NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1359 คฤหาสน์ของนายพลใหญ่

บทที่ 1359 คฤหาสน์ของนายพลใหญ่

“นิสัยคุณกับพ่อนั้นเหมือนกับไม่มีผิดเลย แถมความเย่อหยิ่งในตัวคุณนั้นมันมากกว่าเขาเสียด้วย คุณเป็นคนที่มีพรสวรรค์มากที่สุดที่ฉันเคยเจอมา แล้วก็เป็นคนที่โชคดีที่สุดอีกด้วย ฉันเชื่อว่าคุณจะต้องพาหลี่ต๋าคางกลับมาได้แน่นอน”

ท่านผู้อาวุโสยื่นมือออกมาตบไหล่ของหลี่ฝาง ด้วยแววตาเชื่อมั่น

ตอนแรกหลี่ฝางคิดว่าหลังจากที่ท่านผู้อาวุโสได้ฟัง จะคิดว่าตัวเองนั้นเป็นคนที่หยิ่งและโอ้อวด คิดไม่ถึงว่าท่านผู้อาวุโสจะมาเชื่อตัวเองแบบนี้

หลังจากที่ได้รับกำลังใจจากท่านผู้อาวุโสแล้ว หลี่ฝางมั่นใจเป้าหมายต่อไปของตัวเองแล้ว

นั่นคือการทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น จากนั้นก็ไปที่อีกโลกหนึ่งเพื่อพาหลี่ต๋าคางกลับมาอยู่กับเมี๋ยวชุ่ย

“เรื่องนี้มันยังมีแผนอีกยาวไกล จะรีบร้อนไม่ได้ พวกเราจัดการเรื่องตรงหน้าให้ได้ก่อนดีกว่า”

หลังจากที่แจกจ่ายเรื่องของตัวเองและหลี่ต๋าคางแล้วเรียบร้อย ท่านผู้อาวุโสก็มีความอ่อนล้าบนใบหน้าขึ้นมา

ทั้งวันทั้งคืนนี้ สายโทรศัพท์ของเขาแทบไหม้ หัวหน้าโทรแล้วโทรเล่า เหมือนกับเร่งให้ไปตายเลยล่ะ บอกให้ท่านผู้อาวุโสต้องพาหลี่ฝางกลับมาประเทศจีนอย่างปลอดภัย อย่าให้คนของญี่ปุ่นพาหลี่ฝางไปได้

เหตุผลนี้ท่านผู้อาวุโสเองก็เข้าใจได้ดี ถ้าหลี่ต๋าคางไปแล้ว หลี่ฝางก็ต้องกลายเป็นนักรบที่แข็งแกร่งที่สุดในประเทศจีนทันที ถ้าเกิดว่าหลี่ฝางถูกคนของญี่ปุ่นพาตัวไปด้วย สำหรับประเทศจีนนั้นมันก็คือเป็นความเสียหายที่ยิ่งใหญ่

ไม่ว่าจะพูดจากมุมของเพื่อน หรือมุมของประเทศ ท่านผู้อาวุโสก็ไม่มีทางพาหลี่ฝางไปให้ญี่ปุ่นแน่นอน

“ท่านผู้อาวุโส ครั้งนี้ฉันกลัวว่าจะทำให้คุณลำบากไม่น้อยเลย ถ้าไม่ไหวจริงๆ เรื่องนี้คุณก็ไม่ต้องเข้ามายุ่งหรอก ทางญี่ปุ่นนั้นฉันจะจัดการด้วยตัวเอง”

ถึงแม้หลี่ฝางจะไม่ได้ดูข่าว แต่ใช้หัวแม่โป้งก็พอจะเดาออกว่าตอนนี้ข่าวอะไรที่กำลังว่อนเน็ต

เขาสู้กับนัยเหลียงและหลี่ต๋าคางรุนแรงเกินไป อีกอย่างตอนนั้นมีคนมุงดูมากมาย อยากจะปิดบังอะไรก็ไม่ได้ ความลับเกี่ยวกับนักรบนั้น เกรงว่าอีกไม่นานก็จะรู้กันทั้งโลกแล้ว

“คุณมาจัดการเหรอ?คุณจะจัดการอย่างไร?ตอนนี้คนแทบทั้งโลกได้เห็นการต่อสู้ในวันนั้นแล้ว หรือคุณสามารถปิดปากคนได้งั้นเหรอ?”

ท่านผู้อาวุโสรู้ว่าหลี่ฝางนั้นไม่ได้อยากจะทำให้ตัวเองลำบาก แต่ว่าตอนนี้เรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว ไม่ใช่ว่าเขาจะแก้ไขคนเดียวได้

หัวหน้านั้นเสนอหน้ามาแต่ก็ไม่มีวิธีที่จะปิดเรื่องนี้ได้ แล้วเขาที่เป็นหลี่ฝางเนี่ย จะมาจัดการได้อย่างไร?

“พวกข่าวโคมลอยในเน็ตนั่นแค่ไม่ต้องไปสนใจก็พอแล้ว ผ่านไปไม่นานเดี๋ยวมันก็ค่อยๆ หายไปเอง ตอนนี้สิ่งที่ทำให้คุณใจว้าวุ่นกว่าคือทางญี่ปุ่น ฉันจะไปคุยกับพวกเขา เดี๋ยวพวกเขาก็ซื่อลงเอง”

ในยุคนี้ ต่างอยู่ในยุคที่ไหลไปตามความยอดนิยมและความโด่งดังต่างๆ นานา หลังจากที่เรื่องทั้งหมดมันดังระเบิดแล้วเดี๋ยวอีกไม่นานก็จะถูกลืมไป เพียงแค่พวกหลี่ฝางไม่ก่อเรื่องอะไรอีก เรื่องนี้มันก็จะถูกกลบไปในอีกไม่นาน

เหมือนกับเรื่องของมนุษย์ต่างดาวที่โด่งดังกับเรื่องของสัตว์ประหลาดใต้น้ำ อันที่จริงของพวกนี้มันมีอยู่จริงทั้งนั้น

แต่เพราะปิดข่าวได้ดี แล้วก็ไม่ได้มีข่าวอะไรโด่งดังออกมาเพิ่มเติมเป็นเวลานาน มันเลยถูกกลุ่มคนค่อยๆ ลืมไป

เหตุผลเดียวกัน ขอเพียงแค่พวกหลี่ฝางนั้นทำเรื่องต่างๆ อย่างเงียบๆ ผ่านไปไม่นาน ข่าวเกี่ยวกับสงครามนี้มันก็จะค่อยๆ หายไปเหมือนกัน

ตอนนี้สิ่งที่ยากจะรับมือคือเรื่องของทางญี่ปุ่น พวกหลี่ฝางนั้นก่อเรื่องขึ้นที่ญี่ปุ่น และฆ่านักรบแข็งแกร่งไปมากมาย แถมยังฆ่านัยเหลียงอีกด้วย พวกเขาคงจะไม่มีทางปล่อยเรื่องนี้ไปง่ายๆ อย่างแน่นอน

“ที่ฉันมาในครั้งนี้ ก็เพื่อพาคุณไปเจอคนเบื้องบนของญี่ปุ่น เพียงแค่เขาพยักหน้าให้พวกคุณออกจากญี่ปุ่น เรื่องมันก็ถือว่าผ่านไปแล้วล่ะ”

ท่านผู้อาวุโสคิดเอาไว้หมดแล้ว ครั้งนี้เขามาเพื่อเอาตัวหลี่ฝางไปเจอคนคนหนึ่งเท่านั้น

“เรื่องนี้จะช้าไม่ได้แล้ว ตอนนี้พวกเราต้องไปแล้วล่ะ” เรื่องนี้ยิ่งแก้ไขเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี ตอนนี้หลี่ฝางเอครอบครัวมาที่ญี่ปุ่น เขาเองนั้นไม่กลัวใครอยู่แล้ว แต่ฉินวี่เฟยกับหยางฉงแล้วก็เสี่ยวผิงอันคงไม่ใช่

ผู้หญิงบอบบางสองคนพาลูกอายุครบเดือนเท่านั้นเอง ไม่ต้องพูดถึงนักรบหรอก แค่ชายชาตรีสองคน ก็สามารถควรคุมพวกเขาเอาไว้ได้แล้ว

ท่านผู้อาวุโสรู้ว่าหลี่ฝางนั้นจะจัดการเรื่องต่างๆ ได้ในไม่ช้า เลยไม่ได้พูดอะไร ก่อนจะพาหลี่ฝางออกไปจากโรงพยาบาล แล้วตรงไปยังที่ที่ต้องการ

เพราะนี่คือที่ของคนอื่น ครั้งนี้ท่านผู้อาวุโสไม่ได้พาใครมานอกจากหลี่ฮุย ส่วนหลี่ฝางก็ทำเพื่อความปลอดภัยของฉินวี่เฟยกับหยางฉง แต่ราฟาเอลแล้วก็พวกไขจี๋เออสองคนที่ยังอยู่โรงพยาบาล

ตัวเองกับท่านผู้อาวุโสและหลี่ฮุยนั้นมาถึงสวนสไตล์ญี่ปุ่นที่หรูหรา

“จวนของท่านนายพลงั้นเหรอ?” หลี่ฝางมองสิ่งที่เขียนอยู่บนประตูบานใหญ่ก่อนจะพึมพำ

“ท่านผู้อาวุโส คุณจะพาฉันไปเจอใคร ใช่ท่านนายพลของญี่ปุ่นหรือเปล่า?” หลี่ฝางหันหัวมา ก่อนจะมองท่านผู้อาวุโสด้วยความตกใจ

ท่านนายพลนั้นเหมือนกับราชาในญี่ปุ่นเลยทีเดียว เขาถึงขั้นสามารถกำหนดทิศทางการเดินไปของประเทศได้เลยด้วยซ้ำ

คนที่ยิ่งใหญ่ขนาดนั้น ทำไมถึงอยากเจอตัวเองล่ะ?

“ไปเถอะ ท่านนายพลรอพวกเราอยู่ข้างในแล้ว” ท่านผู้อาวุโสยืดเอวขึ้น จากนั้นก็เคาะประตูใหญ่ที่จวนของท่านนายพล

เพียงไม่นาน ประตูบานหนักที่ทำด้วยไม้นั้นก็ค่อยๆ เปิดออกจากด้านใน ด้านซ้ายขวานั้นมีชายที่สวมชุดนักรบอยู่ แถมที่เอวยังมีดาบของทหารห้อยอยู่ด้วย

ผ่านประตูใหญ่ตรงเข้าไปนั้น ก็มีทางหินกว้างกว่าสิบเมตร สุดปลายทางนั้นมีเก้าอี้ไท่ซือที่สวยงามอยู่ ด้านซ้ายขวานั้นมีหญิงที่ถือพัดวีและสวมชุดกิโมโนอยู่

ส่วนบนเก้าอี้ไท่ซือนั้น มีหญิงที่ใส่ชุดกิโมโนสีดำทองนอนอยู่บนนั้นอย่างผ่อนคลาย พลางหรี่ตามองพวกหลี่ฝาง

ผู้หญิงงั้นเหรอ?

ท่านนายพลของญี่ปุ่นเป็นผู้หญิงงั้นเหรอ?

หลี่ฝางมองหญิงที่อยู่บนเก้าอี้ไท่ซือก็ตกใจเบาๆ แต่ว่าบนใบหน้านั้นกลับไม่ได้แสดงอะไรออกมา พลางก้าวเท้าเดินต่อเข้าไป

หญิงที่อยู่บนเก้าอี้ไท่ซือนั้นยกแขนซ้ายของตัวเองขึ้น เมื่อหญิงปรนนิบัติที่อยู่ข้างๆ เห็นสถานการณ์ดังนั้นก็รีบเข้าไปประคองเธอขึ้นมาอย่างเคารพ

เพราะท่าทีของเธอนั้น กิโมโนที่หญิงคนนี้ใส่อยู่เลยหลวมเล็กน้อย ทำให้เห็นไหล่ของเธอครึ่งหนึ่ง กระโปรงด้านล่างนั้นก็กองอย่างสะเปะสะปะ ขายาวทั้งสองข้างก็เห็นวับแวมๆ

หลังจากที่หลี่ฝางมองแล้ว ก็รีบเบี่ยงสายตาออก ถึงแม้ท่านนายพลหญิงคนนี้จะหน้าตาไม่เลว แต่เขาเป็นคนมีครอบครัวแล้ว เลยต้องกดความคิดอย่างว่าเอาไว้

“ท่านหลี่ ทำไมคุณไม่มองฉัน?” ท่านนายพลหญิงเห็นหลี่ฝางผลุบสายตาลง แววตาเป็นประกาย ส่วนน้ำเสียงก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่

ที่ญี่ปุ่น ท่านนายพลถือได้ว่าเป็นตระกูลจักรพรรดิ มีตำแหน่งที่สูงส่งเกินเทียม ชายใดที่เห็นเธอ ก็ต้องสยบเว้นแต่หลี่ฝาง ที่ไม่อยากจะมองตัวเองด้วยซ้ำ

ท่าทีที่พิเศษและไม่มองนั้น มันทำให้ท่านนายพลหญิงสนใจขึ้นมา ตอนแรกเธอสงสัยหลี่ฝางมากอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ยิ่งอยากจะเข้าใกล้ชายคนนี้มากกว่าเดิมเสียอีก

เมื่อได้ฟังภาษาจีนห่วยๆ ของท่านนายพลหญิง หลี่ฝางก็เอามือทั้งสองข้างกำขึ้นก่อนจะคำนับเธอ พลางตอบด้วยน้ำเสียงนิ่งเฉยไม่หืออือ

“ท่านนายพลคุณเป็นคนที่น่าภาคภูมิของฟ้า คนธรรมดาอย่างฉัน ไม่กล้าสบตากับคุณตรงๆ เป็นแน่”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน