NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1371 โทษสามกระทง

บทที่ 1371 โทษสามกระทง

ใบหน้านั้นดูชังเป็นอย่างมาก เขาไม่มีสีหน้าที่ดีให้กับหลี่ฝางเลย

“คือ ท่านหลี่ งั้นเราไปก่อนนะ” คิริน ยาโกะถูกจื่อยีลากเดินไปด้านนอก แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะบอกลาหลี่ฝาง

คิริน ยาโกะนั้นกลับมารยาทกว่า

น่าเสียดาย ชีวิตในสภาพแวดล้อมนั้น คนที่ยิ่งมีมารยาทเท่าไหร่ยิ่งถูกรังแกมากเข้าไปใหญ่ ไม่แปลกเลยที่เจียเหอจะจัดมาให้เขามาอยู่ข้างกายตัวเอง

คนแบบนี้เมื่อควบคุมในกำมือ มันง่ายจนไม่รู้จะง่ายอย่างไรแล้วล่ะ

หลังจากที่พวกคิริน ยาโกะไปแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้อง ในห้องนี้ตกแต่งอย่างง่ายๆ นอกจากโต๊ะ เตียงและเก้าอี้ก็ไม่มีของอย่างอื่นแล้ว

ดูเหมือนเจียเหอมีอคติอะไรกับตัวเองจริงๆ เลยคิดจะเปลี่ยนวิธีที่จะแสดงตำแหน่งของเขาในจวนของท่านนายพล

แต่ตอนนี้มีคำยอดฮิตบนอินเทอร์เน็ต ที่ว่าเพียงแค่ฉันยังอยู่ คุณก็ไม่มีทางข้ามเกินฉันไปได้

เจียเหอพยายามมาตั้งหลายปี แต่ยังไต่เต้าเป็นตำแหน่งของคู่ครองของนายพลไม่ได้เลย แต่เมื่อคิดว่าท่านนายพลหญิงคนนี้ไม่ได้ชอบเขาเท่าไหร่ เหตุผลที่ท่านนายพลหญิงยังดูแลและรักเจียเหอดีขนาดนี้ น่าจะเป็นเกี่ยวข้องกับเกมทางการเมือง

แต่นี่มันเป็นเรื่องของจวนของท่านนายพล มันไม่เกี่ยวอะไรกับหลี่ฝางเลยแม้แต่น้อย เขาเลยมองผ่านไปก็พอแล้ว

ตอนที่หลี่ฝางกำลังนั่งอยู่บนเตียงนั้น จู่ๆ ด้านนอกก็มีเสียงวุ่นวายออกมาจากนอกห้อง แถมเมื่อได้ยินเสียงกุกกัก ก็มีคนวิ่งมาที่ส่วนที่พักของตัวเอง

“ท่านหลี่ คุณอยู่ไหม?ฉันเอาหนุ่มน้อยมาเพื่อเป็นของแทนคำขอโทษ!”

ตอนที่หลี่ฝางกำลังหงุดหงิดใจนั้น เสียงของเจียเหอก็ดังเข้ามา ในตอนนั้นยังมีเสียงร้องขอเสียงอ่อนแทรกเข้ามาด้วย

หลี่ฝางได้ยินดังนั้น จู่ๆ ก็ขมวดคิ้วแน่นทันที เลยรีบลุกขึ้นมาจากเตียง ก่อนจะเดินออกไปด้านนอก

เขาเปิดประตูห้อง ก่อนจะพบว่าสวนที่เย็นสบายในตอนแรกนั้นมันมีคนยืนอยู่เต็มไปหมด เจียเหอยืนอยู่ตรงกลางสวน ในมือก็ถือแส้หนัง ก่อนจะตีคนที่อยู่ที่พื้นอย่างเต็มแรง

คนคนนี้ในตอนนั้นมันถูกตีจนเจ็บไปทั้งตัว ผมก็ยุ่งเหยิงเป็นอย่างมาก ผมตกลงมา จนเกือบจะคลุมหน้าทั้งหมดแล้ว

ชุดสีอ่อนนั้นมันเต็มไปด้านรอยเลือดแล้ว เหมือนกับตุ๊กตาผ้าที่นอนอยู่ที่พื้น ปากก็มีเสียงร้องขอเบาๆ ออกมา

“เจียเหอ คุณหมายความว่าอย่างไร?มาที่สวนของฉันเพื่อทำร้ายคน อยากจะแสดงอำนาจให้ฉันดูหรือไง?”

หลี่ฝางมองเจียเหอที่ยังฟาดแส้นั้นไม่หยุด พลางถามหน้าดำคร่ำเครียด

เมื่อเจียเหอได้ยินดังนั้น ก็หยุดมือของตัวเอง เลยมองหลี่ฝางพลางยิ้มให้

“ท่านหลี่ คุณเข้าใจฉันผิดแล้ว คุณมองให้ดีเถอะว่าคนที่อยู่ที่พื้นคือใคร?”

หลังจากที่ได้ยินเสียงของเจียเหอแล้ว หลี่ฝางขมวดคิ้วพลางตั้งใจมองคนบนพื้นดีๆ ถึงได้พบว่าคนที่นอนอยู่ที่พื้นนั้นคือคิริน ยาโกะ

การค้นพบนี้ทำให้เขาม่านตาหดลง ปากก็เม้มจนเป็นเส้นตรง

สมองของเจียเหอมีปัญหาหรือเปล่า?ตัวเองแต่ไม่ได้ให้เด็กคนนี้มาปรนนิบัติตัวเองเพียงเท่านั้น แม้เขาจะโกรธ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องตีจนจะถึงตายไม่ใช่เหรอ?

“เจียเหอ แม้คุณจะให้เด็กนี่มาปรนนิบัติฉัน แต่ฉันก็มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธไม่ใช่เหรอ?ฉันเป็นคนให้เขากลับไปเอง ตอนนี้คุณมาทำร้ายเขาขนาดนี้ ยังเห็นฉันเป็นคู่ครองของท่านนายพลอยู่ไหม?!”

ในใจของหลี่ฝางก็เกิดความโกรธขึ้นมาทันที ก่อนจะพูดด้วยความโกรธพลางกัดฟันพลางจ้องเจียเหอ

เมื่อเห็นหลี่ฝางโกรธขนาดนั้น เจียเหอก็ยิ่งยิ้มมากกว่าเดิม “ท่านหลี่ คุณพูดแบบนี้มันมากเกินไปหรือเปล่า ฉันไม่ได้ทำเพื่อคุณเหรอ?ถึงแม้คุณจะเป็นคู่ครองของท่านนายพลในอนาคตของจวนของท่านนายพล แต่จวนของท่านนายพลนี้ก็มีกฎนะ”

“ฉันให้หนุ่มน้อยมาเพื่อปรนนิบัติคุณ นี่เป็นหน้าที่ของเขา อีกอย่าง คุณเป็นคู่ครองของท่านนายพลในอนาคต ข้างกายจะไม่มีคนปรนนิบัติได้อย่างไร?ถ้าเกิดเรื่องแพร่ออกไป คนอื่นคงจะคิดว่าจวนของท่านนายพลนั้นรักคู่ครองรองแต่ละทิ้งคนหลักนะ”

“เขาไม่รักษากฎ ไม่ฟังคำสั่งของฉัน ก็คือการทำผิดแล้ว ความผิดนี้ ต้องได้รับโทษอยู่แล้ว ฉันรู้ว่าท่านหลี่มีเมตตา เห็นว่าเขายังเด็ก เรียกใช้เขาไม่ลง และลงโทษเขาไม่ลง”

“ไม่เป็นไร ในเมื่อท่านหลี่ใจร้ายไม่ลง เรื่องที่ไร้คุณธรรมนี้เดี๋ยวฉันจะทำแทนคุณเอง คุณเป็นคนดีไปเถอะ เดี๋ยวฉันจะเป็นคนเลวเอง”

ความหมายของเจียเหอนั้นคือแสดงท่าทีเคร่งขรึมทรงพลังเพื่อรักษาความจริงนั้นไว้ อีกอย่างเหมือนเป็นการปิดทางถอยของหลี่ฝางมันทำให้หลี่ฝางหาเหตุผลในการออกตัวแทนคิริน ยาโกะไม่ได้เลย

แถมเจียเหอยังเรียกหลี่ฝางเป็นคู่ครองของท่านนายพลในอนาคตตลอด นี่เป็นการบอกหลี่ฝาง ว่าเขานั้นยังไม่ได้เริ่มเรื่องอะไร อย่าเพิ่งดีใจไปก่อน

จะบอกว่าเรื่องนี้ทำแทนหลี่ฝาง อันที่จริงนั้นคือการแสดงตำแหน่งของตัวเองให้หลี่ฝางดู และบอกหลี่ฝาง ว่าเจียเหอที่อยู่ในจวนของท่านนายพลนั้นเป็นเหมือนคู่ครองของท่านนายพลแล้ว จะทำร้ายลงโทษอะไรก็เป็นการตัดสินใจของเขาทั้งนั้น

ตอนแรกหลี่ฝางไม่อยากทำเรื่องแย่ๆ ตามคนอื่น แต่คนในตอนนี้มาแสดงความร้ายกาจในสวนของเขา ถ้าเขายังไม่ทำอะไรเจียเหออีก คนอื่นคงจะคิดว่าตัวเองนั้นถูกรังแกได้ง่ายๆ

“เหอะ ให้คุณมาเป็นคนเลวเอง เจียเหอ คุณไม่คิดเหรอว่าสิ่งที่คุณทำในตอนนี้มันยุ่งเรื่องที่เกินขอบเขตของตัวเองไปแล้วน่ะ?คุณเป็นเพียงสนมชายตัวเล็กๆ ใช้ความที่ตัวเองถูกท่านนายพลรักและเอ็นดูไม่กี่ครั้งเท่านี้ ก็กล้ามากำหนดข่มขู่คนอื่นๆ ในจวนของท่านนายพลเลยเหรอ?”

“ในจวนของท่านนายพลนี้ ให้คุณเป็นคนกำหนดอะไรตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?พูดถึงตำแหน่ง คุณกับเด็กน้อยนี้ก็เป็นเพียงสนมชายเหมือนกัน ไม่มีอะไรต่างกันเลย เอาสิทธิ์มาจากไหนกัน ที่จะไปลงโทษเขา?”

เสียงของหลี่ฝางนั้นทำให้เจียเหอที่ยังเย่อหยิ่งมีสีหน้าเปลี่ยนไป ก่อนจะมีประกายความเกลียดชังออกมา ใบหน้าที่ยิ้มอย่างร้ายกาจของเขานั้นปกปิดอารมณ์ของตัวเองไป ก่อนจะเปิดปากพูด

“เอ้อ คุณอย่าเพิ่งพูดอะไรเลย ฉันยังพูดไม่จบเลย” เมื่อหลี่ฝางเห็นว่าเจียเหออยากพูด ก็ยื่นมือออกมาหยุดเขา จากนั้นก็พูดต่อ

“อันที่จริงฉันเองก็เห็นด้วยกับสิ่งที่คุณพูดเมื่อครู่ ก็คือในจวนของท่านนายพลนี้มีกฎระเบียบอยู่ ในเมื่อท่านนายพลให้ฉันนั่งอยู่ในตำแหน่งคู่ครองของท่านนายพล งั้นฉันก็จะใช้สิทธิ์ตามนี้”

“คนมานี่หน่อย จับเจียเหอมัดไว้ แล้วตีห้าสิบโบย ลงโทษคนโดยไม่ได้รับอนุญาต นี่คือโทษแรก ยุ่งเรื่องที่เกินขอบเขตของตัวเองไป และใช้สิทธิ์ของคู่ครองของท่านนายพล นี่คือโทษที่สอง พาคนมารบกวนการพักผ่อนฉัน นี่คือโทษที่สาม”

คำพูดของหลี่ฝางนั้นทำให้ทุกคนที่อยู่ตรงนี้ต่างงงเป็นไก่ตาแตก แต่ละคนต่างมองเขาอย่างเหม่อลอย ทั้งหมดนี้สงสัยว่าตัวเองฟังผิดหรือเปล่า

“พวกคุณยังยืนอึ้งอะไรอยู่อีก?คำที่ฉันพูดนั้นมันไม่มีค่าหรือไง?” หลี่ฝางกวาดตามองอย่างเย็นชา พลางตำหนิเสียงดัง

สุดท้ายเจียเหอก็แสดงต่อไปไม่ได้แล้ว ใบหน้านั้นดำเหมือนเปาบุ้นจิ้นเลย แววตาก็มีความโกรธจนเหมือนจะมีไฟพ่นออกมา

“ฉันอยากจะรู้ว่าใครจะกล้าบ้าง!” เจียเหอชี้ไปที่สนมชายคนอื่นๆ พลางตะโกน จากนั้นก็หันไปตะโกนใส่หลี่ฝาง

หลี่ฝาง!คุณมีสิทธิ์อะไรมาลงโทษฉัน?ฉันเป็นถึงคนใหญ่คนโตในจวนเลยนะ จะมาหืออือได้อย่างไร อีกอย่าง ท่านนายพลให้ฉันเป็นคนจัดการคนในจวนนี้เลยนะ!คุณไม่มีสิทธิ์มาทำอะไรกับฉันนะ!ถ้าคุณกล้าทำร้ายฉัน ท่านนายพลจะต้องไม่ปล่อยคุณไปแน่!”

ชิ เจียเหอเห็นตัวเองเป็นคู่ครองของท่านนายพลจริงๆ ความโอ้อวดนี้ ไม่กลัวจะมากเกินจริงเลย

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท