NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1357 กลับดี

บทที่ 1357 กลับดี

“สาวน้อย ดูเหมือนคุณชายจะแคร์คุณมากเลยนะ คุณคุยกันดีๆ ล่ะอย่าทำให้เรื่องมันใหญ่แบบนี้อีกเลย”

“เอาล่ะ สามีภรรยาเค้าดีกันแล้วก็เลิกเข้ามายุ่งเรื่องชาวบ้านกันได้แล้ว แยกย้ายกันเถอะ ไม่มีอะไรแล้วล่ะ”

……

เมื่อเหล่าป้าแก่เห็นว่าฉินวี่เฟยให้หลี่ฝางเข้าไปแล้ว ก็รู้จักแยกย้ายเลิกดูด้วยตัวเอง หยอกล้อฉินวี่เฟยพลางกลับเข้าไปในห้องของตัวเอง

เมื่อทุกคนไปแล้ว ฉินวี่เฟยถึงได้หันตัวกลับเข้ามาในห้องอย่างหน้าเคร่งเครียด ก่อนจะมองหลี่ฝางที่นั่งอยู่บนโซฟาด้วยความโกรธมากขึ้นเรื่อยๆ

“ใครให้คุณนั่งลง?ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้!”

หลี่ฝางที่กำลังมีความสุขนั้น เมื่อได้ยินเสียงของฉินวี่เฟยก็รีบลุกขึ้นมา แถมยังตะเบ๊ะอย่างเกินปกติ ตัวตรงเป็นอย่างมาก

ฉินวี่เฟยเห็นแล้วก็อมยิ้ม จนเกือบจะหลุดยิ้มออกมาแล้ว

“ฉันจะบอกคุณให้นะ ถ้าไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากเสียหน้า ฉันคงไม่ให้คุณเข้ามาหรอก!แล้วก็ คำพูดของคุณเมื่อวานน่ะจำได้ดี อย่าคิดว่าพูดจาหวานๆ แล้วมันจะผ่านไปได้นะ!”

มองออกเลย ว่าครั้งนี้ฉินวี่เฟยโกรธจริงๆ พูดไป ดวงตาก็มีเหมือนหมอกหนามาบังตา

หลี่ฝางเห็นสถานการณ์ดังนั้นก็รีบเข้าไป พูดด้วยความอบอุ่น

“ที่รัก ฉันรู้ว่าฉันพูดทำร้ายจิตใจคุณ แต่ว่าคุณเองก็รู้ว่าตอนนั้นฉันเหมือนคนบ้า คำพูดของคนบ้า คุณจะมาสนใจทำไม?”

“ไม่ต้องโกรธแล้วล่ะ คุณบอกมาว่าทำอย่างไรถึงจะให้อภัยฉัน?แค่คุณบอกมา ถึงจะต้องใช้ด้วยชีวิตฉันก็จะทำ”

เมื่อเห็นท่าทีพูดอย่างมั่นใจของหลี่ฝาง ฉินวี่เฟยก็มองด้วยความไม่สบอารมณ์

“ฉันจะเอาชีวิตคุณไปทำอะไร?เอาล่ะ ได้เจอกันแล้ว คุณไปเถอะ ฉันไม่อยากเสียเวลาคุยกับคุณ”

เมื่อฉินวี่เฟยพูดจบก็หันไปจนทำให้เขาหวั่น กว่าฉินวี่เฟยจะให้ตัวเองเข้ามาได้ หลี่ฝางจะปล่อยให้ถูกไล่ออกไปได้อย่างไร?

เขาเลยนอนฟุบบนโซฟา ไม่ว่าอย่างไรฉินวี่เฟยก็ดึงไม่ออก

“หลี่ฝาง!อย่าทำตัวปัญญาอ่อนเหมือนเด็กได้ไหม!คุณคิดว่าหน้าด้านแบบนี้แล้วฉันจะให้อภัยคุณงั้นเหรอ?คุณรู้ไหมว่คำพูดเหมือนสาดน้ำออกไป ไม่ว่าอย่างไรก็เอากลับมาไม่ได้”

“ทำไมคุณคิดว่าทำอย่างไรก็ได้?อยากจะมีภรรยาสองคนก็ได้ อยากให้ฉันให้อภัยคุณฉันก็ต้องให้อภัยคุณงั้นเหรอ?ฉันทนมามากพอแล้ว!”

นี่เป็นครั้งแรกที่ฉินวี่เฟยโกรธหลี่ฝางขนาดนี้ แล้วก็ร้องไห้พลางด่าหลี่ฝางเสียงดัง

หลี่ฝางที่ยิ้มแย้มอยู่นั้นตอนนี้กลับร้อนใจ ก่อนจะรีบลุกขึ้นจากโซฟา พลางรีบปลอบ

“ที่รักอย่าร้องไห้เลย!ถ้าคุณไม่อยากเห็นฉัน ฉันจะไปตอนนี้เลย โอเคไหม?ฉันไม่อยากเห็นคุณร้องไห้ พอคุณร้องไห้แล้วฉันใจสลาย”

หลี่ฝางไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับฉินวี่เฟยแล้ว น้ำตาไหลเป็นสายไม่หยุด เช็ดอย่างไรก็ไม่หยุดสักที

มันไม่มีวิธีอะไรแล้วจริงๆ เขาเลยคุกเข่าลงต่อหน้าฉินวี่เฟยข้างหนึ่ง จากนั้นก็จับมือของฉินวี่เฟยมาตบตัวเอง

“ตีให้ตายเลย!เอาให้ตายเลย!แกมันหลายใจ แกมันปากเปราะ แกมันทำให้ที่รักฉันโกรธ!ฉันจะตบแกแรงๆ แทนที่รักของฉันถึงจะพอใจ!”

หลี่ฝางตบตัวเองพลางพูด

“คุณทำอะไรน่ะ!ปล่อยมือนะ!” ฉินวี่เฟยพยายามดึงมือตัวเองออกเต็มแรง ก่อนจะจ้องหลี่ฝางอย่างจริงจัง

ถึงแม้จะโกรธจัด แต่ในใจของฉินวี่เฟยก็ยังมีแต่หลี่ฝาง ร่างกายของหลี่ฝางนั้นอ่อนแรงอยู่แล้ว ถ้าตบจนตายแล้วจะทำอย่างไร?

“คุณลุกขึ้นเถอะ!เห็นแล้วโมโห!” เมื่อเห็นหลี่ฝางที่คุกเข่าขอโทษต่อหน้าตัวเอง ฉินวี่เฟยกูดอย่างไม่สบอารมณ์

นอกจากตอนที่คุกเข่าขอฉินวี่เฟยแต่งงานแล้ว ฉินวี่เฟยก็ไม่เคยเห็นหลี่ฝางคุกเข่าเลย

ที่จีน ว่ากันว่าที่เข่าของผู้ชายทั้งเหมือนมีทองอยู่ ผู้ชายอย่างหลี่ฝางนั้น คนที่จะทำให้เขาคุกเข่าลงได้ต้องเป็นคนที่ไม่สามารถมีใครมาแทนได้แน่นอน

อันที่จริง ฉินวี่เฟยหายโกรธไปมากหลังจากที่หลี่ฝางคุกเข่าลง แต่ว่าก็ยังไม่อยากเสียหน้า เลยไม่ได้ให้อภัยหลี่ฝางไปตรงๆ

“ถ้าคุณให้อภัยฉันฉันถึงจะลุกขึ้น คุณไม่ให้อภัย ฉันก็จะคุกเข่าอยู่ตรงนี้ล่ะ”

ตามที่หลี่ฝางเข้าใจฉินวี่เฟย เขาเดาออกแล้วว่าฉินวี่เฟยไม่ได้โกรธตัวเองแล้ว เลยไม่ได้ให้อภัยตัวเอง เพียงแค่หาทางลงก็เท่านั้นเอง

เป็นไปตามคาด เมื่อได้ยินหลี่ฝางพูดคำนี้ ฉินวี่เฟยก็อึดอัด ก่อนจะพูดด้วยความโกรธออกมา

“เอาล่ะๆ !ฉันให้อภัยคุณยังไม่พอเหรอ?รีบลุกขึ้นมาเร็ว”

หลังจากพูดไปแล้ว หลี่ฝางถึงได้ลุกขึ้นยิ้ม จากนั้นก็โอบกอดฉินวี่เฟยที่ยังโกรธอยู่อย่างหน้าไม่อาย ก่อนจะเช็ดน้ำตาที่อยู่บนใบหน้าของเธออย่างอ่อนโยน

“วี่เฟยที่รัก ฉันรู้แล้วว่าฉันผิดไป ฉันพูดเพราะความโกรธเท่านั้น แต่มันไม่ได้ผ่านสมองมาก่อน คุณอย่าใส่ใจมันเลยนะ”

“หึ ถ้าฉันฝังใจกับคุณมากน่ะ คงจะโกรธคุณจนตายไปนานแล้ว” ฉินวี่เฟยใช้แขนกระทุ้งท้องของหลี่ฝางเข้าอย่างจัง จากนั้นก็เชิดหน้าอย่างเย่อหยิ่ง

ครั้งนี้ใครแรงไปไม่น้อยเลย หลี่ฝางนั้นส่งเสียงจุกเล็กน้อย ก่อนจะขดตัวลง ถึงจะเป็นแบบนี้ แต่เขาก็ยังยิ้มอยู่ดี โดยที่ไม่กล้าสะบัดหน้าหนีฉินวี่เฟยเลย

กว่าจะง้อได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เลยไม่กล้าทำให้เธอโกรธอีก

“พี่วี่เฟย พี่หลี่ฝาง ฉันขอเข้าไปได้ไหม?” ในตอนนั้นเอง เสียงของหยางฉงนั้นลอดมาจากประตู

หลังจากที่ฉินวี่เฟยได้ยิน ก็เอามือของหลี่ฝางออกจากเอวของตัวเอง จากนั้นก็ไปเปิดประตูให้หยางฉง

“พี่วี่เฟย คุณไม่โกรธแล้วใช่ไหม?” หยางฉงมองฉินวี่เฟยที่รอบตาแดงๆ จากนั้นก็ลองถามดู

“ทำไมฉันต้องโกรธด้วย ร่างกายนี้เป็นของตัวเอง ถ้ามีคนอื่นมาทำให้โกรธจนตัวเองแย่ไป ฉันจะย่อยยับขนาดไหนกัน”

ฉินวี่เฟยพูดพลางปรายตามองหลี่ฝาง คำที่พูดนั้นก็เสียดแทง เมื่อหยางฉงได้ยิน ก็ปิดปากหัวเราะออกมา

“ผู้หญิงคนนี้นี่ ยังกล้ามาหัวเราะฉันอีก ดูเถอะว่าฉันจะจัดการกับคุณอย่างไร” หลี่ฝางเห็นหยางฉงแอบหัวเราะแบบนั้น ก็คิดว่าอายไม่ไหว หน้าเลยแดงขึ้นมา ก่อนจะยื่นมือออกมาเพื่อไปจับหยางฉง

“นี่!พี่วี่เฟย พี่หลี่ฝางเขาแกล้งฉัน!” หยางฉงเห็นว่าหลี่ฝางจะเข้ามาจับตัวเอง เลยวิ่งไปอยู่ด้านหลังของฉินวี่เฟย ก่อนจะให้เธอเป็นที่กำบัง

“คุณจะทำอะไร?” ฉินวี่เฟยเอามือกอดอกพลางมองหลี่ฝางอย่างเย็นชา น้ำเสียงก็ท้าทายเล็กน้อย

เมื่อหลี่ฝางเห็นแบบนั้นก็ขี้ขลาดขึ้นมา ไม่กล้าทำอะไรอีก

“แหะๆ ไม่ทำไมหรอก ฉันแค่หยอกเสี่ยวฉงเล่นไม่ใช่เหรอ” หลี่ฝางส่ายหัว ก่อนจะมองหยางฉงที่อยู่ด้านหลังฉินวี่เฟยเล็กน้อย

เขาพบว่าหลังจากที่หยางฉงกับฉินวี่เฟยกลายเป็นพี่น้องสนิทกันแล้ว หยางฉงก็เปลี่ยนไป ไม่เหมือนสาวน้อยที่มีแต่ตัวเองเหมือนก่อนหน้านี้ สิ่งที่พูดในทุกวันตอนนี้มีแต่พี่วี่เฟยๆ

ถ้าไม่รู้ว่าพวกเธอชอบชายคนเดียวกัน หลี่ฝางคงจะสงสัยแล้วว่าทั้งสองเป็นมีความสัมพันธ์แบบนั้นหรือเปล่า

“แหะๆ พี่วี่เฟย หมอบอกว่าพวกเราไปเยี่ยมผิงอันได้แล้วนะ ไป พวกเราไปกันเถอะ”

เมื่อมีฉินวี่เฟยมาสนับสนุน หยางฉงนั้นไม่กลัวหลี่ฝางเลยแม้แต่น้อย จากนั้นเลยคล้องแขนกับฉินวี่เฟยก่อนจะไปเจอผิงอัน แต่หลี่ฝางกลับถูกพวกเธอทิ้งไว้ด้านหลัง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน