NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1367 วินัย

บทที่ 1367 วินัย

พ่อของเจียเหอนั้นเป็นขุนศึกท้องถิ่น มีอิทธิพลมากมายในที่นั้น เพื่อเอาใจท่านนายพลหญิง ตอนที่เขาอายุสิบหกปีเลยเอาเขาเข้าไปในจวนของท่านนายพลเสีย

เริ่มจากการทำอะไรเล็กๆ น้อยๆ จากนั้นก็ใช้ความคิดและวิธีของตัวเอง ในการค่อยๆ ขยับขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งนี้ทีละน้อย

เขานั้นเชื่อมาตลอด ว่าไม่ช้าก็เร็วจะต้องได้นั่งในตำแหน่งคู่ครองของแม่ทัพแน่ๆ ตอนแรกวางแผนเอาไว้อย่างดี ขอเพียงอีกแค่สองปี เดี๋ยวเมื่อพละกำลังของเขาเข้าสู่แดนแล้ว เขาก็จะสามารถได้นั่งตำแหน่งของคู่ครองของท่านนายพลได้อย่างมั่นคงแล้ว

แต่ฟ้านั้นไม่เป็นใจ กันมาเกิดอะไรระหว่างทางได้

หลังจากที่หลี่ฝางสู้กับนัยเหลียง ท่านนายพลหญิงก็สังเกตได้ถึงหลี่ฝาง แถมยังคิดหาทุกวิถีทางเพื่อให้หลี่ฝางได้เข้าไปในจวน แล้วเป็นคู่ครองของท่านนายพลของเธอ

เมื่อเห็นเนื้ออันโอชาหลุดไปต่อหน้าต่อตา เจียเหอจะทนเก็บความโกรธเอาไว้ได้อย่างไร

ตอนแรกอยากจะแสดงพลังอำนาจให้หลี่ฝางได้ดูสักหน่อย แต่ใครจะไปรู้ว่าหลี่ฝางไม่ได้กลัวเลยแม้แต่น้อย แถมนี่ยังไม่ทันจัดงานแต่ง ก็ยกคำว่าคู่ครองของท่านนายพลมาใช้ เพื่อด่าทอตัวเองต่อหน้าคนมากมายแล้ว จนทำให้ตัวเองลงอย่างสวยงามไม่ได้

ความน่าละอายขายขี้หน้านี้ เจียเหอไม่เคยได้เจอเลยตลอดชีวิตที่ผ่านมา

เขาสาบาน ว่าจะต้องแก้แค้นหลี่ฝางให้ได้เป็นร้อยเท่าพันเท่า

“เอาล่ะ พวกคุณแยกย้ายเถอะ ฉันเหนื่อยแล้วล่ะ เจียเหอ คุณพาท่านหลี่ไปที่ห้องของเขาเถอะ ถ้าไม่มีอะไรก็อย่ามารบกวนฉัน”

เมื่อถูกสนมชายพวกนี้วุ่นวาย ท่านนายพลหญิงเลยปวดหัวเป็นอย่างมาก ก่อนจะนวดขมับด้วยความเหนือยล้า ก่อนจะจากไปโดยการพยุงของหญิงรับใช้

เพียงไม่นานประตูของจวนของท่านนายพลก็เหลือเพียงหลี่ฝางกับหนุ่มๆ ของท่านนายพลหญิง เมื่อท่านนายพลหญิงไป ความชังของพวกเขาที่มีต่อหลี่ฝางก็ชัดเจนขึ้น

ถึงขนาดที่มีบางคนไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด ถ้าไม่ใช่ว่าพลังของหลี่ฝางนั้นแข็งแกร่ง ก็เกรงว่าจะต่อกรไม่ได้แล้วจริงๆ

“เจียเหอ คุณไม่สอนคนพวกนี้หน่อยเหรอ?” หลังจากที่หลี่ฝางหลบการตั้งใจชนโจมตีของสนมชายได้ ก็พูดกับเจียเหออย่างเคร่งเครียด

“หือ?ท่านหลี่คุณพูดอะไร?ฉันไม่เข้าใจเท่าไหร่ เมื่อครู่ฉันก็ขอโทษที่พวกเขาเสียมารยาทแล้ว แถมยังตกลงที่จะคัดมารยาทหญิงสามจบด้วย ไม่รู้ว่าคุณยังอยากให้ฉันสอนอย่างไรอีก?”

