“ไม่!จะใช้ไม่ได้ได้อย่างไร นี่มันของล้ำค่าอย่างมากเลยนะ!จะไร้ประโยชน์ได้อย่างไร หรือมันยังไม่พอนะ?ลูกน้อย คุณเปิดปากออก แล้วกินมันเข้าไป”
ทั้งๆ ที่ความจริงมันปรากฏอยู่ตรงหน้า แต่หลี่ฝางก็ยังไม่อยากจะเชื่อกับเรื่องจริงที่ว่าเสี่ยวผิงอันนั้นได้จากโลกนี้ไปแล้ว แถมยังมีความคิดทางการปรุงยาที่อยากจะเอาจั๊กจั่นทองที่ถูกคั้นจนเหลือเศษแล้วใส่เข้าไปในปากของเสี่ยวผิงอันด้วย
“หลี่ฝาง!คุณพอได้แล้ว!เสี่ยวผิงอันเขาตายไปแล้ว!คุณทำตัวให้เหมาะกับเป็นผู้ชายหน่อยได้ไหม!”
ตอนที่ฉินวี่เฟยเดินเข้าไปในห้องรักษาพยาบาล เมื่อได้เห็นท่าทีเป็นบ้าของหลี่ฝางก็เดินเข้าไปตบเขาเข้าเต็มเปา
หลังจากที่โดนตบ หลี่ฝางก็อึ้งอยู่กับที่ จากนั้นก็มองฉินวี่เฟยด้วยดวงตาไร้แวว
“คุณกำลังพูดอะไรเหรอ?เสี่ยวผิงอันเขายังดีๆ อยู่แท้ๆ เขาจะต้องฟื้นขึ้นมาแน่นอน!”
“เขาตายไปแล้ว!ตายแล้ว!คุณลืมตาดูให้ดีหน่อยได้ไหม!คุณเป็นแบบนี้แล้วฉันทนมองต่อไปไม่ไหวแล้ว!”
ฉินวี่เฟยตะโกนด่าหลี่ฝางด้วยเสียงสั่นเทา
ในฐานะที่เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง เธอไม่ได้อารมณ์ร้ายสักเท่าไหร่ แต่เมื่อเห็นท่าทีของหลี่ฝางที่ทำร้ายตัวเองแบบนั้น ฉินวี่เฟยก็อดไม่ไหวจริงๆ
“คุณพูดอะไรบ้าๆ !เสี่ยวผิงอันไม่ใช่ลูกของคุณ คุณต้องหวังให้เขาตายอยู่แล้ว!คุณไสหัวไปนะ ฉันไม่อยากได้ยินคุณพูดอะไรแบบนี้อีก!”
หลี่ฝางในตอนนี้ทนฟังอะไรต่อไปไม่ไหวแล้ว ถึงขนาดที่ไม่คิดจะพูดอะไรที่ทำร้ายจิตใจกับฉินวี่เฟยด้วยซ้ำ
คำพูดเหล่านี้มันเหมือนกับมีดคมกริบ ที่บาดแทงใจของฉินวี่เฟย
เขาพูดแบบนี้ออกมาได้อย่างไรกับ?
ใช่ เสี่ยวผิงอันไม่ใช่ลูกของเธอก็จริง แต่ว่าเธอก็รักเขาเป็นอย่างมากนะ!
“ได้ คุณว่าอย่างไรก็เอาตามนั้น ฉันไปล่ะ!คิดไม่ถึงเลยว่าฉินวี่เฟยอย่างฉันจะเป็นคนแบบนี้ในสายตาคุณ!”
ฉินวี่เฟยมองหลี่ฝางด้วยแววตาแดงก่ำ จากนั้นก็พูดด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะหันตัววิ่งออกไป
“พี่สะใภ้วี่เฟย!” ราฟาเอลคิดว่าตัวเองนั้นกำลังจะโกรธหลี่ฝางเป็นอย่างมาก เลยตามไปพลางทนความเจ็บปวดที่กระดูกหัก
เมื่อเห็นเงาของฉินวี่เฟยจากไป แววตาของหลี่ฝางก็เปล่งประกาย ก่อนจะเดินเข้ามาเพื่อห้ามแต่เสี่ยวผิงอันที่อยู่บนเตียงรอรับการช่วยเหลือนั้นกลับมีลมหายใจออกมาเบาๆ
หลี่ฝางเบรกตัวเองอย่างจัง ก่อนจะรีบหันตัวไป พลางเอานิ้วจิ้มไปที่จมูกของเสี่ยวผิงอันอย่างสั่นไหว
“หมอ!เร็ว!ลูกของฉันกลับมามีชีวิตแล้ว!”
ทั้งๆ ที่เสี่ยวผิงอันหายใจรวยรินมาก แต่หลี่ฝางก็รู้สึกได้ พลางดีใจเป็นอย่างมากก่อนจะตะโกนหาแพทย์พยาบาลที่นั่งสั่นอยู่ตรงมุม
อันที่จริงหมดพวกนั้นไม่เชื่อคำของหลี่ฝาง เพราะต่างคิดว่าเขาบ้าไปแล้ว แต่หลี่ฝางนั้นแข็งแกร่งมากจริงๆ เพื่อไม่ให้หลี่ฝางโกรธ พวกเขาเลยต้องเดินเข้าไปหาอย่างเกรงกลัว
“ให้ตายเถอะ!เด็กคนนี้ฟื้นขึ้นมาจริงๆ !”
ผู้ช่วยที่ตอนแรกอยากจะทำท่าเหมือนช่วยชีวิตเท่านั้น แต่เมื่อเธอได้ยินเสียงหัวใจของเสี่ยวผิงอันแล้ว ก็เกือบกระโดดโหยง จากนั้นจึงเรียกให้เข้ามาช่วยชีวิตเสี่ยวผิงอันต่อ
แพทย์คนอื่นหลังจากที่ได้ยินเสียงพูดของเขา ก็รีบกลับเข้ามาทำงานเหมือนเดิม และทำตามแผนช่วยชีวิตเสี่ยวผิงอันมากมาย
“มันน่าเหลือเชื่อมากเลย!พิษในร่างกายเด็กก็ค่อยๆ หายไป!นี่มันไม่เหมือนสิ่งที่เป็นวิทยาศาสตร์เลย!”
ผู้ช่วยมองเชื้อโรคที่ค่อยๆ หายไปจากร่างกายของเสี่ยวผิงอัน ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ จากนั้นก็หันไปจับมือหลี่ฝาง พลางถามด้วยความตื่นตัว
“คุณให้เขากินอะไรเข้าไปน่ะ?นี่มันเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของวงการการแพทย์เลยนะ!มันไม่น่าเชื่อเลยล่ะ!ทำได้อย่างไรกันเนี่ย!”
หลี่ฝางมองชีพจรของเสี่ยวผิงอันที่ค่อยๆ กลับมาเป็นปกตินั้น ก่อนจะเริ่มวางใจลงได้บ้าง
เขาที่ตึงเครียดเป็นอย่างมากจู่ๆ ไม่มีแรง ก่อนที่ภาพข้างหน้าจะมืดดำไปหมด
หลังจากที่หลี่ฝางฟื้นขึ้นมาแล้ว ก็พบว่าตัวเองนอนอยู่ในห้องพักผู้ป่วย หยางฉงฟุบหลับอยู่ข้างเตียงด้วยความเหนื่อยอ่อน ยังมีคราบน้ำตาที่ยังไม่แห้งอยู่บนหน้า
เขามองไปรอบๆ แต่ก็ไม่ได้เห็นแม้แต่เงาของฉินวี่เฟย เมื่อคิดถึงสิ่งที่ตัวเองพูดถึงฉินวี่เฟยไปก่อนหน้านี้ ในใจของหลี่ฝางก็ปวดแปล็บขึ้นมา เขาเลยเอาผ้าห่มออกอย่างระวัง เพื่อลงจากเตียงแบบเงียบๆ
แต่ถึงแม้เขาจะระวังขนาดนั้นแล้ว แต่ก็ทำให้หยางฉงที่กำลังหลับอยู่นั้นตื่นขึ้นมาอยู่ดี
“พี่หลี่ฝาง?คุณตื่นแล้วเหรอ?” หยางฉงขยี้ตา จากนั้นก็มองหลี่ฝางพูด
หลี่ฝางยื่นมือออกมาลูบผมของเธอด้วยความรักจับใจ จากนั้นก็ดึงมือของเธอเพื่อให้เธอขึ้นมานอนบนเตียง
“ทำไมคุณถึงมานอนที่นี่?พวกราฟาเอลล่ะ?แล้วก็ ลูกน้อยเป็นอย่างไรบ้าง?น่าจะไม่เป็นไรแล้วใช่ไหม?”
หลี่ฝางยังพอจำได้ ว่าหลังจากที่เขามั่นใจแล้วว่าเสี่ยวผิงอันไม่เป็นอะไรถึงได้เป็นลมไป แต่เขาในตอนนั้นอารมณ์ไม่แน่นอนเท่าไหร่ สมองเลยเลือนราง ดังนั้นเลยต้องทำให้มั่นใจสักหน่อย
หยางฉงซบไหล่ของหลี่ฝาง ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ
“ลูกน้อยไม่เป็นอะไรแล้ว แต่หมอบอกว่าเพื่อให้ไม่เกิดอะไรผิดพลาด เลยอยากดูอาการสักระยะหนึ่ง”
เมื่อคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับเสี่ยวผิงอัน ในใจของหยางฉงก็กลัวขึ้นมา เมื่อเธอได้ยินว่าเป็นข่าวร้าย ตัวเองก็หวังว่าจะได้ไปกับเสี่ยวผิงอัน
ยังดีที่หลังจากที่หยางฉงเป็นลมไป Lafiteต้องรีบบอกข่าวที่เสี่ยวผิงอันตายแล้วฟื้นกับเขา ไม่อย่างนั้นหยางฉงก็ไม่รู้จริงๆ ว่าตัวเองจะทำเรื่องโง่ๆ ไป
“งั้นก็ดี” หลังจากที่มั่นใจในข่าวนั้นแล้ว หลี่ฝางก็วางใจ หลังจากที่ลังเลสักพัก จากนั้นเลยถาม “วี่เฟยล่ะ เธอไปไหนแล้ว?”
เมื่อพูดถึงฉินวี่เฟย หยางฉงก็ชะงักไป จากนั้นเลยถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะลุกออกจากอ้อมกอดของหลี่ฝาง
“พี่หลี่ฝาง คุณรีบไปขอโทษพี่วี่เฟยเถอะ”
ฉินวี่เฟยที่วิ่งออกไปจากโรงพยาบาลในตอนแรกนั้น สุดท้ายราฟาเอลก็เป็นคนพาเขากลับมา
แต่ว่าหลังจากที่ฉินวี่เฟยกลับมาที่โรงพยาบาลก็เปลี่ยนไปเป็นทุกใจอย่างมาก แต่ก็ยิ้มขึ้นได้บ้างตอนที่รู้ว่าเสี่ยวผิงอันนั้นฟื้นคืนชีพแล้ว
ในคืนวันเวลาหลังจากนั้น ฉินวี่เฟยล็อกตัวเองอยู่ในห้อง ไม่อยากเจอใครเลย ขนาดหยางฉงที่ไปหา ฉินวี่เฟยยังหลบหน้าไม่ยอมเจอเลย
หยางฉงโน้มน้าวอยู่นาน แต่ว่าฉินวี่เฟยก็ยังไม่ฟังตามเคย สุดท้ายหยางฉงก็ไม่มีวิธีอะไรแล้ว เลยต้องปล่อยเลยตามเลย
“เธอ……ยังโกรธฉันอยู่เหรอ?” ใจของหลี่ฝางนั้นรู้สึกแย่เป็นอย่างมาก ถ้าเกิดสามารถย้อนเวลาไปได้ ตอนนี้เขาอยากจะตบตัวเองในตอนนั้นแทบไม่ไหว
เขาคิดอะไรอยู่เนี่ย!ทำไมถึงไปพูดแบบนั้นกับฉินวี่เฟย!
ความรักที่ฉินวี่เฟยมีให้เสี่ยวผิงอันนั้น ใครๆ ก็มองออก
“เฮ้อ พี่หลี่ฝาง ครั้งนี้คุณทำร้ายจิตใจของพี่วี่เฟยไปแล้วจริงๆ ห้องพักผู้ป่วยที่อยู่ข้างๆ เขานั้น ไม่ได้ออกมาถึงหนึ่งวันหนึ่งคืนแล้ว ไม่ว่าใครจะไปโน้มน้าวก็ไม่มีประโยชน์ คุณๆ ไปดูหน่อยเถอะ”
หลังจากที่หยางฉงฟื้นแล้ว ก็รู้เรื่องอย่างละเอียดออกมาจากปากของราฟาเอล จะว่าไป ถ้าไม่ใช่เพราะหลี่ฝางเป็นพ่อของเสี่ยวผิงอัน เธอจะต้องสั่งสอนหลี่ฝางอย่างรุนแรงสักหน่อย
คำพูดแบบนั้นจะออกมาจากปากใครก็ได้ ยกเว้นปากของหลี่ฝาง