NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1332 มีลูกอีกคน

บทที่ 1332 มีลูกอีกคน

“เอางี้แล้วกัน เรากลับเมืองตงไห่ก่อน กู่ยี่เทียน แกพาพวกหงส์แดงมาด้วย ฉันก็จะเรียกพวกโหจื่อมาด้วย มีฉัน แก ส้าวส้วยแยกเป็นสามกลุ่ม ไปที่ประเทศญี่ปุ่น ภูเขาฉางไป่ เกาะชวา”

“ฉันไปกับไท่ซาง ราฟาเอล สองพี่น้องไขบู๊เกอไปที่ประเทศญี่ปุ่นเพื่อไปเอาผลแก้วม่วง กู่ยี่เทียนแกไปกับเสี่ยวหลินตัง อูหลิง มังกรฟ้า เสือขาวมุ่งไปที่เกาะชวาไปหาใบหวายเลือด ที่เหลือหงส์แดง เต่าดำกับส้าวส้วยและไป๋หลินไปที่ภูเขาฉางไป่”

หลังจากที่หลี่ฝางนิ่งไปสักพัก รู้สึกว่าเพิ่งพาเพียงแค่พวกเราแยกเป็นสามทางอาจจะกินแรงสักหน่อย จึงตัดสินใจกลับไปที่เมืองตงไห่ก่อน เพื่อเรียกพวกที่เหลือไปด้วยแล้วค่อยไปหาตัวยาที่เหลือ

ส้าวส้วยที่กำลังซ่อมแซมหน้าต่างบ้านได้ยินอย่างงั้น ต่างพยักหน้าด้วย “ไม่มีปัญหา ทีมหนึ่งห้าคนไม่มีอะไรที่เหมาะสมไปมากกว่านี้อีกแล้ว”

คนอื่นๆ เมื่อได้ยินแผนการ ก็ไม่มีข้อขัดข้องเช่นเดียวกัน เพราะงั้นทุกคนจึงพักผ่อนเอาแรงหลังจากที่ทานอาหารเรียบร้อยแล้ว เช้าวันที่สอง ก็ได้เดินทางมาที่สนามบินเมืองชีหนัน

“ว้าว ในที่สุดฉันก็กลับมายังที่ที่คุ้นเคยจนได้! ไอ้ภูเขาบ้านั่น แม้แต่สัญญาณยังไม่มี ฉันอยากจะเล่นเกมยังไม่ได้เลย”

ไขจี๋เออจ้องมองตึกสูงที่เทคอนกรีตเสริมเหล็กรอบๆ อุทานอย่างตื่นเต้น

“พี่ชาย วันหลังฉันไม่อยากจะไปที่นั่นอีกแล้ว!” ไขบู๊เกอที่อยู่ข้างๆ พยักหน้าอย่างบ้าคลั่ง เห็นด้วยกับไขจี๋เออ

หลี่ฝางที่เห็นทีท่าโอเวอร์ของพวกเขา หัวเราะพร้อมกับส่ายหน้า ชีวิตยุคโบราณแบบนี้สำหรับเขาแล้วชินชาไปนานแล้ว การไปที่เผ่ากู่ในครั้งนี้ถือว่าราบรื่น ทีแรกคิดว่าต้องเสียเวลาเป็นเดือนถึงจะได้วิธีมา ตอนนี้เพียงผ่านไปแค่สิบวันเท่านั้น ถือว่าเร็วมาก

แถมชีวิตความเป็นอยู่ของเผ่ากู่ก็ไม่ถือว่าแย่มาก นอกจากเจอปัญหายุ่งยากระหว่างทาง นอกเหนือจากนั้นก็ถือว่าใช้ได้

เมื่อหลี่ฝางมาถึงที่สนามบินก็รีบติดต่อหาฉินวี่เฟยและหยางฉงทันที บอกพวกเธอว่าเขาได้วิธีแก้ไขปัญหาเรื่องนี้แล้ว

ฉินวี่เฟยและหยางฉงดีใจแทบแย่ เมื่อได้ข่าวว่าหลี่ฝางจะกลับไปในช่วงบ่าย พวกเธอทั้งสองก็ยิ่งดีใจจนกระโดดโลดเต้น

“พี่วี่เฟย พี่ดูฉันแต่งตัวใส่ชุดนี้สวยไหม?” หยางฉงพลิกตู้เพื่อหาเสื้อผ้า หยิบชุดกระโปรงสีม่วงออกมาทาบกับตนเองพร้อมกับกล่าวถามฉินวี่เฟย

“โอ๊ย ก็แค่ไม่ได้เจอแค่สิบวันไม่ใช่หรือไง? ทำให้เธอดีใจขนาดนั้นเลยหรือ?”

ฉินวี่เฟยจ้องมองหยางฉงที่รองเสื้อหลายชุดแต่ก็ยังไม่พอใจสักที พลันหัวเราะอย่างไร้หนทาง

“อะไรกัน ฉันไม่เชื่อหรอกนะว่าพี่วี่เฟยจะไม่คิดถึงหลี่ฝางเลย” เมื่อเห็นฉินวี่เฟยหัวเราะเยาะตนเอง หยางฉงกล่าวอย่างเขินอาย

เวลาที่เธอได้อยู่กับหลี่ฝางก็ไม่นานอยู่แล้ว ทั้งคู่กำลังอยู่ในช่วงเวลาที่หวานแหวน จะไม่คิดถึงได้ยังไง

“เขามีอะไรที่น่าให้คิดถึงกัน ก็หนึ่งปากหนึ่งจมูกสองตาเหมือนกันไม่ใช่หรือไง? เธอเองก็อย่าหาเรื่องลำบากตัวเองอยู่เลย อีกเดี๋ยวผิงอันก็จะตื่นแล้ว หากเขาไม่เห็นเธอ ก็ต้องร้องไห้อีก”

แม้ฉินวี่เฟยปากจะบอกว่าไม่คิดถึง แต่ในสายตาก็ยังคงเต็มไปด้วยความหวัง เพียงแต่เธอที่เป็นคนขี้อายไม่อยากให้หยางฉงดูออก เพราะงั้นจึงปากแข็งเปลี่ยนบทสนทนา

แม้ตอนนี้ผิงอันจะยังเจริญเติบโตได้ไม่สมบูรณ์นัก แต่ก็สามารถทานนมของแม่ได้แล้ว และสามารถอุ้มออกมาจากตู้ทารกได้หนึ่งถึงสองชั่ว

โบราณว่าเอาไว้ เด็กหน้าตาเปลี่ยนไปทุกวัน

เพียงแค่เวลาสิบวัน ผิงอันจะเปลี่ยนไปไม่น้อย โดยเฉพาะร่างกายที่แข็งหายขึ้นมาก ไม่เหมือนกับเด็กที่เกิดก่อนกำหนดแล้ว แถมผิงอันยังฉลาดมากอีกด้วย ตัวเล็กเท่านี้ก็รู้จักหยางฉงแล้ว

“เฮ้อ ไม่รู้ว่าเด็กคนนี้เหมือนใครกัน ติดคนจะตายไป ไม่เห็นฉันหน่อยก็ร้องไห้แล้ว ช่วงนี้ฉันมีขอบตาดำแล้ว” เมื่อนึกถึงลูกชายของตนเอง หยางฉงก็นึกถึงลูกบอลที่แตก นั่งอยู่บนเตียงกล่าวอย่างเหนื่อยอ่อนไร้หนทาง

ฉินวี่เฟยเห็นทีท่าน่าสงสารของเธออดหัวเราะออกมาไม่ได้ “จะเหมือนใครซะอีกล่ะ ผิงอันเหมือนกับเธออย่างกับแกะเลยล่ะ?”

เพิ่งเกิดผิงอันดูไม่ออกว่าเหมือนกับใครมากกว่า ยิ่งโตขึ้นฉินวี่เฟยก็พบว่าหน้าของเขาเหมือนกับหยางฉงขึ้นทุกที

“เหอะ พี่วี่เฟยอย่าหัวเราะเยาะฉันอีกเลย รออีกหน่อยพี่มีลูกแล้ว พี่ก็จะรู้เองว่ามันยากแค่ไหน ถ้ารู้ว่าผิงอันเลี้ยงยากขนาดนี้ ตอนนั้นฉันไม่คลอดเขาออกมาแล้ว”

หยางฉงจ้องมองทีท่ายิ้มตาหยีของฉินวี่เฟย ปากแข็งจนจะห้อยขวดน้ำมันได้อยู่แล้ว

แม้ปากจะพูดว่ารังเกียจผิงอัน แต่ฉินวี่เฟยรู้ดีว่าบนโลกนี้ไม่มีใครจะรักผิงอันได้เท่ากับหยางฉงอีกแล้ว

เพื่อให้ร่างกายของผิงอันแข็งแรงขึ้นมาหน่อย หยางฉงมุ่งมั่นจะให้นมลูก เพื่อให้ลูกได้นานอีกหน่อย เธอทนความเจ็บปวดนวดเพื่อให้ไหลเวียน บีบจมูกทานยาเกี่ยวกับนมลงไป

กลางดึกเพียงแค่ลูกมีความเคลื่อนไหวเล็กน้อย หยางฉงก็จะไปอยู่ข้างผิงอันทันที เธอที่อ้วนขึ้นเพราะท้องในทีแรก เพียงแค่เวลาสิบวันสั้นๆ ผอมลงอย่างมาก

ฉินวี่เฟยและคนอื่นๆ กำชับให้เธอพักผ่อนให้มาก แม่นมจะเป็นคนดูแลผิงอันเอง ไม่ต้องเป็นห่วง แต่หยางฉงก็ไม่ไว้วางใจ จะทำเองทุกเรื่อง

“เธอนี่นะ เป็นคนปากแข็งใจอ่อน ปากบอกว่ารังเกียจผิงอัน แต่ในใจกับรักเขามาก”

ฉินวี่เฟยบีบแก้มของหยางฉงด้วยรอยยิ้ม มองหยางฉงทะลุปรุโปร่ง

“แหะๆ พี่วี่เฟย พี่ก็มีลูกสักคนสิ ผิงอันของเราก็จะมีเพื่อน ทางที่ดีเป็นเด็กผู้หญิงจะดีกว่า ผิงอันก็จะได้ปกป้องน้องสาว”

หลายวันมานี้หยางฉงหลอกล่อให้ฉินวี่เฟยมีลูกเสมอ ฉินวี่เฟยอดทำตาขาวใส่ไม่ได้ ตบบ่าของหยางฉงอย่างไม่สบอารมณ์

“พอเถอะ ผิงอันคนเดียวยังไม่เหนื่อยหรือไง? คิดจะมีอีกคนงั้นหรือ”

“ไม่ใช่ว่าแบบนั้น แม้เด็กน้อยบางครั้งอาจจะดื้อไปบ้าง แต่มองมุมกลับกัน ดูแลหนึ่งคนก็คือดูแล สองคนก็คือดูแล ทำไมถึงไม่รองมีอีกสักคนล่ะ”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท