้คนในเผ่ายอมรับเสี่ยวหลินตัง ถึงขนาดใช้คำขู่ไม่ยอมรับตำแหน่งหัวหน้าหมู่บ้าน

ทีแรกเขาคิดว่าเพียงแค่เฝ้าเสี่ยวหลินตังอยู่เงียบๆ รักเขา ดีต่อเธอ สักวันจะมีวันที่ฟ้าสดใส

แต่ไม่คิดว่าความฝันเหล่านี้จะพังทลายลง

“ใช่ เราสองคนอยู่ด้วยกันไม่ได้ เธอกับกู่ยี่เทียนอะไรนั่นอยู่ด้วยกันได้หรือ? เธอเลิกโง่ซะทีจะได้ไหม? เขาไม่ได้รักเธอ!”

“ทำไมเธอถึงยอมที่จะรักคนที่ไม่รักเธอ ก็ไม่ยอมที่จะหันมามองฉันงั้นหรือ? เสี่ยวหลินตัง ฉันยังดีกับเธอไม่พออีกหรือ? ห๊า?”

อูหลิงขาดการควบคุม มือทั้งสองข้ามจับแขนของเสี่ยวหลินตังอย่างแรง เค้นถามด้วยเสียงที่ดังลั่น

เสี่ยวหลินตังรู้สึกแขนของเธอกำลังจะแหลกละเอียด ใบหน้าเล็กเต็มไปด้วยความเจ็บปวด

“อูหลิง นายทำฉันเจ็บ”

เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่ปะปนไปด้วยความเจ็บปวด อูหลิงได้สติกลับคืนมากว่าครึ่ง เขาจ้องมองใบหน้าที่ขาวซีดของเสี่ยวหลินตัง รีบคลายมือออก

“เสี่ยวหลินตัง ขอโทษ ฉัน ฉัน ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉันแต่รู้สึกทรมาน เธอ เธออย่าโกรธฉันเลยนะได้ไหม?”

อูหลิงจ้องมองเสี่ยวหลินตังอย่างทำอะไรไม่ถูก อยากจะดูอาการที่แขนของเสี่ยวหลินตัง ทว่ากลับวางลงเมื่อยกขึ้นได้เพียงครึ่ง เสมือนกับเด็กน้อยคนหนึ่งที่ทำผิด ไม่กล้าแม้แต่จะจ้องมองเสี่ยวหลินตัง

“ไม่เป็นไร ฉันไม่ได้โทษนาย” เสี่ยวหลินตังทนความเจ็บปวดนวดแขนของตนเอง ก่อนที่จะเก็บสัมภาระของตนเองต่อ

“เสี่ยวหลินตัง เขาดีขนาดนั้นจริงหรือ?” อูหลิงจ้องมองเงาร่างของเสี่ยวหลินตัง ดวงตาเต็มไปด้วยความเศร้าหมอง

เขาอยากจะรู้ ว่ากู่ยี่เทียนมีดีตรงไหนกันแน่

ไม่ว่าจะเป็นหน้าตา ความสามารถ มีตรงไหนบ้างที่เขาสู้กู่ยี่เทียนไม่ได้ แต่ทำไมเสี่ยวหลินตังไม่แม้แต่จะมองเขา?

หลังได้ยินคำพูดของอูหลิง ร่างของเสี่ยวหลินตังสั่นไหว มือที่หยิบเสื้อผ้าเอาไว้ใช้แรงมากขึ้น

นั่นสิ เขามีดีขนาดนั้นจริงหรือ?

สิ่งที่เสี่ยวหลินตังเองก็คอยเฝ้าถามคำถามกับตนเอง

กู่ยี่เทียนปฏิเสธเธอชัดเจนขนาดนั้นแล้ว ทำไมเธอถึงยังไม่ยอมตายใจ? บนโลกมีคนที่ดีกว่าเขามากมายแท้ๆ แต่เธอกลับอยากจะอยู่กับเขา?

“ฉันเองก็ตอบไม่ได้ว่าเขามีดีตรงไหนกันแน่ ฉันแค่อยากอยู่กับเขา ถ้าหาก คนที่อยู่กับฉันจนถึงสุดท้ายไม่ใช่เขา ฉันยอมที่ไม่แต่งงานไปตลอดชีวิต”

เสี่ยวหลินตังกลับหลังหันจ้องมองอูหลิง บนใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่น

เมื่ออูหลิงได้ยินอย่างงั้น ร่างกายของเขาฟุบลง ก้มหน้าลง ความเจ็บปวดแผ่ซ่านไปทั่วร่าง ผ่านไปอยู่นาน เขาถึงได้กล่าวกับเสี่ยวหลินตัง

“อันที่จริงฉันเองก็ถามตัวเองอยู่ ทำไมถึงต้องเป็นเธอ ทำไมถึงหาผู้หญิงสักคนในเผ่าแล้วใช้ชีวิตด้วยกันไม่ได้ ฉันเฝ้าถามตัวเองนับไม่ถ้วน ก็ไม่ได้คำตอบเหมือนกัน”

“เธอมีความรู้สึกแบบนี้ต่อกู่ยี่เทียน ฉันเองก็รู้สึกแบบนี้กับเธอ หากเธอมุ่งมั่นต้องเป็นเขา ถ้างั้นฉันก็คงได้แต่รอเธอ ถ้าอนาคตเธอทำให้กู่ยี่เทียนรู้สึกได้ ทำให้เขารักเธอได้ ฉันจะอวยพรให้กับพวกเธอ”

“แต่ว่า มีข้อแม้ ว่ากู่ยี่เทียนต้องดีต่อเธอตลอดไป หากฉันรู้ว่าเขาทำร้ายเธอ ต่อให้ฉันตายก็จะต้องทำให้เขาชดใช้ให้ได้ เสี่ยวหลินตัง ฉันอูหลิงจะแต่งงานกับแค่เธอเท่านั้น”

เมื่อจ้องมองสายตาของอูหลิง หัวใจของเสี่ยวหลินตังราวกับขวดพลาสติกที่ตกหล่น รู้สึกสับสน ประหม่า

บางครั้งความรักก็เป็นเรื่องตลก เขาผิดหวังจากกู่ยี่เทียน และเธอก็เป็นคนที่อูหลิงเฝ้าคอยอย่างยากเย็น

“อูหลิง เธอจะลำบากไปทำไม?” เสี่ยวหลินตังจ้องมองอูหลิง กล่าวถามอย่างยากลำบาก

อูหลิง จ้องมองเธอพร้อมเผยรอยยิ้มที่อ่อนโยน “สำหรับฉัน เธอคุ้มค่ากับความงดงามทุกอย่างในโลกนี้”

คำพูดของอูหลิง ทำให้เสี่ยวหลินตังซากซึ้งใจ แต่ก็แค่ซาบซึ้งใจเท่านั้น

เธอถึงกับคิดว่า หากคนที่ยืนอยู่ข้างหน้าของเธอในตอนนี้ คนที่พูดประโยคนี้กับเธอเป็นกู๋ยี่เทียนจะดีสักแค่ไหน

“พอได้แล้ว เราเลิกพูดเรื่องนี้ซะเถอะ เธอจะไปกับพวกกู่ยี่เทียนนี่ รอเดี๋ยว ฉันก็จะไปเก็บของด้วย”

อูหลิงไม่อยากจะพูดถึงเรื่องนี้ต่อไป พลันตบแก้มของตนเอง หลังจากที่ปรับสติอารมณ์ของตนเองได้ จึงกลับหลังหันเดินออกไปข้างนอก

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท