ทั้งๆ ที่ท่านนายพลหญิงรู้ว่าคำพูดของหลี่ฝางนั้นไม่ใช่เรื่องจริง แต่กลับพอใจกับมันมาก จากนั้นเลยยกมือมาป้องปากหัวเราะ จู่ๆ ก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ไท่ซือแล้วก็เดินลงมา ก่อนจะเอี้ยวตัวมาด้านหน้าของหลี่ฝาง
“ท่านหลี่ถ้าคุณเป็นคนธรรมดา ก็ไม่มีใครเป็นคนธรรมดาได้แล้วล่ะ คุณเงยหน้าขึ้นมา ให้ฉันได้มองคุณให้เต็มตาหน่อยสิ”
ท่านนายพลหญิงพูดพลางเชยคางหลี่ฝางขึ้นมา
ท่าทีของทั้งสองคนนั้นทำให้หลี่ฝางรู้สึกอึดอัดเป็นอย่างมาก เหมือนกับว่าเขาถูกเกี้ยวพาราสีเลยล่ะ
แต่อีกฝ่ายนั้นคือท่านนายพล มีเรื่องด้วยไม่ได้ เขาเลยทำได้เพียงเงยหน้าขึ้นอย่างเย็นชา
“ถึงแม้ใบหน้านี้จะไม่ได้เนียนงามไปกว่านัยเหลียง แต่กลับแอบมีความเป็นชายชาตรีอยู่ไม่น้อย ท่านหลี่ ไม่ทราบว่าคุณอยากจะเข้ามาในจวนของท่านนายพลของฉัน แล้วมาเป็นคู่ครองของท่านนายพลไหม?”
ท่านนายพลหญิงจ้องใบหน้าของหลี่ฝางสักพัก จากนั้นก็พูดด้วยความพอใจ
สิ่งที่เธอพูดไม่กี่ประโยคนั้นทำให้หลี่ฝาง ท่านผู้อาวุโสกับหลี่ฮุยตัวแข็งทื่อ หลี่ฝางยังเอามือไปแคะหูของตัวเองเล็กน้อย เพราะไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน
ผู้หญิงคนนี้บ้าไปแล้วหรือเปล่า?นี่จะให้เขาเข้าไปในจวนของท่านนายพล เพื่อให้เป็นคู่ครองของท่านนายพลงั้นเหรอ?
น่าขันจริงๆ !
หลี่ฝางเป็นชายทั้งแท่ง จะทำเรื่องแบบนั้นได้อย่างไร
“ขอบคุณที่ท่านนายพลรักใคร่ แต่ข้าหลี่นั้นไม่อาจไต่เต้าไปสูงได้ แถมข้ายังมีครอบครัวแล้วด้วย หวังว่าท่านนายพลจะบรรลุผลได้” หลี่ฝางไม่ได้คิดเลย แต่กลับปฏิเสธไปทันที
หลังจากที่ท่านนายพลหญิงได้ยินเขาพูดดังนั้นแล้ว ใบหน้าก็หนักใจขึ้นมา มือที่จับคางของหลี่ฝางเองก็บีบแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
“ท่านหลี่ ฉันไม่แคร์หรอกว่าคุณจะเคยมีครอบครัว ถ้าคุณไม่วางใจ ฉันให้เงินมากมายแก่พวกเธอก็ได้ รับรองว่าชีวิตหลังจากนี้ของพวกเธอจะไม่ต้องกังวลแน่นอน เพียงแค่คุณยอมมาเป็นคู่ครองของท่านนายพลของฉันก็พอ”
หลังจากที่หลี่ฝางได้ฟังดังนั้นก็กลอกตามองบน คุณไม่แคร์งั้นเหรอ?ก็ไม่ได้อยากเป็นคู่ครองของท่านนายพลของแกเข้าใจไหม?อีกอย่าง กูรวยอยู่แล้ว ยังจะขาดเงินอีกเหรอ?
“ท่านนายพล ฉันรักเหล่าภรรยาของฉันมาก ไม่ใช่ว่าจะใช้เงินในการแก้ปัญหาได้” หลี่ฝางพูดออกมาโดยไม่ได้มีน้ำเสียงเกรงใจเหมือนเดิม ก่อนจะเอาตัวเองคางของตัวเองออกมาจากมือของท่านนายพลหญิง พลางมองเธออย่างเย็นชาก่อนจะปฏิเสธอีกครั้ง
“ท่านหลี่ ที่ญี่ปุ่นนี้ ไม่มีอะไรที่ฉันอยากได้แล้วไม่ได้ คุณไปคิดให้ดีเถอะ”
เมื่อถูกหลี่ฝางปฏิเสธถึงสองครั้ง ท่านนายพลหญิงก็ไม่เหลือความอดทนต่อไปแล้ว แววตาก็เย็นชาจนน่ากลัว พลางมองหลี่ฝางอย่างร้ายกาจ ก่อนจะพูดเหมือนข่มขู่
“น่าเสียดาย ฉันไม่ใช่คนญี่ปุ่น ท่านนายพล หลี่ฝางอย่างฉันไม่เล่นกับอะไรแบบนี้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว”
หลี่ฝางเองก็ไม่ใช่คนที่จะกลัวอะไร เขาสบตากับท่านนายพลหญิงอย่างแข็งกร้าว ท่าทีแกร่งเป็นอย่างมาก
“โอเค ดีมาก ดูเหมือนแกจะไม่สนใจความเป็นความตายของหญิงทั้งสองคนนี้สินะ มา ลงมือเลย”
ท่านนายพลหญิงมีสายตานิ่งไป ก่อนจะกำชับลูกน้องที่อยู่ด้านหลัง
หลี่ฝางได้ฟังดังนั้น ความเกรี้ยวกราดในร่างกายก็พุ่งออกมา จากนั้นจึงยกมือขึ้นบีบคอของท่านนายพลหญิงทันที
“ถ้าคุณกล้าทำอะไรพวกเธอ คอของคุณจะถูกฉันบิดออกจากคอในวินาทีต่อไปเลยล่ะ”
เมื่อรู้สึกถึงความอาฆาตของหลี่ฝางอย่างชัดเจน ท่านนายพลหญิงก็ตัวสั่นเล็กน้อย เมื่อนักสู้เห็นสถานการณ์ดังนั้นก็รีบปรี่เข้ามาก่อนจะเอาดาบที่อยู่ข้างเอวออกมา พลางเล็งไปที่คอของหลี่ฝาง
“ถอยออกไป” เมื่อเทียบกับนักสู้ที่จริงจังนี้ อารมณ์บนใบหน้าของท่านนายพลหญิงนั้นถือได้ว่าสบายอารมณ์เป็นอย่างมาก แถมยังมีความเพลิดเพลินเป็นอย่างมากด้วย
เธอยื่นมือออกไปนาบกับหน้าอกของหลี่ฝาง ก่อนจะลูบไล้เบาๆ มุมปากก็มีรอยยิ้มแสนหวาน พลางชายตาขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะโน้มตัวเข้ามาข้างหน้า จนตัวนั้นแทบจะแนบกับตัวของหลี่ฝางแล้ว
“คุณกล้าทำเหรอ?คุณคิดว่าแค่เพื่อนพ้องของคุณไม่กี่คนนั้น จะสามารถปกป้องผู้หญิงและลูกของคุณได้งั้นเหรอ?”
ลมหายใจของท่านนายพลหญิงนั้นสัมผัสเข้ากับคอของหลี่ฝาง มันชาจนไร้เรี่ยวแรง หลี่ฝางใจเต้นแรง เขาถอยออกไปก้าวหนึ่งอย่างมีเงื่อนไข ก่อนจะทำให้ระยะห่างระหว่างกันมากขึ้น
“ฉันคิดว่า ชีวิตของท่านนายพลมีค่ามากกว่าพวกเรามาก ถ้าคุณทำอะไรพวกเธอแม้แต่นิดเดียว ถึงฉันจะต้องตาย ก็จะทำให้ญี่ปุ่นของคุณพังทลายราวฟ้ากับเหวไปด้วยเช่นกัน”
หลี่ฝางมองท่านนายพลหญิงอย่างเย็นชา พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงเย็นไปจนถึงกระดูก
ถ้าท่านนายพลหญิงคนนี้ไม่ยอม เลวร้ายที่สุดก็คือการจบเห่ไปพร้อมกันเพียงเท่านั้น
“คุณ!” ท่านนายพลหญิงโกรธจนจุกอก สีหน้าก็ดูไม่ได้เลย ตั้งแต่เด็กอยากได้อะไรก็ได้เธอเคยถูกปฏิเสธต่อหน้าทุกคนแบบนี้ที่ไหนกัน?
หลี่ฝางที่ไม่รู้จักว่าอะไรถูกผิดเลยจริงๆ !
“ท่านนายพล คนจีนคนนี้ไร้มารยาทจริงๆ ฉันจะสั่งสอนเขาแทนเอง!”
ชายที่ร่างกายกำยำมีกล้ามเป็นมัดๆ ทั้งตัวด้านหลังท่านนายพลหญิงนั้นลุกขึ้นมาด้วยใบหน้าเย็นชา แววตาที่มองหลี่ฝางก็เต็มไปด้วยความริษยา เกลียดชังและไม่แยแสเลย
ตอนที่เห็นชายกล้ามโตนั้น หลี่ฝางก็เดาออกว่าชายกล้ามโตคนนี้จะต้องเป็นชายที่เอาไว้บำเรอท่านนายพลหญิงอีกคนเป็นแน่ ไม่อย่างนั้นเขาเองก็คงจะไม่มีทางจ้องตัวเองด้วยแววตาแบบนั้น
“ไอ้สารเลว!ฉันให้แกพูดตอนไหนกัน!”
ตอนแรกคิดว่าท่านนายพลหญิงจะตกลงกับสิ่งที่ชายกล้ามโตขอ แต่ใครจะไปรู้ว่าสิ่งที่ทำให้พวกหลี่ฝางผิดคาดก็คือ ท่านนายพลหญิงตบชายกล้ามโตคนนี้ต่อหน้าทุกคน
ชายกล้ามโตที่ถูกตบคุกเข่าลงกับพื้น ก่อนจะก้มหน้าพูดด้วยความรู้สึกผิด
“ข้าน้อยไม่คิดให้ดีเอง ข้าน้อยสมควรตาย!”
หลี่ฝางมองชายกล้ามโตที่มีท่าทีต่างจากเมื่อครู่ กล้ามเนื้อบนใบหน้าก็กระตุก
นี่ยังเป็นผู้ชายหรือเปล่านะ?ถูกผู้หญิงทำให้เสียหน้า แถมยังคุกเข่าให้เธออีกงั้นเหรอ?
ผู้ชายของท่านนายพลหญิงคนนี้ใช้ชีวิตอย่างน่าสงสารเกินไปแล้วล่ะ
“ท่านหลี่นั้นเป็นคู่ครองของท่านนายพลของฉัน พวกคุณเคารพเขาสักหน่อยจะดีกว่านะ”
ถึงแม้ชายกล้ามโตจะก้มหน้าลง ไม่เห็นสีหน้าท่าทีบนใบหน้าเขา แต่ท่านนายพลหญิงจะไม่รู้สิ่งที่เขาคิดได้อย่างไรล่ะ
คงจะไม่มีอย่างอื่นนอกจากหึงหวง แล้วก็ริษยานั่นแหละ
“ขอรับ ข้าน้อยเข้าใจแล้ว”
หลังจากที่ได้ยินท่านนายพลหญิงพูดแล้ว ชายกล้ามโตก็เงียบไปสามสี่วินาที จากนั้นก็ตอบเสียงอ่อย
หลี่ฝางนั้นเห็นมือทั้งสองข้างของชายกล้ามโตกำขึ้นมา ก่อนจะมีกล้ามเนื้อเป่งขึ้นมาทั้งตัว
ถ้าท่านนายพลหญิงคนนี้ไม่ปกป้องหลี่ฝางแบบนี้ เขาเชื่อ ว่าชายกล้ามโตคนนี้คงจะเข้ามาทำร้ายตัวเองแล้วล่ะ
“เอาล่ะ ลุกขึ้นมาเถอะ จากนี้พวกคุณเป็นผู้ชายของฉันกันหมดแล้ว หวังว่าคุณจะใจกว้างกันสักหน่อย เข้าใจไหม?”
หลังจากที่สั่งสอนชายกล้ามโตเสร็จ ท่านนายพลหญิงก็มีสีหน้าแววตาที่อ่อนโยนขึ้นมา ก่อนจะนั่งยองลงแล้วพยุงชายกล้ามโตขึ้นมาจากพื้น พลางลูบหน้าของชายกล้ามโตที่ถูกตบจนแดงด้วยความรัก ก่อนจะพูดปลอบเสียงอ่อนโยน
การตบของท่านนายพลหญิงในครั้งนี้นั้นถือได้ว่าใช้อย่างเต็มแรง ความไม่พอใจที่มีอยู่ในแววตาของชายกล้ามโตในตอนแรกนั้น เมื่อถูกเธอปลอบใจแบบนี้ มันก็หายไปในทันที
ขนาดชายทั้งแท่งอย่างเขา ยังมีความเขินอายขึ้นมาเลย
หลี่ฝางเห็นตัวสั่นเทา ก็รู้สึกน่าสะอิดสะเอียน
“ท่านนายพล ฉันหวังว่าคุณจะเข้าใจ ฉัน หลี่ฝาง ไม่ใช่ผู้ชายของคุณ ชีวิตนี้ก็ไม่สามารถเข้าร่วมกองกำลังในหารบำเรอของคุณได้”
หลี่ฝางไม่อยากมีความสัมพันธ์อะไรกับท่านนายพลหญิงที่โดดเด่นแบบนี้ เมื่อได้ยินเธอบอกว่าตัวเองเป็นผู้ชายของเธอแล้ว ก็รีบแก้ต่างให้กับตัวเอง
ถ้าเกิดถูกฉินวี่เฟยกับหยางฉงรู้เข้า ไม่แน่ว่าอาจจะบ้านแตกก็ได้
“เหอะๆ ท่านหลี่ ฉันได้ยินมาว่าคุณกำลังหาเครื่องปรุงยาที่ชื่อว่าผลแก้วม่วง เพียงแค่คุณตอบตกลงที่จะเป็นคู่ครองของท่านนายพลของฉัน ผลแก้วม่วงนี้ฉันจะไปเอามาจากในราชวงศ์ให้เอง เป็นอย่างไรล่ะ?”
ท่านนายพลหญิงเอามือกอดอก พลางมองหลี่ฝางด้วยความ เหมือนกับมั่นใจมากว่าหลี่ฝางจะตอบตกลงตัวเอง
“คุณคิดว่าคนของจักรพรรดิอย่างพวกคุณ จะมาขวางฉันได้เหรอ?”