เจียเหอตั้งใจทำเป็นไม่รู้เรื่องอย่างเห็นได้ชัด เป็นการแอบยอมรับการกระทำของสนมชายเหล่านี้ เมื่อหลี่ฝางได้ยินก็มีสีหน้าเย็นชา ออร่ารอบๆ ตัวก็เปลี่ยนไปเช่นกัน

ตอนนี้เขามีพละกำลังถึงแดนเทพแล้ว อารมณ์เลยมีผลต่อสภาพอากาศ

บรรยากาศที่ยังดีอยู่ในตอนแรกนั้นเปลี่ยนเป็นลมพายุโหมกระหน่ำ หินทรายปลิวว่อน จนทำให้สิ่งของของพวกสนมชายนั้นล้มกระจาย กระทั่งยืนแทบไม่ไหว

ขนาดเจียเหอที่ถึงแดนสูงสุดแล้ว เมื่อได้เจอหลี่ฝางเขาเองก็แทบจะต้านไม่ไหว ถ้าไม่ใช่ว่าเขาพลังในร่างกายลงสู่เท้า เกรงว่าเขาเองก็จะเหมือนกับคนอื่น ที่ถูกลมพัดจนกลิ้งไปกับพื้น

“ช่วยด้วย!มีคนถูกฆ่า!”

“ช่วยด้วย!ท่านนายพล!ช่วยชีวิตช่วยชีวิตฉัน!”

“ฉันไม่อยากตาย!คนมาทางนี้หน่อย!ช่วยด้วย!”

……

สนมชายที่มีพละกำลังอ่อนแอเกือบจะถูกลมพัดขึ้นไปบนฟ้า พวกเขาที่แต่งตัวดีงดงามในตอนนี้ถูกลมพัดจนสภาพดูไม่ได้ เสื้อผ้าขาดวิ่น ผมเองก็ยุ่งเหยิง ใบหน้าที่แต่งแต้มก็หลุดออก สภาพดูไม่ได้จนไม่รู้จะดูไม่ได้อย่างไรแล้ว

“ท่านหลี่!ที่นี่คือจวนของท่านนายพลนะ ไม่ใช่ที่ที่คุณจะมามั่วๆ ได้!” เมื่อเห็นสวนที่สะอาดตาในตอนแรกถูกหลี่ฝางทำให้เละเทะขนาดนี้ เจียเหอก็มีใบหน้าดำคร่ำเครียดในที่สุด จนเกือบจะตะโกนใส่หลี่ฝางแล้ว

“เหอะ ถ้าฉันอยากจะทำอะไร คุณคิดว่าจะมีใครมาขวางได้เหรอ?” เมื่อเจอการด่าของเจียเหอ หลี่ฝางก็พึมพำอย่างไม่แยแส จากนั้นก็สะบัดแขนเสื้อ ลมกระหน่ำก็หยุดลงทันตา

สนมชายที่ถูกลมเหล่านั้นพัดขึ้นไปบนท้องฟ้าก็ตกลงมาบนพื้นในทันใด มันทำให้พวกเขานั้นร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดไม่หวาดไม่ไหว

คำพูดที่หยิ่งยโสของเขานั้นยิ่งไปลดทอนศักดิ์ศรีของเจียเหอ เขาเลยมองหลี่ฝางด้วยดวงตาแดงก่ำ

“หลี่ฝาง คุณอย่าหยิ่งยโสเกินไปเลย เหนือฟ้ายังมีฟ้านะ คุณมั่นใจเหรอว่าคุณเก่งไม่มีใครเกินน่ะ?”

“ชิ ไม่รู้หรอกว่าฉันเก่งกาจสามารถขนาดไหน แต่ก็พอที่จะจัดการกับพวกกระจอกอย่างแกได้ก็แล้วกัน” หลี่ฝางสะบัดใส่อย่างไม่แยแส จากนั้นก็เดินเข้ามาตบบ่าของเจียเหอ

“ฉันว่านะพวกพ้อง อยู่ที่นี่ต้องรู้จักตัวเองให้มาก ไม่ไหวก็คือไม่ไหว ไม่จำเป็นต้องทำเกินตัว จริงสิ ห้องฉันอยู่ไหนนะ?ฉันอยากพักผ่อนแล้ว”

อันที่จริง หลี่ฝางไม่ได้สนใจใครในจวนของท่านนายพลเลย พละกำลังของเจียเหอก็ไม่ได้อ่อนแอ แต่น่าเสียดาย ที่มันไม่พอที่จะให้เขาชายตามองเลย

“คุณ!” คำพูดของหลี่ฝางแทบจะทำให้เจียเหอระเบิดอารมณ์ เขาโกรธจนพูดอะไรไม่ออก

เมื่อเห็นท่าทีอึดอัดของเจียเหอที่อยากจะต่อยแต่ก็ไม่กล้า ในใจของหลี่ฝางก็รู้สึกสบายอารมณ์ขึ้นมาก หลังจากที่เอามือทั้งสองไพล่หลังแล้ว ก็ก้าวเท้าเดินเบาๆ ก่อนจะฮัมเพลงเบาๆ ไปด้วย

“แก!เข้ามาเลย!” หลังจากที่หลี่ฝางเดินจากไปไกลแล้ว เจียเหอก็ชี้ไปที่ชายอายุน้องที่อยู่ในกลุ่มของชายในคลังนั้นก่อนจะสั่งออกมาด้วยความหน้าดำคร่ำเครียด

เด็กชายคนนั้นหลบอยู่หลังกลุ่มคนด้วยความสั่นเกรงอยู่แต่แรก หลังจากที่ได้ยินเจียเหอเรียกตัวเองแล้ว ก็ตกใจจนตัวสั่นเทา ก่อนจะเดินขึ้นมาข้างหน้าด้วยขาสั่นทั้งสองข้าง

“ท่านเจียเหอ ท่านมีอะไรจะกำชับเหรอ?”

เจียเหอนี้ถือว่าเป็นคนที่ได้รับความรักจากท่านนายพลหญิงในจวนของท่านนายพลนี้ไม่น้อยเลย บวกกับหน้าที่ในการดูแลคู่ครองของท่านนายพลด้วย มีพวกอยู่ในจวนของท่านนายพลไม่น้อย ถึงแม้พวกเขาจะเป็นสนมชายเหมือนกัน แต่ส่วนมากก็ยังต้องยกยอเจียเหอ

ในจวนของท่านนายพลนี้ อันที่จริงแบ่งออกเป็นสามแก๊งใหญ่ เจียเหอ ชายกล้ามโต และฮัวเหลียนสามหัวโจก พวกเขาเองก็เป็นสนมชายที่ได้รับความรักจากท่านนายพลหญิงมากที่สุด ส่วนสนมชายคนอื่นๆ นั้น เพื่อให้อยู่ที่นี่ได้ เลยเริ่มมาพึ่งพาลูกน้องของเจียเหอ

ชายกล้ามโตนั้นไปมีเรื่องกับหลี่ฝาง แล้วก็ตายไปแล้ว ส่วนคนที่ติดตามเขาก่อนหน้านี้ตอนนี้ถือว่าอยู่ในจุดที่ทำตัวไม่ถูกในจวนแห่งนี้

ส่วนพวกที่มีเซนส์หัวไวนั้น ก็เริ่มผูกสัมพันธ์กับเจียเหอและฮัวเหลียนแล้ว ส่วนชายที่ถูกเจียเหอเรียกชื่อนั้น มีคนส่วนน้อยที่เป็นพวกไม่รู้เรื่องอะไร

คนที่ซื่อๆ ดูน่าแกล้งอย่างคนคนนี้ เหมาะจะเป็นลูกหมาตามหลังของคนอื่นแล้ว

“ตั้งแต่นี้ต่อไป แกไปอยู่กับท่านหลี่ก็แล้วกัน รับผิดชอบการกินอยู่ของเขา ถ้าเกิดฉันรู้เข้าว่าท่านหลี่มีอะไรที่ไม่พอใจในจวน ฉันจะมาเพื่อถามคุณ”

หลังจากที่เจียเหอกำชับเสียงดุดันแล้ว ก็พาลูกน้องของตัวเองออกไปจากที่นี่ เหลือเพียงพวกผอมแห้งไม่กี่คน ที่เป็นสนมชายที่มีท่าทีหวาดกลัวอยู่ที่เดิม

“คิริน ยาโกะ ท่านเจียเหออยากให้คุณลำบากใจชัดๆ เลย!ท่านหลี่นั่นก็ดูไม่ใช่คนที่จะผูกมิตรได้ เวลาที่ไปปรนนิบัติเขา มันเหมือนผลักคุณเข้ากองไฟเลยไม่ใช่เหรอ?”

เมื่อพวกเจียเหอออกไป ชายที่อายุเท่าๆ กับคิริน ยาโกะถึงจะวิ่งเข้ามาข้างกายของคิริน ยาโกะ ก่อนจะบ่นด้วยความโกรธ

คิริน ยาโกะเองก็เข้าใจเหตุผลที่เจียเหอทำแบบนี้ แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้นี่หน่า ใครใช้ให้เขาไม่ได้รับความชอบจากท่านนายพลหญิงกันล่ะ จากนั้นก็อยู่ผิดฝั่ง ตอนนี้ที่ตกที่นั่งลำบาก ก็โทษใครไม่ได้

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน